ตอนที่ 1285: เข้าใจวิถีกระบี่ (2)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1285: เข้าใจวิถีกระบี่ (2)

เจี้ยนเฉินยังไม่ได้รู้สึกตัว เขาแทงออกไปจนกลายเป็นริ้วสีขาวที่หัวเสือออกอย่างไม่ได้ตั้งใจ

แสงสีขาวทะลุเข้าไปในหัวเสือ เข้าสู่กลางหว่างคิ้วของมันจนเกือบจะผ่าออกเป็นสองส่วน

กรรร ! เสือดำส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด มันสูญเสียพละกำลังทั้งหมดไปทันที อย่างไรก็ตามร่างกายของมันยังคงโจมตีเจี้ยนเฉินอย่างไม่หยุด

เจี้ยนเฉินเดินเซไปไม่กี่ก้าว เขาได้สติหลังจากอยู่ในสภาพแปลกประหลาดจากการถูกเสือดำกระแทก ดวงตาของเขาสับสน แต่เขาก็คืนสภาพอย่างรวดเร็ว

ปัง ! เกิดเสียงดังใต้ฝ่าเท้าของเขาขณะที่เสือดำทรุดตัวลงและครวนครางอย่างเจ็บปวด มีบาดแผลที่น่ากลัวขนาดใหญ่บนหัวของมัน เส้นประสาทของมันได้รับความเสียหายอย่างหนัก แม้ว่ามันจะยังไม่ตาย แต่มันก็อยู่ไม่ห่างไกลจากความตาย

เจี้ยนเฉินไม่ลังเลหลังได้เห็น เขาแทงไปที่หัวของเสือดำอีกครั้งด้วยยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ โดยแทงไปยังแผลเดิมที่หัวของมันและทำลายสมองของเสือดำ

เสือดำตัวแข็งค้างก่อนที่จะอ่อนระทวยอย่างช้า ๆ มันอยู่ที่พื้นและไม่เคลื่อนไหวราวกับว่ามันสูญเสียพละกำลังไปทั้งหมด

เจี้ยนเฉินดึงผลึกอสูรออกมาจากร่างของเสือดำก่อนที่จะเก็บศพของมันไว้ในวัตถุมิติ จากนั้นเขาก็จมอยู่ในความคิดของเขา

นายท่าน ข้าไม่คิดว่าท่านจะสัมผัสถึงขอบเขตกำเนิดกระบี่และอยู่ในระดับที่น่าสะพรึงกว่าครั้งก่อน ข้าเริ่มสงสัยว่านายท่านจะเข้าใจขอบเขตกำเนิดกระบี่ได้ก่อนที่ท่านจะได้กระบี่แห่งโชคชะตา เสียงของจือหยิงดังออกมาอย่างชื่นชม มันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก

นี่หมายความว่านายท่านนั้นเหมาะสมที่สุดที่จะเดินบนเส้นทางกระบี่ หากเป็นคนอื่น ๆ การที่จะเข้าใจขอบเขตกำเนิดกระบี่ขั้นแรกนั้นหายากมาก ๆ แทบจะไม่มีใครเข้าใจขอบเขตขั้นแรกได้จนกว่าจะเป็นอมตะทองคำ ส่วนใหญ่จะต้องเป็นอมตะเต๋าทองคำหรือแม้กระทั่งอมตะหยวนเพื่อที่จะเข้าถึงขอบเขตกำเนิดกระบี่ เมื่อนายท่านหลอมกระบี่ม่วงฟ้า ท่านจะเข้าใจในวิถีกระบี่อย่างแน่นอน ก่อนที่ท่านจะกลายเป็นอมตะสวรรค์และด้วยความสามารถในการเข้าใจของนายท่าน ท่านจะต้องไปถึงขอบเขตที่ห้าและกลายเป็นเทพกระบี่คนใหม่ ฉิงโซวพูดอย่างตื่นเต้น นางคาดหวังกับอนาคตของเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินได้สติหลังจากที่เขาได้ฟังสิ่งที่จิตวิญญาณกระบี่พูด เขารู้ว่าเขาได้สัมผัสกับขอบเขตแรกของเส้นทางกระบี่ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นที่นอกเมืองแห่งเทพเจ้ามาก่อน มันเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่อาจทำความเข้าใจกำเนิดกระบี่ได้มาก่อน เมื่อเขาได้สัมผัสกับพวกมันอาจจะบอกว่าเขาขาดโชคแห่งกระบี่มากกว่า ทั้งหมดที่เขาสามารถใช้สัมผัสได้คือการโจมตีเพียงครั้งเดียวและเมื่อเขาได้สติการที่จะเข้าใจสภาพนั้นก็ไม่อาจทำได้อีก

