ตอนที่ 2552

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,552 : อิทธิพลของเค่อเอ๋อที่มีต่อเผ่าปีศาจ

 

เสียงของต้วนหลิงเทียนแม้จะไม่ได้ดังมากมายอะไร หากแต่คล้ายมันมีเวทมนตร์ก็ไม่ปาน เพราะทุกผู้คนล้วนได้ยินกันชัดถนัดหู…

 

และพริบตาวาจาดังกล่าวก็แพร่กระจายไปถึงหูเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์ปีศาจทั้งหลายนอกนครแห่งบาปด้วยความเร็วดั่งไฟลามทุ่ง

 

เหล่ายอดฝีมือของมนุษย์ที่อึ้งไปหลังได้ยินคำประกาศของต้วนหลิงเทียน พอฟื้นคืนสติก็เฮกันยกใหญ่!!

 

“ต้วนหลิงเทียนคิดลงมือแล้ว! ในที่สุดเขาก็คิดลงมือแล้ว!!”

 

“ต้วนหลิงเทียนลงมือ ก็ไม่ต่างอะไรจากภรรยาของมันลงมือด้วย!!”

 

“หลังจากที่ภรรยาคนงามของต้วนหลิงเทียนเข่นฆ่าประมุขเผ่าพันธุ์มังกรที่เป็นเซียนอมตะเสเพล 9ทัณฑ์ไป ข้าก็รอดูชมทั้งคู่สร้างเรื่องราวใหญ่โตมาโดยตลอด ข้ายังสงสัยอยู่ว่าเมื่อไหร่หนอ…ทั้งคู่จะลงมือเผด็จศึกพวกเผ่าปีศาจและขับไล่พวกมันกลับแดนเนรเทศไปเสียที…”

 

“ทั้งๆที่ประมุขเผ่ามังกรก็เป็นเซียนอมตะเสเพล 9ทัณฑ์ แต่กลับไม่ออกหน้าขับไล่พวกเผ่าปีศาจ…เช่นนั้นหมายความว่าในเผ่าปีศาจก็สมควรมีเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์อยู่เต็มสิบส่วน!”

 

“ย่อมมีแน่นอน ข้าเคยได้ยินพวกปีศาจกล่าวว่าในบรรดาพวกมันก็มีเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ดำรงอยู่!”

 

“ยุคนี้มันอะไรกันแน่ ไม่เพียงแต่ต้วนหลิงเทียนกับภรรยา กระทั่งเผ่ามังกรกับเผ่าปีศาจก็มีเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์…”

 

“ต้วนหลิงเทียนท้าทายเผ่าปีศาจแบบนี้ ข้าเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนกับภรรยาคิดจัดการกวาดล้างเผ่าปีศาจแล้วเป็นแน่…”

 

“ไม่พ้นต้องเป็นเช่นนั้น! ข้าเองก็มีสหายในเผ่ามังกรอยู่บ้าง และสหายข้าที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นบอกกับข้าเอง ว่าอาศัยต้วนหลิงเทียนคนเดียวคงยากจะเอาชนะประมุขเผ่ามังกรได้…ที่ประมุขเผ่ามังกรตายตก ล้วนเป็นเพราะภรรยาต้วนหลิงเทียนทั้งสิ้น”

 

 

หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำประกาศของต้วนหลิงเทียน พวกมันก็พากันคิดไปว่า

 

ที่ต้วนหลิงเทียนประกาศท้าเผ่าปีศาจออกมา น่ากลัวไม่ใช่เป็นการท้าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจให้มาสู้กับตัวเอง แต่ท้าให้ศัตรูมาสู้กับภรรยามากกว่า…!

