ตอนที่ 1849 ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผล

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันเผยรอยยิ้ม “อย่าได้เข้าใจผิด ข้าแค่ผ่านทางมาและไม่ได้รู้สี่รู้แปดอะไรด้วยเลย”

หลู่เซียนหมิงยิ้มเหยียดหยาม “ในเมื่อเจ้ายังคิดจะดื้อรั้น… จับกุมตัวเขาซะ!”

เขาต้องการรู้ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้ติดตามของเขากันแน่ เพราะงั้นจึงไม่ได้สั่งให้สั่งสารหลิงฮันในทันที

“ขอรับ!” ผู้ติดตามทั้งเจ็ดคนน้อมรับคำสั่งและลงมือโจมตีใส่หลิงฮันทันที

หลิงฮันยังคงกินเนื้อย่างต่อและกล่าว “ข้าไม่ได้ทำอะไรจริงๆ บางทีคนของเจ้าอาจจะพบเห็นสตรีงดงามผ่านทางมา เลยเผลอตามนางไปก็ได้ไม่ใช่รึไง?”

“ไม่ต้องพูดมาก” ผู้ติดตามทั้งเจ็ดคนคำราม และกวัดแกว่งอาวุธด้วยจิตสังหารโหดเหี้ยม

หลิงฮันไม่แยแสแม้แต่น้อย คนเหล่านี้มีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับโลกียนิพพานเท่านั้น แถมยังมีพลังต่อสู้เพียงแค่ทั่วไปอีก สำหรับเขาแล้วต่อให้คู่ต่อสู้เป็นราชาแห่งยุค หรือจักรพรรดิ เขาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย

ทั้งเจ็ดคนปิดล้อมและโจมตีจากทุกทิศทาง โดยที่หลิงฮันทำเพียงแค่ขยับตัวหลบหลีก

พรึบ!

เพียงแต่ทันใดนั้นเอง ปรารดาบคลื่นหนึ่งก็ได้พุ่งทะยานขึ้นมาจากพื้นดินบริเวณที่หลู่เซียนหมิงกำลังยืนอยู่ คลื่นดาบที่พุ่งขึ้นมาส่องแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วรัศมีความสูงหมื่นฟุต

คลื่นดาบนี้คือการลอบโจมตีอย่างไม่ต้องสงสัย นักฆ่าที่ทำการลอบสังหารนั้นสามารถหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่ได้ โดยที่แม้แต่หลิงฮันก็ไม่สังเกตเห็น และฉวยโอกาสในช่วงชุลมุนลอบจู่โจมได้อย่างช่ำชอง

หลู่เซียนหมิงเค้นเสียงดูถูก หนึ่งคนทำหน้าที่ดึงดูดความสนใจ ในขณะที่อีกหนึ่งคนแอบลอบโจมตีงั้นรึ? คิดว่าแผนการแบบนั้นจะทำอะไรเขาได้รึไง?

‘พรึบ’ เล่มดาบที่พุ่งเข้ามาพร้อมกับปราณดาบ มีตราประทับสีเขียวเข้มสลักเอาไว้ ซึ่งก็คือยาพิษระดับสูง

หลู่เซียนหมิงสะบัดมือ ‘ฉัวะ’ ดาบรูปทรงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวปรากฏขึ้นมาในมือของเขา และปัดป้องดาบที่ฟันเข้ามาได้ทันท่วงที คลื่นกระแทกที่เกิดการการปะทะของดาบทั้งสอง ระเบิดออกราวกับคลื่นมหาสมุทรพร้อมกับถาโถมไปทั่วพื้นที่โดยรอบ

‘ตุบ ตุบ ตุบ’ ร่างของหลู่เซียนหมิงถอยร่นไปด้านหลัง เนื่องจากนักฆ่าที่เป็นคนลอบโจมตีนั้น มีพลังต่อสู้ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา

และในจังหวะนั้นเอง ปราณดาบอีกคลื่นก็ทะลวงขึ้นมาจากพื้นดินอีกครั้ง นักฆ่าคนที่สองปรากฏตัว และกวัดแกว่งดาบเข้าใส่ช่วงอกของหลู่เซียนหมิง

การลอบโจมตีครั้งนี้เองก็เหมาะเจาะเช่นกัน เล่มดาบถูกสะบั้นเข้าใส่หลู่เซียนหมิง ในจังหวะที่การป้องกันกำลังอ่อนแออยู่พอดี

“ฮึ่ม!” หลู่เซียนหมิงไม่หวั่นเกรงและผลักมือซ้ายไปด้านหน้า ‘ครืนน’ ปราณก่อเกิดพรั่งพรูออกมาจากร่างของเขา และควบแน่นรวมกับเป็นโล่แสง

ปัง!

เล่มดาบถูกโล่แสงป้องกันเอาไว้ได้ เพียงแต่เมื่อนักฆ่าคนที่สองส่งเสียงคำราม อำนาจของดาบก็ทะยานสูงขึ้นหลายร้อยเท่า จนโล่แสงปรากฏรอยแตกร้าวและพังทลายลงในที่สุด

“ไสหัวไปซะ!” หลู่เซียนหมิงสูดหายใจตั้งหลักและกวัดแกว่งดาบรูปทรงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวในมือ

นักฆ่าคนที่สองหลบหลีกและขยับเป็นจังหวะล่าถอยไปด้านหลัง

‘พรึบ’ ปราณดาบคลื่นที่สามยังคงถาโถมเข้ามาพร้อมกับร่างของนักฆ่าคนที่สาม ครั้งนี้เป้าหมายของการโจมตีคือทิศทางด้านซ้ายของหลู่เซียนหมิง

ใบหน้าของหลู่เซียนหมิงเปลี่ยนสีทันใด

ถึงแม้การลอบโจมตีสองครั้งที่ผ่านมาจะดูยาวนาน แต่ในความเป็นจริงมันเกิดขึ้นในระยะเวลาที่แทบจะพร้อมๆกัน ทำให้ตอนนี้ปราณก่อเกิดของเขาไม่สามารถควบแน่นมาเป็นโล่อีกครั้งได้ทัน

หลู่เซียนหมิงรู้ว่าดาบที่ใช้ลอบโจมตี คือดาบที่ถูกเคลือบเอาไว้ด้วยหญ้าสลายวิญญาณ หากเพียงแค่ถูกปลายดาบเสียบแทง ไม่ใช่แค่ร่างกายเท่านั้นที่จะถูกทำลาย แต่แม้กระทั่งดวงวิญญาณก็จะถูกทำให้เน่าเปื่อยไปด้วยในพริบตา

นี่ชีวิตของเขาจะจบสิ้นแล้วรึ?

เมื่อมองไปยังปราณดาบที่พุ่งเข้ามา หลู่เซียนหมิงก็ทำได้เพียงรู้สึกขมขื่นในจิตใจ

“นี่ พวกเจ้าเจ้าจะรักหรืออยากฆ่ากันข้าไม่สนใจหรอกนะ แต่ช่วยอย่างใช้ข้าเป็นเหยื่อล่อจะได้รึเปล่า?” หลิงฮันปรากฏตัวด้านหน้าหลู่เซียนหมิง และคว้ามือไปยังดาบพิษ

“อย่าได้ทำเชียว มันมีพิษ!” หลู่เซียนหมิงรีบสื่อสารผ่านสัมผัสสวรรค์ แต่ก็ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว

หลิงฮันทำเป็นไม่ได้ยิน และคว้าหมับไปที่ใบดาบ “เจ้ากำลังพูดกับเจ้าอยู่นะ! เจ้าไม่รู้รึไงว่าการที่ถูกถามแล้วไม่ตอบนั้นเป็นเรื่องที่เสียมารยาทขนาดไหน โดยเฉพาะกับเจ้าที่เป็นคนใช้ข้าเป็นตัวล่อด้วยแล้ว”

“รนหาที่ตาย!” ดวงตาของนักฆ่าคนที่สามส่องประกายโหดเหี้ยม กล้าใช้มือเปล่าสัมผัสดาบพิษงั้นรึ? เจ้าอย่าได้คิดว่าจะมีชีวิตรอด!

แต่ก็สมควรแล้ว ใครใช้ให้เจ้าเข้ามาสอดในจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มกัน?

“ตายไปซะ!” นักฆ่าอีกสองคนเองก็กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ อันที่จริงแผนการลอบสังหารของพวกเขาสมควรจะสมบูรณ์แท้ๆ แต่กลับถูกขัดขวางเสียได้

ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ พวกเขาคงไม่ใช้หลิงฮันเป็นตัวล่อเพื่อเบี่ยงความสนในของหลู่เซียนหมิงหรอก

ทางด้านของผู้ติดตามทั้งเจ็ดนั้น หลังจากชะงักแน่นิ่งมาสักพัก พวกเขาก็ตั้งสติได้และลงมือทันที แน่นอนว่าเป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่หลิงฮัน แต่เป็นนักฆ่าอีกสองคน

“อะไรกัน ทำไมเจ้าถึงไม่เป็นอะไรเลย!” นักฆ่าคนที่สามจ้องมองหลิงฮันด้วยดวงจาเบิกกว้าง นี่เจ้าเป้นสัตว์ประหลาดรึไงกัน ทั้งๆที่จับดาบพิษอยู่แท้ๆแต่เหตุใดร่างกายของเขาถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

หลิงมองหันมองและกล่าว “ทำไมข้าจะต้องเป็นอะไรด้วย?”

เมื่อพบว่ามีบางอย่างไม่ปกติ นักฆ่าคนที่สามรีบดึงดาบเพื่อล่าถอยอย่างรวดเร็ว จะอย่างไรเขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องเสียเวลาปะทะกับหลิงฮันอยู่แล้ว เพราะเป้าหมายหนึ่งเดียวของพวกเขาคือหลู่เซียนหมิง

ที่มือของหลิงฮันมีอำนาจของเพลิงเก้าสวรรค์ปกคลุมเอาไว้ ด้วยการที่มีอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ระดับราชานิรันดร์คอยคุ้มกัน มีรึที่พิษจะลุกลามเข้าสู่ร่างกายของเขาได้?

หลิงฮันกำดาบเอาไว้ในมืออย่างแน่นหนา ทำให้นักฆ่าคนที่สามไม่สามารถดึงมีดเพื่อล่าถอยได้

เขากล่าว “จะรีบไปไหนกัน? ไหนเจ้าสองอธิบายมาสิว่าทำไมถึงใช้ข้าเป็นตัวล่อ?”

นักฆ่าคนที่สามร้องหายโดยไม่มีน้ำตา เขาไม่ควรนำหลิงฮันเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเลยจริงๆ เพราะนอกจากคำพูดของอีกฝ่ายจะทำให้ประสาทเสียแล้ว พลังต่อสู้ของแข็งแกร่งเป็นอย่างมากด้วย

ทางด้านของหลู่เซียนหมิงนั้น เขายังไม่รีบลงมือโจมตีแทรก และเลือกที่จะดูการสนทนาที่น่าขบขันของหลิงฮันกับนักฆ่าคนที่สามต่อไปก่อน

“แต่ข้าก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล ขอแค่เจ้าชดใช้ข้ามาด้วยแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับยี่สิบ หรือแร่โลหะกึ่งนิรันดร์ ข้าก็ยินดีที่จะลืมสิ่งที่เจ้าทำกับข้าเอาไว้” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ำเสียงชอบธรรม

“สหาย ถ้าเจ้าช่วยข้าจัดการสามคนนี้ ข้าจะตอบแทบด้วยรางวัลที่เจ้าจะต้องพึงพอใจ!” หลู่เซียนหมิงรีบเอ่ยแทรก

“ไม่ๆๆ ทางข้าเองก็ยินดีจะชดใช้เช่นกัน!” นักฆ่าคนที่สามรีบกล่าวแย้งออกมา จากการที่หลิงฮันสามารถต้านทานพิษบนใบมีดของเขาได้นั้น ทำให้เขารับรู้ได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายมีพลังต่อสู้ที่ยากจะหยั่งถึงขนาดไหน