บทที่ 2011 เจ้าเวรนี่มักใหญ่ใฝ่สูงนัก

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

เพราะอะไรถึงไปสมคบกัน เรื่องนี้เอ่ยปากค่อนข้างลำบาก อย่างไรเสียก็เป็นพี่น้องฆ่ากันเอง เว่ยซูลังเลนิดหน่อย

เซี่ยโห้วท่าไม่เร่งเร้าเขาเช่นกัน หรี่ตาเคี้ยวอาหารทะเลแล้วจิบสุรา

หลังเว่ยซูครุ่นคิดสักครู่หนึ่ง ก็ยอมบอกแล้วว่า “คุณชายสามอาจจะกังวลว่าคุณชายรองคิดจะฆ่าเขา”

เซี่ยโห้วท่าเคี้ยวอาหาร เสียงพูดอู้อี้เล็กน้อย “ตอนนี้เข้าใจแล้วสินะว่าทำไมหนิวโหย่วเต๋อถึงสงบนิ่งเยือกเย็นแบบนั้น? ก็เพราะหนิวโหย่วเต๋อแน่ใจแล้วว่าเจ้ารองกับเจ้าสามอุจจาระกระโถนเดียวกันไม่ได้ แน่ใจแล้วว่าเจ้าสามจะต้องลงมือกับเขา ไม่ร่วมมือกับเจ้ารองแล้วแตกคอกับเขาหรอก”

เว่ยซูอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “คุณชายสามเลอะเลือนแล้ว!”

“เลอะเลือนเหรอ?” เซี่ยโห้วท่าส่ายหน้า “ในเมื่อข้าวางเจ้าสามไว้ตำแหน่งนั้นได้ ก็แสดงว่าข้ารู้ดีว่าเจ้าสามเป็นคนอย่างไร ถ้าไม่แน่ใจว่าเจ้ารองจะลงมือกับเขา เขาก็ไม่ถึงขั้นไปสมคบกับคนนอกเพื่อปกป้องตัวเองหรอก ก็เพราะข้ารู้จักเจ้าสามดีไง เช่นนั้นแสดงว่าเกิดปัญหาแล้ว เจ้าสามน่าจะรู้ อาศัยกำลังที่มีอยู่ในมือเจ้ารอง ในตอนนั้นคิดจะแตะต้องเขาก็ยากเช่นกัน เจ้ารองเองก็ไม่กล้าเผยเจตนาสังหารบีบให้เจ้าสามจนตรอกเป็นสุนัขกระโดดกำแพง เช่นนั้นเจ้าสามแน่ใจได้ยังไงล่ะว่าเจ้ารองจะลงมือกับเขา? ทำไมเจ้าสามถึงไปสมคบกับหนิวโหย่วเต๋อทันที? ทำไมเจ้าสามถึงอดใจรอไม่ไหว ไปสมคบกับคนนอกเพื่อมาคานอำนาจในตระกูล?”

เว่ยซูตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ถามเสียงต่ำว่า “ต้องเป็นเพราะคุณชายสามได้ข่าวจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เลยเชื่อว่าคุณชายรองต้องการจะฆ่าเขา!”

“เจ้าลองคิดดูอีกที่ว่าตอนนั้นทำไมหนิวโหย่วเต๋อถึงสงบเยือกเย็นต่อเจ้ารองขนาดนั้น ไม่รู้สึกว่าน่าสงสัยเหรอ?” เซี่ยโห้วท่าถาม

“เป็นหนิวโหย่วเต๋อที่วางอุบายแน่นอน!” เว่ยซูตกใจ

เซี่ยโห้วท่าดื่มสุราอึกหนึ่งเพื่อกลืนเศษอาหารในปาก “ข้าก็เลยคิดว่า ข่าวที่ทำให้เจ้าสามเชื่อจริงๆ ว่าเจ้ารองจะสังหารเขามาจากที่ไหน ถ้าเป็นคนนอกให้ข่าวกับเจ้าสาม เจ้าสามจะต้องสงสัยแน่ อย่างไรเสียคนนอกก็คือคนนอก เขาคุมตึกศาลาสัตยพรตมาหลายปี มีหรือที่จะโดนคนนอกโจมตีได้ง่ายขนาดนั้น เช่นนั้นแหล่งที่มาของข่าวที่ดูเป็นไปได้มากที่สุดก็คือคนในตระกูล หนิวโหย่วเต๋อวางอุบายแล้ว คนในตระกูล คนที่ทำให้เจ้าสามเชื่อได้ ความสัมพันธ์ระหว่างสามคนนี้ทำให้ข้าต้องพุ่งเป้าหมายไปที่เจ้าหกที่อยู่ข้างกายหนิวโหย่วเต๋อ”

เว่ยซูยิ่งฟังก็ยิ่งตกใจ “คุณชายหกโดนเปิดโปงแล้ว?”

