ตอนที่ 1292: ชัยชนะที่ยากลำบาก

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1292: ชัยชนะที่ยากลำบาก

สายฟ้าเคลื่อนไหวรวดเร็วมากจนไม่มีใครตอบสนองได้ทันเวลา สิ่งที่เถี่ยต้าเห็นคือแสงวาบจากสายฟ้า จากนั้นเขาก็ถูกมันกระแทกเข้าทันที

เถี่ยต้าถูกบอลสายฟ้าช็อตตัวชาทันที ผิวของเถี่ยต้าไหม้ดำอย่างรวดเร็วและไม่หลงเหลือแสงสีทองอีกต่อไป ขณะที่ในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นไหม้

ตูม ! เถี่ยต้าทรุดตัวลงที่พื้น มีประกายสายฟ้าที่เกิดจากอานุภาพของสัตว์อสูรหยานหวงวิ่งแปลบปลาบอย่างไม่น่าเชื่อ กระแสไฟฟ้าได้ทำให้เถี่ยต้าไม่อาจทำอะไรได้เลย แม้กระทั่งพลังงานที่อยู่ในตัวก็ยังเคลื่อนไหวได้อย่างเชื่องช้า

สัตว์อสูรหยานหวงส่งเสียงคำรามสั่น ขณะที่วิ่งเข้าไปหาเถี่ยต้าอย่างรวดเร็ว มันยกเท้าขึ้นมาเหยียบเถี่ยต้าอีกครั้ง ดินสีเหลืองกระจายทันทีหลังจากที่มันกระทืบลงไป พื้นที่รอบ ๆ เท้าของมันกลายเป็นหลุมทันที

ในเวลานี้ปราณกระบี่สองสายพุ่งออกมาจากพุ่มไม้ พวกมันวิ่งเป็นริ้วแสงและโจมตีเข้าที่ตาของสัตว์อสูรหยานหวง

พรวด ! พรวด !

เลือดกระเซ็นซ่านทันทีเมื่อปราณกระบี่โจมตีเข้าที่ดวงตาของสัตว์อสูรหยานหวงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ดวงตาของมันกลายเป็นหลุมลึกและมีเลือดไหลออกมา

สัตว์อสูรหยานหวงคำรามอย่างเจ็บปวด ขณะที่เท้ายังคงเหยียบเถี่ยต้าเริ่มผ่อนแรงลง เจี้ยนเฉินใช้ประโยชน์จากในเวลานี้กระโจนออกจากพุ่มไม้และมาถึงข้าง ๆ เถี่ยต้าอย่างรวดเร็วด้วยทักษะมายาพริบตา เขาคว้าเถี่ยต้าก่อนที่จะโยนออกไปให้ไกล

ในช่วงเวลาสั้น ๆ การเคลื่อนไหวระหว่างที่มือของเขาได้คว้าเถี่ยต้านั้นเขาก็สามารถรู้ได้ทันทีถึงสภาพของเถี่ยต้า เขาโล่งใจทันทีหลังจากที่ได้เห็นเถี่ยต้าบาดเจ็บสาหัสแต่ยังห่างไกลจากการเสียชีวิตของเขา ร่างกายของเขามีเพียงสายฟ้าที่น่าตกตะลึงเท่านั้น ทำให้เขาไม่อาจเคลื่อนไหวได้รวดเร็วนัก

สัตว์อสูรหยานหวงที่ตาบดดและเจ็บปวดอย่างรุนแรงจากการที่สูญเสียดวงตาหลังจากที่ถูกแทงทำให้ประสาทสัมผัสของมันตกลงจนถึงจุดต่ำสุด มันเป็นโอกาสทองที่จะจัดการมัน ดังนั้นหลังจากที่โยนเถี่ยต้าไปแล้ว เจี้ยนเฉินก็กระโดดขึ้นไปบนหัวของสัตว์อสูรหยานหวง เขาใช้พลังบรรพกาลและวิถีกระบี่เพื่อควบแน่นปราณกระบี่อย่างบ้าคลั่งที่มือของเขา ก่อนที่จะแทงลงไปยังแผลที่ลึกที่สุดบนหัวของสัตว์อสูรหยานหวง

แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะสามารถแทงปราณกระบี่เข้าไปในหัวของสัตว์อสูรหยานหวงได้ ไม่นานเขาก็รู้สึกว่ามีพลังบางอย่างขวางกั้นไม่ให้เขาแทงลึกลงไปได้มากกว่าสองนิ้วและไม่อาจลึกลงไปได้มากกว่านี้อีก

เจี้ยนเฉินตกใจอย่างเงียบ ๆ กับความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรหยานหวงที่มันมากยิ่งกว่างูเหลือมสีแดงที่เขาเคยพบมาก่อน การโจมตีของเขาได้แทงเข้าไปในร่างของมันแล้วจริง ๆ แต่มันก็ยังเจอกับการขัดขวางเช่นนี้ หากสัตว์อสูรหยานหวงไม่ได้บาดเจ็บอย่างร้ายแรงและแผลยังไม่ได้สมาน เขาอาจจะไม่แทงได้ลึกถึงสองนิ้วและหลบซ่อนได้

แสงสีฟ้าวิ่งพล่านที่เขาของมันอีกครั้ง ทำให้เจี้ยนเฉินต้องเบิกตากว้าง เขาได้เห็นความน่าหวาดกลัวจากสายฟ้าสีฟ้าที่เกิดขึ้นกับเถี่ยต้า ดังนั้นเขาจึงกระโดดลงมาอย่างไม่ลังเล พร้อมกับพยายามกลิ้งหลบการโจมตีของมัน

ประกายสายฟ้าพุ่งออกจากเขาของสัตว์อสูรหยานหวงกระทบกับพื้นดิน อย่างไรก็ตามไฟฟ้าสายนั้นได้ระเบิดพื้นดินจนเกิดหลุมลึก 2 เมตรและยังวิ่งไปตามพื้นดินรอบ ๆ กว่าหนึ่งร้อยเมตร

เจี้ยนเฉินไม่คิดเลยว่าสัตว์อสูรหยานหวงจะรู้จักเล่นแง่กับเขาอย่างนี้ เสื้อผ้าของเขากลายเป็นขี้เถ้าทันทีที่มันไหลมาถึงร่างกายของเขาจนร่างกายของเขาไหม้ดำจากพลังมากมายของมัน ร่างกายของเขาสั่นจากการถูกช็อต

เหมือนกับที่เถี่ยต้าโดน เจี้ยนเฉินก็ทรุดตัวลงเช่นกัน กระแสไฟฟ้าทำให้แขนขาของเขาชา แม้กระทั่งการขยับนิ้วก็ทำได้ยากมาก การโคจรพลังบรรพกาลของเขาก็ทำได้เชื่องช้าเช่นกัน

แม้ว่าสัตว์หยานหวงจะตาบอด แต่มันก็ยังรู้ได้ว่าเจี้ยนเฉินอยู่ไหน มันยกเท้าที่ใหญ่โตของมันกระทืบมาที่เขา ดินกระจายจากจุดที่เขาอยู่มันทำให้เขารู้สึกราวกับมีภูเขาตกลงมากระแทกร่างกายของเขาอย่างหนักหน่วง

ในเวลานี้เจี้ยนเฉินไม่อาจทำอะไรได้เลย สิ่งที่เขาทำได้คือการมองดูเท้าของมันกระทืบมาที่ตัวของเขา

ปัง ! เสียงที่เกิดจากการที่มันกระทืบลงอย่างดัง เจี้ยนเฉินยังไม่ได้ถูกกระทืบที่พื้น แต่ร่างกายของเขายังไม่อาจลุกขึ้นได้

อ๊อก ! เจี้ยนเฉินกระอักเลือดออกมาจากปากและใบหน้าของเขาก็ซีดเซียว เขาเกือบจะกลายเป็นแผ่นแล้ว อวัยวะทั้งหมดของเขาแทบจะบี้แบนและกระดูกส่วนใหญ่ของเขาก็หัก หน้าอกของเขายุบลงและเต็มไปด้วยเลือดจนร่างกายมีแต่เลือด

แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะมีร่างบรรพกาลขั้นที่ 4 เขาก็ไม่อาจรับการโจมตีของสัตว์อสูรหยานหวงตัวนี้ได้ ถ้ามันเป็นผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ แม้ว่าเขาจะเป็นเซียนจักรพรรดิ เขาอาจจะกลายเป็นชิ้นเนื้อได้จากการโดยกระทืบ

เจี้ยนเฉินนอนอยู่ที่พื้นและไม่ขยับเจยื้อน เขาบาดเจ็บสาหัสอย่างมากแม้ว่าจะมีร่างบรรพกาล แต่เขาก็ไม่อาจฟื้นตัวได้ในเวลาสั้น ๆ อย่างไรก็ตามเพราะความมึนงงทำให้สัมผัสของเขาตกต่ำและไม่อาจควบคุมร่างกายได้และพลังบรรพกาลของเขาก็ไหลเวียนได้อย่างช้า ๆ

อย่างไรก็ตามสัตว์อสูรหยานหวงไม่ได้ให้โอกาสเจี้ยนเฉินแม้แต่การหายใจ มันเปิดปากของมันเผยให้เห็นฟันที่แหลมคมสามแถวของมัน เพียงหนึ่งการเคลื่อนไหวมันก็หยิบเจี้ยนเฉินเข้าไปในปากและกัดเข้าไปที่หน้าอกของมันอย่างแรงและเกือบจะฉีกเขาออกเป็นสองส่วน หน้าอกของเขาพ้นออกมาจากปากของมันเพียงสองในห้าส่วนเท่านั้น

เจี้ยนเฉิน ข้ามาแล้ว ! เสียงตะโกนของเถี่ยต้าดังลั่นหลังจากที่ฟื้นตัว เขารีบวิ่งเข้ามาราวกับสายฟ้าและประกายแสงสีทอง ความตั้งใจที่จะต่อสู้ของเขาสูงเทียมฟ้า

ความลึกลับของสงคราม แหลกลาญ ! เถี่ยต้าควงขวานของเขาด้วยมือทั้งสองของเขาและยกขึ้นเหนือหัวของเขา ทันใดนั้นแสงสีทองก็ประกายแวววาวก่อนที่จะกระทบหัวของสัตว์อสูรด้วยแสงสีทอง

พลังของขวานที่ซ่อนอยู่ทำให้ไม่อาจรับรู้แรงกดดันใด ๆ ได้ อย่างไรก็ตามมันก็ดูเหมือนว่าจะหนักมากเมื่อเขาเหวี่ยงมัน พลังงานที่อยู่ภายในนั้นดูเหมือนจะไม่มีสิ้นสุดเหมือนกับคลื่นกระทบชายฝั่ง ในขณะเดียวกันความรู้สึกที่ไม่สมดุลเป็นอย่างมากราวกับเป็นดินปืนที่อาจจะระเบิดได้ทุกเวลา

ขวานทองฟันลงมาบนบาดแผลที่ลึกที่สุดของสัตว์อสูรหยานหวงและทันใดนั้นพลังงานที่น่ากลัวก็ปะทุราวกับระเบิด ขวานทองคำของเขาได้กลายเป็นพลังงานที่ทำลายล้างอย่างดุเดือดบนหัวสัตว์อสูรหยานหวง

พลังงานภายในขวานดูเหมือนจะไม่มีสิ้นสุด พลังงานสีทองไหลออกมาโดยไม่หยุดยั้งเพราะมันปะทุขึ้นจากบาดแผลของสัตวอสูรหยานหวงอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมกับการโจมตีที่เริ่มทำให้บาดแผลลึกลงขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายมันก็ทำลายการป้องกันชั้นสุดท้ายที่อยู่ตรงหัวของสัตว์อสูรหยานหวง ทำให้พลังงานทั้งหลายไหลเข้าไปในหัวของสัตว์อสูรและทำลายสมองของมัน

เพราะการทำลายนี้สัตว์อสูรหยานหวงก็ทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ด้วยตัวที่ใหญ่โตของมันเมื่อถึงพื้นก็ถึงกับทำให้ผืนดินสั่นไหวอย่างรุนแรง

เถี่ยต้าถอนหายใจเมื่อเห็นว่าสัตว์อสูรหยานหวงทรุดตัวลง ใบหน้าของเขาก็พลันกลายเป็นอ่อนเพลียพร้อมพูดพึมพำ ข้าไม่คิดเลยว่าการใช้ -แหลกลาญ จะน่ากลัวขนาดนี้ ข้าสามารถใช้ทำลายมฤตยู, กระหน่ำมิติและทำลายได้หลายครั้งโดยไม่ต้องเสียแรงมาก แต่การใช้แหลกลาญ ได้กินพลังของข้าไปถึงครึ่งนึง ดูเหมือนว่าทักษะที่ลุงเอ่อหยินสร้างขึ้นจะทรงพลังมาก แต่มันก็ใช้พลังมากเหมือนกัน เถี่ยต้าวางขวานของเขาและเดินมาที่หน้าสัตว์อสูรหยานหวง ปากของมันยังคาบเจี้ยนเฉินอยู่มีฟันหลายซี่ที่จมอยู่ในร่างของเจี้ยนเฉิน กล่าวคือร่างของเจี้ยนเฉินได้ติดอยู่กับฟันของมัน มีเพียงครึ่งอกจากด้านล่างเท่านั้นที่อยู่ในปาก ครึ่งอกด้านบนขึ้นไปยังอยู่นอกปากของมัน

เถี่ยต้าย่อตัวลงและเปิดปากสัตว์อสูรหยานหวงและดึงเจี้ยนเฉินออกมาอย่างระวัง เขาถามด้วยความกังวลว่า เจี้ยนเฉิน เจ้าไม่เป็นไรนะ ?

เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างขมขื่น เขาพูดด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส ครั้งนี้ข้าเลยไม่ได้ทำอะไรมาก ข้าต้องเข้าไปในวัตถุมิติเพื่อรักษาตัวเอง จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ไผ่จิตวิญญาณม่วงที่อยู่ไกล ๆ ว่า เถี่ยต้า มีหินสีม่วงอยู่ในกอไผ่ หินนั่นสำคัญมาก ช่วยไปเก็บให้ข้าด้วย

เถี่ยต้ามองไปที่หินหยินนรกอย่างสงสัย เขาไม่รู้ว่าหินนั้นมีค่าอย่างไง มันกินไม่ได้และไม่อาจเอามาบ่มเพาะได้ เขาไม่เชื่อว่าเจี้ยนเฉินต้องการเงินเช่นกัน อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ลังเล แม้ว่าเขาจะสับสนอย่างมาก เขาเดินไปที่หินทันทีที่เจี้ยนเฉินพูดจบ

เมื่อเถี่ยต้ากลับมาพร้อมกับวางหินหยินนรกข้างตัวเจี้ยนเฉิน มันไม่ได้มีขนาดเท่ากำปั้นเหมือนกับตอนแรกอีกต่อไป แต่มันใหญ่กว่าที่เขาคิดเอาไว้มากและมันก็สูงเท่ากับครึ่งตัวคน ส่วนใหญ่ของมันถูกฝังอยู่ในดินและมีเพียงส่วนเท่ากำปั้นเท่านั้นที่โผล่ออกมาให้เห็น

เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างมีชัยหลังจากที่ได้รับหินหยินนรก ในเวลาเดียวกันเขาก็พยายามที่จะข่มความดีใจอยู่ภายใน สุดท้ายเขาก็ได้รวบรวมวัตถุดิบสำหรับหลอมกระบี่ม่วงฟ้าได้ครบแล้ว