บทที่ 1238 มาแก้แค้นให้น้องสาวใช่หรือไม่?

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 1,238 มาแก้แค้นให้น้องสาวใช่หรือไม่?

หุบผาอเวจีแดน 6

“ฮ่า ๆ สุดยอดโว้ย สุดยอด”

ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างชั่วร้าย หลินเป่ยเฉินเดินหน้าฆ่าฟันสัตว์อสูรอย่างเมามัน

แกะอสูรหนวดยาวที่อยู่รอบกายเขาต่างก็ถูกกระบี่ฟันตัวขาดราวกับเป็นขนมปังแผ่นหนึ่ง

“ปรากฏว่ากระบวนท่ากระบี่ที่แปดที่มือถือของเราสร้างขึ้นมาเองนั้นผิดพลาดทั้งหมด กระบวนท่ากระบี่ที่แปดจากคัมภีร์กระบี่สิบเจ็ดคาบสมุทรของจริงไม่ธรรมดาเลยสักนิด เพราะมันเป็นกระบวนท่ากระบี่เวทมนตร์”

กระบี่เวทมนตร์สามารถสร้างความเสียหายได้ในวงกว้าง

หรือกล่าวให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ มันช่วยขยายระยะการโจมตีของกระบี่ในมือเด็กหนุ่มให้เพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น หลินเป่ยเฉินจึงเงยหน้าระเบิดเสียงหัวเราะใส่ท้องฟ้าอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อเข้ามาที่หุบผาอเวจี เขาก็ได้สแกนคัมภีร์กระบี่สิบเจ็ดคาบสมุทรเข้าใส่ในโทรศัพท์มือถือ

หลังจากนั้น มันก็ถูกแปลงไฟล์กลายเป็นแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า ‘คัมภีร์กระบี่สิบเจ็ดคาบสมุทรฉบับไม่สมบูรณ์’

ขนาดไฟล์ของแอปพลิเคชันกระบี่สิบเจ็ดคาบสมุทรมีขนาดใหญ่ถึง 120 GB และมันก็ดูดพลังปราณธาตุออกไปจากร่างของหลินเป่ยเฉินเป็นจำนวนมาก ทำเอาเขาตัวสั่นเทาด้วยความเหนื่อยล้า มีเหงื่อออกท่วมกาย และลำคอก็แห้งผากไปเลยทีเดียวกว่าที่การดาวน์โหลดจะเสร็จสิ้น

หลังจากที่แอปพลิเคชันเริ่มทำงานได้สามชั่วยาม หลินเป่ยเฉินก็สามารถใช้กระบวนท่ากระบี่ที่แปดได้อย่างคล่องแคล่ว

ไม่มีสิ่งใดจะสามารถขวางกั้นเด็กหนุ่มได้อีกต่อไป

แม้แต่หลินเป่ยเฉินก็ยังไม่อยากเชื่อในพลังทำลายล้างของตนเอง

เขายืนอยู่กับที่ ปลดปล่อยรังสีกระบี่รูปกงจักรออกไปด้วยมือขวา

ขวับ!

บังเกิดคล้ายกับเสียงกระบี่พุ่งออกไปจากนิ้วมือของเขา

หลังจากนั้น เหตุการณ์มหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น นี่ไม่ต่างจากมีมือกระบี่นับพันคนชักกระบี่ออกมาร่ายรำพร้อม ๆ กัน รังสีกระบี่เหล่านั้นพุ่งหายเข้าไปในส่วนลึกของหุบผาอเวจีและได้ยินเสียงสัตว์อสูรร้องโหยหวนดังออกมาอย่างต่อเนื่อง

หลินเป่ยเฉินฝึกการปลดปล่อยรังสีกระบี่ด้วยปลายนิ้วมือของตนเองเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ

ในไม่ช้า เขาก็มีความชำนาญ

หลินเป่ยเฉินสามารถควบคุมพลังเวทมนตร์ได้อย่างดีเยี่ยม

รังสีกระบี่แผ่ปกคลุมบรรยากาศ

หลินเป่ยเฉินยืนอยู่ท่ามกลางพายุหมุนรังสีกระบี่ ดูดีมีสง่าราศีเป็นที่สุด

ควับ! ควับ! ควับ! ควับ!

