ตอนที่ 2324 การยั่ว!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

เงาร่างสีขาวนั้นพุ่งทะยานเข้าใส่ข่ายดวงดาวอย่างไม่คิดลังเล

ร่างสีขาวนั้นขยับไปอย่างเลื่อนลอยรวดเร็วราวกับเป็นผีทำให้ผู้คนรู้สึกแปลกประหลาด

“ฮ่าๆๆ มาสิ! ครั้งนี้ข้าจะส่งเจ้าลงไปโลกหน้าเอง!”

เมื่อหยวนเจิ้นได้เห็นเย่หยวนก้าวออกมา ความรู้สึกแรกของเขานั้นมันมิใช่ความโกรธเคืองแต่เป็นความยินดี

เย่หยวนนั้นท้าทายค่ายกลนี้มาหลายต่อหลายครั้งแม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บไปสาหัสแต่มันก็ยังรอดออกมาได้ทุกครั้งไป

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือท่าทางของเย่หยวนมันเหมือนกำลังหยอกพวกเขาทั้งหลายเล่น

ไม่ว่าจะโจมตีไปอย่างไรเขาก็ยังจะยืนมั่นอยู่ได้!

นั่นมันทำให้เหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวาทั้งหลายต้องรู้สึกอับอายขึ้นด้วยการกระทำนี้ของเย่หยวน

เพราะจะอย่างไรเสียเย่หยวนก็กำลังปะทะกับคนถึงสามหมื่นหกพันด้วยตัวคนเดียว!

“หยวนจื่อ เจ้าและข้าร่วมมือกันใช้ดาราสวรรค์ผนึกนรกเถอะ ครั้งนี้เราจะต้องลบล้างเจ้าเด็กคนนี้มันออกไปจากโลกให้ได้!” หยวนเจิ้นกล่าว

หยวนจื่อผู้ดูแลอีกส่วนจอบกลับมาทันที “ได้! เจ้าเด็กคนนี้มันโอหังจนเกินไป เราต้องสังหารมันลงให้ได้!”

การโจมตีครั้งใหญ่นี้มันเกิดขึ้นจากการรวมพลังของสองส่วน เท่ากับว่ามันเป็นการโจมตีที่ของคนมากถึงหกพันคนด้วยกัน!

นี่มันคือพลังการโจมตีที่เรียกได้ว่าน่าหวาดกลัว

ใต้ห้วงมิติดวงดาวนั้นมันเกิดกรงขังใหญ่ขึ้นมาห่อหุ้มร่างของเย่หยวนไว้สิ้น

จากนั้นกรงขังนั้นมันก็แตกสลายลงไปพร้อมๆ กันมิติภายใน!

ภายในกรงขังนั้นมันเห็นได้ชัดเจนถึงเศษห้วงมิติที่แตกแยกออกจากกันส่องแสงประกายสวยงาม

นี่มันคือพลังของดาราสวรรค์ผนึกนรก

แต่ภาพอันสวยงามนี้มันกลับเป็นภาพที่ส่งความสิ้นหวังให้แก่ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ทั้งหลาย!

“รองมหาปราชญ์!”

เกิดความโศกเศร้าเสียใจขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามในจิตใจของผู้คน

เพราะแค่คลื่นพลังที่หลุดรอดออกมาถึงพวกเขาทั้งหลายนี้มันก็รุนแรงจนทำให้คนทั้งหลายขาสั่น

แน่นอนว่าพลังจากตัวดาราสวรรค์ผนึกนรกนั้นมันย่อมจะรุนแรงกว่าที่พวกเขาสัมผัสได้หลายเท่านัก!

ภายใต้การโจมตีก่อนหน้านี้เย่หยวนได้รับบาดเจ็บไปอย่างมากแล้ว ครั้งนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง!

พวกเขานั้นเห็นมันสิ้นว่าเย่หยวนไม่ได้ออกมาจากกรงขังนั้นใดๆ และถูกดาราสวรรค์ผนึกนรกห่อหุ้มไว้สิ้น

ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้นแล้วเย่หยวนคงไม่มีทางจะหนีรอดออกมาได้

“ฮ่าๆๆ… ครั้งนี้แหละ ขอดูหน่อยเถอะว่าจะรอดอย่างไรอีก!”

หยวนเจิ้นนั้นหัวเราะลั่นขึ้น

“ใครสั่งสอนให้เจ้ามาวางท่าอวดดี! ใครสั่งสอนให้เจ้ามาท้าทายพวกเรา? ครั้งนี้เจ้าจะยังวางท่าอย่างไรได้อีก!”

“มนุษย์ที่เป็นแค่มดปลวกมันกลับคิดท้าทายเผ่าเทวาอันสูงส่ง?! สมควรตายไปแล้ว!”

