ตอนที่ 1264: ผนึกถูกทำลาย

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1264: ผนึกถูกทำลาย

อุโมงค์มิติระหว่างโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งและเมืองทหารรับจ้างเต็มไปด้วยพลังงานที่รุนแรง พลังงานที่อยู่ในอุโมงค์เหล่านี้ไม่มั่นคงอย่างยิ่ง อุโมงค์ทั้งหมดจะบิดเบี้ยวเป็นครั้งคราว

ในเวลานั้นแสงสีขาวพร่างพราวพุ่งทะลุผ่านอุโมงค์มิติด้วยความเร็วที่เร็วเป็นอย่างยิ่ง นี่คือดาบโลหะทมิฬที่จิตวิญญาณราชันย์ปล่อยออกมา

มันดูเหมือนดาบธรรมดาทั่วไปและไม่สะดุดตาแต่อย่างใด แต่ก็มีพลังที่มากมาย ความแข็งแกร่งของดาบโลหะเพียงอย่างเดียวก็เหนือกว่ายุทธภัณฑ์จักรพรรดิในทวีปเทียนหยวนและแม้แต่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบก็ยังไม่อาจเปรียบเทียบได้

มิติไม่ค่อยมั่นคงและเริ่มที่จะกระเพื่อมอย่างรุนแรงทุกที่ที่ดาบบินผ่าน แม้ว่าจะผ่านไปยากลำบากยิ่ง แต่มันก็ไม่แตกสลาย

อีกด้านหนึ่งของตราผนึกทางเข้าอุโมงค์มิติ ดาบเหล็กได้ทะลวงมิติเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง มันถูกเคลือบด้วยแสงสีเงินที่เปล่งประกายโจมตีไปที่ผนึก

ตูม !

พร้อมกับเสียงดังกึกก้องหลังจากที่ปะทะผนึกและพลังงานมหาศาลก็ได้เปลี่ยนรูปแบบกลายเป็นบิดเบี้ยว จากนั้นดาบก็ปะทุพลังงานที่เบาบางทำให้เกิดพลังงานคล้ายละอองฝอยโจมตีเข้าไปที่ผนึกอย่างรุนแรง

ผนึกเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรงและและพลังงานที่ใช้คงสภาพนั้นก็ถูกใช้ออกมาอย่างน่ากลัว

เสี่ยวหลิงรู้สึกประหม่าทันที นางวางมือไว้บนผนึกพร้อมกับถ่ายพลังงานเข้าสู่ค่ายกลอย่างรวดเร็ว นางพยายามรักษาผนึกสุดท้าย

อย่างไรก็ตามผนึกนั้นไม่อาจหยุดยั้งการโจมตีของจิตวิญญาณราชันย์ได้ แม้ว่ามันจะได้พลังจากเสี่ยวหลิงแต่มันก็ยังคงสภาพอย่างยากลำบาก

แม้ว่าผนึกจะทรงพลัง แต่มันก็เพียงพอที่จะป้องกันการโจมตีจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตดั้งเดิม เมื่อเจอการโจมตีจากขอบเขตพระเจ้า ต่อให้เป็นพระเจ้าที่อ่อนแอที่สุด ผนึกก็ต้องแตกออกในท้ายที่สุด แม้ว่าจิตวิญญาณราชันย์จะอยู่ในขอบเขตดั้งเดิมเท่านั้น แต่เขามีพลังเทียบเท่ากับคนที่อยู่ในขอบเขตพระเจ้าที่อ่อนแอที่สุด ดังนั้นผนึกจึงไม่อาจขวางกั้นไปได้ด้วยพลังที่แข็งแกร่งของเขา หากไม่ใช่เพราะการช่วยเหลือจากเสี่ยวหลิงผนึกอาจจะถูกทำลายไปนานแล้ว

อย่างไรก็ตามเสี่ยวหลิงไม่อาจยื้อได้นานเพราะพลังงานที่นางสั่งสมมาเกือบจะหมดแล้ว

ดาบโลหะทมิฬยังตรึงอยู่ที่ผนึกเป็นเวลาหลายวินาทีก่อนที่จะหมดพลังและกลับไปยังโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง เสี่ยวหลิงเริ่มโล่งใจ แต่เมื่อนางพบว่าพลังงานทั้งหมดในมิติหายไป นางก็กลายเป็นหวาดกลัวทันทีพร้อมส่งเสียงสะอึกสะอื้น โอ้ ไม่ ไม่นะ ไม่มีพลังงานพอที่จะรักษาผนึก ข้าจะทำอย่างไรดี นายท่าน ท่านอยู่ไหน กลับมาเร็ว ๆ หากท่านไม่กลับมาตอนนี้ ผนึกที่ท่านวางไว้จะถูกคนเลวทำลายไป ข้าไม่อาจเอาชนะเขาได้ นายท่าน กลับมาเร็ว ๆ…

