ตอนที่ 1277: ตระกูลเจียงหยางแตกกระจายแล้ว
เจียงหยางซูเซียวเลิกคิ้วขึ้นและพูดอย่างเฉยเมยว่า สาขาตระกูลซูของเราแยกตัวออกจากตระกูลผู้พิทักษ์ เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลผู้พิทักษ์อีกต่อไป หยวนเซียวและข้าไม่ได้มาในนามของตัวแทนตระกูลผู้พิทักษ์ตระกูลเจียงหยาง ผู้อาวุโสสูงสุดไม่จำเป็นต้องมาถามคนจากสาขาซูของเราเรื่องการยืมยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ
ทุกคนตอนนี้ประหลาดใจอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งที่เจียงหยางซูเซียวพูด หลายคนมีท่าทางไม่เชื่อ
เซียนราชาหลายคนรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับตระกูลเจียงหยางจากสิบตระกูลผู้พิทักษ์ มันถูกแบ่งออกเป็นสาขาซู, หยวนและสาขาชิงและในหลาย ๆ ปีที่ผ่านทั้งสามสาขาต่างก็เป็นไปด้วยดี แม้ว่าจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นไม่กี่ครั้งก็ไม่อาจทำลายความมั่นคงของตระกูลได้
แต่ตอนนี้เจียงหยางซูเซียวได้พูดออกมาแล้วว่าสาขาซูได้ออกจากตระกูลผู้พิทักษ์และพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลผู้พิทักษ์อีกต่อไป หลายคนพบว่ามันยากที่จะเชื่อ
เจียงหยางซูเซียว มันเป็นเรื่องจริงหรือ ? สาขาซูของเจ้าออกจากตระกูลผู้พิทักษ์จริง ๆ รึ ? ผู้อาวุโสสูงสุดถามเสียงเหี้ยม นี่คือเรื่องสำคัญ
เจียงหยางซูเซียว เจ้าไม่อาจล้อเล่นได้ ทั้งสามสาขามีข้อตกลงที่ดีมากว่าล้านปี ตั้งแต่โบราณมาสาขาทั้งสามได้แสดงเห็นพ้องไปในทางเดียวกัน ดังนั้นทำไมเจ้าถึงได้แยกตัวออกมากะทันหัน ? ชายชราหน้าแดงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เจียงหยางซูเซียวถาม เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดจากตระกูลโม่หยวนและค่อนข้างสนิทกับเจียงหยางซูเซียว
ในเวลานี้ทุกคนจ้องมองมายังเจียงหยางซูเซียวและเจียงหยางซูหยวนเซียว เซียนราชาจากนิกายยิหยุนและหยางจิมีความกระตือรือร้นเป็นอย่างมากที่จะได้ยินเรื่องภายใน พวกเขาเต็มใจอย่างมากที่จะได้เห็นตระกูลเจียงหยางแตกออกจากกันและทำให้ความแข็งแกร่งลดลง
เจียงหยางซูเซียวยังคงไม่แสดงอะไรออกมา เรื่องนี้ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงตอบอย่างหนักแน่นว่า ข้าจะล้อเล่นกับเรื่องสำคัญพวกนี้ได้อย่างไร ? ข้ากำลังพูดความจริง สาขาซูของเราไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเป็นผู้พิทักษ์ของตระกูลเจียงหยางอีกต่อไป
