ตอนที่ 1380 เพชรหนึ่งกะรัตสืบต่อไปยืนยาวตราบชั่วนิจนิรันดร์ + ตอนที่ 1381 ฉิวฉิวออกโรง ทุกอย่างโอเค
โดย
Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1380 เพชรหนึ่งกะรัตสืบต่อไปยืนยาวตราบชั่วนิจนิรันดร์
สีอันน่าชะงัก เธอสายตาสั้นเล็กน้อยแต่ไม่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตใด ๆ ปกติเลยไม่สวมแว่นตาจึงไม่เห็นเพชรที่ฝังอยู่บนกำไลของเหมยเหมย แต่หากมองจากที่ไกลกลับมีแสงวิบวับจริง ๆ น่าจะเป็นเพชรอย่างไม่ต้องสงสัยทำให้ใบหน้าที่ยิ้มได้ใจนิ่งชะงักอย่างควบคุมไม่อยู่
ตอนนั้นกำไลฝังเพชรเส้นนี้เธอก็ถูกตาต้องใจมัน แต่ราคากลับเป็นสามเท่าตัวของเส้นที่ไม่ฝังเพชรเธอเลยไม่กล้าแม้แต่จะถาม เพราะเธอรู้ว่าถามไปคุณพ่อก็ไม่มีทางซื้อให้
พ่อของเธอเปิดบริษัทโฆษณาที่แม้จะหาเงินได้ไม่น้อยโดยในหนึ่งปีคงมีสักสองถึงสามแสนหยวน ไม่นับว่ารวยมาก อาจจะเทียบฐานะทางบ้านเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้ด้วยซ้ำ แน่นอนว่าเธอรู้อยู่แก่ใจดีแต่ไม่มีทางให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรู้เป็นอันขาด
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเห็นว่าเพียงประโยคเดียวของตนก็ทำเอาทุกคนตะลึงงันไปได้ก็ได้ใจเหลือเกิน
อีกอย่างสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขที่สุดก็คือเธอมั่นใจแล้วว่าฐานะทางบ้านสีอันน่าไม่ได้ดีไปกว่าเธออย่างแน่นอน ดูท่าทางขี้เหนียวนั่นสิ กำไลราคาสองหมื่นกว่าก็รักเหมือนของรักของหวงมันสะท้อนให้เห็นว่าปกติผู้หญิงคนนี้ไม่เคยใส่เครื่องประดับราคาแพงมาก่อน
ดูอากัปกิริยาของสีอันน่าคนไม่รู้คงคิดว่าคนรับใช้จากบ้านไหนเสียอีก!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อย่างไม่ต้องสงสัย มองปราดเดียวก็รู้ทะลุทะลวงถึงฐานะทางบ้านสีอันน่าจึงไม่คิดจะเกรงใจสีอันน่าอีก
คติของคุณหนูใหญ่เหริ่น–ขอแค่คนที่ฐานะยากจนกว่าเธอล้วนมีไว้เรียกใช้งานทั้งสิ้น
ส่วนคนจำนวนน้อยที่ร่ำรวยกว่าเธอก็ต้องคอยประจบประแจง อย่างเช่นจ้าวเหมยเป็นต้น!
นอกจากฉีฉีเก๋อที่ไม่รู้สึกอะไรกับของมีค่าพวกนี้เพราะม้าที่บ้านเธอก็ราคาหมื่นขึ้นไปหรืออาจจะหลานแสนเชียว!
คนอื่น ๆกลับรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย สายตาที่มองไปยังจ้าวเหมยบนเวทีก็เปลี่ยนไปพลางเต็มไปด้วยความอิจฉา
มีทั้งความสามารถ ทั้งหน้าตาสวยแล้วยังมีเงินอีก พวกเธอจะใช้ชีวิตต่ออย่างไร?
เหมยเหมยจะรู้ได้อย่างไรว่าคนล่างเวทีกำลังอิจฉาริษยาเพราะเสื้อผ้าเครื่องประดับของเธอ เธอไม่ได้ดูแบบร่างสุนทรพจน์แต่พูดสดไปทั้งอย่างนั้น เธอไม่ได้พูดนานเท่าไร เล่าเพียงประสบการณ์ที่ผ่านมาคร่าว ๆของเธอและพูดให้กำลังใจพอเป็นพิธีก่อนจะจบการกล่าวสุนทรพจน์
เธอโค้งตัวให้คนล่างเวทีทีหนึ่งแล้วหันไปโค้งตัวให้เหล่าผู้บริหารถึงเดินลงไปจากเวที เสียงปรบมือจากด้านล่างดังกระหึ่มโดยเฉพาะนักศึกษาชายพวกนั้นที่ปรบมือจนพองไปทั้งมือแล้ว สายตาต่างประกายแสงสีเขียววิบวับ
ผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งมีความสามารถขนาดนั้นพวกเขาจะไม่ชอบได้อย่างไรไหว!