 

สาเหตุที่ไฉนพวกมันพากันคิดไปแบบนั้น เพราะพวกมันได้ฟังเรื่องราวทำนองว่าต้วนหลิงเทียนฆ่าประมุขเผ่ามังกรไม่ได้จึงให้ภรรยาลงมือ จนบังเกิดเป็นอุปาทานหมู่ขึ้นมา…

 

พวกมันไม่ได้รู้เลยว่าภรรยาของต้วนหลิงเทียนที่พวกมันนึกถึงคนนั้น ได้ออกจากระนาบโลกียะไปตั้งนานแล้ว อีกทั้งไม่อาจกลับมาได้ในเวลาอันสั้น กระทั่งอย่างต่ำๆก็ต้องเป็นพันปี!

 

“เจ้าต้วนหลิงเทียนนั่น มันคิดลงมือแล้ว!”

 

ด้านคนของเผ่าปีศาจพอได้ยินคำประกาศของต้วนหลิงเทียน ก็พากันหน้าเปลี่ยนสีเป็นแถว!

 

พวกมันย่อมเคยได้ยินเรื่องเล่าขานพลังฝีมือของภรรยาต้วนหลิงเทียนมาแล้ว และรู้ว่าสามารถเข่นฆ่าประมุขเผ่ามังกรที่เป็นเซียนอมตะเสเพล 9ทัณฑ์ได้ในชั่วพริบตา…

 

และตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าปีศาจของพวกมันก็เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ที่ทำได้แค่สูสีกับประมุขเผ่ามังกร อย่างที่ไม่อาจหาผู้ชนะ…

 

“ภรรยาของต้วนหลิงเทียนคนนั้น…นางจะลงมือหรือไม่?”

 

“ข้ากลัวว่าวันนี้จะมาถึงมาโดยตลอด…แต่ที่ต้องมาสุดท้ายก็มาจนได้…”

 

 

ช่วงแรกๆที่ข่าวลือเรื่องภรรยาต้วนหลิงเทียนสังหารประมุขเผามังกรอันเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ได้อย่างง่ายดายแพร่กระจายออกมาในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋านั้น…

 

เหล่าปีศาจแทบไม่มีใครเชื่อเลย!

 

อย่างไรก็ตามพอพวกมันได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แม้ยากจะเชื่อเพียงใดสุดท้ายพวกมันก็ต้องเชื่อ!

 

หลังจากนั้นทุกคนในเผ่าปีศาจจึงได้รู้ว่า…

 

ในระนาบเซียนแห่งนี้ กลับมีตัวตนที่ทรงพลังเหนือเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ดำรงอยู่จริงๆ และคนผู้นั้นยังเป็นภรรยาของผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระนาบเซียนอย่างต้วนหลิงเทียน! นางฆ่าประมุขเผ่ามังกรขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ได้ง่ายดาย!!

 

“หากภรรยาของต้วนหลิงเทียนคิดลงมือกับพวกเราเผ่าปีศาจจริง…พวกเราจะเอาอะไรไปสู้กับนาง?”

 

“ต่อให้เป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าปีศาจของพวกเรา…ก็เกรงว่าจะสู้ภรรยาของต้วนหลิงเทียนไม่ได้ใช่หรือไม่?”

 

 

เหล่าปีศาจพากันอกสั่นขวัญแขวนถ้วนหน้า

 

มีแม้กระทั่งปีศาจที่บังเกิดจิตหวาดกลัว เร่งรุดเดินทางออกจากดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า และกลับไปยังระนาบที่ถูกทอดทิ้งหรือแดนเนรเทศทันที…

 

แน่นอนว่าปีศาจส่วนใหญ่ยังไม่หลบหนีไปไหน…

 

สำหรับพวกมันแล้ว ระนาบเซียนแห่งนี้เปรียบดั่งสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน พลังวิญญาณฟ้าดินบริบูรณ์กว่าแดนเนรเทษบ้านเกิดของพวกมันมาก อีกทั้งที่ทางก็น่าอยู่เหลือเกิน หากมีแม้แต่เสี้ยวความหวังที่จะอาศัยอยู่ได้ พวกมันก็ไม่อยากจากไป

 

พวกมันไม่อยากกลับไปดินแดนที่ทั้งแร้นแค้นและมืดมิดอีกแล้วจริงๆ

 

