แชมเปญขวดละเกือบ2หมื่นหยวน ชีวิตนี้เขาไม่เคยแม้แต่จะได้กลิ่น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องเคยดื่มหรือเปล่า ดังนั้นเมื่อมีโอกาสแบบนี้ เขาก็จะต้องตักตวงให้เต็มที่

ในตอนนี้ เจิ้งเสียง หมารับใช้ของเจี่ยงหมิง ก็กินลูกหมูย่างไปด้วย พูดคิ้วขมวดไปด้วยว่า “ทำไมผมรู้สึกว่าตนเองได้กลายเป็นพวกพ้องของหวังโตวหยู ในเรื่องHello Mr. Billionaire สภาพเหตุการณ์ของพวกเราในตอนนี้ มันเหมือนกับภาพที่กำลังกินอาหารอย่างเมามันในภาพยนตร์ไม่มีผิด!”

พอพูดออกไป ก็ได้รับความเห็นเดียวของคนอื่นๆ ทุกคนก็พยักหน้ายิ้มพูดว่า “ใช่ๆ คล้ายๆ แบบนั้นเลย!”

เจิ้งเสียงก็ยิ้มพูดอีกว่า “ก็ได้อาศัยใบบุญของพี่หมิงนี่แหละ ขอบคุณพี่หมิงมาก!”

หลี่เสี่ยวเฟินก็อดพูดไม่ได้ว่า “ทำไมไปขอบคุณเจี่ยงหมิงคนเดียวล่ะ อาหารมื้อนี้เย่เฉินก็ออกเงินไปครึ่งหนึ่งเหมือนกันไม่ใช่หรือไง? ”

เจิ้งเสียงก็พูดอย่างไม่พอใจว่า “ผมกินในส่วนที่พี่หมิงจ่าย คุณกินในส่วนของเย่เฉินไป ดังนั้นคุณจะขอบคุณเขาก็ขอบคุณไป ไม่เกี่ยวกับผม”

ในตอนนี้ จ้าวโจ๋วเยว่ที่กำลังกินอาหารอย่างเมามัน ก็หยุดกินเพื่อมาพูดคุยเรื่องที่ทุกคนกำลังคุยกัน ในปากก็กำลังเคี้ยวเนื้อสัตว์หลายๆ อย่าง ปากก็พูดว่า “เอ่อ เมื่อครู่พวกคุณคุยอะไรกันนะ? Hello Mr. Billionaireอะไรนะ? ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย? ”

จ้าวเห้าก็ขมวดคิ้วถามว่า “ภาพยนตร์ไง!เรื่องHello Mr. Billionaire ที่ เสิ่นเถิง แสดงไง ก่อนหน้านี้หนังฉายออกมา คนซื้อตั๋วเพียบเลย นายไม่ได้ดูหรือ? ”

“โรงหนังหรือ? ” จ้าวโจ๋วเยว่ก็รีบพูดดูถูกว่า “ผมไม่ไปดูหนังในโรงหนังหรอก ทำไมผมจะต้องไปเสียเงินดูหนังที่พวกเขาแสดงด้วยล่ะ? ไอ้คนพวกนี้ก็อยากได้เงินกันจนเป็นบ้าไปแล้วมั้ง? ถ้าให้ดูฟรีก็ว่าไปอย่าง!ส่วนมากผมจะแหล่งดูหนังฟรีจากบนอินเทอร์เน็ต เดี๋ยวคืนนี้ผมไปขอแหล่งดูฟรีของคนอื่นเขาดีกว่า”

“ไอ้บื้อ!” จ้าวเห้าพูดเสียงเย็นว่า “จ้าวโจ๋วเยว่ นายนี่มีนิสัยชอบเอาเปรียบคนอื่นมากไปหรือเปล่า? คนอื่นเขาก็ถ่ายหนังลงทุนไปเป็นร้อยๆ ล้าน ยังมีผู้กำกับ ช่างกล้อง คนเขียนบท นักแสดง ต่างก็ใช้ทั้งแรงทั้งเวลาถ่ายทำ ถ้ามาให้คนอย่างนายดูฟรีหมด แล้วใครเขาจะทำถ่ายหนังอีกล่ะ? บริษัทถ่ายทำหนังก็เจ๊งตายพอดี? ”

จ้าวโจ๋วเยว่ได้ยินเจ้าห้าวต่อว่าตนเอง ก็พูดอย่างไม่พอใจว่า “อย่ามาทำเป็นพูดแบบนี้เลยว่ะ คนอย่างกูชอบเอาเปรียบ ชอบของฟรี ต่อให้ต้องเสียเงิน ผมก็ไม่ยอมจ่าย จะทำไมล่ะ? ไม่ได้รึไง? กูไม่เพียงจะไม่เงินมันนะ กูยังจะไปด่ามันบนโลกโซเชียลด้วย ด่ามันว่าถ่ายทำไม่ดี ด่ามันว่าแสดงไม่ดี ด่ามันว่าถ่ายทำช้ามาก แล้วมึงจะเข้ามายุ่งได้ไหมล่ะ? อย่ามาเสือกหน่อยเลย”

จ้าวเห้าก็พูดอย่างโมโหว่า “ไปเอาเปรียบคนอื่นเขา แล้วยังจะไปด่าเขาอีก? มึงนี่หน้าไม่อายจริงๆนะ พูดแบบนี้ไม่กลัวเวรกรรมรึไง!”

จ้าวโจ๋วเยว่ก็เบ้ปาก “เวรกรรมอะไรล่ะ? ถึงอย่างไรกูก็เป็นเด็กกำพร้าอยู่แล้ว กูจะต้องกลัวใครอีก? กลัวพ่อแม่กูตายรึไง? ”

จ้าวเห้าก็โดนตอกหน้าจนเงียบไป

พูดกับคนที่หน้าไม่อายจนถึงระดับนี้แล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร

จากนั้นเขาก็ขี้เกียจจะไปต่อปากต่อคำกับคนแบบนี้

เย่เฉินเห็นแล้วก็ถอนหายใจ บางคนต่อให้เกิดในระดับรากหญ้า ก็สามารถค่อยๆ ยกระดับตัวเองให้มาสูงกว่าคนอื่นได้ แต่บางคนกลับจะเป็นแค่เพียงคนกระจอกๆ เป็นชนชั้นระดับต่ำที่สุดของสังคม

คนแบบนี้จ้าวโจ๋วเยว่นี้ ที่เป็นคนกระจอกแบบนี้ ก็ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่นใด

เป็นเพราะไม่ให้เกียรติคนอื่น และไม่ให้เกียรติตนเอง ในหัวมีแต่เรื่องหาเงินและเอาเปรียบคนอื่น คนแบบนี้มักจะเสียเปรียบบ่อยๆ

คาดว่าหลังจากอาหารมื้อนี้ เขาก็คงจะไปเลียขาประจบสอพลอเจี่ยงหมิงแน่ๆ

ส่วนเจี่ยงหมิงก็จะ บีบคั้นเอาของที่มีค่าในเขาออกมาจนหมด โดยไม่ลังเล

พอถึงตอนนั้น เกรงว่าเขาก็คงจะต้องร้องไห้จนไม่เหลือน้ำตา

แต่ตนเองก็ไม่ใช่จะไม่อยากช่วยเขา

แต่เป็นเพราะคนแบบนี้ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ตัวอีก

นี่ทำให้เย่เฉินอยากจะเห็นจริงๆ ว่า จุดจบของจ้าวโจ๋วเยว่จะเป็นอย่างไร!

———