ในห้องเงียบลงทันที แต่ผู้คนทั้งหมดเริ่มยอมรับความจริงของการแยกจากสาขาซู แม้ว่านี่จะเป็นข่าวที่น่าตกใจในทวีปเทียนหยวน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเกิดผลกระทบกับพวกเขา อย่างไรก็ตามหลายคนตระหนักได้ว่าความแข็งแกร่งของตระกูลเจียงหยางลดลงอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงนี้ แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ใช่ตระกูลผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดและอาจจบลงด้วยการเป็นตระกูลผู้พิทักษ์ที่อ่อนแอที่สุดจากพวกเขาทั้งหมด หลายคนจากตระกูลหรือสำนักหรือนิกายอื่น ๆ ต่างลอบยินดีอยู่ในใจ
เนื่องจากสาขาซูแยกตัวออกจากตระกูลเจียงหยาง ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าทำไมไม่มีสาขาชิงและหยวนมาเป็นตัวแทนของตระกูลเจียงหยาง ? เซียนราชาจากตระกูลผู้พิทักษ์ถามด้วยความอยากรู้
ผู้อาวุโสสูงสุดมองไปรอบ ๆ และเขาก็ไม่อาจมองหาคนจากตระกูลเจียงหยางได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงพูดกับเซียนราชาที่อยู่ข้าง ๆ ของเขาว่า ผู้อาวุโสหก ข้าจะให้เจ้าไปเยือนตระกูลเจียงหยาง โปรดเชิญพวกเขามาที่เมืองของเรา เพื่อที่เราจะได้พูดถึงกับวิธีการรับมือจากคนที่มาจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง
ผู้อาวุโสหกของเมืองทหารรับจ้างลุกขึ้นยืนทันทีและป้องมือ เขาพูดอย่างชัดเจนว่า ทุกท่าน ข้าจะออกไปชั่วคราว หลังจากนั้นเขาก็ออกไปจากโลกใบเล็ก
แม้ว่าตระกูลผู้พิทักษ์ของตระกูลเจียงหยางจะอยู่ห่างจากเมืองทหารรับจ้างอย่างมาก แต่มันใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีในการเดินทาง ผู้อาวุโสหกกลับมาโดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีและบอกกับทุกคนอย่างเคร่งเครียดว่า ผู้อาวุโสสูงสุด ข้าได้ไปเยือนตระกูลเจียงหยางและพบว่ามันถูกผนึกเอาไว้ ไม่เพียงแต่จะเข้าไปไม่ได้ คนข้างในก็ไม่อาจออกได้เช่นกัน การสื่อสารต่าง ๆ กับพวกเขาไม่อาจใช้ได้เช่นกัน
หา ! การแสดงออกของผู้อาวุโสสูงสุดเปลี่ยนไป เขายืนขึ้นทันที แม้กระทั่งเซียนราชาส่วนใหญ่ก็ตกตะลึง ตระกูลผู้พิทักษ์ที่ทรงพลังถูกผนึกไว้ในโลกใบเล็กของพวกเขา นี่มันช่างน่าแปลกใจเกินกว่าที่พวกเขาจะเคยเจอ
ผู้อาวุโสหก มันเป็นเรื่องจริงหรือ ? ตระกูลเจียงหยางถูกผนึกไว้ในโลกใบเล็กของพวกเขางั้นหรือ ? พวกเขาเป็นตระกูลผู้พิทักษ์ที่ดี ใครในทวีปที่สามารถทำเช่นนี้ได้ ? แม้กระทั่งมารราคะก็ยังไม่อาจทำเช่นนี้ได้ เซียนราชาอิสระกล่าว
ผู้อาวุโสสูงสุดไม่ได้คุยเรื่องนี้อีกต่อไป เขาจ้องมองอย่างลึกซึ้งไปที่เจียงหยางซูเซียวและเจียงหยางซูหยวนเซียว เจียงหยางซูเซียว ทวีปเทียนหยวนของเรากำลังเผชิญหน้ากับภยันตรายที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่าข้าไม่รู้ว่าตระกูลเจียงหยางของเจ้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เราก็ต้องการผู้คน เราต้องการทำลายผนึก เจ้าทั้งสองมีใครขัดข้องหรือไม่ ?