สำหรับเขาแล้วยังมีอันตรายมากมายที่ขัดขวางไม่ให้เขาไปถึงขอบเขตนั้น

จือหยิง เจ้าช่วยอธิบายได้หรือไม่ว่าการแบ่งความแข็งแกร่งของโลกอมตะนั้นเป็นอย่างไร ? อมตะสวรรค์และอมะตะเต๋า ทำให้ข้าสับสน เจี้ยนเฉินพูดอย่างเศร้าโศก

จิตวิญญาณกระบี่คิดครู่หนึ่ง ฉิงซู่พูดว่า นายท่านความแข็งแกร่งในโลกอมตะของเรานั้นแบ่งออกเป็น อมตะมนุษย์, อมตะปฐพี, อมตะสวรรค์, อมตะทองคำ, อมตะเต๋าทองคำ, อมตะหยวน, อมตะหยวนเก้าสวรรค์, อมตะราชันย์, อมตะจักรพรรดิและอมตะเที่ยงแท้ อมตะมนุษย์และอมตะปฐพีนั้นไม่อาจพูดได้เต็มปากว่าเป็นอมตะ อมตะมนุษย์นั้นเทียบเท่ากับเซียนสวรรค์ในทวีปเทียนหยวนของนายท่าน อมตะปฐพีเทียบได้กับเซียนผู้คุมกฎ เซียนราชาและเซียนจักพรรดิ มีเพียงระดับที่เหนือกว่าอมตะปฐพีเท่านั้นที่จะเรียกได้ว่าเป็นอมตะจริง ๆ ”

เจี้ยนเฉินสับสนกับสิ่งนี้ เขาพูด อมตะปฐพีนั้นเทียบเท่ากับเซียนผู้คุมกฏ, เซียนราชาและเซียนจักรพรรดิ ในขณะที่คนที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิเท่านั้นที่จะเทียบเท่ากับอมตะสวรรค์ ถ้าอย่างนั้นขอบเขตดั้งเดิมคืออะไร ?

นายท่าน สิ่งที่เราพูดถึงคือความแข็งแกร่งในโลกอมตะ ขอบเขตดั้งเดิมนั้นเป็นขอบเขตการบ่มเพาะจากโลกเซียน โลกเซียนเป็นโลกระดับเดียวกับโลกอมตะ แต่เราเป็นศัตรูกัน โลกเซียนนั้นมีการแบ่งการบ่มเพาะอยู่ 5 ขอบเขตใหญ่ ขอบเขตมนุษย์, ขอบเขตเซียน, ขอบเขตดั้งเดิม, ขอบเขตพระเจ้าและขอบเขตตั้งต้น

หากเปรียบเทียบระหว่างโลกอมตะ ขอบเขตมนุษย์จะเทียบได้กับเซียนถึงเซียนสวรรค์ของขอบเขตอมตะ, ขอบเขตเซียนจะเทียบเท่ากับเซียนผู้คุมกฎ,เซียนราชาและเซียนจักรพรรดิ ในขณะที่ขอบเขตดั้งเดิมนั้นจะแบ่งออกเป็นสามระดับย่อยคือ รับมอบ, ย้อนกลับและแลกเปลี่ยน ขอบเขตพระเจ้าจะแบ่งตามพลังเทวะเป็นศักดิ์สิทธิ์, เทพ,จอมเทพและราชาเทพ ในขณะที่ขอบเขตบรรพกาลจะถูกแบ่งตามพลังอนันต์ คือ อนันต์ไม่รู้จบ, อนันต์บรรพกาลและอนันต์ยิ่งใหญ่ ขอบเขตมหาอมตะจะเป็นอมตะโลก มันจะเทียบเท่ากับเซียนบรรพกาลของโลกเซียน, อมตะจักรพรรดิจะเทียบเท่ากับอนันต์บรรพกาล และอมตะจอมราชันย์จะเทียบเท่ากับอนันต์ไม่รู้จบ

