ตอนที่ 2326 กองหนุนมาถึง

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ระหว่างที่เย่หยวนกำลังนำพาผู้คนทั้งหลายบุกทะลวงต่อสู้เพื่อหาทางหนีนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังหนักหน่วงกำลังพุ่งตัวเข้ามาหา

นั่นทำให้สีหน้าของเย่หยวนเปลี่ยนสีไปทันทีและเข้าใจได้ในวินาทีนั้นว่ามันคงเป็นหยวนเว่ยแล้ว!

แต่เวลานี้มันไม่มีเวลาให้คิดมากมาย เย่หยวนนั้นรีบใช้วิชาเคลื่อนย้ายมิติพุ่งหนีทุกผู้คนไป

“จีโม พาพวกหยุนยี่ทั้งหลายออกไปด้วย ข้าจะล่อเจ้าเฒ่านี่ออกไปเอง!”

เย่หยวนตะโกนบอกกลับมาก่อนจะพุ่งตัวหายลับไป

แน่นอนว่าเมื่อเย่หยวนไป ทางหยวนเว่ยก็พุ่งตัวหันหน้าตามเขาไปอย่างไม่ลังเล

แต่จะอย่างไรเวลานี้เย่หยวนก็มีแนวคิดแห่งห้วงมิติถึงระดับแปด ความเร็วในการทะลวงมิติของเขานั้นมันรวดเร็วอย่างไม่อาจเทียบกับก่อนหน้าได้และทำให้ตัวหยวนเว่ยไม่อาจตามถึงตัวเขาได้ง่ายๆ

“เด็กน้อย ไม่ว่าเจ้าจะหนีไปสุดหล้าฟ้าแผ่นดินอย่างไรบรรพกาลผู้นี้ก็จะตามไปฉีกร่างเจ้าลงให้ได้”

หยวนเว่ยนั้นตะโกนร้องออกมาอย่างเย็นเยือกเสียดกระดูก แสดงได้ถึงความโกรธแค้นของเขาที่เลยจุดเดือดไปนานแล้ว

เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังรุนแรงที่พุ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เย่หยวนก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก

หยวนเว่ยนี้แข็งแกร่งจนเกินไป!

ความเร็วของเขานั้นมากล้นต่อให้เย่หยวนจะมีแนวคิดแห่งห้วงมิติแปดดาวอย่างไรมันก็ยังช้ากว่าหยวนเว่ยไปมาก

เมื่อได้เห็นหยวนเว่ยผู้นั้นพุ่งตัวผ่านหน้าไปพวกจีโมทั้งหลายก็ต้องมองดูด้วยใบหน้าซีดขาว

“นอกจากรองมหาปราชญ์จะมากพรสวรรค์แล้วเขายังมีนิสัยใจคอที่เที่ยงธรรม! เขานั้นไม่ได้ลังเลแม้สักวินาทีที่จะใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อเพื่อปกป้องพวกเรา”

“หึ โอสถบรรพกาลนั้นเป็นยอดคนอันดับหนึ่งในเต๋าโอสถ แต่เมื่อรองมหาปราชญ์ทำลายผนึกมิติลงโอสถบรรพกาลกลับเป็นคนแรกที่หนีหายหัวไป ข้าล่ะผิดหวังในตำนานของคนผู้นี้จริง”

“หากข้าหนีไปได้ในวันนี้ จักรพรรดิผู้นี้จะขอติดตามรองมหาปราชญ์ไป! เพียงแค่ว่า… ข้าไม่รู้…”

จักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้นั้นกล่าวมาได้แค่ครึ่งประโยคก็ต้องเงียบปากลง

เพราหยวนเว่ยนั้นสุดแสนแข็งแกร่ง แข็งแกร่งจนทำให้พวกเขาแทบไม่อาจหายใจ

ต่อให้จะเป็นการร่วมมือของโอสถบรรพกาลและมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลก็ยังไม่อาจเทียบเคียงเขาคนนี้ได้ ด้วยกำลังของเย่หยวนในเวลานี้มีหรือที่จะยังเอาตัวรอดไปได้?

ตอนที่ต้องเจอกับมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นั้นเย่หยวนสามารถสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้

แต่หยวนเว่ยนั้นมิใช่มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ เขานั้นมีกำลังพอจะทำลายมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ด้วยมือข้างเดียว

มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นั้นมันมีจุดอ่อน เย่หยวนสามารถหาจุดอ่อนนั้นของมันได้ แต่… หยวนเว่ยนั้นไม่มีจุดอ่อนใด!

หรืออย่างน้อยๆ ก็ในระดับของเย่หยวนนี้ ต่อให้เขาจะรู้ถึงจุดอ่อนของหยวนเว่ยแต่เขาก็มีพลังไม่มากพอจะโค่นอีกฝ่ายลง

คนทั้งสองนั้นหนึ่งหนีหนึ่งไล่กันไปผ่านห้วงมิติ แต่ความเร็วของหยวนเว่ยนั้นก็รวดเร็วจนแทบไม่อยากเชื่อ

เขานั้นก้าวไปในคลื่นกระแสห้วงมิติราวกับว่ามันเป็นแค่พื้นดินราบ คลื่นกระแสมิติอันรุนแรงใดๆ นั้นมันไม่ได้ส่งผลใดๆ ต่อความเร็วของเขาเลย

แต่สุดท้ายด้วยเวลาๆ เกือบๆ สี่ชั่วโมงตัวหยวนเว่ยก็ตามมาถึงด้านหลังเย่หยวน

“หึๆ ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าเจ้าจะยังหนีไปไหนได้! ทำลายแผนการของบรรพกาลผู้นี้มีโทษตาย!”

หยวนเว่ยนั้นหัวเราะลั่นพร้อมยกหมัดขึ้น

ลายพระเจ้ามากมายพุ่งพวยออกมาพร้อมด้วยคลื่นพลังที่แยกคลื่นกระแสมิติออกเป็นสองพุ่งทะยานเข้ามาอย่างไม่อาจมีสิ่งใดหยุดยั้ง

หมัดนี้มันเหมือนราวกับว่าเป็นหมัดที่แหวกทะเลสีดำสนิทนี้ได้ มันทำให้คนทั้งหลายที่เห็นต้องอ้าปากค้าง

เย่หยวนนั้นขนลุกตั้งไปทั้งร่างเพราะพลังที่ราวกับว่าโลกจะสิ้นลงตรงหน้านี้

คลื่นพลังอันหนักหน่วงรุนแรงนี้พุ่งเข้ามาหาเขาจากรอบทิศพร้อมปิดกั้นมิติไว้สิ้น ไม่เปิดช่องว่างให้เขาได้หนีไปไหนแม้แต่น้อย

หมัดนี้ของหยวนเว่ยมันแฝงเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นและตระหนก

โกรธแค้นนั้นย่อมมาจากการที่เย่หยวนทำลายแผนการของเขาลงทำให้แผนที่ใกล้สำเร็จนั้นพังทลายอย่างไม่มีชิ้นดี

ตระหนกนั้นเพราะว่าพรสวรรค์ของเย่หยวนที่สูงล้ำจนน่ากลัว ก่อนมาเขานั้นพยายามจะประเมินเย่หยวนให้สูงที่สุดเท่าที่จะสูงได้

แต่สุดท้ายมันก็ยังกลายเป็นว่าเขาประมาทเย่หยวนไป

ตัวตนผู้คิดค้นสร้างมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ขึ้นมานั้นมันเป็นยอดคนระดับเดียวกับตัวเขา หากเมื่อวิชานี้ถูกใช้ออกมาแล้วแม้แต่เจ้าฟ้าดินสี่ทลายก็คงไม่อาจจะหลบรอดหนีไป

การที่เขาสร้างทำการใหญ่อย่างในครั้งนี้มันก็เพราะว่าตัวเขามีมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์เป็นไพ่ตาย

แต่ใครจะไปคาดคิดว่าเย่หยวนนั้นกลับทำลายวิชาอันไร้พ่ายนี้ลง

ยอดพรสวรรค์ระดับเย่หยวนนี้หากปล่อยให้ได้เติบโตต่อไปแล้วมันคงได้กลายเป็นเสี้ยนหนามชิ้นใหญ่ขวางเผ่าเทวา

เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องสังหารเย่หยวนลงให้ได้เสียแต่เวลานี้

เขานั้นได้รู้แล้วว่าหากเทียบกับเหล่านักหลอมโอสถในอาณาจักรทหัยเมฆาทั้งหลาย ตัวเย่หยวนนั้นมันเป็นภัยที่ร้ายแรงกว่ากันมากล้น

การปล่อยให้เสือร้ายได้กลับขึ้นเขามันคงไม่ฉลาดนัก

หมัดนี้หยวนเว่ยจึงไม่ได้ออมมือแม้แต่น้อย ใช้พลังหมัดที่หนักหน่วงที่สุดของตนออกมาทันที

เขานั้นคิดจะสังหารเย่หยวนให้ตายลงด้วยหมัดเดียวนี้และจบปัญหาใดๆ ที่จะตามมา

หมัดที่แฝงพลังราวจะจบสิ้นโลกลงได้นี้มันพุ่งเข้ามาหาเย่หยวนอย่างที่ตัวเขาไม่มีปัญญาจะป้องกันใดๆ

แค่คลื่นพลังรอบนอกของหมัดนี้มันก็มากพอจะทำให้เย่หยวนต้องกระอักเลือด เวลานี้ร่างกายของเขานั้นเดือดฉานเหมือนเพิ่งลงไปอาบน้ำเลือดมา

ครานี้เขานั้นช่างไร้พลังจะต่อต้าน

หยวนเว่ยนั้นมิใช่หยวนเจี่ยว หมัดนี้ของเขามันไม่เปิดโอกาสให้เย่หยวนได้ตั้งรับใดๆ

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือต่อให้เย่หยวนจะลากหยวนเว่ยเข้าไปในโลกของเขาแล้วมันก็คงไม่มีทางใดที่จะฆ่าสังหารอีกฝ่ายลงได้

แต่ในวินาทีที่เย่หยวนหมดหวังใดๆ นั้นมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งด้าวเท้าออกมาจากห้วงมิติ

จากนั้นเขาก็รีบยกมือขึ้นวาดปัดเป็นวงครอบคลุมตัวเขาและเย่หยวนไว้

ปัง ปัง ปัง…

เกราะที่ถูกสร้างขึ้นในพริบตานี้ส่งเสียงดังลั่นพร้อมคลื่นห้วงมิติที่ถูกเป่าจนหายไป

แต่เจ้าเกราะนี้มันกลับสามารถรับการโจมตีจากหมัดนี้ของหยวนเว่ยไว้ได้

ชายวัยกลางคนผู้นั้นก้าวขึ้นมายินบังหน้าเย่หยวนไว้

เย่หยวนนั้นมั่นใจอย่างมากว่าตนไม่เคยจะพบเจอชายผู้นี้มาก่อนแต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ลงมือช่วยเหลือ

หยวนเว่ยนั้นพุ่งตัวตามเข้ามาถึงและจ้องมองใบหน้าของชายวัยกลางคนผู้นั้นอย่างหนักใจ

หมัดสังหารของเขานั้นกลับถูกอีกฝ่ายป้องกันไว้ได้ ความเจ็บแค้นในใจของเขามันมีมากล้น

“เจ้าเป็นใคร? คิดกล้ามาขัดขวางแผนการของบรรพกาลผู้นี้?” หยวนเว่ยนั้นมองจ้องและถามออกมา

ชายวัยกลางคนผู้นั้นกล่าวตอบกลับไป “ข้าเจียนหยุนซินแห่งตระกูลเจียน”

ชายวัยกลางคนผู้นี้กลับกลายเป็นถึงบุตรของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ เจียนหยุนซิน!