ในเวลานั้นมีการเปลี่ยนแปลงแว่บหนึ่งในสายตาของเจียงหยางซูเซียวและเจียงหยางซูหยวนเซียว มีความชื่นชมและดูถูก หลายคนปะติดปะต่อกับการที่สาขาซูถอนตัว
เจียงหยางซูเซียวถอนหายใจเบา ๆ เขารู้ว่าอาจมีไม่กี่คนที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับสาขาซู เขาจึงต้องอธิบายว่า มันเป็นเพราะผลไม้เซียน เมื่อเจี้ยนเฉินได้รับผลไม้เซียนแล้ว เจียงหยางชิงหยุนก็ต้องการเอาไปใช้เองทำให้เกิดความขัดแย้งภายในที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เจี้ยนเฉินได้โกรธอย่างมากและได้ร่วมมือกับสัตว์เทวะทั้งสามในการผนึก หากเจ้าต้องการปล่อยผู้คนทั้งสองสาขาให้เป็นอิสระ สาขาซูของเราไม่มีการคัดค้านแน่นอน”
ทุกคนเข้าใจทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคำอธิบายของเจียงหยางซูหยุนเซียว แต่พวกเขาก็ตกใจเรื่องของเจี้ยนเฉินอีกครั้งและสิ่งที่สัตว์เทวะทั้งสามทำ พวกเขาสามารถผนึกตระกูลผู้พิทักษ์ได้ มันเป็นเรื่องยากอย่างมากแม้แต่กับเซียนจักรพรรดิก็ไม่อาจทำสิ่งพิเศษเหล่านี้ได้ง่าย ๆ
นี่เป็นเพราะตระกูลผู้พิทักษ์มีวิธีการจัดการกับเซียนจักรพรรดิ
นั่นเป็นอย่างที่ข้าคิด เจียงหยางชิงหยุนโลภมากเกินไป ตั้งแต่เกิดการต่อสู้เพื่อผลไม้เซียน เขาไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลย ดังนั้นทำไมเจี้ยนเฉินถึงต้องมอบผลไม้เซียนให้กับเขา ? ในความคิดของข้า สาขาหยวนและสาขาชิงสมควรได้รับผลจากการกระทำของพวกเขา มันเป็นความผิดของพวกเขาเองทั้งหมด เซียนราชาจากตระกูลโม่หยวนพูดอย่างชอบธรรม
ในเวลานี้เซียนราชา 4 คนที่โชกเลือดและผมยุ่งกระเซอะกระเซิงได้เข้ามาในห้อง พวกเขาทุกคนดูแก่อย่างมาก พลังชีวิตของพวกเขาอ่อนแออย่างยิ่ง
นั่นมัน ! ผู้อาวุโสสูงสุดคนหนึ่งจากนิกายหยางจิจำหนึ่งในสี่คนนั้นและรู้สึกหวาดผวาทันที เขามาถึงด้านหน้าของคนทั้งสี่ในพริบตาและจ้องมองหนึ่งในพวกเขาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขาตะโกนออกมาว่า จี๋เทียน เจ้ากลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร ?
นางฟ้าเฮายู่ใช้ค่ายกลดูดพลังชีวิตของพวกเราออกไป… เขาตอบอย่างอ่อนแรง ทันทีหลังจากที่เขาพูดจบก็ดูเหมือนกับว่าเขาใช้พลังทั้งชีวิตหมด เขาล้มลงกับพื้นทันที เขากลายเป็นศพที่แห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็วจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
หลังจากนั้นเซียนราชาอีกสามคนก็ล้มลงเช่นกันและมีผลลัพธ์เดียวกับผู้อาวุโสสูงสุดจากนิกายหยางจิ
ผู้อาวุโสสูงสุดจากนิกายหยางจิและนิกายยิหยวนต่างก็มีการแสดงออกที่ไม่น่าดูอย่างมาก พวกเขาจำคนอื่นอีกสามคนได้แล้ว พวกเขาคือเซียนราชาที่พวกเขาส่งไปยังเมืองอัคนีเพื่อเอาโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม พวกเขาไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะทำภารกิจล้มเหลวและถึงขั้นเสียชีวิต
การสูญเสียเซียนราชาสองคนอย่างกะทันหันนั้นเป็นการสูญเสียที่มากมายสำหรับนิกายหยางจิและนิกายยิหยวน
นางฟ้าเฮายู่ผู้นี้ทำเกินไปแล้ว มันไม่เป็นไรที่นางจะไม่ให้ยืมโถงศักดิ์สิทธิ์ แต่ทำไมนางถึงต้องสังหารผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายเรา ? เราไม่อาจปล่อยเรื่องนี้ไปได้ เซียนราชาจากนิกายยิหยวนกล่าวอย่างเจ็บปวด
เราจะต้องไปทวงถามคำอธิบายในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ผู้อาวุโสสูงสุดจากนิกายหยางจิอบอวลไปด้วยจิตสังหาร การสูญเสียเซียนราชาสองคนลดความแข็งแกร่งของนิกายลงกว่าสามในสิบส่วน