ยิ่งไปกว่านั้นตัวตนที่ทรงพลังทั้งอำนาจมากที่สุดในเผ่าปีศาจของพวกมันก็ไม่เคยออกมาให้ความเห็นอะไรเลย ทำให้ทั้งหมดแม้จะหวาดกลัวไปบ้างแต่ก็ยังรั้งอยู่ไม่ทำอะไร

 

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาพวกมันเพียงใช้ชีวิตอย่างสันติ โดยลืมเรื่องต้วนหลิงเทียนกับภรรยาไปชั่วคราว

 

ทว่าวันนี้ต้วนหลิงเทียนกลับปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง กระทั่งยังข่มขู่ออกมาตรงๆ ว่าหากไม่พบยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าปีศาจในอีก 1 เดือนหลังจากนี้ จะเริ่มไล่ล่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปีศาจทั่วแดนดิน!

 

ปีศาจหลายตนรู้สึกเสมือนวันแห่งจุดจบกำลังนับถอยหลัง…

 

เพราะสุดท้ายแล้วภรรยาของต้วนหลิงเทียนก็ฆ่าประมุขเผ่ามังกรมาแล้วจริงๆ

 

และประมุขเผ่ามังกรก็เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ไม่แปลกปลอม!

 

 

หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน

 

ณ ภาคเหนือ ธารน้ำแข็งแห่งหนึ่งที่ไม่เคยละลายมานับหมื่นปีอันเงียบสงบ

 

ทว่าอยู่ๆความสงบดังกล่าวก็ถูกทำลายลงในพริบตา

 

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

 

 

เป็นเสียงแหวกฝ่าอากาศด้วยความฉับไวหลายสำเนียงที่ทำลายความสงบเงียบของธารน้ำแข็ง

 

เป็นร่างหลายร่างที่พากันเหินมาจากทิศทางต่างๆด้วยความฉับไว มองไปยังเส้นทางที่พวกมันเคลื่อนไหว ห้วงอากาศคงเหลือรอยแยกไว้เป็นทาง

 

ร่างเหล่านี้ประหนึ่งตัวทำลายความว่างเปล่าก็ไม่ปาน ผ่านพ้นไปที่ใดความว่างเปล่าล้วนฉิบหายแยกแตก

 

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

 

 

เพียงครู่เดียวสูงขึ้นไปบนน่านฟ้าเหนือธารน้ำแข็ง ก็ปรากฏร่างหยุดลอยค้างกลางหาวทั้งสิ้น 7 ร่าง ทั้งหมดยังหยุดลงโดยพร้อมเพรียงราวกับนัดกันมาอย่างไรอย่างนั้น

 

“พวกเจ้า…มาเพราะเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนมันไปประกาศไว้ที่นครแห่งบาปใช่หรือไม่?”

 

ชายวัยกลางคนในชุดหรูหราหนึ่งกล่าวถามออกมา สีหน้าของมันแลดูดุดันคล้ายกำลังข่มขวัญผู้คนให้หวาดกลัว

 

แต่ไม่ใช่ว่ามันชักสีหน้าดุดันขู่ขวัญอะไร มันเกิดมาจากท้องมารดาก็มีหน้าตาแบบนี้ ต่อให้อยู่เฉยๆไม่ชักสีหน้าอะไร มันก็มีหน้าตาทำราวกับจะผลักไสผู้คนให้หนีไปไกลห่างนับพันลี้…

 

“ใช่”

 

“ไม่ผิด”

 

“อืม ข้ามาเพราะเรื่องนั้น..”

 

 

อีก 6 ร่างที่เหลือก็พยักหน้ากล่าวตอบพร้อมๆกัน

 

เปรียะ!