เย่หยวนต้องเบิกตากว้างขึ้นมาไม่นึกไม่ฝันว่าคนที่จะมาช่วยเขาในวินาทีคับคันมันจะกลายเป็นคนตระกูลเจียน

หยวนเว่ยนั้นขมวดคิ้วแน่น “ตระกูลเจียน จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้! ข้าก็เคยได้ยินมาก่อนว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นควบคุมคำนวนทุกอย่างบนมหาพิภพถงเทียนไว้ มาโจมตีอาณาจักรทหัยเมฆาครานี้ข้าก็ได้ถึงขั้นขอให้บรรพกาลทั้งหลายช่วยเหลือปิดบังความลับสวรรค์ไว้ ไม่นึกเลยว่าสุดท้ายจะยังถูกมันทำนายเอาได้ ดูท่าข้าจะยังประเมินตระกูลเจียนต่ำไป”

เจียนหยุนซินตอบกลับไป “เจ้านั้นทำได้อย่างแยบยลไร้ร่องรอยจริง แต่ไม่นานก่อนหน้านี้ความลับของสวรรค์มันได้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้บรรพกาลผู้นี้สามารถจับความผิดปกติไว้ได้”

เมื่อเขากล่าวออกมานั้นดวงตาทั้งหยวนเว่ยและเจียนหยุนซินต่างก็หันมามองเย่หยวนตามๆ กัน

ดูท่าแล้วความลับสวรรค์ที่ว่ามันคงเปลี่ยนไปเพราะเย่หยวนผู้นี้

เจียนหยุนซินนั้นย่อมจะไม่รู้ถึงเหตุผลแต่หยวนเว่ยนั้นเข้าใจได้ทันที

เพราะเดิมทีแผนการของเขานี้มันไร้จุดอ่อน

หากให้พูดตามหลักการแล้วมันคงจะไม่มีใครหนีออกจากมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ไปได้

แต่เย่หยวนนั้นกลับทำลายไพ่ตายของเขา เจาะมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ลงทำให้ความลับของสวรรค์เคลื่อนเปลี่ยนจึงเป็นเหตุทำให้จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ

จะบอกว่าเรื่องนี้มันเป็นความบังเอิญหรือจะบอกว่ามันเป็นความผิดพลาดของหยวนเว่ยก็ได้ทั้งคู่

หากเย่หยวนไม่ได้มายังอาณาจักรทหัยเมฆา มันก็คงไม่มีใครจะทำลายมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ลงได้และยอดนักหลอมโอสถทั้งหลายคงตายสิ้น

รวมไปถึงตัวโอสถบรรพกาลทั้งหลาย ต่างก็คงต้องตายลง

แต่เย่หยวนนั้นอยู่ เขานั้นได้เปลี่ยนวิถีของเรื่องราวครั้งนี้ไปแต่ไม่มีใครคาดถึงตัวตนของเขานี้ได้

เมื่อความลับสวรรค์เคลื่อนไปแล้วผลที่ออกมามันก็ย่อมจะไม่เป็นไปตามหวังเสมอ

หยวนเว่ยนั้นร้องตอบกลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ข้านี้มันไม่มีตาเสียจริงๆ ไม่นึกเลยว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะแข็งแกร่งจนเปลี่ยนความลับสวรรค์ได้แล้ว หากข้ารู้เช่นนี้เป้าหมายแรกที่บรรพกาลผู้นี้จะสังหารคงเป็นมัน”

เจียนหยุนซินถามกลับไป “พูดไปก็เปล่าประโยชน์แล้ว เจ้าคิดจะถอยหรือสู้กับข้าเล่า?”

…………….