ผู้อาวุโสสูงสุดจากเมืองทหารรับจ้างยืนขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า เรื่องในตอนนี้คือการหาวิธีที่จะจัดการกับปัญหาของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง เราสามารถไปหานางฟ้าเฮายู่เพื่อขอคำอธิบายหลังจากที่เราจัดการกับการคุกคามของต่างโลกได้
ถูกต้อง เราต้องจัดการลำดับความสำคัญก่อน โลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งเป็นภัยคุกคามขนาดใหญ่ ดังนั้นเลิกที่จะแก้แค้นนางฟ้าเฮายู่ในตอนนี้ ในขณะเดียวกันนางฟ้าเฮายู่ก็ไม่ง่ายที่จะจัดการ เพราะนางสามารถจัดการกับเซียนราชาทั้ง 9 ได้ และนางก็ได้รับการป้องกันจากค่ายกลที่ไม่ธรรมดา เราไม่อาจทำให้เรื่องราวมันยุ่งเหยิงไปมากกว่านี้ได้ หัวหน้าอารามจิตพิสุทธิ์กล่าว ตอนนี้นางเป็นคนที่มีศักดิ์ศรีมากที่สุดนอกจากผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้าง
ผู้อาวุโสสูงสุดจากสองนิกายคร่ำครวญอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่จะเลือกเชื่อฟังของผู้อาวุโสสูงสุดและหัวหน้าอาราม
ตอนนี้พวกเขาเข้าใจความแข็งแกร่งของนางฟ้าเฮายู่แล้วจากผลลัพธ์ของเซียนราชา แม้ว่านางจะเป็นวิญญาณ แต่นางก็ไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิด พวกเขาต้องรวมกลุ่มกันเพื่อหาทางแก้แค้น
หลังจากนั้นผู้อาวุโสสูงสุดและเซียนราชากว่า 20 คนจากองค์กรต่าง ๆ ได้มาที่ตระกูลเจียงหยางในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ส่งทูตไปพร้อมกับของกำนัลที่มีค่าให้กับร้อยเผ่าพันธุ์, สัตว์เทวะและเผ่าพันธุ์ทะเล เพื่อแจ้งให้พวกเขาทราบถึงโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง
ในโลกใบเล็กของตระกูลเจียงหยาง ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งห้าบินอยู่บนอากาศพร้อมกับใบหน้าที่อึมครึม พวกเขาจ้องมองไปที่ประตูโลก
ในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาพวกเขาถูกขังอยู่ที่นั่น พวกเขาใช้ทุกสิ่งโจมตีผนึกตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเขาใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิหลายครั้งแต่พวกเขาก็ยังไม่อาจทำลายตราผนึกได้ ความแข็งแกร่งของตราผนึกเหนือความคาดหมายอย่างมาก
แม้แต่เซียนจักรพรรดิก็ยากที่จะพยายามทำลายผนึกนี้ เราจะถูกขังอยู่ในนี้จนเราตายงั้นรึ ? เจียงหยางชิงจูริพูดพร้อมกับใบหน้าที่มืดมัว
ไม่ มันต้องการพลังจำนวนมากเพื่อที่จะรักษาตราผนึกนี้ สำหรับตราผนึกทุก ๆ วันพลังของมันจะต้องเสื่อมลง เมื่อมันหมดลงแล้วเราก็สามารถทะลวงออกไปได้ แต่เราต้องโจมตีผนึกอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ดังนั้นเราจึงสามารถทำให้มันใช้พลังมากขึ้นและสามารถที่จะออกมาก่อนหน้านี้ เจียงหยางชิงหยุนยังกล่าวพร้อมกับมีใบหน้าที่อับอายอย่างมากสำหรับพวกเขา ตระกูลผู้พิทักษ์ได้ถูกผนึกไว้ในโลกใบเล็กของเขาเอง
เมื่อข้าออกไป ข้าจะใช้ทุกอย่างและทุกทางที่จะจัดการเจี้ยนเฉิน เจียงหยางชิงหยุนเฟิงยังคงกล่าวด้วยใบหน้าที่มืดหม่น ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
ตาของเจียงหยางชิงหยุนก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาพูดผ่านไรฟัน เมื่อตราผนึกแตก เราจะควบคุมยุทธภัณฑ์จักรพรรดิและไปเยี่ยมเมืองลอร์ เราจะไม่ปล่อยให้คนจากสาขาซูรอดไปแม้แต่คนเดียว เจียงหยางชิงหยุนคิดย้อนกลับไปเมื่อเจียงหยางซูเซียวทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อหยุดเขาและจิตสังหารก็แผ่ออกมาทันที หากไม่ใช่เพราะเจียงหยางซูเซียว เขาอาจจะได้รับผลไม้เซียนมานานแล้ว