รังสีกระบี่เหล่านั้นหมุนวนคว่ำแผ่นฟ้าพลิกแผ่นดิน สัตว์อสูรทุกชนิดที่อยู่ใกล้รังสีกระบี่เป็นอันต้องล้มตายลงไปอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง

นี่คือความน่ากลัวของกระบวนท่ากระบี่ที่แปด

ยิ่งโคจรพลังปราณธาตุไฟลงไปด้วย อานุภาพในการทำลายล้างก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น

เพียงโจมตีหนึ่งครั้ง ก็มีอานุภาพเท่ากับโจมตีด้วยหมื่นกระบี่

หมื่นกระบี่ย่อมสามารถฆ่าศัตรูได้หมื่นชีวิต

คัมภีร์กระบี่สิบเจ็ดคาบสมุทรที่ถูกแปลงเป็นแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่วิชากระบี่โดยตรง

แต่มันเป็นวิชากระบี่เวทมนตร์

มีไว้เพื่อใช้สังหารศัตรูในจำนวนมาก

เพียงหนึ่งก้านธูปเท่านั้น ฝูงแกะอสูรก็ถูกหลินเป่ยเฉินฆ่าตายไปสามในสี่ส่วนแล้ว…

“แกะอสูรพวกนี้ขายได้ตัวละหนึ่งหมื่นแต้มคะแนนศรัทธา นับจากจำนวนที่เราเพิ่งฆ่าได้สำเร็จ ก็น่าจะได้แล้วสองแสนแต้ม… ถือว่าเริ่มต้นได้ดีไม่น้อย”

หลินเป่ยเฉินเริ่มเดินเก็บซากศพแกะอสูร

ทันใดนั้น เด็กหนุ่มก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขาจำเป็นต้องมี ‘กระเป๋าบรรจุสัมภาระ’ ที่ขนาดใหญ่มากกว่านี้

สำหรับหลินเป่ยเฉินการฆ่าสัตว์อสูรคือเรื่องราวที่สนุกสนาน แต่การตามเก็บศพพวกมันนี่สิที่น่าเบื่อหน่าย หากเขามีกระเป๋าวิเศษที่สามารถเก็บกวาดซากพวกมันได้รวดเดียวหมด นั่นก็คงช่วยประหยัดเวลาให้กับหลินเป่ยเฉินได้ไม่น้อย

สงสัยคงต้องหาเช่าจากสถานีขนส่งซะแล้ว

เมื่อคิดได้ดังนี้ สีหน้าของเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารีบหันขวับมองไปทางด้านหลัง

ห่างออกไปไม่ถึงสิบวา

ร่างของคนผู้หนึ่งยืนอยู่บนก้อนหินใหญ่

เป็นหญิงสาวร่างสูงสวมใส่ชุดเกราะสีดำแดง กระบังหมวกเหล็กของนางถูกเลื่อนขึ้น เผยให้เห็นถึงใบหน้าสีน้ำตาลเข้มแสนสวยงามไร้ที่ติซึ่งซ่อนเร้นอยู่ด้านใน

เมื่อเห็นหน้านาง ในหัวใจของหลินเป่ยเฉินก็นึกถึงการรวมร่างกันระหว่างนางเอกภาพยนตร์จีนอย่างหลินชิงเสียกับตัวละครบูรพาไม่พ่ายตงฟางปุ๊ป้าย*[1] ขึ้นมาทันที

นางดูเหมือนตัวละครในซีรีส์แนวกำลังภายในมากกว่าตัวละครเหล่านั้นจริง ๆ เสียอีก

ความแตกต่างเดียวก็คือผิวพรรณที่เป็นสีน้ำตาลเข้มของสตรีนางนี้ดูเหมือนจะสามารถเปล่งประกายได้ด้วยตนเอง นอกจากมันจะไม่ทำลายความงดงามของนางลงแล้ว ผิวสีน้ำตาลเข้มกลับยังทำให้นางดูมีเสน่ห์มากขึ้นอีกด้วย

“เจ้าคือเจี๋ยนเซียวเหยาใช่หรือไม่?”

สตรีผู้มีความสวยงามและอันตรายราวกับกุหลาบหนามแหลมกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาปานทะเลสาบน้ำแข็ง “เจ้าคือคนที่ทำลายม่านพลังแสงกุหลาบของข้า และทำให้น้องสาวของข้าได้รับบาดเจ็บสินะ?”

“น้องสาวของท่านหรือ?”

หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วพยายามนึกอะไรบางอย่าง “ท่านคงหมายถึงเด็กสาวไร้มารยาทที่คิดขโมยซากสัตว์อสูรของข้า ซ้ำยังมีเจตนาสังหารข้า กระทั่งถูกข้าสั่งสอนจนต้องหนีเตลิดเปิดเปิงไปใช่หรือไม่?”

“นางมีนามว่าเจียงรั่วหลิน”

หญิงสาวร่างสูงกล่าวออกมาแผ่วเบา “นางเป็นน้องสาวของข้า ส่วนตัวข้านั้นมีนามว่าเจียงรั่วไป๋”

“ไม่ทราบว่าท่านจะมาแก้แค้นให้น้องสาวหรือ?”

หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นกระดิกนิ้วเรียก “ถ้าเช่นนั้นก็เข้ามาเลย”

เรื่องราวนี้ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องอธิบายอะไรกันอีกแล้ว

เพราะหลินเป่ยเฉินไม่อยากเสียเวลาไปกับการพูดคุยอีกต่อไป

ในเมื่อพูดคุยไม่รู้เรื่องกันตั้งแต่แรก อย่างนั้นก็ลัดขั้นตอนมาต่อสู้กันเลยไม่ดีกว่าหรือ?

มีแต่ต้องสั่งสอนให้เด็ดขาดเท่านั้น ตระกูลเจียงถึงไม่กล้าคิดมาแก้แค้นเขาอีก

เจียงรั่วไป๋ส่ายศีรษะและกล่าวว่า “ข้าสืบสวนเรื่องราวนี้ดูแล้ว มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า แต่บิดามารดาข้าอยากจะสังหารเจ้า แม้ว่ามันจะผิดความต้องการของบิดาข้า แต่ข้าก็จะไม่ฆ่าเจ้าในตอนนี้”

“อ้าว?”

หัวคิ้วที่อยู่ภายใต้กระบังหมวกเหล็กของหลินเป่ยเฉินยกขึ้นสูง

สตรีนางนี้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนางน่าจะมีฝีมือการต่อสู้เก่งกาจแล้ว

ยังเป็นคนที่มีเหตุผลอีกด้วย

สำหรับสตรีที่มีรูปลักษณ์สวยงาม มีสถานะสูงส่ง มีระดับพลังแข็งแกร่งและยังเป็นคนมีเหตุผลอีกนั้น…

นับว่าหาได้ยากเป็นอย่างยิ่ง

“ข้ารู้ว่าเจ้าลงทะเบียนเข้าแข่งขันช่วงชิงตำแหน่งเทพเจ้าหน้าใหม่แห่งสภาเทพเจ้าแล้ว เพราะฉะนั้น จงตั้งใจฝึกฝนให้ดี ตระกูลเจียงเราหมายหัวของเจ้าอยู่ หากข้าได้เผชิญหน้ากับเจ้าระหว่างการแข่งขัน ข้าก็จะมอบโอกาสให้เจ้าได้ต่อสู้อย่างยุติธรรม ยามนั้นตราบใดที่เจ้าสามารถเอาชนะข้าได้ ตระกูลเจียงเราก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเจ้าอีกต่อไป ดีหรือไม่?”

เจียงรั่วไป๋กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

[1] ตัวละครผู้เป็นประมุขพรรคสุริยันจันทราจากนิยายเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร