ตอนที่ 1289: สัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 (2)
อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเมื่อหมอกสีเหลืองจาง ๆ ปรากฏขึ้นรอบ ๆ เจี้ยนเฉิน เขาเข้าสู่กลุ่มเมฆและวิสัยทัศน์เบื้องหน้าก็ไม่ชัดเจน ทัศนวิสัยการมองเห็นต่ำมากและแม้กระทั่งการใช้วิญญาณก็ยิ่งถูกจำกัดมากขึ้น
ในเวลานี้เจี้ยนเฉินตัวแข็งทันที ทันใดนั้นเขาก็เซไปเซมาและปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่หายตัวโดยห่างออกไปจากที่เดิม 10 เมตร
ปัง ! ทันทีที่เจี้ยนเฉินปรากฏอีกครั้ง เขาก็เข้าใกล้สีแดงพร่ามัว ๆ ที่อยู่ด้านหน้าจากที่เขายืนอยู่และตามมาด้วยเสียงดังของหินที่ราวกับถูกโยนขึ้นไปบนอากาศราวกับกลายเป็นฝุ่น
เจี้ยนเฉินเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก เขาไม่อาจเห็นว่าแสงสีแดงพร่ามัวนั้นคืออะไรและเขาก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่โจมตีนั้นมาจากไหน หากเขาไม่ระวังและหลบไปตามสัญชาตญาณ เขาอาจจะต้องบาดเจ็บอย่างมาก
อย่างไรก็ตามก่อนที่เจี้ยนเฉินจะคิดอะไรได้มากกว่านี้ การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปทันที กล้ามเนื้อของเขาตื่นตัวขณะที่จ้องมองไปตรงหน้า เขารู้สึกว่าการปรากฏตัวที่น่าสะพรึงตัวกำลังจับจ้องเขา เจี้ยนเฉินไม่เพียงแต่รู้สึกหายใจลำบาก ร่างกายของเขาก็หนักเหมือนภูเขา แม้กระทั่งการเคลื่อนไหวของเขาก็มีข้อจำกัด
การปรากฏตัวของสิ่งนั้นใหญ่มากเสียจนพื้นที่รอบ ๆ ถูกแช่แข็ง เขาเกือบจะตกลงไปกับพื้นโดยไม่อาจควบคุมได้
เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิ ! เจี้ยนเฉินตกตะลึง แม้ว่าเขาจะยังไม่เห็นรูปร่างของสัตว์อสูรหยานหวง แต่เขาก็ตัดสินใจว่ามันได้มาถึงขอบเขตดั้งเดิมจากการปรากฏตัวเพียงครั้งเดียว
นี่เป็นเพราะว่าเขาได้ฆ่าสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 จำนวนมากและเข้าใจในความแข็งแกร่งของมัน มันเป็นไปไม่ได้ที่สัตว์อสูรระดับนั้นจะปล่อยแรงกดดันมาขนาดนี้
นี่เป็นสัตว์อสูรหยานหวงที่มาถึงขอบเขตอมตะสวรรค์แล้ว นายท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน วิ่ง ! เสียงของจิตวิญญาณกระบี่ดังขึ้นในหัวของเจี้ยนเฉินเช่นกัน
เจี้ยนเฉินเริ่มถอยกลับอย่างรวดเร็วโดยไม่คิดเป็นครั้งที่สอง เขากระโดดลงจากภูเขา ขอบเขตดั้งเดิมและขอบเขตเซียนทั้งสองเป็นขอบเขตใหญ่ของการบ่มเพาะ ดังนั้นความแข็งแกร่งของมันจึงมีมากอย่างมาก เจี้ยนเฉินมั่นใจว่าเขาจะจัดการกับสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 ได้ แต่เขาไม่มีความมั่นใจที่จะจัดการกับสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10