จิตวิญญาณราชันย์ยืนนิ่งอยู่บนยอดโลกแห่งภูเขาราวกับว่าเขาครอบครองทุกสิ่งในโลกใบนี้

ในเวลานี้ดาบโลหะทื่อด้านก็โผล่ออกมาจากอุโมงค์มิติ ราวกับว่าดาบนั้นมีสติปัญญา มันได้ลอยกลับมาอยู่ในมือของจิตวิญญาณราชันย์โดยไม่ต้องมีใครควบคุม

ได้เวลาแล้ว ในเวลานี้จิตวิญญาณราชันย์พูดด้วยเสียงที่หนักแน่น ทันใดนั้นพลังที่ยิ่งใหญ่ได้หลอมรวมจากรอบ ๆ ตัวเขา เขาลอยอยู่บนอากาศอย่างช้า ๆ ด้วยความสูงกว่าสามสิบเมตรที่เต็มไปด้วยพลังงานน่าหวาดกลัว

ในเวลานี้ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นกลายเป็นจิตวิญญาณที่ทรงพลัง เขาจับดาบของเขาขณะที่ยืนอยู่บนท้องฟ้าที่สั่นสะเทือน

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตดั้งเดิมหลายสิบคนที่อยู่ด้านหลังของเขาสั่นด้วยความหวาดกลัว พวกเขาทุกคนสามารถสัมผัสถึงแรงกดดันมหาศาลที่แผ่กระจายจากจิตวิญญาณราชันย์ได้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญย้อนกลับทั้งแปดก็ไม่มีข้อยกเว้น พวกเขาทั้งหมดรู้สึกว่าจิตวิญญาณราชันย์นั้นอยู่คงกระพัน

ทำลายผนึก ! ทันใดนั้นจิตวิญญาณราชันย์ก็เปล่งเสียงออกมาพร้อมกับถ่านพลังงานบริสุทธิ์เข้าไปยังดาบโลหะทมิฬ มันระเบิดแสงที่สว่างจ้าอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนและส่งเสียงกึกก้อง หลังจากนั้นจิตวิญญาณราชันย์ก็แทงดาบออกไปอย่างรวดเร็ว

พลังที่พุ่งออกไปนั้นลึกล้ำอย่างมาก การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็แทบทำให้โลกหยุดการเคลื่อนไหว เวลาหยุดนิ่งและแม้กระทั่งมิติรอบ ๆ ก็ถูกฉีกออกจากกัน

จิตวิญญาณราชันย์แทงดาบโลหะทมิฬไปที่อุโมงค์มิติด้วยความเร็วที่ยากจะมองด้วยตาเปล่าเข้าโจมตีผนึกอีกอันอีกครั้ง

เมื่อผนึกสัมผัสกับพลังอันมหาศาลมันก็แตกออกทันที มันเหมือนกับพิษที่ลามเลียไปรอบ ๆ ทันใดนั้นผนึกที่ทรงพลังก็ละลายหายไปจนสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า

เสี่ยวหลิงประหลาดใจเมื่อนางเห็นสิ่งนี้ นางทุ่มเททุกอย่างลงไปที่ผนึก แต่ไม่ว่านางจะพยายามแค่ไหน นางก็ไม่อาจหยุดยั้งการทำลายผนึกลงได้

ตูม ! ไม่นานผนึกก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ จนทำให้พื้นดินทั้งหมดสั่นไหวอย่างรุนแรง

เสี่ยวหลิงจ้องมองผนึกที่พังลงไป ขณะที่ใบหน้าของนางซีดลงอย่างมาก นางเต็มไปด้วยความกลัวเพราะน้ำตาของนางยังคงไหลออกมาอย่างไม่หยุด นางร้องไห้ มันทำสำเร็จแล้ว ! มันจบแล้ว ! ผนึกถูกทำลายแล้ว ! ผนึกถูกทำลายแล้ว ! นายท่าน ท่านอยู่ไหน ! ? กลับมา ผนึกถูกทำลาย ผนึกถูกทำลายแล้ว ข้าจะทำเช่นไร…

ช่วงเวลาที่ผนึกถูกทำลาย เมืองทหารรับจ้างก็ราวกับถูกบางอย่างกระแทกเช่นกัน พื้นที่ทั้งหมดยุบตัวลงและรอยร้าวตามพื้นดินก็ขยายกว้างกว่าหนึ่งเมตร สิ่งก่อสร้างทั้งหมดในเมืองพังทลายลง รวมถึงรูปปั้นของโมเทียนหยุนที่อยู่ตรงกลาง

ผู้เชี่ยวชาญจากเมืองทหารรับจ้างรวมถึงผู้ที่รีบมาจากสถานที่ต่าง ๆ ก็มองดูความพินาศของเมืองด้วยใบหน้าที่หมองหม่น ในตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถอธิบายให้กระจ่างได้รวมถึงตระกูลผู้พิทักษ์ที่อิจฉาที่เมืองทหารรับจ้างมีเซียนจักรพรรดิ

