ตอนที่ 1280: ความแข็งแกร่งของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ (2)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1280: ความแข็งแกร่งของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ (2)

เซียนราชาทุกคนต่าวตกใจกับสิ่งที่ผู้อาวุโสสูงสุดจากตระกูลเจียงหยางพูด มีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงเกิดขึ้นกับความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์และบางคนรู้สึกกลัวนาง

แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ถึงพลังที่แท้จริงของนางในตอนนี้ แต่นางก็กล้าหาญพอที่จะยุ่งกับตระกูลผู้พิทักษ์ ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็สามารถบอกได้จากสิ่งที่ผู้อาวุโสสูงสุดต่อว่านางเรื่องที่ตระกูลเจียงหยางถูกผนึก มันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้

เซียนราชาที่มีอำนาจคนอื่น ๆ ต่างก็สงสัยพลางรู้ว่าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั้นสุดยอดอย่างมาก แต่นางก็ไม่ได้อธิบายให้ความกระจ่างกับข้อพิพาทตระกูลผู้พิทักษ์ที่ทรงพลังเลย

เจียงหยางชิงหยุน เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? มีความเข้าใจผิดระหว่างเจ้ากับซ่างกวนมู่เอ๋องั้นรึ ? ผู้อาวุโสสูงสุดถามด้วยความสงสัย เขาไม่อยากจะเชื่อว่าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์จะมีพลังมากพอที่จะสั่นคลอนตระกุลผู้พิทักษ์ทั้งหมด อาจเป็นเพราะความจริงที่ว่าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั้นเส้นทางแห่งการบ่มเพาะนั้นแตกต่างต่างคนอื่น ๆ ไม่มีใครได้เห็นพลังที่แท้จริงของนาง ด้วยสถานะของนางทำให้มันเป็นไปไม่ได้มากขึ้น นี่คือสาเหตุที่ผู้อาวุโสสูงสุดยังเชื่อว่าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั้นเป็นเพียงเซียนผู้คุมกฏ

เจียงหยางชิงหยุนจ้องมองนางด้วยสีหน้าที่มืดหม่นและพูดผ่านไรฟัน เจ้าชื่อซ่างกวนมู่เอ๋อนี่เอง จากนั้นเขาก็หันไปหาผู้อาวุโสสูงสุดและพูดอย่างห่อเหี่ยว คนทรยศเจี้ยนเฉินและสัตว์เทวะสองตัวโจมตีตระกูลเจียงหยางของเราในเวลานั้นและใช้ทักษะลับเพื่อผนีกประตูมิติของเรา พวกเขาต้องการขังพวกเราทุกคนไว้ในโลกใบเล็ก แต่เรายังคงเป็นตระกูลผู้พิทักษ์ที่อยู่มานานกว่าล้านปี มรดกของเรานั้นทรงพลังมากแม้ว่าทั้งสองจะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเซียนจักรพรรดิ แต่การที่จะผนึกตระกูลของเราทำได้แค่ฝัน

เซียนราชาหลายคนพยักหน้าเงียบ ๆ คนเหล่านี้ทั้งหมดเข้าใจว่าพลังของตระกูลผู้พิทักษ์ในทวีปนั้นมากแค่ไหน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีเซียนจักรพรรดิในตอนนี้ แต่มรดกของพวกเขายังคงมีอยู่ แม้แต่เซียนจักรพรรดิที่ครองโลกก็ไม่อาจล่วงเกินพวกเขาได้ การผนึกตระกูลผู้ปกป้องอาจจะสำเร็จได้ก็คือเมื่อเซียนจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่หลายคนร่วมมือกัน ดังนั้นสัตว์เทวะเซียนราชาทั้งสองที่มีอาวุธและชุดเกราะดั้งเดิมก็ยังไม่เพียงพอ

