ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอมีพลังและชื่อเสียงในเขากว่างเฉิงสูงส่งเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้รับหน้าที่ในส่วนสำคัญเช่นวิหารปฏิบัติกิจ วิหารอาญา หรือวิหารสืบวิชาก็ดูจะเป็นการใช้คนไม่เหมาะกับอยู่บ้าง นอกเสียจากว่าเขาจะรับช่วงเขากว่างเฉิง กลายเป็นเจ้าสำนักคนใหม่ ถ้าเช่นนั้นเขาจำเป็นต้องปฏิบัติภารกิจประจำวัน เพื่อให้คุ้นเคยและเป็นการเคี่ยวกรำตัวเองไปในตัว
ไม่อย่างนั้นด้วยระดับพลังในตอนนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ การฝึกฝนและการพัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้นอีกขั้นจึงเป็นเรื่องที่สมควรทำมากที่สุด
ในอีกมุมหนึ่ง สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นโลกที่พลังอันยิ่งใหญ่เป็นของส่วนตัว
เวลาขุมกำลังสองฝ่ายต่อสู้กัน ตอนที่ยอดฝีมือระดับสุดยอดสะกดกันเอง ไม่อาจตัดสินผลแพ้ชนะ พลังและจำนวนของยอดฝีมือก็อยู่ในระดับรองลงไป เหตุผลนี้ใช้กับตัวเยี่ยนตี๋ได้เช่นกัน
ดังนั้นในเมื่อเยี่ยนจ้าวเกอไม่มีหน้าที่ใดๆ เช่นนั้นต่อจากนี้เขาจะทำอะไร ย่อมดึงดูดความสนใจของผู้คน ถ้าหากว่ารั้งอยู่ในทะเลหวงเจียเพื่อฝึกฝนก็พอทำเนา แต่ถ้าออกท่องโลกก็เป็นเรื่องใหญ่แล้วจริงๆ
คราก่อนเขาไปเขตเพลิงทักษิณ สร้างความวุ่นวายจนฟ้าพลิกแผ่นดินคว่ำ ครั้งนี้คิดไม่ทำให้คนสนใจก็ยากเย็นแล้ว
เดิมทีแม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะสู้กับจักรพรรดิเอกภพกำเนิดอย่างหักโหม ทำให้ปราชัยใต้เขากว่างเฉิง แต่ว่าต่อจากนี้เขาจำเป็นต้องคุ้มครองเขากว่างเฉิงเพื่อตัวเองและสำนัก จนกว่าเขาจะสู้จักรพรรดิเซียนจริงแท้โดยไม่ต้องใช้ลายมือแห่งแผ่นดินที่อยู่ในทะเลหวงเจียได้
ถึงแม้ว่าทุกคนจะเชื่อว่าวันนั้นจะต้องมาถึง อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกล แต่ว่าก่อนที่จะมาถึงจริงๆ เยี่ยนจ้าวเกอก็จำเป็นต้องปักหลักตั้งมั่นที่ทะเลหวงเจีย
กระนั้นทุกสิ่งก็แตกต่างไปจากเดิม เพราะการปรากฏตัวของพวกจักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงและประมุขหรดีไป๋เทา
ในฐานะลูกหลานของราชันพระศุกร์ ศิษย์หลานของกษัตริย์กระบี่ หนึ่งในสามกษัตริย์แห่งโลกซ้อนโลก ในสถานการณ์ส่วนใหญ่แล้ว เยี่ยนจ้าวเกอจะไปไหนบนโลกซ้อนโลกก็ได้
ถ้ากษัตริย์ดินกับกษัตริย์เร้นลับไม่แสดงท่าที จักรพรรดิเอกภพกำเนิดก็ไม่กล้าลงมือวู่วาม ด้วยเหตุนี้เยี่ยนจ้าวเกอจึงสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ โดยไม่จำเป็นต้องเฝ้าเขากว่างเฉิง
ชาติกำเนิดของเยี่ยนตี๋ได้รับการเปิดเผย สถานะของเขากับเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก รวมถึงความสัมพันธ์กับกษัตริย์กระบี่ และการตายของประมุขทักษิณจวงเซินจะต้องเป็นข่าวที่สะเทือนโลกซ้อนโลกมากที่สุดในหลายปีมานี้อย่างแน่นอน
แม้จะแปลกประหลาด กระนั้นหลังจากเยี่ยนจ้าวเกอต้านทานจักรพรรดิเอกภพ เยี่ยนตี๋สังหารประมุขทักษิณ คนส่วนใหญ่กลับไม่รู้สึกว่ารับไม่ได้แต่อย่างใด
พวกเขาอิจฉาวาสนาของเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกอยู่หลายส่วน แต่ก็เพียงแค่นั้น ไม่มีใครเกิดความรู้สึกว่าเขากว่างเฉิงทะยานขึ้นกิ่งกลายเป็นหงส์
ความคิดในใจของแต่ละคนคือ สมกับเป็นลูกหลานของคนที่โด่งดัง
ปัจจุบันทุกคนสนใจการเคลื่อนไหวต่อจากนี้ของเขากว่างเฉิงมากกว่า
เห็นได้ชัดว่า น้ำตื้นในทะเลหวงเจียไม่อาจชุบเลี้ยงมังกร พลังที่เขากว่างเฉิงได้แสดงออกมาในสงครามพิธีเปิดสำนักในวันนี้ ยังเหนือกว่าเขาโถงทองเสียอีก ต่อจากนี้พวกเขาจะทำอะไร ล้วนสะกิดความสนใจของทุกคน
โดยเฉพาะหลังจากประมุขทักษิณจวงเซินสิ้นชีวิต เนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ที่สูญเสียคนไปมากมายในสงครามบนเขารอบวงในอดีต สุดท้ายก็ได้สูญเสียแกนนำไป
เขตเพลิงทักษิณจะต้องเกิดการเปลี่ยนตัวผู้ปกครองอย่างไม่ต้องสงสัย
เขากว่างเฉิงจะฉวยโอกาสนี้บุกฝั่งตะวันออก กลายเป็นราชาคนใหม่ของทิศใต้หรือไม่
“กษัตริย์ดินกับกษัตริย์เร้นลับมีความคิดอย่างไรกันแน่”
พิธีเปิดสำนักจบลงโดยสมบูรณ์ แขกถูกส่งกลับ คนที่ยังรั้งอยู่บนเขาต่างเป็นบุคคลระดับสุดยอดที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับเขากว่างเฉิง
เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง “กษัตริย์กระบี่ยังอยู่ในมิติต่างแดน แต่ว่ากษัตริย์ดินอยู่บนโลกซ้อนโลก ตัวกษัตริย์เร้นลับยิ่งเข้าฌานอยู่ในหุบเขาเซียนเร้นกายที่คุนหลุน”
จักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงยามนี้แช่แข็งตัวเองอีกครั้ง การเคลื่อนไหวทั้งหมดในโลกภายนอกนางล้วนรับรู้ แต่ว่าอยู่ในสภาพไม่กล่าววาจา
ชายหนุ่มมองคนจากเขานครหยก “หรือจะหมายความว่า ทั้งสองท่านนั้นเห็นด้วยกับการตัดสินใจของอาจารย์ลุงเยว่”
“มีการเห็นด้วยอย่างลับอยู่โดยตลอด” ประมุขหรดีไป๋เทาว่า “ครั้งนี้ขอแค่อาจารย์อาเยี่ยนกับเจ้าไม่มีเรื่อง ท่านอาจารย์คงไม่ทำอะไรจักรพรรดิเอกภพ”
พวกเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยนตี๋ หยวนเจิ้งเฟิง และคนในเขากว่างเฉิงสบตากัน ต่างกล่าวในใจว่า ‘กษัตริย์กระบี่เกรงว่าจะไม่เห็นด้วยกับกษัตริย์ดินอยู่หลายเรื่อง’
บางทีกษัตริย์ดินอาจจะทราบเรื่องของเยี่ยนตี๋เช่นกัน เพียงแต่ไม่น่าทราบรายละเอียด รู้เพียงว่าราชันพระศุกร์ได้ทิ้งบุตรชายเอาไว้
เพื่อรับประกันไม่ให้การเติบโตของเยี่ยนตี๋ได้รับการรบกวน ระหว่างกษัตริย์กระบี่กับกษัตริย์ดินอาจจะมีข้อตกลงและการประนีประนอม
กษัตริย์กระบี่ไม่ได้สนับสนุนและไม่ได้คัดค้านการตัดสินใของกษัตริย์ดิน ต่อเรื่องของจักรพรรดิประกายกาฬอิ่นเทียนเซี่ย
เก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุนค่อยๆ กลายเป็นเรื่องเล่าขาน จอมยุทธ์ระดับกลางไปจนถึงต่ำและคนทั่วไปในโลกซ้อนโลกมีไม่กี่คนที่ทราบ แสดงว่าต้องผ่านการชำระของใครบางคน
ด้วยความเคารพที่กษัตริย์กระบี่มีต่อราชันพระศุกร์ซึ่งเป็นอาจารย์ของตัวเอง เขากลับเห็นด้วยกับการกระทำนี้ เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงและการประนีประนอม
จนถึงตอนนี้ เยี่ยนตี๋ได้ผ่านเวลาสองพันกว่าปี สุดท้ายก็กำเนิดขึ้นบนโลกมนุษย์จากในเมฆแปลงกำเนิดอย่างแท้จริง อีกทั้งยังเติบใหญ่ แล้วได้กลับมายังโลกซ้อนโลกอีกครั้ง
สถานการณ์ต่อจากนี้ของโลกซ้อนโลกจะพัฒนาไปทางไหน
“นอกเสียจากท่านอาจารย์สังหารกานหยวนจื่อ ไม่อย่างนั้นกษัตริย์เร้นลับจะไม่สอดมือ” หวังผู่กล่าว “สมควรบอกว่า เรื่องราวส่วนใหญ่ในโลกนี้กษัตริย์เร้นลับล้วนไม่ใส่ใจ ปกติแล้วจะเห็นด้วยกับการตัดสินใจของกษัตริย์ดิน น้อยครั้งนักจะแสดงท่าทีของตัวเอง”
ไม่ใช่เพราะกานหยวนจื่อมีความสัมพันธ์กับกษัตริย์เร้นลับล้ำลึก แต่ว่าจักรพรรดิที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนคนหนึ่งมีคุณค่าต่อสำนักเต๋าที่ทรุดโทรมลงหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ หากไม่มีสาเหตุอื่น สามกษัตริย์จะปกปักษ์อย่างสุดกำลัง
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินก็ครุ่นคิดไม่เอ่ยวาจา
ดูจากตอนนี้แล้ว สถานการณ์ของจักรพรรดิประกายกาฬอิ่นเทียนเซี่ยและจักรพรรดิเจิดจรัสหูเยว่ซินยิ่งทำให้คนสงสัยกว่าเดิม
เยี่ยนจ้าวเกอมองพวกหยวนเจิ้งเฟิง ฟางจุ่น รวมถึงหวังผู่ที่อยู่รอบๆ ทว่าไม่ได้เอ่ยถึงปัญหาของมารดาและโถงเซียน เตรียมจะหารืออย่างลับๆ
หวังผู่ยามนี้เอ่ยว่า “หากนึกถึงความสัมพันธ์ในวันวานกับอาจารย์ปู่ กษัตริย์เร้นลับน่าจะไม่ช่วยเหลือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่กษัตริย์ดินจะตัดสินใจอย่างไรก็ยากจะบอกแล้ว”
เสียงของเขาเคร่งขรึมอยู่หลายส่วน “ครั้งนี้ถึงแม้ว่าทางผากิเลนแห่งยอดเขาหนานเกาจะไม่มีใครสอดมือ ทว่าเบื้องหลังพวกจักรพรรดิเอกภพและจวงทักษิณกลับมีเงาของผากิเลนอยู่ ของวิเศษที่ใช้ตัดแม่น้ำเฉาเหอก่อนหน้านี้ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นดินซีหลังกำเนิดของกษัตริย์ดิน”
เยี่ยนจ้าวเกอเลิกคิ้วเล็กน้อย “โอ้? ดินซีหลังกำเนิดหรือ”
หวังผู่อธิบาย “พวกเราออกเดินทางจากเขาคุนหลุน ระหว่างทางพบว่าการเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณและชีพจรดินบริเวณเขามู่เสวี่ยซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำเฉาเหอเกิดความผิดปกติ จนเป็นเหตุให้แม่น้ำเฉาเหอถูกตัดขาด หลังจากมุ่งหน้าไปตรวจสอบที่ภูเขาหิมะมู่หวง ก็พบว่าต้นน้ำถูกอุดไว้ หลังจากจักรพรรดินีลงมือแก้ไขถึงพบว่าของวิเศษที่ใช้ตัดแม่น้ำเฉาเหอถูกผู้คนปรับแต่งเป็นกรณีพิเศษ หลังจากใช้เสร็จแล้วก็อันตรธานไปทันที”
เขาเว้นวรรคเล็กน้อย แล้วเอ่ยอีกว่า “แต่ของวิเศษที่มีความสามารถเช่นนี้มีอยู่ไม่กี่อย่าง สามารถทำให้จักรพรรดินีไม่อาจรักษาไว้ได้เช่นนี้ เจ้าของของมันเป็นใครเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อไม่มีหลักฐาน ต่างฝ่ายก็ได้แต่แสร้งเป็นเลอะเลือน”
เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง ขบคิดขึ้นมา เขากำลังคาดเดาว่า ประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงมีแผนการอื่นหรือไม่
………………..