บทที่ 1252 สร้างชื่อเสียงโด่งดัง

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 1,252 สร้างชื่อเสียงโด่งดัง

“เจ้าเด็กนั่นโอหังเกินไปแล้ว”

จีป้าเซียวร่ำร้องด้วยความเจ็บใจขณะเดินออกมาจากหอการค้าคนแคระเทวะ

กลุ่มผู้ดูแลหอการค้าคนอื่น ๆ ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

พวกเขาต่างก็เป็นผู้ที่มีสถานะสูงส่ง ทำงานซื้อขายซากสัตว์อสูรอยู่ในสถานีขนส่งแดน 4 มาหลายปี ไม่ว่าไปไหนมาไหนล้วนมีแต่ผู้คนเกรงใจ

แต่วันนี้กลับต้องถูกขับไล่โดยเด็กหนุ่มนักล่าอสูรหน้าใหม่ผู้หนึ่ง… หากเรื่องราวนี้หลุดลอดออกไปถึงโลกภายนอก ไม่ทราบว่าจะสร้างความอับอายมากเพียงใด

“เรื่องราวในครั้งนี้ เราจะปล่อยผ่านไปไม่ได้เด็ดขาด”

จินอวี้ถังจาก ‘หอการค้าวิมานทรัพย์’ กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เด็กหนุ่มผู้นั้นคิดว่าตนเองสามารถล่าอสูรได้อย่างมากมาย จึงกล้าทำตัววางท่าใหญ่โตอย่างนั้นหรือ? ช่างน่าเวทนาเสียจริง”

“ใช่แล้ว เราจะปล่อยให้มันลอยนวลต่อไปไม่ได้เด็ดขาด”

“ถูกต้องขอรับ ข้าน้อยยินดีเป็นผู้สมทบแผนการลอบสังหาร”

“ประเสริฐ วิธีแก้ปัญหาที่ถูกจุดที่สุดก็คือฆ่าเจ้าเด็กหนุ่มนั่นทิ้งไปซะ เมื่อชิงเล่ยไม่มีผู้คนหนุนหลังอีกต่อไป ข้าไม่เชื่อหรอกว่านางจะยืนยันเสียงแข็งได้เหมือนเดิมอีก”

“แหะ ๆ แต่อย่าลืมนะขอรับว่าชิงเล่ยยังมีฉินโซวคอยหนุนหลังอยู่อีกคน ซ้ำสายสัมพันธ์ของเขากับเจ้าเด็กหนุ่มนั่นยังแน่นแฟ้นราวกับพี่น้องร่วมสาบาน ข้าน้อยเกรงว่าแผนการของพวกเราคงไม่ง่ายอย่างที่คิด”

ใครคนหนึ่งย้ำเตือนขึ้นมาด้วยความเป็นกังวล

จีป้าเซียวยิ้มอย่างเย็นชาและอำมหิต “ข้าไปสืบข้อมูลดูแล้ว เหตุผลที่ฉินโซวยอมไว้หน้าเจ้าเด็กหน้าขาวนั่น ก็เป็นเพราะเขาหวังพึ่งพาทักษะการล่าอสูรของมัน แต่หากไม่มีเจ้าเด็กหน้าขาวนี่สักคน หอการค้าคนแคระเทวะก็ไม่มีอันใดเหนือล้ำกว่าพวกเราสักเท่าไหร่ และเมื่อถึงตอนนั้น หากพวกเราผนึกกำลังกัน ฉินโซวยังจะมีปัญญาทำอะไรได้อีก?”