เจียงหยางซูเซียว เจียงหยางซูหยวนเซียวและตระกูลผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ ที่รวมตัวกันอยู่ที่นี่ฟังด้วยความสนใจ พวกเขาทั้งหมดรู้เรื่องมรดกของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบเช่นกัน พวกเขาทุกคนมียุทธภัณฑ์จักรพรรดิ, โถงศักดิ์สิทธิ์ 18 ห้องและค่ายกลดั้งเดิมที่สามารถเอาชีวิตเซียนจักรพรรดิได้ ด้วยมรดกที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้แม้ว่าตระกูลผู้พิทักษ์จะไม่อาจต่อกรกับเซียนจักรพรรดิ 2 คนได้ แต่พวกเขาก็ยังสามารถปกป้องตัวเองได้ การผนึกพวกเขานั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะการผนึกตระกูลผู้พิทักษ์นั้นยากกว่าการโจมตี เป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาทั้งหมดประหลาดใจอย่างมากว่าสัตว์เทวะสามารถจัดการกับตระกูลเจียงหยางได้อย่างไร

เจียงหยางชิงหยุนพูดต่อ หลังจากนั้นตระกูลของเราก็ใช้ค่ายกลดั้งเดิมของเรา มันทรงพลังแต่มันต้องใช้เวลานานกว่าจะเปิด เช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่ต้องรวมพลัง ทันใดนั้นก็มีเสียงดนตรีของพิณที่สามารถโจมตีผู้คนได้ มันทำให้ทุกคนในตระกูลหมดสติเหลือเพียงเซียนราชาของพวกเรา ในเวลาสั้นการเปิดการใช้งานของค่ายกลก็ล้มเหลวและควบคู่ไปกับความจริงที่ว่าเราทั้งหมดคนต้องเปลืองแรงไปกับสัตว์เทวะที่ใช้โอกาสนี้ในการผนึกเรา

เจ้าพูดอะไร ? เสียงของพิณทำให้ทุกคนหมดสติรวมถึงเซียนผู้คุมกฎด้วย ? เซียนราชาคนหนึ่งจากตระกูลผู้พิทักษ์ถามด้วยความสงสัย

เจียงหยางชิงหยุนพยักหน้าอย่างหนัก ถูกต้อง เสียงดนตรีของพิณนั้นมีพลังโจมตีทางวิญญาณอย่างมาก ซึ่งมีเพียงเซียนราชาเท่านั้นที่จะสามารถต้านทานพลังนั้นได้

ทุกคนอ้าปากค้าง นี่เป็นเสียงดนตรีที่ไม่มีใครเทียบได้ มันมีผลที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก

ผู้อาวุโสสูงสุดถามหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ซางกวนมู่เอ๋อ มันเป็นเรื่องจริงงั้นหรือ ? เจ้ายื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวอย่างลับ ๆ จริง ๆ รึ ? เซียนราชาเมืองทหารรับจ้างพบว่ามันยากที่จะเชื่อ เพราะว่าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ไม่เคยมีความสามารถเช่นนี้จากความทรงจำของพวกเขา ความสำเร็จของนางด้านพิณนั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก แต่พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่านางทรงพลังถึงขั้นที่เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 ก็ไม่อาจต้านทานได้

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พยักหน้าเล็กน้อยและยอมรับในสิ่งที่นางทำ นางมาไปยังผู้อาวุโสสูงสุดทั้งห้าและพูดว่า มีเพียงตระกูลผู้พิทักษ์เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้กระทำกับคนอื่นในทวีปและไม่ยอมให้ใครตอบโต้ ? ถ้าเจ้าต้องการแก้แค้นก็มาหาข้าได้เลย

ฮึ่ม นางเป็นเด็กโง่งม เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นอมตะในทวีปนี้เพียงเพราะเจ้ารู้จักการโจมตีวิญญาณ ? ให้ข้าทดสอบพลังพิณของเจ้าในวันนี้ เจียงหยางชิงหยุนตะโกนด้วยความโกรธทันที

เจียงหยางชิงหยุน, ซ่างกวนมู่เอ๋อ ทวีปของเรากำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะมาสู้กันเอง มันจะทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเราลดลงเพียงเท่านั้น ผู้อาวุโสสูงสุดจากเมืองทหารรับจ้างพยายามไกล่เกลี่ยพวกเขา เขาต้องหยุดการต่อสู้นี้ เจียงหยางชิงหยุนเป็นเซียนราชาขั้นสูงสุด เขาไม่เชื่อว่าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์จะเป็นคู่ต่อสู้กับเขาได้

เจียงหยางชิงหยุนยิ้มอย่างน่าเกลียด เขาตัดสินใจแล้วว่าจะสั่งสอนหญิงสาวเจ้าเสน่ห์ให้ถูกต้อง เขาปิดปากของเขาขณะที่เขากำลังจะพูดกับผู้อาวุโสสูงสุดว่ามันจะไม่ถึงตาย เขาแค่จะตัดอวัยวะบางอย่างของนางเท่านั้น

ไม่ต้องกังวล ผู้อาวุโสสูงสุด ข้ารู้ว่ามันพอแค่ไหน ข้าจะไม่เอาชีวิตเขา ถึงแม้ว่าเสียงของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์จะเย็นชา แต่มันก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ

ใบหน้าของเจียงหยางชิงหยุนแข็งค้างก่อนที่จะเต็มไปด้วยความโกรธทันที นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการที่จะพูดในตอนแรก แต่เขาไม่คิดเลยว่าเขาหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์จะพูดคำพูดที่กล้าหาญเช่นนี้ออกมาก่อน เจียงหยางชิงหยุนพลันโมโหมากเข้าไปอีกเมื่อเขานึกถึงความจริงที่ว่าเขาเป็นเซียนราชาขั้นสูงสุดแต่กำลังถูกเด็กสาวดูถูก

เซียนราชาทุกคนต่างก็มีสีหน้าแสดงออกมาเช่นกัน พวกเขามองไปที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ด้วยสายตาที่แปลกประหลาด หลาย ๆ คนคิดว่า นางคิดว่านางเป็นเซียนจักรพรรดิที่จัดการกับเซียนราชาขั้นสูงสุด ? แม้ว่านางจะมีความสำเร็จอย่างมากในเส้นทางของพิณที่สามารถโจมตีวิญญาณได้อย่างไร้ร่องรอยแม้แต่กับเซียนราชาขั้นสูงสุดก็ไม่อาจรับมือนางได้

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์และเจียงหยางชิงหยุนออกไปจากโลกใบเล็กทันที หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว บรรดาเซียนราชาต่างก็มารวมตัวกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งและหยุดการหารือชั่วคราวเพื่อที่จะออกไปดู นี่เป็นการต่อสู้ที่ไม่เหมือนใคร เพราะหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั้นมีทักษะโจมตีวิญญาณและต่อสู้กับเซียนราชาขั้นสูงสุด ทุกคนจึงให้ความสนใจ

ไม่ค่อยมีใครในทวีปที่สามารถโจมตีวิญญาณ ในบรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสูงนั้นมีเพียงมารราคะเท่านั้น แต่สิ่งที่พวกเขามีนั้นเป็นทักะาที่แตกต่างจากหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ด้วยเหตุนี้ผู้คนในทวีปเทียนหยวนจึงไม่ค่อยรู้เรื่องการโจมตีของเหล่านี้มากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการใช้ประโยชน์จากการต่อสู้เพื่อเพิ่มพูนความรู้

100 กิโลเมตรห่างจากเมืองทหารรับจ้าง หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ลอยอยู่บนอากาศพร้อมกับพิณของนาง ไม่มีพลังปราณไหลหลุดออกมาจากร่างกายของนาง ทำให้นางราวกับเป็นคนธรรมดา อย่างไรก็ตามพื้นที่รอบ ๆ นางมีการกระเพื่อมในแบบที่ไม่อาจตรวจจับได้

ด้านหน้าเจียงหยางชิงหยุน เขาคือกระบี่เรียวบาง ๆ ซึ่งส่องประกายเย็นเยียบ พลังงานพวยพุ่งออกจากร่างกายของเขาทำให้พื้นที่รอบ ๆ บิดเบี้ยวเล็กน้อย

เซียนราชาหลายร้อยคนรวมตัวกันเพื่อดู ทุกคนอยู่ห่างออกไป 10 กิโลเมตรและมองมาด้วยความสนใจ

วันนี้ ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้กับความยโสของเจ้า เจียงหยางชิงหยุนพูดอย่างใจเย็นก่อนที่จะสะบัดกระบี่ของเขา เพียงสะบัดกระบี่ของเขาก็ทำให้เกิดปราณกระบี่ยาวนับสิบเมตรพุ่งตรงไปยังหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์

ปราณกระบี่พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับแสง เส้นทางที่มันผ่านไปถูกฟันออกเป็นชิ้น ๆ หลังจากนั้น

หญิงสวรรค์ยืนนิ่งราวกับภูเขา นางค่อย ๆ บรรจงดีดพิณเพียงสองเส้นเสียง

ติ้ง ! ด้วยเสียงที่แหลมคม คลื่นเสียงที่มองไม่เห็นได้พุ่งออกมาจากด้านหน้าของนางมุ่งตรงไปยังปราณกระบี่ที่เจียงหยางชิงหยุนสร้าง

ตามมาด้วยเสียง ตูม ! ปราณกระบี่ที่ยาวนับสิบเมตรก็แตกออกอย่างง่าย ๆ พร้อมกับมุ่งตรงไปยังเจียงหยางชิงหยุนโดยไม่มีท่าทีที่จะหยุด

เจียงหยางชิงหยุนหรี่ตาลง แต่คลื่นเสียงก็เดินทางมาเร็วเกินไป มันมาถึงเขาในพริบตา เจียงหยางชิงหยุนแทงออกไปโดยไม่คิด เขาใช้ความแข็งแกร่งของเขาถึงแปดในสิบส่วนในการโจมตี

กระบี่ฟันเข้ากับคลื่นเสียงและเกิดพลังรุนแรงกระจายไปรอบ ๆ ทำให้มิติเกิดรอยร้าว คลื่นเสียงนั้นกระจายออกจากการโดนเจียงหยางชิงหยุนโจมตี แต่เจียงหยางชิงหยุนก็ไม่กล้าดูแคลนคลื่นเสียงเช่นกัน ทำให้เขาต้องใช้พลังถึงแปดในสิบส่วน พลังของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เกินกว่าสิ่งที่เขาคิดเอาไว้

มาดูกันว่าเจ้าจะสามารถป้องกันทักษะการต่อสู้ขั้นเซียนได้หรือไม่ ! เจียงหยางชิงหยุนตะโกนและตัดสินใจที่จะใช้ทักษะการต่อสู้ขั้นเซียน เขาต้องการจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด

น่าเสียดาย ที่เจ้าไม่มีเวลาเตรียมตัวนัก หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์กล่าวอย่างเยือกเย็นก่อนที่จะดีดพิณเข้าโจมตีอีกครั้ง

เสียงดนตรีที่ดูศักดิ์สิทธิ์อย่างมากต่อเซียนราชาที่กำลังชม พร้อมกับทำให้พวกเขาหลงใหล อย่างไรก็ตามมันก็ราวกับเสียงฟ้าร้องที่เกิดขึ้นในหัวของเจียงหยางชิงหยุน ทำให้เขาส่ายไปมาจนเกือบตกลงจากท้องฟ้า การเตรียมตัวเพื่อใช้ทักษะการต่อสู้ขั้นเซียนถูกทำให้ชะงักด้วยเช่นกัน

เจียงหยางชิงหยุนรู้สึกราวกับว่าเสียงดนตรีเป็นเหมือนกับค้อนขนาดใหญ่กระแทกกับวิญญาณของเขาที่แข็งกระด้าง มันทำให้หัวของเขาโปร่งและจิตสำนึกของเขาก็พร่าเลือนราวกับว่าวิญญาณของเขากำลังแตกสลาย

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์โจมตีอีกครั้งและคลื่นเสียงที่มองไม่เห็นก็พุ่งออกไป ก่อนที่เจียงหยางชิงหยุนจะฟื้นตัวเขาก็ถูกโจมตีเข้าที่หน้าอกซ้ายและทะลุไปทำลายหัวใจเขาทันที

เจียงหยางชิงหยุนทำเสียงฮึดฮัดและถ่มเลือดออกมา ความรู้สึกมึนงงของเขาค่อยหายไปและเขาก็พบว่าหัวใจของเขาถูกทำลาย เขากลายเป็นซีดเซียวทันที

ถ้าข้าอยากจะฆ่าเจ้า เจ้าก็ตายไปแล้ว หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เก็บพิณของนาง ขณะที่นางจ้องไปยังเจียงหยางชิงหยุน

เจียงหยางชิงหยุนก็ตกตะลึงและหมองหม่น เขารู้ว่าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั้นพูดได้ถูกต้อง หากนางต้องการฆ่าเขาจริง ๆ คลื่นเสียงนี้จำเป็นต้องโจมตีวิญญาณของเขาแทนที่จะเป็นหัวใจและเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

สิ่งนี้มันทำให้เขายากที่จะยอมรับ เขาคือเซียนราชาขั้นสูงสุดจะมาพ่ายแพ้ง่าย ๆ แบบนี้ได้อย่างไร เขาไม่มีพลังแม้กระทั่งตอบโต้หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ไม่มีเวลาแม้กระทั่งใช้ทักษะการต่อสู้ขั้นเซียนหรือทักษะลับใด ๆ

เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้… เจียงหยางชิงหยุนพึมพำ เขาไม่อาจยอมรับความจริงนี้ได้

เซียนราชาหลายร้อยคนที่มองดูจากระยะไกล ๆ ความไม่อยากเชื่อก็ปรากฏเต็มใบหน้าของพวกเขาเช่นกัน ผลลัพธ์นี้ช่างน่าประหลาดใจมากเกินไป ผู้อาวุโสสูงสุดจากตระกูลผู้พิทักษ์ เซียนราชาขั้นสูงสุด ความจริงแล้วยังอ่อนแอกว่าหญิงสวรรค์มากนัก

นางแข็งแกร่งขนาดไหน ? นางเป็นเซียนราชาขั้นสูงสุดงั้นหรือ ? หรือว่านางเป็นเซียนจักรพรรดิ ? เจียงหยางซูเซียวจ้องมองอย่างเหม่อลอยจากความตกใจ

ซาร์วีมอสก็กลายเป็นลิ้นจุกปากและยังไม่อาจได้สติ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถอนหายใจมองไปบนฟ้า เขาคิด เฮ่าหวู่ทรงพลังมากแล้ว ข้าไม่คิดเลยว่าลูกสาวของเขาจะน่ากลัวกว่าเขาอีก ถึงขนาดเอาชนะเซียนราชาขั้นสูงสุดได้อย่างง่ายด้าย ลูกสาวของเขาได้กลายเป็นเซียนจักรพรรดิแล้วหรือไร ?

นี่คือซ่างกวนมู่เอ๋อจริง ๆ หรือ ? หลังจากผ่านไปหลายทศวรรษนางมีพลังมากแค่ไหน ? ถ้าเป็นข้า ข้าจะไม่อยู่ใกล้หรือต่อสู้กับนางเลย ผู้อาวุโสสูงสุดก็ตกใจเช่นกัน แม้กระทั่งอาวุโสที่อยู่ข้างของเขาก็เหมือนกัน พวกเขาจ้องมองไปอย่างเหม่อลอยไปยังหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์โดยไม่อาจพูดอะไรออกมาได้

ถ้ารุ่ยจิน, หงเหลียนและเฮยยู่มาเป็นในเวลานี้ พวกเขาจะพบได้อย่างแน่นอนว่าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั้นแข็งแกร่งกว่าตอนที่ช่วยพวกเขาผนึกตระกูลเจียงหยางเอาไว้