เงาร่างสีขาวนั้นพุ่งทะยานเข้าใส่ข่ายดวงดาวอย่างไม่คิดลังเล
ร่างสีขาวนั้นขยับไปอย่างเลื่อนลอยรวดเร็วราวกับเป็นผีทำให้ผู้คนรู้สึกแปลกประหลาด
“ฮ่าๆๆ มาสิ! ครั้งนี้ข้าจะส่งเจ้าลงไปโลกหน้าเอง!”
เมื่อหยวนเจิ้นได้เห็นเย่หยวนก้าวออกมา ความรู้สึกแรกของเขานั้นมันมิใช่ความโกรธเคืองแต่เป็นความยินดี
เย่หยวนนั้นท้าทายค่ายกลนี้มาหลายต่อหลายครั้งแม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บไปสาหัสแต่มันก็ยังรอดออกมาได้ทุกครั้งไป
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือท่าทางของเย่หยวนมันเหมือนกำลังหยอกพวกเขาทั้งหลายเล่น
ไม่ว่าจะโจมตีไปอย่างไรเขาก็ยังจะยืนมั่นอยู่ได้!
นั่นมันทำให้เหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวาทั้งหลายต้องรู้สึกอับอายขึ้นด้วยการกระทำนี้ของเย่หยวน
เพราะจะอย่างไรเสียเย่หยวนก็กำลังปะทะกับคนถึงสามหมื่นหกพันด้วยตัวคนเดียว!
“หยวนจื่อ เจ้าและข้าร่วมมือกันใช้ดาราสวรรค์ผนึกนรกเถอะ ครั้งนี้เราจะต้องลบล้างเจ้าเด็กคนนี้มันออกไปจากโลกให้ได้!” หยวนเจิ้นกล่าว
หยวนจื่อผู้ดูแลอีกส่วนจอบกลับมาทันที “ได้! เจ้าเด็กคนนี้มันโอหังจนเกินไป เราต้องสังหารมันลงให้ได้!”
การโจมตีครั้งใหญ่นี้มันเกิดขึ้นจากการรวมพลังของสองส่วน เท่ากับว่ามันเป็นการโจมตีที่ของคนมากถึงหกพันคนด้วยกัน!
นี่มันคือพลังการโจมตีที่เรียกได้ว่าน่าหวาดกลัว
ใต้ห้วงมิติดวงดาวนั้นมันเกิดกรงขังใหญ่ขึ้นมาห่อหุ้มร่างของเย่หยวนไว้สิ้น
จากนั้นกรงขังนั้นมันก็แตกสลายลงไปพร้อมๆ กันมิติภายใน!
ภายในกรงขังนั้นมันเห็นได้ชัดเจนถึงเศษห้วงมิติที่แตกแยกออกจากกันส่องแสงประกายสวยงาม
นี่มันคือพลังของดาราสวรรค์ผนึกนรก
แต่ภาพอันสวยงามนี้มันกลับเป็นภาพที่ส่งความสิ้นหวังให้แก่ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ทั้งหลาย!
“รองมหาปราชญ์!”
เกิดความโศกเศร้าเสียใจขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามในจิตใจของผู้คน
เพราะแค่คลื่นพลังที่หลุดรอดออกมาถึงพวกเขาทั้งหลายนี้มันก็รุนแรงจนทำให้คนทั้งหลายขาสั่น
แน่นอนว่าพลังจากตัวดาราสวรรค์ผนึกนรกนั้นมันย่อมจะรุนแรงกว่าที่พวกเขาสัมผัสได้หลายเท่านัก!
ภายใต้การโจมตีก่อนหน้านี้เย่หยวนได้รับบาดเจ็บไปอย่างมากแล้ว ครั้งนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง!
พวกเขานั้นเห็นมันสิ้นว่าเย่หยวนไม่ได้ออกมาจากกรงขังนั้นใดๆ และถูกดาราสวรรค์ผนึกนรกห่อหุ้มไว้สิ้น
ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้นแล้วเย่หยวนคงไม่มีทางจะหนีรอดออกมาได้
“ฮ่าๆๆ… ครั้งนี้แหละ ขอดูหน่อยเถอะว่าจะรอดอย่างไรอีก!”
หยวนเจิ้นนั้นหัวเราะลั่นขึ้น
“ใครสั่งสอนให้เจ้ามาวางท่าอวดดี! ใครสั่งสอนให้เจ้ามาท้าทายพวกเรา? ครั้งนี้เจ้าจะยังวางท่าอย่างไรได้อีก!”
“มนุษย์ที่เป็นแค่มดปลวกมันกลับคิดท้าทายเผ่าเทวาอันสูงส่ง?! สมควรตายไปแล้ว!”