เซี่ยโห้วท่าอธิบายว่า “ข้าลองนึกถึงสถานการณ์ที่เจ้าหกอยู่ข้างกายหนิวโหย่วเต๋อีกที มองผ่านๆ เหมือนไม่ถูกเปิดโปง แต่พอมองให้ละเอียดถึงได้พบ ว่าเวลาส่วนใหญ่เจ้าหกจะถูกกันให้ออกนอกจวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาล ให้ไปบริหารโถงชุมนุมอัจฉริยะกับสวีถังหราน หนิวโหย่วเต๋อไม่ให้เจ้าหกมีอำนาจทางทหารเลยตั้งแต่แรก แอบป้องกันเจ้าหกมาตั้งแต่แรกแล้ว ข้าเพิ่งจะเข้าใจ บางทีเจ้าหกอาจจะถูกเปิดโปงตัวตนมาตั้งแต่แรกแล้ว ข้าเลยกำลังคิดว่าเจ้าหกถูกเปิดโปงได้ยังไงกันแน่ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ถ้ากำลังลับที่ตระกูลเซี่ยโห้วางไว้ถูกคนขุดเจอได้ง่ายๆ จะไม่แย่หรอกหรือ มีความเป็นไปได้ต่ำว่าเจ้าหกจะเปิดโปงตัวเอง ข้าสงสัยว่ารอบกายเจ้าหกมีปัญหาอะไรหรือเปล่า พอลองจัดระเบียบความเกี่ยวข้องระหว่างเจ้าหกกับจวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาลดูอีกที ก็พบปัญหาหนึ่ง โถงชุมนุมอัจฉริยะที่เจ้าหกช่วยหนิวโหย่วเต๋อบริหาร เดิมทีก็มีขอบเขตงานไปในทิศทางเดียวกับตอนเจ้าหกทำที่ตระกูลเซี่ยโห้ว ข้าถึงตระหนักได้ว่าหนิวโหย่วเต๋ออาจไม่ใช่แค่มองทะลุตัวตนเจ้าหก แต่ยังรู้ด้วยว่าเจ้าหกควบคุมด้านไหนของตระกูลเซี่ยโห้ว ส่วนเจ้าหกก็ต้องแสดงความสามารถเพื่อให้หนิวโหย่วเต๋อเชื่อใจ หนิวโหย่วเต๋อกำลังใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในมือเจ้าหกเพื่อบุกเบิกช่องทางทำเงิน สะสมกำลังทรัพย์ให้เขา”

เว่ยซูสูดหายใจอย่างตกตะลึง “เจ้าเวรนี่เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว!”

เซี่ยโห้วท่าบอกว่า “ถ้าเจ้าหกถูกเปิดโปงบนความเกี่ยวข้องนี้ ทั้งยังถูกเปิดโปงตั้งแต่แรก…ข้าจะสันนิษฐานต่อไปในทิศทางนี้ก็แล้วกัน จะให้ความสนใจพันธมิตรทะเลดาวที่ผงาดขึ้นมาตั้งแต่เริ่มตั้งโถงชุมนุมอัจฉริยะ เตรียมจัดระเบียบข้อมูลย้อนไปตั้งแต่ต้น ผลปรากฏว่าสืบไปสืบมาก็เจอปัญหาเลย สืบเจอว่าฉู่อันเทียน หัวหน้าพันธมิตรทะเลดาวไม่ยอมและกำลังถูกควบคุมอยู่ แอบมีลูกเมียซ่อนไว้เพื่อเป็นทางหนีทีไล่ให้ตัวเอง ในเมื่อต้องการจะสืบอย่างละเอียดอีกรอบ ก็ต้องสืบโดยไม่ปล่อยผ่านจุดน่าสงสัยใดๆ ข้าสั่งให้คนแอบจับฉู่อันเทียนมาสอบสวนอย่างเข้มงวดทันที ขุดความจริงจากปากฉู่อันเทียนได้แล้ว ที่แท้ฉู่อันเทียนก็มีทักษะพิเศษประจำตัวอย่างหนึ่ง คือสามารถแยกแยะคนได้จากกลิ่นกาย เขาคิดหาทางสืบสาวไปหาคนที่ควบคุมเขา เขาสืบไปเรื่อยๆ จนเจอเจ้าหก เดิมทีเขาก็ไม่กล้าเปิดโปงเรื่องนี้ แต่ใครจะคิดว่าสวีถังหรานนั่นจะเพ่งเล็งกำลังพลของพันธมิตรทะเลดาวเพื่อบุกเบิกโถงชุมนุมอัจฉริยะ ทำทุกวิถีทางเพื่อควบคุมลูกเมียของฉู่อันเทียนเอาไว้ ฉู่อันเทียนจึงแอบไปพึ่งพาสวีถังหราน ความลับนี้ก็ตกอยู่ในมือสวีถังหรานเช่นกัน ตอนหลังเรื่องราวก็ง่ายแล้ว เจ้าหกไปสมัครงานที่ตลาดผีพอดี ถามหน่อยว่าพอหนิวโหย่วเต๋อเห็นรายชื่อแล้ว จะไม่รู้เชียวหรือว่าข้างกายมีสายลับของตระกูลเซี่ยโห้ว?”