 

ไม่นานหลังจากที่ร่างทั้ง 7 ปรากฏขึ้น ผิวหน้าส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็งเบื้องล่างพวกมันอยู่ๆก็ปรากฏรอยร้าวขึ้นมา

 

และเมื่อรอยร้าวแรกปรากฏขึ้นได้ไม่ทันไร มันก็เริ่มแผ่ขยายลุกลามใหญ่โต บังเกิดเป็นรอยแตกน่ากลัวนับไม่ถ้วน

 

สุดท้ายรอยแตกดังกล่าวก็แผ่ขยายโยงใยออกไป จนดูไม่ต่างอะไรกับใยแมงมุมบนธารน้ำแข็ง

 

เปรี๊ยง!

 

ในขณะที่บังเกิดใยแมงมุมใหญ่โตถึงระดับหนึ่ง อยู่ดีๆก็บังเกิดเสียงดังสนั่นหวันไหวขึ้น!

 

คราวนี้จุดหนึ่งของธารน้ำแข็ง ราวกับถูกพลังมหาศาลขุมหนึ่งซัดทำลาย พวกมันแตกตัวกลับกลายเป็นเศษน้ำแข็งชิ้นเล็กชิ้นน้อยดุจละออง ค่อยกระจายร่วงตกออกไปรอบๆ

 

เศษน้ำแข็งร่วงตกกระทบผิวน้ำแข็งดังเผาะๆ บ้างก็ร่วงตกลงบนน้ำเย็นเยียบดังต๋อมๆ

 

“พวกเจ้า…มาหาข้าด้วยเหตุอันใด?”

 

เสียงเฉยเมยหนึ่งพลันดังขึ้น ยังกึกก้องมาจากทุกทั่วสารทิศ ยากระบุว่าดังมาจากที่ใดกันแน่

 

เสียงแม้ไม่ได้ดังมากมายอะไร แต่พอดังเข้าหูทั้ง 7ร่างของพวกมันก็สะท้านไปทันใด

 

“คารวะใต้เท้าอู๋จี๋!”

 

“คารวะใต้เท้าอู๋จี๋!”

 

 

หลังร่างทั้ง 7 สั่นสะท้านไปคราหนึ่ง พวกมันก็ดึงสติกลับมา ต่างเร่งประสานมือคารวะทักทายชายชราที่ปรากฏตัวขึ้นในความว่างเปล่าตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบออกไปด้วยความเคารพ

 

หากมีคนรู้จักทั้ง 7 ร่าง บังเอิญผ่านมาแถวนี้และได้เห็นท่าทีของพวกมันล่ะก็…ไม่พ้นต้องตกใจครั้งใหญ่!

 

เพียงเพราะไม่ว่าใครก็ตามในบรรดาทั้ง 7 ล้วนแล้วแต่เป็นดั่งยักษ์ใหญ่สำหรับเผ่าปีศาจ!

 

ไม่มีใครเป็นข้อยกเว้น ทั้งหมดล้วนเป็นตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์!

 

ทว่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจ ต่อหน้าชายชราผู้หนึ่งกลับคารวะออกไปอย่างนอบน้อม

 

ชายชราคนนี้มีรูปร่างหน้าตาปานกลาง เรียกว่ายากจะหาตัวมันเจอหากมันเดินอยู่ท่ามกลางฝูงชน

 

อย่างไรก็ตามความเป็นมาของชายชราผู้นี้ย่อมไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน เพราะคนธรรมดาที่ไหนจะทำให้เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ทั้ง 7 ของเผ่าปีศาจแลดูเชื่องๆว่าง่ายราวลูกแมวเหมียวแบบนี้ได้?

 

มันคือเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์หนึ่งเดียวของเผ่าปีศาจ! อู๋จี๋!!

 

“ต้วนหลิงเทืยนมันท้าให้ข้าไปสู้กับมันหลังจากนี้อีกครึ่งเดือน?”

 

หลังได้รับทราบเรื่องราวการนัดหมายประลองของต้วนหลิงเทียน ชายชราที่ถูกทั้ง 7 เซียนอมตะเสเพล 8ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจเรียกหาว่าใต้เท้าอู๋จี๋  ใบหน้าของมันแต่เดิมที่เฉยเมย ก็เปลี่ยนเป็นมืดลงทันตา

 

“ตอนมันประกาศ มันกล่าวว่ามันจะประลองกับข้า หรือภรรยามันจะประลองกับข้า?”