นายท่าน ท่านยังจำหินปีศาจชั้นฟ้าที่ท่านได้รับจากโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดได้หรือไม่ ? มันเป็นสมบัติที่มีชื่อเสียงของราชาปีศาจชั้นฟ้าจากโลกปีศาจ นางได้กลายเป็นที่สนใจจากนิกายหรือองค์กรขนาดใหญ่ในโลกปีศาจและโลกอมตะ ไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ชั้นยอด นางยังเป็นอัจฉริยะคนที่สองคนของโลก ความแข็งแกร่งของนางมากมายจนนางสามารถต่อสู้ได้กับอมตะจักพรรดิขั้นสุดยอดกว่าสองชั่วยามก่อนที่จะตายในท้ายที่สุด แม้ว่านางจะตายแต่มันก็เขย่าโลกทั้งสองใบ สิ่งนี้เป็นเพราะความเหลื่อมล้ำของขอบเขตระหว่างอมตะราชันย์และอมตะจักรพรรดิที่กว้างเป็นอย่างมากและแม้ว่าจะมีวัตถุเทพขั้นสูงก็ยังไม่อาจลบความแตกต่างของพวกมันได้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะต่อสู้กับอมตะจักพรรดิด้วยฐานะอมตะราชันย์ได้ แต่นางสามารถทำได้

ฉิงโซวถอนหายใจยาวเมื่อนางพูดถึงเรื่องนั้น นางเริ่มเศร้าหมองและพูดว่า ย้อนกลับไปแม้กระทั่งนายท่านคนก่อนยังให้ความสนใจนาง นายท่านได้กล่าวว่าในอดีตนางได้กลายมาเป็นจักรพรรดิปีศาจได้เพียงไม่นาน นางจึงไม่อาจเทียบได้กับอมตะจักรพรรดิของโลกอมตะได้ เขายังบอกอีกว่านางอาจจะกลายเป็นปีศาจเที่ยงแท้ได้ แต่น่าเสียดายที่นางตายตกลงไปก่อน ครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นนางพร้อมกับสมบัติที่โด่งดังของนาง หินปีศาจชั้นฟ้าของนางได้หายไปพร้อมกับวัตถุวิญญาณโดยไร้ร่องรอย

ดังงั้นราชาปีศานชั้นฟ้าจึงมีแหล่งกำเนิดที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ! เจี้ยนเฉินตกใจอย่างเงียบๆ ความแข็งแกร่งของราชาปีศาจชั้นฟ้านั้นเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้แต่แรก

ในเวลาเดียวกันเจี้ยนเฉินก็เข้าใจว่าเขาได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้เชียวชาญไม่กี่คนที่ยอดเยี่ยมของทวีปเทียนหยวนเพราะความแข็งแกร่งในตอนนี้ของวเขา แต่มันก็ไม่มีค่าอะไรในโลกอมตะหรือโลกเซียน

จือหยิง, ฉิงโซว เคยมีใครบางคนที่มีฝีมือเกินกว่าอนันต์บรรพกาลและอมตะเที่ยงแท้หรือไม่ ? เจี้ยนเฉินถามด้วยความอยากรู้

คราวนี้จิตวิญญาณกระบี่ทั้งสองสั่นหัวอย่างไม่ลังเล จือหยิงพูดอย่างหนักแน่นว่า ไม่เคยมีใครก้าวไปยังขอบเขตที่เหนือกว่าอมตะเที่ยงแท้มาก่อน อย่างไรก็ตามหากท่านอยากจะถามว่าใครที่อยู่ใกล้มันมากที่สุด ก็มีเพียงคนเดียวนั้นก็คือ นิพพานอมตะเที่ยงแท้