เจี้ยนเฉินวิ่งลงมาตามหน้าผ้าที่สูงชันและโค้งหลายพันเมตร เพียงไม่กี่วินาทีเขาก็หลุดออกจากชั้นเมฆที่หนาแน่นและการมองเห็นของเขาก็กลับมาในที่สุด อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าผ่อนคลาย การปรากฏตัวของมันไม่เพียงยิ่งใหญ่ แต่มันยังคงจ้องมองเขา และมันก็เริ่มที่จะรุนแรงขึ้น
โอ้ ไม่ นั้นสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 ได้ไล่ล่าข้าใกล้เข้ามาแล้ว เจี้ยนเฉินรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายอย่างมาก ทันใดนั้นเขาก็เตะต้นไม้ใหญ่ข้าง ๆ เขาและพุ่งออกไปราวกับลูกธนู
เนื่องจากข้อจำกัดของพลังลึกลับ การบินจึงเป็นไปไม่ได้ในโลกจิ๋วหยานหวง ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงไม่อาจบินได้เหมือนนกขณะที่ใช้ทักษะมายาพริบตา
ฟึบ ! ในเวลานี้มีเสียงแหลมเข้ามาในหู งูหลามยาวกว่าพันเมตรโผล่ออกมาจากชั้นเมฆหนาและปรากฏออกมาให้เจี้ยนเฉินได้เห็น ร่างของมันเปล่งแสงสีแดงซึ่งกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม มันเลื้อยมาด้านหน้าและแลบลิ้นแพร่บ ๆ เพื่อหาตัวเจี้ยนเฉิน มันเร็วกว่าเขามาก
When the red python first came out, it was nine thousand meters away from Jian Chen, but that distance was reduced to six thousand in less than a minute before shrinking to three thousand. In the end, it was only a few hundred meters away from Jian Chen.
เมื่องูเหลือมสีแดงปรากฏออกมาครั้งแรกมันอยู่ห่างจากเจี้ยนเฉินกว่า 9,000 เมตร แต่ระยะทางก็เริ่มหดลงเหลือเพียง 6,000 เมตรโดยใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีก่อนที่จะเหลือเพียง 3,000 เมตร สุดท้ายมันก็อยู่ห่างจากเจี้ยนเฉินไม่ถึงร้อยเมตร
หัวใจเจี้ยนเฉินเต้นเร่า พื้นที่ที่ซับซ้อนได้จำกัดเขาอย่างมาก งูเหลือมข้างหลังเขาอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว มันเลื้อยผ่านภูเขาและป่าไม้ราวกับมันเป็นแม่น้ำ มันเป็นไปไม่ได้ที่เจี้ยนเฉินจะหนีออกมาได้ขณะที่ระยะห่างของเขากำลังลดลง
เจี้ยนเฉินหยุด พลังบรรพกาลพุ่งออกมาจาที่มือขวาของเขาก่อนที่จะกลายเป็นกระบี่พลังทมิฬ กระบี่สว่างและปราณบริสุทธิ์ได้ผสมกับพลังของบรรพกาล ดังนั้นความแข็งแกร่งของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาได้ถอดใจกับยุทธภัณฑ์จักรพรรดิมานานแล้วหลังจากนั้นได้เข้าถึงขอบเขตกำเนิดกระบี่ ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิจึงเสียหายมากขึ้นเรื่อย ๆ และแม้ว่าเขาจะเพิ่มพลังของเขาไปเลยก็ตาม
ในเมื่อข้าไม่อาจหลบหนีจากสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 ได้ ข้าก็ยังจะสู้กับมัน ข้าไม่อาจเอาชนะมันได้ แต่ข้าก็อยากจะเห็นว่าสิ่งมีชีวิตที่เหนือยิ่งกว่าเซียนจักรพรรดิน่าสะพรึงกลัวแค่ไหนและใช้โอกาสนี้เพื่อทำความเข้าใจว่ามันเป็นอย่างไร เจี้ยนเฉินคิด เขามั่นใจว่าการสังหารสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
ในเวลานี้งูเหลือมก็อ้าปากและมีคลื่นสีแดงเพลิงพุ่งออกมา มันยิงมาที่เจี้ยนเฉินด้วยความร้อนระอุและเผาพืชทั้งหลายจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
เจี้ยนเฉินตกใจมาก เขารู้สึกได้ว่าไฟที่งูเหลือมปล่อยออกมานั้นมีพลังมากกว่าไฟของหงเหลียน แม้ว่าไฟของหงเหลียนจะเป็นไฟของฟินิกซ์เทวะและมีพลังมากกว่าไฟทั่ว ๆ ไป แต่ไฟที่งูเหลือมปล่อยออกมานั้นน่ากลัวยิ่งกว่าไฟของนางในด้านความแข็งแกร่ง
เจี้ยนเฉินใช้ทักษะมายาพริบตาเพื่อหลีกเลี่ยงเปลวเพลิงออกไปอย่างปลอดภัย แม้จะแปลกใจก็ตามเขาก็รู้สึกว่าเขาค่อนข้างโชคดี เขาเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 ที่ไม่มีลูกเล่นอื่น ๆ ถ้ามันเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตดั้งเดิมจริง ๆ เขาคงไม่อาจโต้กลับได้
เจี้ยนเฉินเข้าหางูหลามอย่างรวดเร็วหลังจากที่หลบเปลวไฟของมัน เขาก็โดดขึ้นไปกว่าสิบเมตรและมาอยู่เหนือหัวของมันและแทงลงไปอย่างแรงเท่าที่กระบี่จะต้านไหว
ต่มมาเจี้ยนเฉินหรี่ตาลงอย่างเงียบ ๆ เพราะการโจมตีเต็มที่ของเขาทำได้เพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อย มันไม่อาจนับว่าเป็นแผลด้วยซ้ำ
ช่างเป็นร่างกายที่น่ากลัวจริง ๆ มันอาจจะแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 กว่าสิบเท่าและอาจจะมีแค่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตดั้งเดิมเท่านั้นที่จะทำร้ายมันได้ เจี้ยนเฉินตกใจกับความแข็งแกร่งของร่างกายสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 ที่เกินกว่าที่เขาคาดไปอย่างมาก แม้ว่าเขาจะเตรียมใจไว้แล้วก็ตาม
ในเวลานี้พลังที่น่าสะพรึงก็ปรากฏขึ้น งูเหลือมส่ายหัวอย่างโหดเหี้ยมเพื่อเหวี่ยงเจี้ยนเฉินออกไปจนกระทบกับต้นไม้หนาขนาดใหญ่หลายต้น
เจี้ยนเฉินรู้สึกราวกับว่ากระดูกเคลื่อนออกมาและทุก ๆ นิ้วมือของเขาก็สั่นอย่างเจ็บปวด ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นร่างบรรพกาลเขาอาจจะกลายเป็นกองเนื้อ
เจี้ยนเฉินจัดการตัวเองใหม่หลังจากที่ลอยออกมาหลายกิโลเมตร จากนั้นเขาก็เริ่มหนีโดยไม่หันหลังกลับไปมอง จากสัมผัสของเขา เขาได้เข้าใจแล้วว่าความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 นั้นมันไม่อาจเอาชนะได้
อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินยังไม่เคลื่อนที่ได้เร็วกว่างูเหลือม เนื่องจากสภาพแวดล้อม เขาถูกเจอตัวอีกครั้งหลังจากนั้นไม่นาน