การกระทำของเย่หยวนนั้นมันย่อมจะเป็นการหาทางรอดอย่างสุดตัว แต่ต่อหน้าเผ่าเทวาแล้วการท้าทายมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้มันก็เหมือนกับการลบหลู่พวกเขา

การสังหารเย่หยวนจึงทำให้พวกเขาทั้งหลายสะใจไม่น้อย

แต่ในเวลานั้นเองภายใต้เศษแตกหักของดาราสวรรค์ผนึกนรกนั้นมันกลับปรากฏเงาร่างสีขาวพุ่งตัวออกมา

เหล่าเผ่าเทวาทั้งหลายต้องหุบปากลงทันทีที่เห็น!

รอยยิ้มใดๆ นั้นต้องแข็งค้างลง

ภาพตรงหน้านี้มันเหลือล้ำกว่าที่จะเชื่อได้!

ดูอย่างไรก่อนหน้านี้เย่หยวนก็มีสภาพบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว มีหรือที่จะยังมีทางใดต้านทานดาราสวรรค์ผนึกนรกได้?

มันเกิดคำถามเกิดขึ้นมากมายในหัวของเหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวา

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือภาพตรงหน้านี้มันเป็นเรื่องที่ชาวเผ่าเทวาไม่อาจจะเชื่อลงได้!

ส่วนทางด้านยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ทั้งหลายนั้นพวกเขาต้องร้องลั่นขึ้นพร้อมๆ กัน

เพราะตราบเท่าที่เย่หยวนยังไม่ตายพวกเขาก็มีความหวัง

ฟุบ!

เย่หยวนก้าวเท้าเข้าไปในระยะของข่ายดวงดาวอีกครั้งด้วยท่าทางคิดท้าทายเต็มที่

เมื่อหยวนเจิ้นเห็นเช่นนั้นแล้วเขาก็แทบจะต้องกระอักเลือดขึ้นด้วยความโกรธเคือง

เพราะครั้งนี้การขยับตัวของเย่หยวนมันคือการท้าทายอย่างเต็มที่

ความหมายของย่างก้าวเขานั้นมันชัดเจน มีปัญญาก็โจมตีเข้ามาสิ!

หยวนเจิ้นนั้นกัดฟันแน่นอย่างโกรธแค้นก่อนจะตะโกนสั่ง “สังหารมัน! ยอดห้วงมิติล้าง!”

คลื่นพลังมิติปะทุขึ้นมาพร้อมด้วยพลังของเต๋าสวรรค์ที่สั่นสะท้านมิติ

ครั้งนี้หยวนเจิ้นโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว!

การโจมตีหนักหน่วงรุนแรงนั้นระเบิดขึ้นมาเรื่อยๆ คลื่นพลังมากหลายจากมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นั้นถูกใช้ออกมาโจมตีด้วยพลังรุนแรง

ภายในห้วงมิตินั้นเงาร่างสีขาวของเขายังคงก้าวไปมาอย่างไม่มีหยุดนิ่ง

เพราะนี้เย่หยวนไม่ได้ถอยออกมาเหมือนก่อนๆ หลังจากหลบรอดการโจมตีหนึ่งไปแล้วเขาก็ยิ่งพุ่งตัวเข้าไปใกล้ข่ายดวงดาวมากขึ้นเรื่อยๆ

เขานั้นขยับหน้าหลังไปมาซ้ายขวาหลบหลีกการโจมตีไปอย่างเส้นยาแดงผ่าแปด แต่ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีที่น่ากลัวปานใดมันก็ไม่อาจจะโดนตัวเขาได้เลย

ยิ่งหยวนเจิ้นสู้ไปเขาก็ยิ่งตกตะลึงก่อนจะร้องลั่น “โจมตีพร้อมๆ กัน จะให้มันเข้ามาใกล้ไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว!”

เหล่าผู้ดูแลทั้งหลายเองก็ต่างไม่พอใจกับเรื่องตรงหน้านี้อย่างมากและเริ่มร่วมมือกันหยวนเจิ้นโจมตีออก

มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้เหล่าผู้ดูแลทั้งหลายจะเชื่อมต่อความคิดของตนเข้ากับผู้ใต้บัญชาทำให้เข้าใจถึงกันได้สิ้น

สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันทำให้คนทั้งหลายสั่นสะท้านอย่างหวาดกลัว

เพราะฉะนั้นเวลานี้พวกเขาจึงไม่ได้กังวลเรื่องใดๆ และร่วมมือกันใช้การโจมตีที่รุนแรงที่สุดของมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ออกมา!

เคล็ดฉีกยอดมิติ!