…
การกระทำของเย่หยวนนั้นมันย่อมจะเป็นการหาทางรอดอย่างสุดตัว แต่ต่อหน้าเผ่าเทวาแล้วการท้าทายมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้มันก็เหมือนกับการลบหลู่พวกเขา
การสังหารเย่หยวนจึงทำให้พวกเขาทั้งหลายสะใจไม่น้อย
แต่ในเวลานั้นเองภายใต้เศษแตกหักของดาราสวรรค์ผนึกนรกนั้นมันกลับปรากฏเงาร่างสีขาวพุ่งตัวออกมา
เหล่าเผ่าเทวาทั้งหลายต้องหุบปากลงทันทีที่เห็น!
รอยยิ้มใดๆ นั้นต้องแข็งค้างลง
ภาพตรงหน้านี้มันเหลือล้ำกว่าที่จะเชื่อได้!
ดูอย่างไรก่อนหน้านี้เย่หยวนก็มีสภาพบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว มีหรือที่จะยังมีทางใดต้านทานดาราสวรรค์ผนึกนรกได้?
มันเกิดคำถามเกิดขึ้นมากมายในหัวของเหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวา
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือภาพตรงหน้านี้มันเป็นเรื่องที่ชาวเผ่าเทวาไม่อาจจะเชื่อลงได้!
ส่วนทางด้านยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ทั้งหลายนั้นพวกเขาต้องร้องลั่นขึ้นพร้อมๆ กัน
เพราะตราบเท่าที่เย่หยวนยังไม่ตายพวกเขาก็มีความหวัง
ฟุบ!
เย่หยวนก้าวเท้าเข้าไปในระยะของข่ายดวงดาวอีกครั้งด้วยท่าทางคิดท้าทายเต็มที่
เมื่อหยวนเจิ้นเห็นเช่นนั้นแล้วเขาก็แทบจะต้องกระอักเลือดขึ้นด้วยความโกรธเคือง
เพราะครั้งนี้การขยับตัวของเย่หยวนมันคือการท้าทายอย่างเต็มที่
ความหมายของย่างก้าวเขานั้นมันชัดเจน มีปัญญาก็โจมตีเข้ามาสิ!
หยวนเจิ้นนั้นกัดฟันแน่นอย่างโกรธแค้นก่อนจะตะโกนสั่ง “สังหารมัน! ยอดห้วงมิติล้าง!”
คลื่นพลังมิติปะทุขึ้นมาพร้อมด้วยพลังของเต๋าสวรรค์ที่สั่นสะท้านมิติ
ครั้งนี้หยวนเจิ้นโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว!
การโจมตีหนักหน่วงรุนแรงนั้นระเบิดขึ้นมาเรื่อยๆ คลื่นพลังมากหลายจากมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นั้นถูกใช้ออกมาโจมตีด้วยพลังรุนแรง
ภายในห้วงมิตินั้นเงาร่างสีขาวของเขายังคงก้าวไปมาอย่างไม่มีหยุดนิ่ง
เพราะนี้เย่หยวนไม่ได้ถอยออกมาเหมือนก่อนๆ หลังจากหลบรอดการโจมตีหนึ่งไปแล้วเขาก็ยิ่งพุ่งตัวเข้าไปใกล้ข่ายดวงดาวมากขึ้นเรื่อยๆ
เขานั้นขยับหน้าหลังไปมาซ้ายขวาหลบหลีกการโจมตีไปอย่างเส้นยาแดงผ่าแปด แต่ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีที่น่ากลัวปานใดมันก็ไม่อาจจะโดนตัวเขาได้เลย
ยิ่งหยวนเจิ้นสู้ไปเขาก็ยิ่งตกตะลึงก่อนจะร้องลั่น “โจมตีพร้อมๆ กัน จะให้มันเข้ามาใกล้ไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว!”
เหล่าผู้ดูแลทั้งหลายเองก็ต่างไม่พอใจกับเรื่องตรงหน้านี้อย่างมากและเริ่มร่วมมือกันหยวนเจิ้นโจมตีออก
มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้เหล่าผู้ดูแลทั้งหลายจะเชื่อมต่อความคิดของตนเข้ากับผู้ใต้บัญชาทำให้เข้าใจถึงกันได้สิ้น
สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันทำให้คนทั้งหลายสั่นสะท้านอย่างหวาดกลัว
เพราะฉะนั้นเวลานี้พวกเขาจึงไม่ได้กังวลเรื่องใดๆ และร่วมมือกันใช้การโจมตีที่รุนแรงที่สุดของมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ออกมา!
เคล็ดฉีกยอดมิติ!