นิพพานอมตะเที่ยงแท้ได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว ความแข็งแกร่งของเขานั้นสามารถอธิบายได้ว่าเกินกว่าขอบเขตอมตะเที่ยงแท้ แต่เขายังคงอยู่ในห้วงแห่งการบ่มเพาะ เขาเป็นสุดยอดในสุดยอด เมื่อรวมกับกระบี่ทั้ง 4 ของเขา เขาแข็งแกร่งที่สุดในโลกอมตะโดยไม่ต้องสงสัยเลย แม้กระทั่งอดีตนายท่านก็เป็นหนึ่งในห้าของสุดยอดเที่ยงแท้ของโลกอมตะจากโลกอมตะเทียบเท่ากับนิพพานอมตะเที่ยงแท้ แม้ว่าเขาจะอ่อนด้อยในด้านความแข็งแกร่งเล็กน้อย

นิพพานอมตะเที่ยงแท้นั้นทรงพลังจริง ๆ ! เจี้ยนเฉินตกใจอย่างมาก เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงสี่พี่น้องที่ได้ฝึกฝนวิชาของนิพพานอมตะเที่ยงแท้ แต่ดูเหมือนว่าวิชาการบ่มเพาะของนิพพานอมตะเที่ยงแท้จะดูเหมือนไม่สมบูรณ์

แต่น่าเสียดายที่นิพพานอมตะเที่ยงแท้จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพเจ้าสงคราม เขาได้ตายในการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่กับจอมคนด้วยขวานของเทพเจ้าสงคราม เฮ้อ… ซีหยิงถอนหายใจ เขาค่อนข้างเศร้าใจ ในฐานะของผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งของโลกอมตะ ผลที่เขาได้รับนั้นน่าสังเวชเป็นอย่างมาก

จอมคนของเทพเจ้าสงครามนั้นทรงพลังอย่างแท้จริง แม้กระทั่งนิพพานอมตะเที่ยงแท้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกหรือ ? เจี้ยนเฉินถามทันที เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเถี่ยต้า นอกจากนี้เขายังเป็นเทพเจ้าสงคราม เว้นแต่ว่าเขายังไม่เติบโตได้อย่างเต็มที่ เขายังคงอยู่ไม่ไกลก่อนจะมาเป็นจอมคนในตอนนี้

นายท่าน เทพเจ้าสงครามถือกำเนิดมาจากโลก พวกเขาได้รับพรจากโลกและมีความกล้าที่ยอดเยี่ยม พวกเขาอยู่ยงคงกระพันในขอบเขตการบ่มเพาะเดียวกัน ไม่เพียงแต่เทพเจ้าสงครามเท่านั้นที่มาถึงจุดสูงสุดของจอมคน มันยังถือว่าไร้พ่ายในโลกเซียนและโลกปีศาจ อาจมีเพียงร่างบรรพกาลเท่านั้นที่จะสู้กับเขาได้ในโลกนี้ แต่ร่างบรรพกาลนั้นไม่เคยไปถึงอมตะเที่ยงแท้ สำหรับจอมคนของเทพสงคราม เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจากการต่อสู้กับนิพพานอมตะเที่ยงแท้และถูกสังหารโดยนายคนก่อนของเรา เสียงของจือหยิงพูดออกมาอย่างท้อแท้

เพียงคิดได้ เจี้ยนเฉินถาม จือหยิง ข้าจำได้ว่าเจ้าบอกข้าในก่อนหน้านี้ร่างบรรพกาลนั้นแบ่งออกเป็นสี่ระดับในโลกอมตะ ความสำเร็จเล็กน้อย, ความสำเร็จบางส่วน, ความสำเร็จครั้งใหญ่และความสำเร็จสมบูรณ์ หกขั้นสำหรับความสำเร็จเล็กน้อยและหกขั้นของความสำเร็จบางส่วน สิบขั้นสำหรับความสำเร็จครั้งใหญ่และสิบแปดขั้นสำหรับความสำเร็จสมบูรณ์ ความสำเร็จสมบูรณ์นั้นเทียบเท่าได้กับอมตะเที่ยงแท้หรือเปล่า ?