เหมยเหมยเดินลงมากลับไปที่ห้องตัวเองแต่พบว่าพวกถังม่านลี่กลับมีสายตาประหลาดเหลือเกิน เหมือนมีไฟกำลังลุกโชนแถมยังจ้องมือของเธอเขม็งเลยอดดึงแขนเสื้อลงหน่อยไม่ได้
“จ้าวเหมย ขอฉันดูกำไลเธอหน่อยได้มั้ย?” ถังม่านลี่เอ่ยขึ้นกะทันหัน
เหมยเหมยไม่ยินยอมเท่าไรแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ยื่นแขนซ้ายออกไปก่อนที่ถังม่านลี่จะคว้าแขนเธอไว้ทีเดียวด้วยแรงมหาศาลจนเหมยเหมยอดขมวดคิ้วไม่ได้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“สวยจัง ที่คล้าย ๆแก้วพวกนี้ก็คือเพชรเหรอ? ทำไมถึงแพงขนาดนี้ล่ะ!” ถังม่านลี่เริ่มลุ่มหลงกับมันเลยออกแรงที่มือหนักขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่เธอยังไม่รู้ตัว
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเริ่มสอนอีกแล้ว “กระจกสู้เพชรได้เหรอ? ทำไมเธอไม่เอาดอกหญ้าเทียบกับโบตั๋นล่ะ? เพชรหนึ่งเม็ดสืบทอดต่อไปตราบชั่วนิจนิรันดร์ได้รู้มั้ย? ผู้หญิงคนหนึ่งถ้าไม่มีเครื่องประดับเพชรสักชิ้นในชีวิต งั้นเธอก็คือ Loser รู้จัก loser สินะ?”
ถังม่านลี่ปาดน้ำลายที่กระเด็นใส่หน้าทีแล้วพยักหน้า เธอเข้าใจคำว่า loser อยู่แล้ว คะแนนวิชาภาษาอังกฤษของเธอไม่แย่นะ!
เหมยเหมยทนแรงของมือถังม่านลี่ต่อไม่ไหวเลยชักแขนกลับแต่ดันเห็นรอยแดงขึ้นรอบข้อแขน พรุ่งนี้เช้าต้องช้ำแน่เลย
ถังม่านลี่ยิ้มแก้เก้อ “ทำไมเนื้อของเธอเหมือนเต้าหู้เลย ฉันยังไม่ได้ใช้แรงอะไรเลยนะ!”
“คุณถังน่าจะทำงานบ้านมาไม่น้อย” เหมยเหมยตอบกลับเสียงเรียบประโยคหนึ่งแต่ในท้องอัดอั้นไปด้วยถ้อยคำหยาบคาย
แต่เธอจะด่าไม่ได้ไม่อย่างนั้นคนอื่นต้องหาว่าเธอทำตัวอ่อนแอ!
อีกอย่างในเมื่อเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน หากไม่จำเป็นจริง ๆเธอไม่อยากผิดใจกัน!
………………………………………………..
ตอนที่ 1381 ฉิวฉิวออกโรง ทุกอย่างโอเค
ถังม่านลี่สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วโต้กลับไปทันที “ผิวของเธอนุ่มเกินไปต่างหาก แม่ของฉันไม่เคยให้ฉันทำงาน”
เมื่อวานเธอเพิ่งบอกไปว่าตัวเองเป็นลูกคุณหนู วันนี้จ้าวเหมยกลับว่าเธอทำงานที่บ้านบ่อย ๆ เธอจะยอมรับไม่ได้!
เหมยเหมยยิ้มน้อย ๆไม่พูดอะไรแล้วหันกลับไปฟังผู้บริหารบนเวทีพูดต่อ ขณะที่สมองว่างเปล่าก็พลันนึกถึงเหยียนหมิงซุ่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ฉิวฉิวกับฉาฉาน่าจะไปถึงที่นู้นแล้วสินะ!