พลังของมันนี้สุดแสนรุนแรง หากปล่อยออกมาแล้วแม้แต่เจ้าฟ้าดินสี่ทลายเองก็คงไม่อาจฝืนทนรับไว้ได้
แน่นอนว่าพลังยิ่งใหญ่เช่นนั้นมันก็ย่อมจะมีข้อเสีย
เพราะหากใช้มันออกมาแล้ว กำลังของคนทั้งหลายก็จะถูกดึงออกมาใช้มากจนเกินไป
ในระยะเวลาสั้นๆ หลังจากใช้เคล็ดฉีกยอดมิติออกมามหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์จะเข้าสู่สภาวะอ่อนแรง
แต่แน่นอนว่ามันก็แค่อ่อนแรงกว่าก่อน ไม่ได้หมายความว่าจะไร้พลัง
เพราะนี่มันคือพลังของคนกว่าสามหมื่น ต่อให้มันจะอ่อนแอลงไปมากเพียงแค่ใดมันก็ไม่มีทางจะไร้พลัง
เวลานี้ในห้วงมิติมันเกิดคลื่นพลังที่สามารถทำลายล้างดวงดาวได้ปรากฏขึ้น
คลื่นพลังต้นกำเนิดแห่งห้วงมิตินี้มันรุนแรงปะทุขึ้นมาท่ามกลางกระแสห้วงมิติ
คลื่นพลังรุนแรงนี้มันทำให้ยอดคนฝ่ายมนุษย์ทั้งหลายหน้าถอดสีลงไปตามๆ กัน
รุนแรง!
รุนแรงจนแทบไม่อาจหายใจได้!
พลังของมันนี้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าการโจมตีของโอสถบรรพกาลหรือมหาทนักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลทั้งหลายเลย!
สำหรับเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายแล้วพลังนี้มันรุนแรงจนเกินรับ
“ท่านรองมหาปราชญ์ รีบกลับมาเร็ว!” จีโมร้องลั่น
เวลานี้มันเหมือนราวกับว่ามีมือยักษ์ฉีกกระแสมิติลงมา
ห้วงกระแสมิตินั้นแตกแยกออกจากกันอีกครั้งส่งพายุมิติรุนแรงทับถมทุกสิ่งอย่างจนมืดมิด
พร้อมๆ กันนั้นมันก็เกิดเสียงระเบิดลั่นฟ้าดินดังก้องขึ้น!
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดจะถอยเขานั้นพุ่งตัวไปตามคลื่นมิตินั้นเหมือนราวกับว่ากำลังเล่นโต้คลื่น
แต่จะอย่างไรคลื่นมิตินั้นมันก็รุนแรงหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ร่างกายของเย่หยวนต้องสั่นไหวทำเอาคนทั้งหลายใจสั่นไปตาม
อีกด้านหนึ่งทางหยวนเว่ยนั้นก็สัมผัสได้ถึงพลังของมันจนต้องหันไปกล่าวอย่างตื่นตะลึง “เจ้าเด็กคนนั้นมันสุดยอดดีจริงๆ ถึงกับทำให้พวกนั้นต้องใช้เคล็ดฉีกยอดมิติออกมาได้!”
โอสถบรรพกาลและมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นต่างยืนมั่นด้วยบาดแผลเต็มกายเลือดอาบร่าง เป็นอาการบาดเจ็บที่สาหัสไม่น้อย
เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้านั้นดวงตาของคนทั้งสองจึงเบิกกว้างขึ้นด้วยความหวัง
แต่หยวนเว่ยกลับหันมามองพร้อมหัวเราะขึ้น “เลิกหวังลมๆ แล้งๆ เถอะ! เมื่อเคล็ดฉีกยอดมิติถูกใช้ออกมาแล้วมิติในระยะนั้นมันย่อมจะแตกสลายพังลงสิ้นทุกสิ่งอย่างจะกลับสู่ความสงบ มีหรือที่เด็กน้อยเย่หยวนนั้นมันจะทนทานไว้ได้?”
คลื่นกระแสมิตินั้นมันรุนแรงหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ผู้คนที่ได้เห็นต้องขนลุกซ่าน
เย่หยวนขยับร่างกายไปมาแต่สุดท้ายก็ยังถูกคลื่นกระแสมิตินั้นกลืนลงไปและไม่ปรากฏขึ้นมาอีกเลย
หยวนเจิ้นและพวกนั้นต่างหอบหายใจไปตามๆ กันด้วยสีหน้าซีดขาว “ในที่สุดมันก็ตายได้!”
ส่วนทางฝ่ายมนุษย์นั้นพวกเขาทั้งหลายได้ถูกเคล็ดฉีกยอดมิตินี้ทำลายความหวังลงสิ้น
แต่ในเวลานั้นเองมันกลับมีเสียงแหบๆ หนึ่งดังขึ้นกลางฝูงชน
“ทุกคนคอยฟังข้าให้ดี! หลังจากสามอึดใจแล้วให้พวกเจ้าทั้งหลายโจมตีสุดแรงไปยังจุดที่ข้าบอก!”
คนพูดนั้นมันคือเย่หยวน!
ทุกผู้คนไม่มีใครเข้าใจว่าเขานั้นกลับมาถึงตั้งแต่ตอนใด ทั้งยังไปปรากฏกลางวงของคนทั้งหลายด้วย
แต่เมื่อได้ยินแล้วพวกเขาทั้งหลายก็เตรียมใจลงมือทันที
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจใครและเริ่มนับถอยหลัง!
……………..