บทที่ 1320 ลูกล่ะ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1320 ลูกล่ะ?

ใช่ หนูดาราของเธอหายไป

เมื่อกี้เพิ่งจะนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าคุณหมอคนนี้แท้ๆ

จากนั้นคุณหมอเห็นว่าเธอร้องไห้ไม่หยุดจึงให้แสงดาวไปเอาที่วัดไข้มา ทำไมเพียงแค่ครู่เดียวถึงหายไปแล้ว?

“เธอรีบตามหาลูกให้ฉันสิ ยังจะมาฉีดอะไรอีก?” เธอพูดด้วยความโกรธและตระหนก ไม่สนใจว่าที่นี่ยังมีเด็กๆและผู้ปกครองอีกมากมายที่กำลังฉีดวัคซีน จึงพุ่งเข้าไปตะคอกใส่หมอ

คุณหมอเห็นเช่นนั้นก็ตื่นตระหนก

พวกเขาจึงหยุดฉีดวัคซีนแล้วรีบไปหาตัวเด็ก

แต่หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งแผนกกุมารเวชต่างตามหา รวมทั้งแสงดาว พวกเขาต่างหาหนูดาราที่เพิ่งอายุหนึ่งขวบไม่เจอ

เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆที่คลาดสายตาก็หายไปราวกับระเหยเป็นไอ

“ฉันจะบอกพวกเธอให้นะ ถ้าหาลูกสาวฉันไม่เจอ ฉันเอาพวกเธอตายแน่!”

ภายใต้ความกลัวอย่างหนัก แสงดาวตะคอกใส่เหล่าหมออย่างเสียสติ

หมอ “…”

ชั่วพริบตาประโยคนี้ทำให้เหล่าหมอรู้สึกโกรธ จึงโต้กลับว่า “ลูกเธอหาย แล้วเกี่ยวอะไรกับพวกเรา? เป็นเพราะเธอไม่ได้ดูแลให้ดี ฉันให้เธอไปเอาที่วัดไข้ เธอก็ทิ้งเด็กไว้ที่ฉัน หมอแค่คนเดียวอย่างฉันจะสามารถดูแลลูกให้เธอได้เหรอ?”

“เธอ–”

“ไม่ต้องสนใจเธอหมอภู นี่จะต้องเป็นพวกก่อกวนแน่ๆ เราแจ้งตำรวจกันเถอะ”

เมื่อหมอทั้งหลายเห็นว่าเด็กน่าจะหาไม่เจอแล้วจริงๆ จึงคิดจะชิงลงมือแจ้งตำรวจก่อน

จริงๆแล้วเรื่องนี้ล้วนผิดทั้งสองฝ่าย

อย่างแรก แสงดาวไม่ควรฟังหมอคนนี้ที่ให้ทิ้งเด็กไว้ที่นี่แล้วไปเอาที่วัดไข้ หรือพูดได้ว่าเธอได้ยินความหมายตามนี้ ยังไงซะตอนนั้นเด็กก็อยู่กับคุณหมอ

อีกอย่างที่ที่ไปเอาที่วัดไข้ก็แค่ห้องทำงานข้างหลังพวกเขา

ดังนั้นในตอนนี้ที่หมอคนนี้ปัดความรับผิดชอบบอกว่าจะแจ้งตำรวจ มันทำกันเกินไปหน่อย

แสงดาวโกรธจนตัวสั่น ตอนนั้นเธอหยิบโทรศัพท์ออกมา “ได้ พวกเธอไม่ต้องแจ้งตำรวจหรอก ฉันทำเอง”

พูดจบเธอก็โทรหาผู้บัญชาการของสถานีตำรวจในพื้นที่

ไม่กี่นาทีต่อมาพอผู้บัญชาการมาถึงโรงพยาบาล เมื่อหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกคนเห็นท่าทางเกรงใจของเขาที่มีต่อผู้หญิงคนนี้ก็อึ้งไปหมด

“ไม่ต้องห่วงครับคุณหนู เรื่องนี้ปล่อยให้ผมจัดการ ตอนนี้อยู่ในช่วงเร่งด่วน พวกเราตามหาตัวเด็กก่อนดีกว่าแล้วค่อยมาตามหาคนผิด ดีไหมครับ?”