เมื่อปรึกษาหารือแผนการกันเรียบร้อย พวกเขาก็ได้ข้อสรุปว่าต้องว่าจ้างมือสังหารเพื่อไปจัดการเด็กหนุ่มหน้าขาวผู้นั้น

ในเวลาเดียวกันนี้ บรรดาผู้เข้าแข่งขันซึ่งเป็นตัวแทนจากเทพเจ้าตระกูลต่าง ๆ ก็เริ่มทยอยกลับมาปรากฏตัวทั่วเมืองเยี่ยเฉิง

พร้อมกับมีการเปิดเผยรายชื่อลำดับคะแนน

สถานที่จัดการแข่งขันรอบแรกประกอบไปด้วย ‘หุบเขามรณะ’ ‘สุสานกระดูกน้ำแข็ง’ ‘ป่าโลหิต’ ‘ทุ่งพญาอสูร’ ‘หนองน้ำแห้งแห่งความตาย’ ‘ป่าช้าขาว’ ‘รังสังหาร’ ‘ถ้ำแมงมุม’ ‘อุโมงค์ล่มเมือง’ และ ‘คุกทมิฬ’ รวมแล้วสิบสถานที่พอดิบพอดี

ด้วยเหตุนี้ จึงมีรายชื่อลำดับคะแนนสิบชุด

ทุก ๆ สถานที่ซึ่งจัดการแข่งขันจะมีกฎกติกาเหมือนกันคือ ผู้ที่ทำคะแนนเป็นยี่สิบอันดับแรกเท่านั้นจึงจะมาปรากฏอยู่ในรายชื่อลำดับคะแนน

ลำดับคะแนนจะเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน

เมื่อสามารถคาดเดาความแข็งแกร่งของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนได้แล้ว พวกเขาก็จะสามารถวางแผนการในการแข่งขันรอบต่อไปได้อย่างแยบยลมากขึ้น

รายชื่อลำดับคะแนนสิบชุด มีชื่อผู้เข้าแข่งขันอยู่ทั้งหมดสองร้อยคน

และผู้ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ย่อมต้องเป็นผู้ที่มีคะแนนเป็นอันดับหนึ่ง

หลายคนสามารถคาดเดาชื่อเหล่านั้นได้ตั้งแต่ก่อนการแข่งขัน

อย่างเช่น ผู้เข้าแข่งขันที่ทำคะแนนเป็นอันดับหนึ่งจากสุสานกระดูกน้ำแข็งก็คือเจียงรั่วไป๋ นักรบเทวะอันดับหนึ่งจากตระกูลเจียง ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นเทพธิดาที่ควรค่าต่อการจับตามองมากที่สุดในกลุ่มเทพเจ้ารุ่นใหม่

นางสามารถทำคะแนนได้ทั้งหมดเจ็ดร้อยแปดสิบเก้าแต้ม ซึ่งทิ้งห่างผู้เข้าแข่งขันที่ตามมาเป็นอันดับสองถึงสามร้อยแต้ม

รวมไปถึงเฟิงคงอี้จากตระกูลเทพเจ้าแห่งท้องฟ้า พานตั่วชิงจากตระกูลเทพเจ้าแห่งแสง ฮั่วหงอี้จากตระกูลเทพเจ้าแห่งเปลวไฟ พวกเขาต่างก็เป็นอันดับหนึ่งจาก ‘ทุ่งพญาอสูร’ ‘รังสังหาร’ และ ‘ป่าช้าขาว’ ตามลำดับ

แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีม้ามืดที่หลายคนไม่คาดคิดปรากฏตัวขึ้นมา

อาทิ ฮัวเซี่ยคนถ่อเรือจากถ้ำแมงมุม…

ฉางจิ้งคงจากป่าโลหิต

นักฆ่าแมวเหมียวจากหนองน้ำแห้งแห่งความตาย

และจุ่ยถูจากอุโมงค์ล่มเมือง

และที่ใครหลายคนคิดไม่ถึงเลยก็คือนักบวชสาวเซียงเหยียนก็เข้าร่วมการแข่งขันเช่นกันด้วยเช่นกัน เพราะนางคือผู้ที่ทำคะแนนมาเป็นอันดับหนึ่งในคุกทมิฬ แต่ก่อนหน้านี้ นักบวชสาวเซียงเหยียนมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่แล้ว การที่นางสามารถทำคะแนนได้ดีจึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอันใด

มีม้ามืดปรากฏตัวในการแข่งขันครั้งนี้หลายคน

แต่ผู้ที่ทำผลงานได้น่าตกตะลึงมากที่สุด ย่อมต้องเป็นอันดับหนึ่งแห่ง ‘หุบเขามรณะ’ อย่างไม่ต้องสงสัย

และผู้ที่ทำคะแนนได้เป็นอันดับหนึ่งของหุบเขามรณะก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากหลินเป่ยเฉิน

เพียงแต่เขาใช้นามแฝง ‘เจี๋ยนเซียวเหยา’ เท่านั้น

เหตุผลที่ทุกคนตกตะลึงนั้นเป็นเพราะว่าเจี๋ยนเซียวเหยาสามารถทำคะแนนในรอบแรกได้ถึงหนึ่งพันเก้าร้อยแปดสิบแต้ม ซึ่งทิ้งห่างมือกระบี่ชื่อดังอย่างซวีเหิงผู้ไล่ตามมาเป็นอันดับสองด้วยระยะห่างถึงหนึ่งพันสี่ร้อยแต้ม…

ยิ่งคะแนนทิ้งห่างกันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงระดับพลังที่ห่างชั้นกันมากเท่านั้น…

หลายคนเมื่อเห็นรายชื่อลำดับคะแนนของหุบเขามรณะ ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาก็คือยกมือขยี้ตา ปฏิกิริยาที่สองคือใช้มือหยิกต้นขาของตนเอง และปฏิกิริยาที่สามก็คือพวกเขาสงสัยว่าลำดับคะแนนมีความผิดพลาดหรือไม่?

เพราะนี่คือคะแนนที่เป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันเท่าที่เคยมีมา

แข็งแกร่งไร้เทียมทาน

บรรดาม้ามืดที่ปรากฏตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้สามารถสร้างความตกตะลึงได้พอสมควร

แต่เมื่อเห็นคะแนนของเจี๋ยนเซียวเหยา ผู้เป็นอันดับหนึ่งจากหุบเขามรณะ นั่นก็ไม่ต่างจากมีระเบิดนิวเคลียร์ถูกทิ้งลงมาใจกลางเมืองเยี่ยเฉิง

“เจ้ารีบไปตรวจสอบเร็วเข้า ผู้เข้าแข่งขันคนนี้เป็นใครมาจากไหนกัน?”

“พวกเรารีบไปตรวจสอบดู เจี๋ยนเซียวเหยามีครอบครัวแล้วหรือไม่?”

“หากเขายังไม่มีครอบครัว เราต้องหาทางทำให้เขามาอยู่ในครอบครัวของเราให้ได้”

“คะแนนสูงถึงเพียงนี้ เขาสามารถทำได้อย่างไร?”

อย่าว่าแต่เทพเจ้าและพลเมืองจะตื่นเต้นตกใจ แม้แต่เจ็ดเทพสงครามแห่งสภาเทพเจ้าก็อยู่นิ่งเฉยไม่ได้

ภายในระยะเวลาอันสั้น การปรากฏตัวของเจี๋ยนเซียวเหยาก็ทำให้ผู้เข้าแข่งขันที่ได้ตำแหน่งอันดับหนึ่งจากอีกเก้าสถานที่นั้นหมองแสงลงไปทันตา

ผู้คนจำนวนมากถามหาถึงเด็กหนุ่มผู้นี้

ผู้คนจำนวนมากต้องการนำเด็กหนุ่มผู้นี้มาเป็นพวกของตนเอง

“นายท่านขอรับ ข้าน้อยมาแล้ว”

เฉียนหลงปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองด้านหลังหอการค้าคนแคระเทวะในระยะเวลาเพียงไม่นาน