ความสามารถในการไล่สืบอย่างละเอียดแม่นยำแบบนี้ เว่ยซูรู้สึกชินกับความสามารถของนายท่านแล้ว ถ้าไม่มีความสามารถนี้ แล้วจะสร้างตระกูลเซี่ยโห้วที่ใหญ่โตขึ้นมาได้อย่างไร สิ่งที่เว่ยซูตกตะลึงจริงๆ ก็คือความสามารถในการควบคุมตระกูลเซี่ยโห้วของนายท่าน นายท่านแอบสืบเรื่องพวกนี้ ไม่น่าเชื่อว่าฝั่งนี้จะไม่สังเกตเห็นเลยสักนิด

เขาสงสัยว่าเซี่ยโห้วท่าใช้งานคนของสมาคมอาวุโสที่ซ่อนตัวอยู่ในตระกูลหรือเปล่า

เขาย่อมพูดสิ่งเหล่านี้ออกมาไม่ได้ เพียงกล่าวอย่างเคียดแค้นว่า “ฉู่อันเทียนคนนี้ทำลายงานใหญ่ ให้อภัยไม่ได้!”

เซี่ยโห้วท่าโบกตะเกียบที่อยู่ในมือ “เขาเองก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน ในเมื่อสืบไปถึงตัวเขาแล้ว เขาก็ไม่มีเส้นทางอื่นให้เดินนอกจากกลับมาสวามิภักดิ์ตระกูลเซี่ยโห้วอีกครั้ง ไม่จำเป็นต้องแตะต้องเขาด้วย เก็บเขาไว้ อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น เก็บหมากซ้อนกลเอาไว้ตรงนั้น ในอนาคตอาจจะแสดงบทบาทได้มากกว่านี้ นี่ต่างหากที่มีความหมายกว่า”

“ดังนั้นหนิวโหย่วเต๋อจึงแสร้งไม่รู้ฐานะของคุณชายหก แอบหลอกใช้ให้คุณชายหกเสี้ยมความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง คุณชายสามถึงได้ตกหลุมพรางหนิวโหย่วเต๋อแล้ว?” เว่ยซูถาม

เซี่ยโห้วท่าพยักหน้า “เจ้าสามถูกกดดันจนไร้ทางเลือก เพื่อที่จะปกป้องตัวเอง จึงทำได้เพียงร่วมมือกับหนิวโหย่วเต๋อ หารู้ไม่ว่าถูกกดดันให้จนตรอกแล้ว ขี่หลังเสือแล้วลงยาก ตั้งแต่เขาเริ่มร่วมงานกับหนิวโหย่วเต๋อ เจ้ารองรู้แล้วก็ไม่มีทางปล่อยเขาไป ถ้าไม่ใช่เขาตาย ก็เป็นเจ้ารองที่ตาย ระหว่างสองคนนี้ สุดท้ายก็ต้องตายไปคนหนึ่ง” พูดจบก็ลิ้มรสอาหารทะเลอย่างใจเย็น แล้วจิบสุราล้างปาก

เว่ยซูมีหน้าเศร้าสร้อย จ้องเขาครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “นายท่าน ในเมื่อนายท่านรู้ตั้งนานแล้ว ทำไมไม่รีบเตือนให้ทันเวลา?”

เซี่ยโห้วท่าเคี้ยวอาหารพลางตอบว่า “ก็เหมือนที่ข้าบอกก่อนหน้านี้ เดิมทีข้าไม่อยากเข้ามาแทรกแซงเรื่องพวกนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะพระปีศาจหนานโปกลับมาอีกครั้ง ข้าก็จะไม่บอกเรื่องพวกนี้กับเจ้าเช่นกัน ตอนนี้เจ้าคงไม่ได้มาอยู่ตรงหน้าข้าด้วย ที่จริงเจ้ากับข้าล้วนเข้าใจ หลังจากข้าตายไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครได้นั่งตำแหน่งหัวหน้าตระกูล ก็ล้วนคิดหาทางกุมอำนาจของตระกูลเซี่ยโห้วอยู่แล้ว เรื่องพี่น้องฆ่ากันเองก็เลี่ยงไม่ได้ ข้าขัดขวางได้ชั่วคราว ไม่อาจขัดขวางไปได้ตลอด สุดท้ายก็ต้องตายอยู่ดี ข้ายื่นมือมาแทรกแซง ผลที่ตามมาก็มีแต่จะทำให้พวกเขาแค้นฝังลึกกว่าเดิม ผลจากการควบคุมไว้ เวลาปะทุขึ้นมาก็รุนแรงยิ่งกว่าเดิม ข้าจะใช้อารมณ์ไม่ได้ เกิดอยู่ในตระกูลแบบนี้ เป็นทั้งวาสนาทั้งเคราะห์ของพวกเขา”

เว่ยซูไม่รู้ว่าควรจะพูดดีมั้ยว่าเขาไร้น้ำใจ ถามว่า “นายท่านหมายความว่า คุณชายรองไปจวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาลครั้งนี้มีอันตราย?”

เซี่ยโห้วท่าชำเลืองเขาแวบหนึ่ง “หรือเจ้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายล่ะ?”

“เขาจะกล้าลงมือกับหัวหน้าตระกูลเซี่ยโห้วเชียวเหรอ? ต่อให้เป็นประมุขชิงก็ไม่กล้าทำอย่างนี้” เว่ยซูตอบ

เซี่ยโห้วท่าบอกว่า “นั่นเป็นเพราะประมุขชิงไม่รู้ถึงความขัดแย้งระหว่างพวกเขาพี่น้อง ไม่รู้ถึงศักยภาพของเจ้ารอง ไม่รู้ถึงสภาพการจัดระเบียบกำลังภายในตระกูลเซี่ยโห้ว ไม่อย่างนั้นเจ้าคิดว่าประมุขชิงจะพลาดโอกาสนี้เหรอ? หนิวโหย่วเต๋อที่แอบแทรกแซงกลับรู้อยู่แก่ใจ ก่อนหน้านี้พูดไปตั้งเยอะ เจ้ามองไม่ออกเชียวเหรอ? ข่าวลือพวกนั้นพุ่งเป้าไปที่เจ้าสาม หนิวโหย่วเต๋อกำลังปล้นอำนาจจากเจ้าสามไง!”

“ใช่ว่าคุณชายรองจะไม่เคยสงสัยว่าข่าวลือเป็นฝีมือหนิวโหย่วเต๋อ แต่บ่าวไม่เข้าใจ ว่าหนิวโหย่วเต๋อรู้ได้ยังไงว่าพวกเรารู้ว่าเขาเกี่ยวข้องกับหกลัทธิแล้วปล่อยข่าวลือ หรือว่าคุณชายสามเผยพิรุธ?” เว่ยซูไม่เข้าใจ

เซี่ยโห้วท่าถอนหายใจแล้วอธิบายว่า “เจ้าสามไม่ถึงขั้นทำลายรากฐานของตระกูลเซี่ยโห้วหรอก ถ้าเขาไม่มีแม้แต่พื้นฐานข้อนี้ ตอนแรกข้าไม่ส่งเขาไปรับตำแหน่งที่นั่น ส่วนคำถามที่ว่าหนิวโหย่วเต๋อรู้ได้ยังไง ก็มีอยู่สองเหตุผลเท่านั้น หนึ่งก็คือในตระกูลมีหนอนบ่อนไส้ สองก็คือฝั่งหนิวโหย่วเต๋อมีคนเก่ง พวกเราเผยพิรุธนิดหน่อย อีกฝ่ายก็มองออกแล้ว ตอนนี้ลองย้อนกลับมาศึกษาขั้นตอนที่หนิวโหย่วเต๋อผงาดขึ้นมา ช่วงอยู่ที่ตลาดสวรรค์ เขาอยู่ตกในสถานการณ์ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่อาศัยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อเอาตัวรอด นั่นต่างหากที่สอดคล้องกับลักษณะของหนิวโหย่วเต๋อมากกว่า แต่หลังจากมาอยู่ตลาดผี ก็เหมือนจะดำเนินการตามแนวโน้มสถานการณ์มาโดยตลอด ในทิศทางใหญ่ผิดพลาดน้อยมาก ดังนั้นข้าเทใจว่าข้างกายเขาน่าจะมีคนเก่งจอมวางแผนคอยชี้แนะ เริ่มตั้งแต่ที่เจ้ารองถูกหลอกให้โค้นล้มอิ๋งจิ่วกวง จนกระทั่งหลอกใช้นางหนูเฉิงอวี่ให้ตัวเองลงหลักปักฐานที่แดนรัตติกาล จนมาถึงแผนการกำจัดเจ้ารองในตอนนี้ การเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องนี้ล้วนมีเหตุมีผล เห็นได้ชัดว่าเป็นสถานการณ์ภาพรวมที่เชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่โดยฝีมือคนเก่ง คนที่สามารถวางอุบายแบบนี้ได้ สมองไม่ธรรมดาแน่นอน จะมองพิรุธออกก็ไม่แปลก แน่นอน หนอนบ่อนไส้ก็ตัดทิ้งไม่ได้ เรื่องนี้ข้ากำลังตรวจสอบ แต่ยังไม่พบอะไรน่าสงสัย”

เว่ยซูยังคงรู้สึกว่ายากต่อการทำความเข้าใจ “ตอนนี้หนิวโหย่วเต๋อมั่นคงมากแล้วไม่ใช่เหรอ? อาศัยกำลังทหารแข็งข้อต่อเบื้องบน ทั้งยังมีฮ่าวเต๋อฟางเป็นเกราะกำบัง เกรงว่าแม้แต่ประมุขชิงก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามแตะต้องเขาเช่นกัน ทำไมเขาต้องเคลื่อนไหวแบบนี้อีก บีบให้คุณชายรองกับคุณชายสามฆ่ากันเอง มีข้อดีอะไรกับเขาเหรอ?”

มั่นคงเหรอ?” เซี่ยโห้วท่าวางตะเกียบแล้วหัวเราะเบาๆ “ก็เพราะเขามั่นคงเกินไปนี่แหละ กำลังในมือเขาเติบโตอย่างราบรื่นเกินไปแล้ว ช้าเร็วก็ต้องกลายเป็นพิษภัยในสายตาคนอื่น ในมือเขามีคนเก่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะมองจุดนี้ไม่ออก ถ้าจะเป็นฝ่ายถูกกระทำ ไม่สู้หาโอกาสลงมือก่อนเพื่อความได้เปรียบ! พระปีศาจหนานโปกลับมาแล้ว ดึงดูดความสนใจของคนในใต้หล้า ปิดบังการเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติของเขาได้พอดี อาศัยกำลังของเขาตอนนี้ ตลาดผีของเจ้าสามจะเติมเต็มเขาได้อย่างไร เดิมทีตลาดผีก็เป็นเนื้อที่จ่ออยู่ตรงปากของเขาอยู่แล้ว เขาอยากจะกินเมื่อไรก็กินได้ทั้งนั้น ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลย ไม่ควรค่าให้เขาเคลื่อนไหวใหญ่โต เช่นนั้นเป้าหมายหลักคือใครก็ชัดเจนอยู่แล้ว ใครขวางอยู่บนทางของเขา เขาก็กำจัดคนนั้น ใครคือเนื้อชิ้นใหญ่ที่วางอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็จะกัดคนนั้น ใครอยู่ใกล้เขาที่สุดก็ซวยที่สุด ฮ่าวเต๋อฟางปกป้องหนิวโหย่วเต๋อมาหลายปีขนาดนี้ เกรงว่าจะชักศึกเข้าบ้านเสียแล้ว!”

“หนิวโหย่วเต๋ออยากยึดอาณาเขตของฮ่าวเต๋อฟางเหรอ? อาศัยกำลังของเขาก็คิดจะฮุบอาณาเขตของฮ่าวเต๋อฟาง ไม่รู้จักเจียมตัวเกินไปหรือเปล่า?” เว่ยซูตกใจมาก

“ถ้าได้รับการสนับสนุนจากกำลังทั้งหมดของตระกูลเซี่ยโห้วแล้วยังไงล่ะ?” เซี่ยโห้วท่าถามเสียงเรียบ แล้วยกจอกสุราจิบ

เว่ยซูนั่งตัวตรงทันที เข้าใจกระจ่างในฉับพลัน ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหนิวโหย่วเต๋อต้องปล่อยข่าวลือมาป่วนเรื่องนี้ พอเข้าใจแล้วก็อุทานว่า “เจ้าเวรนี่ช่างมักใหญ่ใฝ่สูง!”

………………