พลังของมันนี้สุดแสนรุนแรง หากปล่อยออกมาแล้วแม้แต่เจ้าฟ้าดินสี่ทลายเองก็คงไม่อาจฝืนทนรับไว้ได้

แน่นอนว่าพลังยิ่งใหญ่เช่นนั้นมันก็ย่อมจะมีข้อเสีย

เพราะหากใช้มันออกมาแล้ว กำลังของคนทั้งหลายก็จะถูกดึงออกมาใช้มากจนเกินไป

ในระยะเวลาสั้นๆ หลังจากใช้เคล็ดฉีกยอดมิติออกมามหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์จะเข้าสู่สภาวะอ่อนแรง

แต่แน่นอนว่ามันก็แค่อ่อนแรงกว่าก่อน ไม่ได้หมายความว่าจะไร้พลัง

เพราะนี่มันคือพลังของคนกว่าสามหมื่น ต่อให้มันจะอ่อนแอลงไปมากเพียงแค่ใดมันก็ไม่มีทางจะไร้พลัง

เวลานี้ในห้วงมิติมันเกิดคลื่นพลังที่สามารถทำลายล้างดวงดาวได้ปรากฏขึ้น

คลื่นพลังต้นกำเนิดแห่งห้วงมิตินี้มันรุนแรงปะทุขึ้นมาท่ามกลางกระแสห้วงมิติ

คลื่นพลังรุนแรงนี้มันทำให้ยอดคนฝ่ายมนุษย์ทั้งหลายหน้าถอดสีลงไปตามๆ กัน

รุนแรง!

รุนแรงจนแทบไม่อาจหายใจได้!

พลังของมันนี้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าการโจมตีของโอสถบรรพกาลหรือมหาทนักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลทั้งหลายเลย!

สำหรับเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายแล้วพลังนี้มันรุนแรงจนเกินรับ

“ท่านรองมหาปราชญ์ รีบกลับมาเร็ว!” จีโมร้องลั่น

เวลานี้มันเหมือนราวกับว่ามีมือยักษ์ฉีกกระแสมิติลงมา

ห้วงกระแสมิตินั้นแตกแยกออกจากกันอีกครั้งส่งพายุมิติรุนแรงทับถมทุกสิ่งอย่างจนมืดมิด

พร้อมๆ กันนั้นมันก็เกิดเสียงระเบิดลั่นฟ้าดินดังก้องขึ้น!

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดจะถอยเขานั้นพุ่งตัวไปตามคลื่นมิตินั้นเหมือนราวกับว่ากำลังเล่นโต้คลื่น

แต่จะอย่างไรคลื่นมิตินั้นมันก็รุนแรงหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ร่างกายของเย่หยวนต้องสั่นไหวทำเอาคนทั้งหลายใจสั่นไปตาม

อีกด้านหนึ่งทางหยวนเว่ยนั้นก็สัมผัสได้ถึงพลังของมันจนต้องหันไปกล่าวอย่างตื่นตะลึง “เจ้าเด็กคนนั้นมันสุดยอดดีจริงๆ ถึงกับทำให้พวกนั้นต้องใช้เคล็ดฉีกยอดมิติออกมาได้!”

โอสถบรรพกาลและมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นต่างยืนมั่นด้วยบาดแผลเต็มกายเลือดอาบร่าง เป็นอาการบาดเจ็บที่สาหัสไม่น้อย

เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้านั้นดวงตาของคนทั้งสองจึงเบิกกว้างขึ้นด้วยความหวัง

แต่หยวนเว่ยกลับหันมามองพร้อมหัวเราะขึ้น “เลิกหวังลมๆ แล้งๆ เถอะ! เมื่อเคล็ดฉีกยอดมิติถูกใช้ออกมาแล้วมิติในระยะนั้นมันย่อมจะแตกสลายพังลงสิ้นทุกสิ่งอย่างจะกลับสู่ความสงบ มีหรือที่เด็กน้อยเย่หยวนนั้นมันจะทนทานไว้ได้?”

คลื่นกระแสมิตินั้นมันรุนแรงหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ผู้คนที่ได้เห็นต้องขนลุกซ่าน

เย่หยวนขยับร่างกายไปมาแต่สุดท้ายก็ยังถูกคลื่นกระแสมิตินั้นกลืนลงไปและไม่ปรากฏขึ้นมาอีกเลย

หยวนเจิ้นและพวกนั้นต่างหอบหายใจไปตามๆ กันด้วยสีหน้าซีดขาว “ในที่สุดมันก็ตายได้!”

ส่วนทางฝ่ายมนุษย์นั้นพวกเขาทั้งหลายได้ถูกเคล็ดฉีกยอดมิตินี้ทำลายความหวังลงสิ้น

แต่ในเวลานั้นเองมันกลับมีเสียงแหบๆ หนึ่งดังขึ้นกลางฝูงชน

“ทุกคนคอยฟังข้าให้ดี! หลังจากสามอึดใจแล้วให้พวกเจ้าทั้งหลายโจมตีสุดแรงไปยังจุดที่ข้าบอก!”

คนพูดนั้นมันคือเย่หยวน!

ทุกผู้คนไม่มีใครเข้าใจว่าเขานั้นกลับมาถึงตั้งแต่ตอนใด ทั้งยังไปปรากฏกลางวงของคนทั้งหลายด้วย

แต่เมื่อได้ยินแล้วพวกเขาทั้งหลายก็เตรียมใจลงมือทันที

เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจใครและเริ่มนับถอยหลัง!

……………..