ผู้บัญชาการคนนี้มีสติดีอยู่ รู้ว่าต้องจัดการยังไง

แสงดาวอกสั่นขวัญหายไปหมด เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตอบตกลง

ดังนั้นพวกตำรวจที่มาจึงเริ่มทำการออกค้นหาเด็ก แต่ครั้งนี้พวกเขาเอากล้องวงจรปิดในแผนกกุมารเวชทั้งหมดมาตรวจสอบ

กลับเห็นว่าในกล้องวงจรปิด หลังจากที่แสงดาวไปเอาที่วัดไข้ เป็นอย่างที่คิดไว้คุณหมอที่รับผิดชอบฉีดวัคซีนคนนั้นเห็นว่าเด็กตรงหน้าเอาแต่ร้องไห้ และด้านข้างยังมีคนที่รออยู่

ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจหนูดาราอีก

หนูดาราไม่เห็นหม่ามี๊ก็ร้องไห้ปีนลงมาจากเก้าอี้ ไม่นานเมื่อเห็นผู้ปกครองคนหนึ่งที่พาเด็กออกไป เท้าน้อยของเธอจึงก้าวเดินตาม

เพราะในมือของผู้ปกครองคนนั้นกำลังชูอมยิ้มแท่งหนึ่งอยู่

“เห็นรึยัง? ยังมีหน้ามาบอกว่าไม่เกี่ยวกับเธอ!”

แสงดาวเห็นดังนั้นก็หันมาตวาดใส่หมอคนนั้นด้วยความโกรธ

หมอคนนั้นไม่กล้าส่งเสียงใดๆอีก

แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขาผิดหวังคือกล้องวงจรปิดของแผนกนี้ หลังจากที่ออกจากประตูไปก็เป็นระเบียงที่ไม่ได้ติดตั้งกล้องยาวจนถึงห้องโถงข้างนอกถึงจะสามารถเห็นภาพได้

คนจากสถานีตำรวจเห็นดังนั้นก็จำต้องตามออกไป

แต่ทว่าหลังจากที่พวกเขาล้อมบริเวณระเบียงจุดอับของกล้องวงจรปิดแล้วค้นหากันไปมาอยู่นับสิบรอบจนแทบจะพลิกแผ่นดินออกมาก็ยังตามหาเด็กไม่เจอ

แสงดาวทนไม่ไหวแล้ว

“คุณหนูครับ! คุณหนู!!” ตำรวจด้านข้างรีบยื่นมือไปพยุงเธอ

ตอนที่คณาธิปรู้ข่าวเขากำลังประชุมภาคเช้าของบริษัท

หลังจากที่ได้ข่าวว่าเด็กเกิดเรื่องที่โรงพยาบาลก็รีบลุกจากเก้าอี้ทันที

“ฉันรู้แล้ว จะไปเดี๋ยวนี้!”

“…”

เกิดอะไรขึ้น?

เหล่าผู้บริหารระดับสูงต่างมองหน้ากัน ไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น

จนกระทั่งผ่านมาสักพัก อากิโกะ นากาจิมะเลขาของประธานเข้ามา เธอมองทุกคนแล้วบอกเรียบๆว่า “ประธานคณาธิปมีเรื่องด่วนที่ต้องจัดการ ขอให้ทุกคนยกเลิกการประชุมก่อน”

“หา?”

เหล่าผู้บริหารระดับสูงจึงจำต้องเลิกการประชุม

รวมทั้งผู้ช่วยเคของแผนกวางแผนก็ต้องกลับแผนก

เชียนหยวนล๋ายเย่ที่อยู่แผนกวางแผนข้างล่างที่กำลังทำหนังสือวางแผน เธอเพิ่งเข้ามาทำงานจึงยังทำไม่ค่อยคล่อง เมื่อเห็นผู้ช่วยกลับมาจึงรีบลุกจากที่นั่ง

“ผู้ช่วยเค คุณกลับมาแล้ว?”

“อืม เชียนหยวน ฮอน เธอทำหนังสือวางแผนเสร็จรึยัง?”

ผู้ช่วยเคเห็นว่าว่าที่ภรรยาของประธานคนนี้ไม่ได้มีท่าทีตัวสั่นเหมือนวันนั้นที่เธอมา แต่เปลี่ยนเป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อนร่วมงานทั่วไป