ขณะนี้ เมื่ออาบน้ำเช็ดเนื้อเช็ดตัวเสร็จเรียบร้อย หลินเป่ยเฉินก็สวมใส่ชุดเสื้อคลุมสีขาวเรียบง่าย ความเหนื่อยล้าและวิตกกังวลจากการต่อสู้เลือนหายไป พลังงานในร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นสูงเป็นสองเท่า พลังจิตแข็งแกร่ง พลังกายคล้ายกับกำลังจะเลื่อนขั้นได้อย่างไรอย่างนั้น

“เข้ามาได้”

เด็กหนุ่มนั่งอยู่ในห้องรับรองและโบกมืออนุญาต

เฉียนหลงเดินค้อมศีรษะเข้ามา

“นายท่านขอรับ ข้าน้อยนำของมาส่งมอบ”

เฉียนหลงประคองถุงเก็บสมบัติที่บรรจุซากอสูรหมาป่าด้วยสองมือและยื่นส่งให้แก่เด็กหนุ่มอย่างนอบน้อม

หลินเป่ยเฉินรับถุงเก็บสมบัติมาตรวจสอบดูโดยละเอียด แล้วรอยยิ้มด้วยความพึงพอใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

หมอนี่เชื่อใจได้แฮะ

ไม่มีแอบยักยอกซากสัตว์อสูรเอาไว้เลยสักตัว

“อ้อ จริงด้วยสิขอรับนายท่าน ข้าน้อยมีข่าวดีมาบอก”

เฉียนหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงประจบประแจง “นายท่านรู้หรือไม่? บัดนี้นายท่านโด่งดังไปทั่วแล้ว นั่นหมายความว่าทั่วเมืองเยี่ยเฉิง ทุกคนกำลังพูดถึงความแข็งแกร่งและความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของนายท่าน”

“เพราะว่าข้าสังหารราชาหมาป่าศิลาได้สำเร็จงั้นหรือ?”

หลินเป่ยเฉินพยายามคาดเดา

เฉียนหลงตอบว่า “นั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งขอรับ แต่นายท่านไม่รู้จริงหรือ? นายท่านทำลายสถิติได้แล้วขอรับ”

“สถิติอะไร?”

หลินเป่ยเฉินถามด้วยความสงสัย

เฉียนหลงกล่าวตอบ “สถิติผู้ที่ทำคะแนนสูงสุดในการแข่งขันรอบแรกขอรับ นายท่านสามารถเอาชนะผู้ที่ทำสถิติคนเก่าได้มากถึงเก้าร้อยแต้ม”

หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็นำลำดับคะแนนออกมาให้เขาดู

เป็นรายชื่อของผู้ที่ได้คะแนนยี่สิบอันดับแรกจากสิบสถานที่จัดการแข่งขันในรอบแรก

หลินเป่ยเฉินคลี่ม้วนกระดาษออกดู

นอกจากชื่อของนักบวชสาวเซียงเหยียนแล้ว ส่วนใหญ่ล้วนเป็นชื่อของคนที่เขาไม่รู้จัก

ที่พอคุ้นตาบ้างก็คือเจียงรั่วไป๋

แล้วยังมีใครอีกนะ?

ทำไมถึงมีชื่อของฮันลั่วเซวี่ยด้วยล่ะ?

เอ่อ… น่าจะชื่อเหมือนกันเฉย ๆ ล่ะมั้ง

สาวรับใช้ในโรงเตี๊ยมอย่างนางจะไปอยู่ในรายชื่อผู้เข้าแข่งขันได้อย่างไร

เมื่อตรวจสอบรายชื่อทั้งหมดแล้ว หลินเป่ยเฉินก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข

เด็กหนุ่มยกมือขึ้นทำท่าดันแว่นขณะกล่าวว่า “ดูเหมือนข้าจะดังแล้วสินะ?”

เมื่อโด่งดังแล้ว ก็จะเป็นจุดสนใจของผู้คน

เมื่อเป็นจุดสนใจของผู้คน ก็สามารถรับงานโฆษณาได้เต็มที่…

หึหึ ดูเหมือนเขาจะค้นพบเส้นทางเศรษฐีอีกแล้วสิ!!