ถูกต้อง ความสำเร็จสมบูรณ์ของร่างบรรพกาลเทียบเท่ากับอมตะเที่ยงแท้ในโลกอมตะ แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่เคยมีใครถึงขั้นความสำเร็จสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามการไปถึงขั้นความสำเร็จครั้งใหญ่ก็สามารถต่อสู้กับอมตะเที่ยงแท้ได้เท่านั้น มันยังห่างชั้นจากห้าสุดยอดเที่ยงแท้ ซีหยิงกล่าว

เจี้ยนเฉินคอตกเมื่อได้ยิน เขาคิดว่า ไม่มีใครเข้าถึงความสำเร็จสมบูรณ์ของร่างบรรพกาล ข้าก็จะหยุดอยู่แค่นี้งั้นหรือ ?

หลังจากที่เขาคิดกับตัวเอง เจี้ยนเฉินก็ถามอีกสองสามคำถามก่อนที่จะหยุดคุยกับจิตวิญญาณกระบี่ เขากลับมายังดินแดนแห่งชีวิตที่เสือดำได้ครองอยู่และเก็บสมบัติสวรรค์ไม่กี่อย่าง พร้อมกับความประหลาดใจอย่างมากเมื่อเขาพบต้นลูกท้อเมฆม่วงอีก 1 ต้น มันยกระดับมาถึงระดับ 2 และผลของมันก็สามารถย่นระยะการบ่มเพาะได้หลายพันปี

หลังจากรวบรวมสิ่งของที่มีค่าหมดแล้ว เจี้ยนเฉินก็กลับเข้าไปในวัตถุมิติทันที เขามีวัตถุจิตวิญญาณเพื่อค้นที่ซ่อนตัวที่ปลอดภัยให้กับเขา เขาขุดหลุมก่อเพลิงที่นั้นและใช้ภาชนะที่ใส่น้ำพุไว้ก่อนที่จะวางเหนือกองไฟเพื่อต้มมัน จากนั้นเขาก็หาของในแหวนมิติของเขาและในที่สุดก็พบชุดชงชาที่งดงาม

เขาพบว่าชุดชงชาในแหวนมิตินี้เป็นของเซียนราชาคนหนึ่งที่เขาได้ฆ่าไป

นายท่าน ท่านกำลังทำอะไร ? จือหยิงจ้องมองการกระทำของเจี้ยนเฉินอย่างงงวยและถามออกมา

เจี้ยนเฉินนั่งอยู่หน้าหลุมไฟขณะที่เขาต้มมันอย่างใจเย็น เขาตอบอย่างจริงจังว่า ข้ากำลังชงชาเพื่อที่จะเข้าใจขอบเขตกำเนิดกระบี่ผ่านการชงชา

นายท่าน ท่านยังไม่มีกระบี่แห่งโชคชะตา ดังนั้นท่านไม่อาจเข้าใจขอบเขตแรกของเส้นทางกระบี่ได้ ท่านไม่ต้องเร่งรีบนัก เมื่อท่านสร้างกระบี่ม่วงฟ้า ท่านจะเข้าใจขอบเขตแรกของมันอย่างรวดเร็ว ฉิงโซวพูดเสียงหนัก จิตวิญญาณกระบี่ทั้งสองนั้นอยู่มานานและพวกเขาก็ไม่เคยได้ยินใครเลยว่ามีคนสามารถทำความเข้าใจของขอบเขตกำเนิดกระบี่ได้โดยที่ไม่มีกระบี่แห่งโชคชะตา แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะเคยเข้าถึงไปสองครั้งแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่เชื่อว่าเจี้ยนเฉินจะเข้าใจได้ในตอนนี้

ข้าไม่คิดอย่างนั้น ข้าได้เข้ามาในขอบเขตกำเนิดกระบี่ 2 ครั้งแล้ว ข้าไม่เข้าใจมันดีแต่ข้าเข้าใจได้เพียงราง ๆ ร่างบรรพกาลของข้ามาถึงขั้น 4 และข้าก็ได้มีความแข็งแกร่งที่เพิ่มมากขึ้น แต่มันค่อนข้างยากที่จะจัดการกับสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 ที่แข็งแกร่งกว่าข้า ข้าสามารถฆ่ามันได้ง่ายผ่านขอบเขตกำเนิดกระบี่ เพื่อที่จะได้เดินทางได้ไกลยิ่งขึ้น ข้าต้องลองว่าข้าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เจี้ยนเฉินตอบอย่างหนักแน่น เขาตัดสินใจแล้ว