เฮ่อเหลียนชิงสั่งให้ลูกน้องพาฉิวฉิวไปส่งถึงที่ให้เร็วที่สุด เมื่อคืนเวลาก็กระชั้นชิดเหลือเกินแต่มีเที่ยวบินไปยังประเทศ Y เที่ยวบินสุดท้ายพอดีเลยทันไปส่งถึงในช่วงเช้ามืด
เหยียนหมิงซุ่นไม่คิดว่าเหมยเหมยจะส่งฉาฉามาด้วยเลยอุ่นใจอย่างอดไม่ได้ ให้ฉาฉาพันรอบข้อมือก่อนจะอุ้มฉิวฉิวไปที่โรงแรม
เวลากระชั้นชิดแบบนี้จะต้องให้ฉิวฉิวทำความคุ้นเคยกับแผนที่โดยเร็วที่สุด
ข้อมูลขีปนาวุธรูปแบบใหม่อยู่ในฟิล์มม้วนหนึ่งที่มีขนาดกะทัดรัด ต้องบอกเลยว่าระบบป้องกันของตึกใหญ่ไม่ได้เข้มงวดนัก ซึ่งอาศัยแค่ความสามารถของพวกเหยียนหมิงซุ่นก็ลักลอบเข้าไปได้สบายๆ
แต่ปัญหาคือประเทศ Y เล่ห์เหลี่ยมเยอะแอบเก็บม้วนฟิล์มไว้ในห้องคับแคบแห่งหนึ่งซึ่งมีพื้นที่และบานประตูเล็กมากขนาดไม่ถึงหนึ่งเมตรด้วยซ้ำ ผู้ใหญ่ไม่มีทางเข้าไปได้อย่างแน่นอน
ประเทศ Y ได้ชุบเลี้ยงคนแคระคนหนึ่งให้เขารับหน้าที่หยิบและเก็บข้อมูลโดยเฉพาะ ทั้งตึกใหญ่มีเพียงคนแคระคนนี้ที่สามารถหยิบข้อมูลได้
เหยียนหมิงซุ่นและพรรคพวกแต่ละคนล้วนเป็นชายสูงเกินกว่าร้อยห้าสิบเซนติเมตรทั้งสิ้นย่อมไม่มีทางเข้าไปได้ หากอยากเข้าไปมีเพียงอย่างเดียวต้องระเบิดห้องนั้นทิ้ง แต่ระบบป้องกันของห้องนั้นกลับเชื่อมไปทั่วทั้งตึกใหญ่เสียอย่างนั้น
การระเบิดห้องทิ้งเป็นสิ่งสุดท้ายที่หากไม่จำเป็นจริง ๆเหยียนหมิงซุ่นไม่อยากเดินหมากนี้เลย
ตอนนี้มีฉิวฉิว เหยียนหมิงซุ่นเริ่มมีประกายความหวังขึ้นมาแล้ว
ลูกน้องของเขาเห็นฉิวฉิวก็นึกแปลกใจไม่เข้าใจว่าทำไมลูกพี่ถึงไปหากระรอกตัวหนึ่งจากในประเทศมา เรื่องที่แม้แต่ทหารหน่วยรบพิเศษที่ผ่านการฝึกฝนมายาวนานอย่างพวกเขายังทำไม่ได้ แค่กระรอกตัวเดียวจะมีประโยชน์อะไร?
ฉิวฉิวรู้ทันความคิดของคนกลุ่มนี้อย่างชัดเจนจึงกลอกตาทีหนึ่งพลางสะบัดหางใหญ่ฟูไปมาพร้อมทำหน้าไม่สบอารมณ์อย่างมาก
มนุษย์ผู้โง่เขลากล้าดูถูกคุณชายฉิวอย่างเขา?
อีกเดี๋ยวจะให้พวกแกตกใจจนตาถลนออกมาเลย!
เหยียนหมิงซุ่นแกะช็อกโกแลตที่ให้ลูกน้องไปซื้อมาเตรียมไว้แต่เช้าออก ฉิวฉิวตาเป็นประกายและเริ่มกินอย่างเอร็ดอร่อย รสชาติไม่เลวเลยเดี๋ยวให้นายผู้ชายซื้อมาเยอะ ๆเอาไว้กลับไปค่อย ๆกิน
“ฉิวฉิว ของที่ฉันอยากได้คือแบบนี้ มันเก็บไว้ตรงนี้…”
เหยียนหมิงซุ่นอธิบายสถานการณ์ของห้องลับนั่นให้ฉิวฉิวฟังคร่าว ๆ รวมถึงแผนที่ตึกใหญ่ เขารู้ว่าฉิวฉิวฟังเข้าใจฉะนั้นเขาถึงได้พูดละเอียดมากทั้งไล่พวกลูกน้องให้ออกไปห้องจนหมด
นี่เป็นความลับของเหมยเหมย เขาไม่มีทางให้คนอื่นรู้เด็ดขาด
ฉิวฉิวคอยฟังเรื่องพวกนี้อย่างไม่สบอารมณ์ เขาจำเพียงจุดเก็บของชิ้นนั้นไว้อย่างแม่นยำแล้วตะปบกรงเล็บใส่หน้าเหยียนหมิงซุ่นเป็นเชิงให้เขาหุบปากได้แล้ว
ตอนนี้นายผู้ชายกำลังอ้อนวอนคุณชายฉิวอย่างเขาให้ช่วยเหลือเชียวนะ หากตอนนี้ไม่เหิมเกริมสักหน่อยอนาคตคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว!
ฉิวฉิวยื่นแขนอวบโบกตรงหน้าเหยียนหมิงซุ่นไปมาเป็นเชิงว่าทุกอย่างโอเค ขอแค่มีคุณชายฉิวอย่างเขาออกโรงรับรองว่าไม่มีปัญหา!
เหยียนหมิงซุ่นก็ยังไม่ไว้วางใจอยู่ดีเพราะเขากลัวว่าฉิวฉิวจะทำภารกิจไม่สำเร็จ ยิ่งเป็นห่วงว่าฉิวฉิวจะได้รับบาดเจ็บ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขาถึงความสำคัญที่ฉิวฉิวมีต่อเหมยเหมยอีกแล้ว!
“เริ่มลงมือคืนนี้!”
เหยียนหมิงซุ่นออกคำสั่ง
อีกหนึ่งวันก็จะทำการเจรจาแล้ว พวกเขาเหลือเวลาอีกไม่มากอีกทั้งพวกเขาเตรียมการมานานขนาดนี้ก็ถึงเวลาปฏิบัติการสักที!
……………………….