นายท่าน ท่านไม่อาจเคลื่อนไหวเป็นเส้นตรงหรือไม่อาจเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ในเวลาสัตว์อสูรหยานหวงทุกตัวในเทือกเขาธาตุนี้มีอาณาเขตเป็นของตัวเอง สัตว์อสูรหยานหวงระดับอมตะสวรรค์นี้เป็นผู้ปกครองที่อยู่ในจุดสูงสุดของเทือกเขาธาตุ ดังนั้นนายท่านจึงไม่อาจหนีมันได้หากนายท่านยังอยู่ที่นี่ เราต้องไปยังพื้นที่ธาตุดินที่อยู่ใกล้ ๆ นั่นก่อน นั่นเป็นวิธีเดียวที่เราจะรอดจากสัตว์อสูรหยานหวงตัวนี้ เสียงของจือหยิงดังขึ้นในหัวของเจี้ยนเฉิน เขาเงยหน้ามองไปยังพื้นที่สีเหลืองและธาตุดินก็อยู่ห่างจากเขาไปหลายสิบกิโลเมตร ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนทิศทางและวิ่งสลับฟันปลาทันที
ระยะทางที่ยาวไกลเจี้ยนเฉินก็เดินทางได้น้อยกว่าหนึ่งนาที เขาก็มาถึงพรมแดนของธาตุไฟอย่างรวดเร็วแล้วกำลังจะข้าม
งูเหลือมที่เสาะหาเจี้ยนเฉินก็กลายเป็นลนลานทันที เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินกำลังหนีออกไปจากเขตแดนของมัน มันพ่นเปลวเพลิงยาวออกไปโดยไม่คิดที่จะให้เจี้ยนเฉินออกไปได้อย่างง่าย ๆ นี่เป็นเพราะการปรากฏตัวของพลังบรรพกาลของเจี้ยนเฉินทำให้มันยอมลงมาที่นี่ มันก็เหมือนกับสัตว์อสูรหยานหวงตัวอื่น ๆ ดังนั้นมันจึงมีความรู้สึกคลุมเครือว่าความแข็งแกร่งของมันจะเพิ่มขึ้นหากว่ามันได้กินสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีความสำคัญนี้ได้
ธารเพลิงหลายสิบสายได้ก่อให้เกิดตาข่ายขนาดใหญ่เบื้องหน้าเจี้ยนเฉิน แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะสามารถหลบมันซะส่วนใหญ่ได้ แต่เขาก็ยังไปได้ไม่มาก ความร้อนที่ไม่อาจจินตนาการได้ทำให้เสื้อผ้าของเขากลายเป็นเถ้าถ่าน ถึงแม้ว่าร่างบรรพกาลของเขาจะมาถึงขั้นที่ 4 แต่เขาก็พบว่ามันยากที่จะทนไหว ผิวหนังชั้นนอกของเขาลอกออกมาทำให้เขาเจ็บปวดอย่างมาก
เจี้ยนเฉินกัดฟันขณะที่เขาอดทนอย่างขมขื่น เขาใช้ทักษะมายาพริบตาเพื่อหลบเปลวเพลิงและในที่สุดเขาก็มาถึงกึ่งกลางระหว่างธาตุไฟและธาตุดิน
งูเหลือมไม่ได้ตามเขามา มันหยุดอยู่ที่เขตแดนของมันและจ้องมองเจี้ยนเฉินอย่างไม่เต็มใจ ลิ้นของมันสะบัดขึ้นลงขณะที่เสียงฟ่อแหลมบาดหู
แม้ว่างูเหลือมจะไม่ได้ตามเขามา แต่เจี้ยนเฉินก็ยังไม่หยุด เขาอดทนจากบาดแผลไฟลวก ขณะที่เขาหนีเข้าป่าอย่างรวดเร็ว
งูเหลือมยังคงอยู่ริมขอบเป็นเวลานาน แต่มันก็ไม่ได้ข้ามในท้ายที่สุด มันกลับไปด้วยความเศร้าโศกและเสียใจ
ในเวลานี้เจี้ยนเฉินนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาตัดผิวที่ไหม้ไปบางส่วนก่อนที่จะฟื้นฟูผิวหลังอันใหม่ แม้ว่าเขาจะถูกไฟลวกอย่างสาหัส แต่ก็ไม่อาจเกินกว่าพลังฟื้นฟูที่น่ากลัวของพลังบรรพกาลได้
สิบนาทีต่อมาเจี้ยนเฉินก็ยืนขึ้นพร้อมกับเต็มไปด้วยพลัง เขาเอาชุดใหม่ออกมาจากแหวนมิติและเปลี่ยนมัน เขาฟื้นฟูบาดแผลของเขาแล้ว แต่หัวของเขาก็ล้าน ผมที่ยาวและนุ่มสลวยของเขาถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน