“ผ-ผู้อาวุโส เรามาถึงแล้ว!” เมื่อเฉินเชาเห็นว่าเย่หยวนกำลังทำหน้าเครียดคิดอะไรบางอย่างอยู่เขาก็ตัดสินใจกล่าวเรียก
เย่หยวนตั้งสติกลับมาได้ก่อนจะหันไปมองฉินเชาด้วยรอยยิ้ม “เจ้ากลัวแล้ว?”
ฉินเชานั้นมองดูด้วยใบหน้าอับอายยิ้มตอบกลับมา “ก-ก็นิดหน่อยขอรับ เราไปกันแค่นี้ มัน… มันไม่ต่างการรนหาที่ตายเลย ข้ารู้ดีว่าผู้อาวุโสท่านมีฝีมือเก่งกาจล้ำแต่คนที่อยู่ในวังสวรรค์เฝ้านั้นมันมียอดฝีมืออาณาจักรเต๋าสวรรค์แปดลายขึ้นปลายมากมาย! แม้ว่าข้าจะไม่กลัวตาย แต่ไปตายเปล่าแบบนี้มันก็ดูไม่ค่อยจะมีค่าเท่าใด”
เย่หยวนพยักหน้า “แน่นอน ตายเช่นนี้ย่อมจะไม่มีค่าใด”
ฉินเชาที่ได้ยินจึงผงะหันกลับมาถาม “ความหมายของผู้อาวุโสนี้… คือท่านจะไม่ไปแล้ว?”
เขานั้นกลัวและกังวลอย่างมาก หรือว่าผู้อาวุโสเองก็จะกลัวขึ้นมา?
แต่เย่หยวนกลับหัวเราะขึ้นมาเมื่อได้ยิน “แต่ใครบอกเจ้ากันเล่าว่าเราจะตาย?”
ฉินเชาได้แต่ต้องเบิกตากว้างขึ้นมา “หรือว่าผู้อาวุโสท่านจะซ่อนกองกำลังไว้? ฮ่าๆ ข้าพูดอะไรของข้า… มีหรือที่คนระดับผู้อาวุโสจะไปทำเรื่องรนหาที่ตายโง่ๆ เช่นนั้นได้?”
เย่หยวนได้แต่ส่ายหัวออกมา “กองกำลังใดเล่า? เจ้าคิดมากไปแล้ว ไปเถอะ”
ที่แห่งนี้มันเปี่ยมล้นไปด้วยพลังงานวิญญาณพร้อมด้วยวังใหญ่สูงล้ำเหนือเมฆดูลึกลับทำให้ผู้คนต้องรู้สึกประหลาดใจ
นี่แห่งนี้มันคือวังสวรรค์เฝ้าที่ทุกผู้คนต่างหวาดกลัว!
“หยุด! พวกเจ้าเป็นใครกันถึงคิดมาบุกรุกวังสวรรค์เฝ้า?”
หลายเงาร่างเดินออกมาหยุดพวกเย่หยวนทั้งสองไว้
คนทั้งหลายนี้เป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นกลาง ใช่แล้ว พวกเขานี้คือมนุษย์!
เย่หยวนนั้นหันไปมองคนทั้งหลายนั้นก่อนจะขมวดคิ้วแน่นหันไปหาฉินเชา “ทำไมถึงได้มีมนุษย์ในวังสวรรค์เฝ้ากัน?”
ฉินเชานั้นมองดูเย่หยวนราวกับได้เห็นตัวประหลาดก่อนจะตอบกลับไป “ผู้อาวุโสไม่รู้หรือว่ามันมียอดฝีมือฝ่ายมนุษย์หลายคนก้มหัวรับใช้เผ่าเทวา? พวกมันทั้งหลายนี้ยอมกลายเป็นลูกน้องขี้ข้าของเผ่าเทวาทำเรื่องราวไม่สนใจมนุษย์คนอื่น พวกมันนี้คือผู้ทรยศหักหลังเผ่าพันธุ์!”
ยามคนหนึ่งที่ได้ยินจึงร้องตอบกลับมาอย่างไม่พอใจ “โอหัง! เผ่าเทวานั้นเป็นผู้ส่งสารจากสวรรค์ ตัวตนเหนือล้ำทุกชีวิต! การรับใช้พวกท่านนั้นคือสิ่งที่ทุกชีวิตควรทำ! เด็กน้อยที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเช่นเจ้ากล่าวออกมาเช่นนี้ มันมีโทษตายแล้ว!”
ฉัวะ!
เสียงของเขานั้นยังไม่ทันจางหายตัวเขาก็ถูกดาบมากมายพุ่งทะลุร่างไป
มันย่อมจะมีคนที่ไม่คิดสนใจเปลี่ยนโลก
และมันก็ย่อมจะมีคนที่คิดเข้ากับฝ่ายกดขี่และทรยศเผ่าตัวเอง
เย่หยวนนั้นเข้าใจดีแต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะเดือดดาลขึ้นมา!
เพราะคนทั้งหลายนี้มันเลวร้ายเสียยิ่งกว่าพวกที่ไม่สนใจฟ้าดิน!
หากเป็นเย่หยวนแล้ว เขาย่อมจะยอมตายดีกว่าไปอยู่ใต้เท้าเผ่าเทวา
เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์คนอื่นๆ เห็นการโจมตีที่รุนแรงล้ำของเย่หยวนนั้นพวกเขาทั้งหลายต่างก็แทบล้มลงกับพื้น
จักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งร้องลั่นขึ้นมา “เจ้า… เจ้ากล้าสังหารคนของวังสวรรค์เฝ้า? เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่? มา พวกเรา! จัดการกบฏเร็ว!”
เสียงของเขานั้นดังสะท้านไปทั้งวังสวรรค์เฝ้า
ฉินเชาเองก็หน้าซีดขาวลงก่อนจะร้องออกมา “ไม่ดีแล้ว! เผ่าเทวามันรู้เรื่องแล้ว! ผู้อาวุโส รีบๆ หนีกันเถอะ!”
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดไปไหนและยิ้มตอบไป “เจ้าจะกลัวอะไรนักหนา? ข้ากำลังรอให้พวกมันออกมานี่แหละ!”
อีกหลายอึดใจต่อมาพวกเย่หยวนทั้งสองก็ถูกยอดฝีมือเผ่าเทวามากมายรายล้อมไว้
แน่นอนว่าคนส่วนมากที่ล้อมไว้นั้นมันจะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์จากเผ่าต่างๆ ที่ยอมรับใช้เผ่าเทวามากกว่า เวลานี้คนที่ล้อมพวกเขาไว้มันคงมีราวร้อยคนได้
ในหมู่คนทั้งหลายนั้นมันมีบ้างที่ขึ้นไปถึงระดับของจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลาย
เมื่อได้เห็นกองกำลังยิ่งใหญ่เช่นนี้ตัวฉินเชาก็ต้องกลัวจนหน้าขาวซีดไร้สีเลือดใด
เขานั้นเป็นแค่เทพสวรรค์น้อยๆ คนหนึ่ง มีหรือที่จะเคยเห็นกองกำลังในระดับนี้มาก่อน?
แค่ใครคนใดในกลุ่มนี้ขยับนิ้วมือตัวเขาก็คงแหลกสลายลงแล้ว
ยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าสวรรค์แปดดาวผู้หนึ่งในชุดหรูหราเดินออกมาจ้องหน้าเย่หยวน “เจ้าเด็กอวดดีคนนี้มันโผล่มาจากที่ใดถึงกล้ามาสร้างปัญหาถึงวังสวรรค์เฝ้าของข้า? เบื่อชีวิตแล้ว?”
เย่หยวนหันกลับไปมองก่อนจะส่ายหัวออกมา “สร้างปัญหา? ไม่ๆๆ ข้าไม่ได้มาเพราะคิดสร้างปัญหา”
อีกฝ่ายนั้นจึงยิ้มตอบกลับไป “เจ้ามาฆ่าคนถึงหน้าวังสวรรค์เฝ้าแล้วยังจะมีหน้ามาบอกว่าไม่ได้คิดสร้างปัญหา? เจ้ากล้าสังหารคนแต่ไม่กล้ายอมรับหรือ?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้านั้นไม่ได้มาเพื่อแค่สร้างปัญหาจริงๆ ข้านั้น… มาเพื่อทำลายวังสวรรค์เฝ้านี้ลง!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวคนทั้งหลายต่างก็ต้องผงะไป
จากนั้นมันก็ตามมาด้วยเสียหัวเราะลั่น
“มันว่ามันจะมาทำลายวังสวรรค์เฝ้า! ฮ่าๆๆ โคตรตลกเลย!”
“เจ้าเด็กคนนี้มันมากจากที่ไหนกัน? มันเบื่อมาจนคิดมาเล่นตลกให้เราดูหรือ?”
“ทำลายวังสวรรค์เฝ้า! ข้าไม่ได้ยินมุกตลกๆ เช่นนี้มากี่ปีแล้วกัน!”
…
อย่างว่าแต่ทำลายวังสวรรค์เฝ้าใด แค่สังหารทูตเทวะนั้นมันก็เป็นบาปที่เกินกว่านิกายม่วงน้อยจะรับไว้ได้
เพราะฉะนั้นคำพูดของเย่หยวนมันบ้าบอแค่ไหนก็คงพอเดาออก
พวกเขาทั้งหลายนั้นเหมือนได้ยินเรื่องราวสุดแสนตลกในรอบปี หัวเราะกันไม่หยุด
แต่จู่ๆ ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์คนหนึ่งก็กล่าวขึ้นมา “เอ๋ ข้าเหมือนเคยเห็นหน้าเจ้าเด็กคนนี้มาก่อนนะ มันเป็นคนจากนิกายม่วงน้อย!”
เมื่อฉินเชาได้ยินสีหน้าของเขาก็ขาวซีดลงทันที
เขานั้นคิดว่าตัวเองเป็นแค่นักยุทธตัวน้อยผู้หนึ่งคงไม่มีใครจดจำ
แต่สุดท้ายก็กลับยังถูกอีกฝ่ายจำหน้าได้อย่างนั้นหรือ?
เขานั้นรู้สึกซาบซึ้งในคุณของนิกายม่วงน้อยอย่างมากและไม่คิดอยากลากนิกายมายุ่งเกี่ยว
หากคนของวังสวรรค์เฝ้าได้รู้ว่าเขาเป็นคนจากนิกายม่วงน้อยแล้ว นิกายม่วงน้อยคงต้องถูกทำลายลงเป็นแน่!
ยอดฝีมือเผ่าเทวาอีกคนกล่าวร้องขึ้นมา “นิกายม่วงน้อย? หึๆ ช่างกล้านัก! หลังจากสังหารเจ้าเด็กน้อยสองคนนี้แล้วข้าจะไปจัดการให้นิกายม่วงน้อยมันหายไปจากโลกด้วยมือตัวเอง”
แต่ระหว่างที่ฉินเชานั้นกำลังตื่นกลัวจนไม่รู้จะกล่าวพูดอะไรเย่หยวนก็ยกมือขึ้นมาตบบ่าของเขา “ไม่ต้องคิดมากหรอก ไม่มีใครรู้หรอกว่าเจ้ามาจากนิกายม่วงน้อย”
คนทั้งหลายได้แต่ผงะหน้าไปอย่างมึนงง เจ้าเด็กนี่มันโง่นักหรือ?
ทุกผู้คนรู้หมดแล้ว ทำไมจะยังไม่รู้ได้?
“มิติ… ชะงัก!”
ระหว่างที่คนทั้งหลายยังไม่ทันรู้ตัวนั้นเย่หยวนก็ดีดนิ้วขึ้นมาเปลี่ยนให้มิติรอบๆ นั้นหยุดลงเหมือนผิวน้ำที่สั่นสะเทือน
จากนั้นสีหน้าของทั้งเผ่าเทวาและขี้ข้าเผ่าอื่นๆ ต่างก็เปลี่ยนสี!
“ไม่ดีแล้ว นี่มันมิติชะงัก! เรา… เราไม่อาจจะเดินทางมุดห้วงมิติในพื้นที่นี้ได้อีกต่อไป!”
ทุกผู้คนนั้นต่างตกตะลึงหันมามองเย่หยวนอย่างหวาดกลัว
พวกเขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนกลับจะมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำจนถึงขั้นน่ากลัวเช่นนี้
แต่เสียงหนึ่งของเผ่าเทวากลับดังขึ้นมา “จะตื่นกลัวอะไร? ต่อให้มันจะหยุดมิติได้แต่มีหรือที่มันจะจัดการพวกเราทั้งหมดลงได้? หึ ดูท่านี่จะเป็นยอดอัจฉริยะคนใหม่ของเผ่ามนุษย์มัน สังหารมันวันนี้คงได้หน้ามากมายแล้ว!”
“ขอรับท่านเจ้าวัง!”
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็เลิกตื่นกลัวและยิ้มขึ้นมาด้วยความโลภแทน
เผ่าเทวาผู้สวมผ้าคลุมนี้คือเจ้าวังสวรรค์เฝ้านี้ เขานั้นเป็นถึงยอดฝีมือเต๋าสวรรค์แปดลายขั้นสุด
กำลังของเขานี้ไม่ได้ด้อยกว่าหยวนเจี่ยวมากมาย
เหล่ายอดฝีมือเต๋าสวรรค์แปดลายนั้นรวมไปถึงเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างพุ่งตัวเข้ามาคิดหมายเอาชีวิตเย่หยวน
แต่เย่หยวนนั้นยังยืนนิ่งก่อนจะกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ดาบจงมา!”
“ดาบข้า! ทำไม… ทำไมมันถึงไม่ฟังคำสั่งข้าเลยเล่า!” เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่ใช้ดาบนั้นต่างร้องขึ้นมาอย่างตื่นตะลึง
เพราะดาบของพวกเขานั้นมันหลุดหนีจากมือบินพุ่งไปหาเย่หยวนแทน
พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีดาบมากมายล้นพุ่งมาจากทุกทิศรอบวังสวรรค์เฝ้า พวกมันนั้นต่างมาตามคำสั่งของเย่หยวน
วินาทีนี้ท้องฟ้ามันถูกปกคลุมไปด้วยดาบมากมายร่ายรำอยู่ทุกหนแห่ง
……………