 

ชายชรากวาดตามองถามทั้ง 7 ด้วยสีหน้าเข้มขรึม เสียงหนักจริงจัง

 

สำหรับมันแล้ว

 

ต้วนหลิงเทียนท้าสู้มัน กับต้วนหลิงเทียนท้ามันให้ภรรยาสู้ ช่างเป็นเรื่องราวที่แตกต่างกันราวสวรรค์และโลก!

 

มันก็ได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเผ่ามังกรแล้ว!

 

ด้วยพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน ให้อาศัยทุกกลเม็ดที่มี ก็ทำได้แค่สูสีกับประมุขเผ่ามังกรเท่านั้น…

 

ทว่าภรรยาของต้วนหลิงเทียนนั่น กลับฆ่าประมุขเผ่ามังกรได้ในพริบตา…

 

หากต้วนหลิงเทียนเป็นคนที่ท้าสู้มัน มันย่อมไม่กลัว เพราะพลังฝีมือของมันก็ทัดเทียมกับประมุขเผ่ามังกร

 

แต่ถ้าคนที่จะสู้กับมันเป็นภรรยาของต้วนหลิงเทียนล่ะก็ มันไม่มีความมั่นใจว่าจะเอาชีวิตรอดภายใต้การลงมือของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย…

 

เพราะสุดท้ายแล้วประมุขเผ่ามังกรที่แข็งแกร่งทัดเทียมกับมัน ยังตกตายคามืออีกฝ่ายในชั่วพริบตา…

 

“ที่มันประกาศท้าออกมา มันกล่าวว่ามันขอท้ายอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าปีศาจเรา…แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้บอกว่ามันจะไม่ให้ภรรยาสอดมือเข้ามายุ่ง…”

 

1 ใน 7 เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจกล่าว

 

เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ที่เหลือก็พยักหน้า

 

“เรื่องนี้…เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”

 

ชายชราหันไปเหลือบมองเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ผู้หนึ่ง ค่อยเอ่ยถามออกไป

 

ถึงตัวมันจะเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจ และเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าปีศาจ แต่ปกติแล้วมันไม่ค่อยยุ่งวุ่นวายเรื่องราวใดๆในเผ่าปีศาจ มันเพียงปิดด่านบ่มเพาะ เพื่อรอเวลารับมือหายนะทัณฑ์เซียนอมตะเสเพลรอบที่ 10ที่กำลังจะมาถึง

 

มันจะลงมือก็ต่อเมื่อเผ่าปีศาจต้องการให้มันลงมือ

 

และสำหรับมันแล้ว การอยู่ในระนาบเซียนหรือระนาบที่ถูกทอดทิ้ง ก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรเลย…

 

“เรื่องนี้พวกเราเองก็ไม่อาจตัดสินใจได้…ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับใต้เท้าอู๋จี๋ทั้งสิ้น เพราะสุดท้ายแล้วหากภรรยาของต้วนหลิงเทียนมันอยู่ที่นั่นและเป็นคนที่จะสู้ ใต้เท้าอู๋จี๋ก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว…”

 

เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ที่ถูกถาม นิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ค่อยขมวดคิ้วกล่าวออกเสียงหนัก

 

“ใช่”

 

เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์คนหนึ่งพยักหน้าเห็นด้วย ค่อยกล่าวเสริมว่า “หากใต้เท้าต้องปะทะกับสตรีนางนั้น ก็นับว่าต้องเสี่ยงชีวิตครั้งใหญ่แล้วจริงๆ…แม้ข้าไม่ทราบว่าสหายท่านอื่นคิดเห็นอย่างไร แต่ข้าขอแนะนำให้ใต้เท้าอู๋จี๋อย่าได้เสี่ยงเลย”

 

“ใต้เท้าอู๋จี๋เป็นดั่งเสาหลักของเผ่าปีศาจเรา พวกเรามิอาจสูญเสียท่านไปได้!”