บทที่ 2033 วุ่นวายใหญ่โต

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

หวังลั่วพลิกมือหยิบโล่ขึ้นมาบังหลัง มีเสียงต้านลูกธนูดังโครมครามหลายครั้ง อาศัยแรงเร่งความเร็วหนีไป

เขารู้เช่นกัน ว่าตอนนี้คนที่ช่วยเขาได้มีเพียงฮ่าวเต๋อฟาง จึงรีบหยิบระฆังดาราออกมาติดต่อกำลังพลสายตระกูลฮ่าวให้ช่วยเหลือ เขาย่อมไม่ลืมที่จะติดต่อฮ่าวเต๋อฟางเองโดยตรง เพียงแต่ต้องหลีกภัยครั้งนี้ไปก่อน ถึงจะมีโอกาสรอดชีวิต!

กำลังพลกองทัพองครักษ์ตามมาจากสี่ด้านแปดทิศกำลังยิงธนูตามไปอย่างหนาแน่นภายใต้ม่านราตรี ยังมีอีกกลุ่มที่รีบเข้ามาถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ที่จริงพอเห็นหวังลั่ว ทั้งยังมีสภาพของผังอวี้เหนียงในตอนนี้ คนที่รู้เรื่องความสัมพันธ์อันคลุมเครือของทั้งสองก็พอจะเข้าใจแล้ว หวังลั่วทำตัวออกนอกลู่นอกทางแล้ว!

หวงฝู่จวินโหรวกอดผังอวี้เหนียง รีบดึงเสื้อผ้าขึ้นมาบนไหล่นางแล้ว

ผังเสี้ยวเสี้ยวพุ่งเข้ามากอดผังอวี้เหนียง แล้วถามอย่างร้อนใจ “พี่สาว ท่านไม่เป็นอะไรนะ?”

ผังอวี้เหนียงกอดน้องสาวพลางร้องไห้อย่างปวดใจ ผังเสี้ยวเสี้ยวก็ร้องไห้ตามไปด้วยเช่นกัน

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” แม่ทัพกองทัพองครักษ์คนหนึ่งถามเสียงต่ำ

หวงฝู่จวินโหรวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ตวาดตอบว่า “เจ้าไปถามเดรัจฉานนั่นเอาเองสิ ถ้าจับเขาได้ ข้าจะสับเขาเป็นหมื่นชิ้นพันชิ้น!” นี่เป็นคำพูดเพราะอารมณ์โกรธ นางมีอำนาจอะไรไปสับร่างแม่ทัพใหญ่ตำหนักสวรรค์เป็นหมื่นชิ้นพันชิ้นล่ะ?

โดยพื้นฐานก็พอจะเข้าใจแล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แม่ทัพคนนั้นรีบหยิบระฆังดาราออกมาติดต่อฮวาอี้เทียน

คนที่เหาะขึ้นฟ้ามามุงดูเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทุกที่กำลังกระซิบกระซาบกัน คนที่มาทีหลังถามคนที่มาก่อนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

แม้คนส่วนใหญ่จะไม่ได้เห็นรายละเอียด แต่การที่ผังอวี้เหนียงร้องไห้อย่างปวดใจ กอปรกับหวังลั่วหนีไป ทั้งยังมีกองทัพองครักษ์ไล่จับคนร้าย ก็พอจะเดาออกแล้วว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร

มีคนไม่น้อยแอบพึมพำในจ เพราะต่างก็รู้ว่าหวังลั่วชอบผังอวี้เหนียง แต่การที่หวังลั่วใช้วิธีการแข็งกร้าวก็อาจจะเกินไปหน่อย อย่างไรเสียผังอวี้เหนียงก็เป็นบุตรสาวของจอมพลสายเถาะ ต่อให้หวังลั่วเป็นลูกน้องคนสนิทของฮ่าวเต๋อฟาง แต่ก็ทำอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าจะรังแกกันก็ไม่ควรรังแกอย่างนี้

มีบางคนแอบรู้สึกขำ เกิดเรื่องวุ่นวายอย่างนี้ขึ้นแล้ว ต่อไปจะให้ผังก้วนเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เกรงว่าฮ่าวเต๋อฟางคงจะต้องปวดหัวแล้ว

ในที่พักของตระกูลผัง จาหรูเยี่ยนลบเครื่องประทินโฉมแล้ว กำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งและปล่อยให้สาวใช้ถอดเครื่องประดับศีรษะให้ ผมงามสยายตกลงประบ่า เพ่งมองใบหน้างามของตัวเองในกระจก นางแอบถอนหายใจตอนลูบริ้วรอยตรงหางตา สิ้นเปลืองกำลังวังชาไปมากขนาดนั้น ใช้ของดีไปมากขนาดนั้น แต่ก็ยังต้านทานความโหดร้ายของกาลเวลาไม่ไหว

จนกระทั่งนางได้รับข้อความจากระฆังดาราของอี๋เหนียงสาม กอปรกับได้ยินเสียงต่อสู้อึกทึกครึกโครมด้านนอก นางก็โกรธจนขนพองทันที ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าซีดเผือด แล้วรีบหยิบระฆังดาราติดต่อทหารอารักขาที่อยู่ด้านนอก ว่าให้จับตัวหวังลั่ว แล้วฆ่าเขาเสีย!

จากนั้นก็ไม่สนใจจะแต่งเติมเครื่องประทินโฉมบนใบหน้าแล้ว พุ่งออกไปในขณะที่ปล่อยผมยาวสยายอย่างนี้ เรียกคนแล้วรีบไปยังที่เกิดเหตุ

ในลานบ้านของตระกูลหวงฝู่ ได้ยินเสียงต่อสู้ดังแว่วมา อีกทั้งบนฟ้ายังมีคนเหาะผ่านแล้วใช้คลื่นพลังอิทธิฤทธิ์แทรกซึมลงมาด้วย หวงฝู่เยี่ยนที่ทำกิจกรรมระหว่างชายหญิงเสร็จแล้วกำลังนอนตัวเปลือยพูดคุยและกอดกับหานลี่ เขาพลันลุกนั่งอย่างระแวงสงสัย ยังมีคนกล้าก่อเรื่องที่นี่ด้วยหรือ?

หานลี่ลุกขึ้นตามเช่นกัน ถามอย่างสงสัยว่า “ด้านนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ?”

“เกิดเรื่องขึ้นแน่นอน!” หวงฝู่เยี่ยนรีบลุกขึ้น แต่งตัวอย่างฉุกละหุกแล้ววิ่งออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ศาลาบนภูเขาพังแล้ว ต้นไม้แถบหนึ่งล้มกระจัดกระจายเพราะถูกคลื่นจากพลังอิทธิฤทธิ์ที่กำลังต่อสู้กัน

กลุ่มคนที่ล้อมดูโดยรอบกระจายตัวออก จาหรูเยี่ยนที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงนำคนตามมาถึงแล้ว พอเห็นลูกสาวกอดกันร้องไห้ท่ามกลางฝูงชน จาหรูเยี่ยนก็รู้สึกแทบเสียสติ เพิ่งเข้าไปเรากับคนบ้า ใช้สองมือประคองผังอวี้เหนียง “อวี้เหนียง อวี้เหนียง แม่ทำผิดต่อลูก แม่ทำผิดต่อลูก แม่ปกป้องเจ้าไม่ได้!”

ตอนนี้ฮวาอี้เทียนก็รีบตามมาถึงแล้วเช่นกัน ถามเสียงต่ำว่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

จาหรูเยี่ยนราวกับสิงโตตัวเมียที่ถูกยั่วโมโห หันขวับกลับมามอง พุ่งไปตรงหน้าฮวาอี้เทียน ใช้มือกระชากคอเสื้อ แล้วชี้หน้าคำรามด่าฮวาอี้เทียน “ฮวาอี้เทียน เจ้าปกป้องพวกเราอย่างนี้เหรอ? พวกเจ้ามัวไปทำอะไรกิน!”

ฮวาอี้เทียนถูกด่าจนเถียงไม่ออก เพราะความจริงก็เป็นอย่างนั้น เขาบกพร่องต่อหน้าที่ไม่มากก็น้อย ยิ่งไปกว่านั้น พอเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นคนเป็นแม่จะโมโหก็พอเข้าใจได้

ฮวาอี้เทียนไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้แต่ต้องนางด้วย เอียงหน้าบอกใบ้เล็กน้อย มีคนก้าวขึ้นมาจับจาหรูเยี่ยนแยกออกไปทันที แต่จาหรูเยี่ยนยังคงชี้หน้าด่าฮวาอี้เทียน!

ฮวาอี้เทียนหันตัวมาแล้วเงยหน้าขึ้น มองไปบนท้องฟ้ายามราตรี ในดวงตาฉายแววสังหาร หวังลั่ว!

กองทัพองครักษ์ไม่ได้มีหน้าที่ปกป้องพวกชนชั้นสูงอย่างเดียว ที่จริงแล้วหน้าที่ตอนอยู่ที่นี่ก็คือทำข้อตกลงร่วมกับปราสาทดำเนินนภาและปราสาทดำเนินธารา ป้องกันไม่ให้คนเข้ามาทำเลยเถิด แน่นอนว่าควบหน้าที่คุ้มกันที่นี่ด้วยเช่นกัน มิหนำซ้ำพื้นที่ของที่นี่ก็กว้างใหญ่มาก เป็นไปไม่ได้ที่จะสะสมกำลังทหารไว้ทั่วทุกที่ ทำได้เพียงกระจายกำลังพลเป็นเครือข่าย ป้องกันไม่ให้มีคนมาก่อกวน

กฎระเบียบนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว คนที่ก่อเรื่องที่นี่เมื่อถูกจับได้แล้วก็จะฆ่าไม่ละเว้น ไม่มีใครกล้าก่อเรื่องที่นี่ แต่หวังลั่วดันสร้างเรื่องที่นี่แล้ว มองไม่เห็นใครในสายตาเลยจริงๆ!

“ประกาศให้คนข้างนอกดูหรือยัง?” ฮวาอี้เทียนถามเสียงเย็น

แม่ทัพที่อยู่ข้างๆ ตอบว่า “แจ้งให้สกัดจับกลุ่มแล้วขอรับ”

“ถ้าจับได้แล้ว ฆ่าไม่ละเว้น!” ฮวาอี้เทียนกล่าวอย่างเย็นชา เดิมทีเขาไม่ใช่คนบุ่มบ่ามขนาดนี้ ถ้าหวังลั่วยอมให้จับแต่โดยดี เขาก็จะสืบสวนให้ชัดเจนแน่นอน แต่นึกไม่ถึงว่าหวังลั่วจะหลบหนี เห็นได้ชัดว่ากินปูนร้อนท้อง ยอมต้องออกคำสั่งฆ่า ฆ่าแล้วก็ตายเปล่า!

เขาหันกลับไปมองผู้เสียหายแวบหนึ่ง แล้วสั่งว่า “ไปยืนยันสักหน่อยว่าเรื่องเป็นยังไง!”

คนกลุ่มหนึ่งของกองทัพองครักษ์ก้าวขึ้นมาทันที สอบถามคู่กรณีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

จาหรูเยี่ยนตะโกนว่าอยากจะฉีกร่างหวังลั่วให้แหลกเป็นชิ้นๆ นางหยิบระฆังดาราออกมาติดต่อผังก้วน นางต้องการให้สามีของตัวเองล้างความอัปยศให้ลูกสาว!

สำหรับนาง ยามปกติมีหน้ามีตาไร้ที่สิ้นสุด ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ท่ามกลางฝูงชน อัปยศอดสูเกินไปแล้ว!

ที่จริงต่อให้เปลี่ยนเป็นคนทั่วไป ไม่ว่าใครก็รับเรื่องแบบนี้ไม่ไหวทั้งนั้น!

ส่วนทหารอารักขาของตระกูลผังที่อยู่ข้างนอก พอได้รับคำสั่งนี้ก็รวมตัวกันทันที กำลังพลหลายแสนรวมตัวกันโจมตี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นหวังลั่วหลบหนีออกมา ก็ยิ่งทุ่มสุดตัวเพื่อดักสังหารให้ได้ ใครขวางก็ฆ่าคนนั้น โจมตีฝ่าการป้องกันของทัพเหนือโดยตรง

กำลังพลกองทัพองครักษ์ที่ได้รับคำสั่งก็พุ่งเข้ามาจับตัวเช่นกัน

หวังลั่วจะกล้าตกอยู่ในมือคนพวกนี้ได้อย่างไร รีบร้อนหนีเข้าไปในจุดที่กำลังพลทัพเหนือรวมตัวกันหนาแน่น นี่คือความคิดของฮ่าวเต๋อฟาง สั่งให้เขายอมจำนนต่อทัพเหนือ!

เขาเองก็หนีตายอยู่คนเดียว ไม่มีทางเลือก เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นแล้ว แก้ตัวไม่ขึ้นแล้ว ใครจะตกล้าช่วยเขาล่ะ ต่อให้เป็นคนฝ่ายตัวเองก็ตาม

แม่ทัพคนหนึ่งของทัพเหนือได้รับข้อความจากเบื้องบน ว่าถ้าเป็นไปได้ ก็ให้พยายามปกป้องหวังลั่วไว้ แล้วส่งหวังลั่วออกไปทันที ถ้าไม่ไหวจริงๆ เช่นนั้นก็ให้หวังลั่วรับกรรมเอาเอง

ฮ่าวเต๋อฟางติดต่อไปหาโค่วหลิงซวีโดยตรง ให้โค่วหลิงซวีช่วยสักครั้ง จะให้ช่วยก็ช่วยได้ แต่ถ้าจะให้ทัพเหนือเสียหายมากเกินไปเพราะหวังลั่วคนเดียวก็ไม่คุ้ม

พอแม่ทัพเก็บระฆังดาราแล้วก็สั่งทันทีว่า “ขวางพวกเขาเอาไว้ พยายามปกป้องชีวิตหวังลั่ว!”

และกำลังพลสายตระกูลฮ่าวก็ตามมาปกป้อง นอกจากกำลังพลของผังก้วน ที่เหลือก็ได้รับคำสั่งจากเบื้องบนเช่นกัน พวกเขาทยอยกันพุ่งเข้ามา ขวางกำลังพลของผังก้วนเอาไว้ แล้วพากันเกลี้ยกล่อม เป็นฝ่ายเดียวกันทั้งนั้น อย่าลงไม้ลงมือเลย

กำลังของผังก้วนมีเท่าไรเอง? กำลังพลที่ฮ่าวเต๋อฟางเรียกระดมเร่งด่วนได้มีเยอะเกินไปแล้ว

คนของกองทัพองครักษ์ที่อยู่ที่นี่มีไม่เยอะ ส่วนใหญ่รับหน้าที่ตรวจสอบ เมื่อเจอทัพเหนือรวมตัวกัน พวกเขาก็ไม่มีทางสกัดหวังลั่วไว้ได้ คนของทัพเหนือชิงตัวหวังลั่วไปแล้ว และทัพเหนือก็ส่งกำลังพลกลุ่มหนึ่งมาคุ้มกันพาหวังลั่วออกไปทันที

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

พระปีศาจหนานโปที่ดูอยู่ไกลๆ เห็นว่าเกิดเรื่องวุ่นวาย จึงอดไม่ได้ที่จะถาม

“ไม่ทราบค่ะ น่าจะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!” จั่วเอ๋อร์ตอบ

หนานโปแววตาวูบไหว บอกนางว่า “พวกเจ้ารออยู่ตรงนี้ ข้าจะไปด้วยตัวเองสักเที่ยว เจ้าติดต่อหานลี่ ยืนยันตำแหน่งของหวงฝู่เยี่ยนมาอยู่ตรงไหน!”

“ผู้อาวุโสจะตกอยู่ในอันตราย!” จั่วเอ๋อร์โน้มน้าว

“ถ้าให้รอโอกาสเหมือนที่เจ้าบอก ก็ไม่รู้ว่าต้องรอไปถึงเมื่อไร” หนานโปกล่าว

“พวกเราจะไปกับผู้อาวุโส!” จั่วเอ๋อร์กล่าว

“พาคนไปเยอะกลับจะทำให้สะดุดตา พวกเรารอสนับสนุนอยู่ที่นี่!” หนานโปพูดทิ้งท้าย แล้วถลันตัวเข้าไป

จั่วเอ๋อร์พูดไม่ออก ถ้าทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมแล้ว เจ้าจะออกมาอย่างไรล่ะ?

ต้องบอกเลยว่านี่คือโอกาสดีที่จะปะปนเข้าไปในงานชุมนุมตระการตา ดาราจักรวุ่นวายแล้ว กำลังพลเหาะไปทั่ว ใครก็แยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร หนานโปไม่ลังเลที่จะฉวยโอกาสเข้าไปตอนวุ่นวาย ฝ่าชั้นบรรยายกาศออกไปได้อย่างราบรื่น เข้าไปในดาวดำเนินธาราแล้ว

เขาเองก็ใจกล้ามาก กล้าเข้าไปปะปนอยู่ในสถานการณ์ที่มีกำลังทหารมากมายขนาดนี้ ไม่กังวลเลยสักนิดว่าตัวเองจะออกมาไม่ได้ ถ้าพูดจากอีกมุมหนึ่ง ประสิทธิภาพการทำงานของพวกจั่วเอ๋อร์ทำให้เขาเดือดดาล แต่จนใจที่ตอนนี้เขาไม่มีใครให้ใช้งานได้แล้ว มีแต่ต้องอาศัยคนพวกนี้ ไม่มีทางเลือกเท่าไรนัก ตอนนี้ก็ยิ่งลงมือด้วยตัวเองแล้ว!

พอเข้ามาในดาวดำเนินธารา ก็แอบอยู่ในเมฆแล้วถอดเกราะรบทิ้งทันที ก่อนจะพุ่งออกมาจากเมฆด้วยชุดลำลอง แล้วพุ่งลงไปยังดินแดนพร่างพราวตระการตา

ในดาราจักรวุ่นวายมาก กำลังพลทัพเหนือต้านกำลังพลกองทัพองครักษ์และของตระกูลผังเอาไว้แล้ว

“ส่งคนมา!”

ฮวาอี้เทียนรีบตามไปยังจุดเกิดเหตุ พอถามสถานการณ์ชัดเจนแล้วก็ทวงคนจากทัพเหนือ

ใครจะคิดว่าแม่ทัพของอีกฝ่ายจะกล่าวเสียงต่ำว่า “คนถูกพวกเราจับไปแล้ว พวกเราจะสืบเรื่องนี้ให้ชัดเจนแน่นอน ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางชี้แจงได้ เบื้องบนมีคำสั่งมาแล้วว่าให้คุมตัวหวังลั่วไปสอบสวน ต้องสืบเรื่องนี้จนได้ผลลัพธ์แน่นอน พวกเราเองก็ได้รับคำสั่งให้ทำงานเหมือนกันผู้ตรวจการใหญ่ฮวาอย่าบีบบังคับให้ลำบากใจเลย!”

พอเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ ฮวาอี้เทียนก็รู้แล้วว่าทัพเหนือจงใจปกป้องหวังลั่ว คงเป็นอำนาจเบื้องหลังหวังลั่วที่แสดงบทบาท ไม่อย่างนั้นอาศัยแค่หวังลั่วจะมาบัญชาการทัพเหนือได้อย่างไร

รู้ว่าเอาตัวคนมาไม่ได้แล้ว ฮวาอี้เทียนหยิบระฆังดาราออกมารายงานสถานการณ์ให้เบื้องบนรู้ เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในขอบเขตอำนาจที่เขาสามารถจัดการได้แล้ว ทำได้เพียงส่งต่อให้ตำหนักสวรรค์ตัดสินใจ

อำนาจแต่ละฝ่ายก็ทยอยกันรายงานสถานการณ์ขึ้นไปเบื้องบนเช่นกัน

หวงฝู่จวินโหรวที่ได้คำตอบจากกองทัพองครักษ์เม้มริมฝีปากแน่น ไม่เข้าใกล้คนตระกูลผังที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มอีก

หวงฝู่เยี่ยนก็มาถึงที่เกิดเหตุแล้วเช่นกัน รอจนหวงฝู่จวินโหรวออกมาจากบริเวณที่มีคนของกองทัพองครักษ์ เขาก็กวักมือเรียก แล้วถามเสียงต่ำว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

คำตอบก็เหมือนที่กองทัพองครักษ์ให้มา นางเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง แต่กลับไม่เอ่ยถึงว่าเกี่ยวข้องกับเหมียวอี้

“หวังลั่วนี่ช่างเป็นคนสารเลวเต็มสิบ!” หวงฝู่เยี่ยนด่าเบาๆ แล้วตะคอกหวงฝู่จวินโหรวอีก “เลอะเลือน! เจ้าจะเข้ามาแส่เรื่องนี้ทำไม? นี่เป็นเรื่องที่ตระกูลหวงฝู่เข้ามาแทรกแซงได้เหรอ?” เขาไม่ได้ชื่นชมเลยสักนิดที่หลานสาวช่วยผังอวี้เหนียง กลับเดือดดาลด้วยซ้ำ ความเป็นความตายของผังอวี้เหนียงเกี่ยวอะไรกับตระกูลหวงฝู่ล่ะ? นี่ไม่เกี่ยวข้องกับคุณธรรม ในสายตาคนบางคน กติกาสำคัญกว่าคุณธรรม “ไสหัวกลับไปรอแต่โดยดี!”

“รับทราบ!” หวงฝู่จวินโหรวเอ่ยรับ แล้วก้มหน้าเดินจากไป

ระหว่างทางกลับนางรู้สึกสับสนมาก นางอดไม่ได้ที่จะนึกเชื่อมโยงไปถึงคำพูดของเหมียวอี้ก่อนหน้านี้ที่บอกให้นางหลีกเลี่ยงผังอวี้เหนียง มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้เสียที่ไหนกัน พอบอกให้หลีกเลี่ยงผังอวี้เหนียง ก็เกิดเรื่องกับผังอวี้เหนียงเลย ตอนนี้นางสงสัยมากว่าเรื่องนี้เป็นแผนการของเหมียวอี้!

………………