นี่เพราะว่าเทียนเจี้ยนได้บอกทุกคนทั้งหมดที่เป็นเซียนราชาเกี่ยวกับข้อมูลที่เจี้ยนเฉินเอามาให้ ถ้ามันเป็นเวลาอื่น พวกเขาอาจจะไม่เชื่อเรื่องเกินจริงเหล่านี้ แต่การล่มสลายของเมืองทหารรับจ้างเป็นหลักฐานที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่

หากผนึกของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งถูกทำลายลงอย่างแท้จริงและผู้เชี่ยวชาญได้เริ่มการรุกรานทวีปเทียนหยวน พวกเขาจะขับไล่คนเหล่านั้นด้วยพลังที่อ่อนแอได้อย่างไร นี่เป็นหายนะสำหรับทวีปเทียนหยวนที่อาจส่งผลต่อโลกทั้งใบ

ดาบโลหะทมิฬได้กลับมาที่มือของจิตวิญญาณราชันย์ที่อยู่ในโลกเซียนที่ถูกทิ้งอีกครั้ง มันลอยอยู่ข้าง ๆ เขาอย่างเงียบ ๆขณะที่จิตวิญญาณราชันย์จ้องไปที่อุโมงค์มิติด้านหน้าของเขา ในที่สุดเขาก็เผยรอยยิ้มแห่งความสุขออกมา

จิตวิญญาณราชันย์ ผนึกอีกด้านถูกทำลายแล้วใช่หรือไม่ ? หญิงผู้ย้อนกลับถามอย่างกังวล

จิตวิญญาณราชันย์ค่อย ๆ หันกลับมาอย่างช้า ๆ ดูเหมือนว่าเขาจะอายุ 30 ปีและเขาก็ไม่ได้หล่อ รูปร่างหน้าตาของเขาธรรมดาอย่างมาก คิ้วของเขาคมราวกับดาบในขณะที่ใบหน้าของเขาดุดันจากการนองเลือด

ข้าได้ทำลายผนึกที่อยู่อีกด้านหนึ่งแล้ว แต่อุโมงค์มิตินั้นไม่เสถียรอย่างยิ่งหลังจากที่ถูกโจมตีไปหลายครั้ง มันเต็มไปด้วยความผันผวนและวุ่นวาย ดังนั้นข้าจึงไม่อาจเข้าไปได้ เราจะไปได้หลังจากที่มันเสถียรแล้วเท่านั้น จิตวิญญาณราชันย์ตอบ

ด้วยเหตุนี้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตดั้งเดิมจึงยิ้มแย้มแจ่มใสทันที หนึ่งในชายชราผู้หวนกลับพูดอย่างตื่นเต้นว่า จิตวิญญาณราชันย์เป็นความหวังของโลกเรา เพื่อที่จะบรรลุความต้องการไปต่างโลกเมื่อหลายปีก่อนด้วยตัวเอง เพียงแค่สองร้อยปี จิตวิญญาณราชันย์ก็ได้ทำลายผนึกไปทั้งห้าอัน แม้ว่าพวกเขาจะพยายามต้านทานการทำลายของผนึก แม้ว่าพวกมันทั้ง 5 อันจะเชื่อมต่อกันก็ยังไม่อาจทำอะไรได้ จิตวิญญาณราชันย์เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาตร์ของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งตลอดเวลาที่ผ่านมา

จิตวิญญาณราชันย์ไม่ได้ตอบสนองต่อกับคำชมของชายชรา การแสดงออกของเขายังคงเมินเฉยเหมือนเดิม เขากล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตดั้งเดิมจะสร้างผลกระทบต่อความผันผวนในมิติอย่างมากหากพวกเขาเข้าไป ดังนั้นพวกเขาจะผ่านไปได้ก็ต่อเมื่อมันเกิดความเสถียรและได้รับการเสริมความแข็งแกร่งแล้ว อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญต่ำกว่าขอบเขตดั้งเดิมจะไม่ถูกจำกัด เพราะเหตุนี้เราทำได้แค่รอให้อุโมงค์มิตินั้นสงบลง คนที่อ่อนแอกว่าเมื่อเข้าไปพวกเขายังปลอดภัย เราจะส่งบางคนไปตรวจสอบสภานการณ์อื่น ๆ ก่อน อย่าลืมความตั้งใจของเรา

รับทราบ จิตวิญญาณราชันย์ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตดั้งเดิมตะโกนตอบพร้อมกัน

หลังจากนั้นจิตวิญญาณราชันย์ก็บินลงไปที่ภูเขาด้านหลังตัวเอง เขาเมินเฉยต่อรอยแตกของมิติที่อาจจะทำลายชีวิตของคนที่อยู่ในขอบเขตดั้งเดิมได้หลังจากที่ผ่านลงไปครึ่งภูเขา