สตาร์สกายเทคโนโลยีวางแผนที่จะสร้างศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในเซี่ยงไฮ้และตั้งชื่อว่า ‘สตาร์โวยาจวัน’ ศูนย์นี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสนับสนุนเครือข่ายการจำลองภาพเสมือนจริงของคลาวด์คอมพิวติงในภูมิภาคตะวันออกของจีนทั้งหมด
เมื่อข่าวที่สองที่ออกมาก็สร้างความตื่นเต้นอย่างมากขึ้นมาในทันที
นับตั้งแต่ต้นศตวรรษก็มีการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมนับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตามการพัฒนาทั้งหมดนั้นถูกจำกัดอยู่ภายในห้องปฏิบัติการ
แต่ในตอนนี้ ไม่ใช่แค่จำนวนคิวบิตจะเพิ่มขึ้นเพราะลำดับขนาด แต่พวกเขากำลังจะนำคอมพิวเตอร์ออกมาด้านนอกห้องปฏิบัติการด้วย
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน สตาร์โวยาจวันจะกลายเป็นคอมพิวเตอร์ควอนตัมเพื่อการค้าเครื่องแรกของจีน!
และยังเป็นคอมพิวเตอร์ควอนตัมเพื่อการค้าเครื่องแรกของโลก!
[พระเจ้า! โดยพื้นฐานแล้วอัลกอริทึมการเข้ารหัสในระบบการเงินทั้งหมดนั้นใช้ RSA! สำหรับคอมพิวเตอร์ควอนตัมเครื่องหนึ่ง การหาตัวประกอบของจำนวนเฉพาะมากมายนั้นง่ายดายเกือบจะเท่าๆ กับการหาการบวก ธนาคารต่างๆ กำลังจะล้มละลาย!]
[งั้นถ้าฉันถอนเงินกู้ออกมาตอนนี้ ฉันก็ไม่ต้องจ่ายคืนใช่ไหม?]
[หยุดพูดเรื่องไร้สาระน่า ประเทศของเราสร้างอัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัมเพื่อทดแทนอัลกอริทึมการเข้ารหัสแบบดั้งเดิมขึ้นมาแล้ว เร็วๆ นี้ใยแก้วควอนตัมก็จะกลายเป็นเรื่องปกติ อีกไม่นานนี้ขอบเขตเครือข่ายการรักษาความปลอดภัยที่ไม่สามารถทำลายได้ก็จะใช้งานได้ เมื่อเวลานั้นมาถึง แม้แต่คอมพิวเตอร์มนุษย์ต่างดาวก็จะไม่สามารถแฮกเครือข่ายของเราได้!]
[พูดอีกอย่างก็คือตอนนี้ธนาคารที่ปลอดภัยที่สุดในโลกก็คือธนาคารของจีนใช่ไหม?]
[ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะถ่ายทอดปัญหานี้ออกมาเป็นคำพูดอย่างไร อัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัมในปัจจุบันยังสามารถปกป้องการโจมตีทางไซเบอร์จากคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่ต่ำกว่า 2,000 คิวบิต ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมอยู่ในเงื้อมมือของเรา แล้วคุณจะกังวลเรื่องอะไร? ศาสตราจารย์ลู่กำลังแฮกบัญชีธนาคารคุณเหรอ?]
[ฉันเป็นคนเดียวหรือเปล่าที่กังวลเรื่องบริการคลาวด์คอมพิวติงสำหรับการประมวลผลแบบควอนตัม? แล้วถ้ามันถูกพวกอาชญากรเอามาใช้ล่ะ?]
[ฉันไม่รู้ แต่ฉันคิดว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังจะควบคุมพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจจะจำกัดประสิทธิภาพการประมวลผลที่สามารถใช้ได้สำหรับบุคคลและบริษัท]
คำว่า ‘สตาร์โวยาจวัน’ และ ‘คอมพิวเตอร์ควอนตัมเครื่องแรกของโลก’ เริ่มปรากฏขึ้นในลิสต์ที่เป็นกระแสนิยมในแพลตฟอร์มสื่อหลักๆ แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะห่างไกลจากการส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนส่วนมาก แต่มันก็ไม่ได้ทำให้คนเลิกจินตนาการถึงอนาคต
ไม่ต้องพูดถึงว่านี่เป็นคอมพิวเตอร์ควอนตัมเพื่อการค้าเครื่องแรกและเครื่องเดียวของโลก!
การรวมสิ่งนี้เข้ากับเทคโนโลยีการสื่อสารเชิงควอนตัมก็ได้ทำให้จีนเป็นผู้นำของโลกในเรื่องเทคโนโลยีควอนตัมอีกครั้ง
นักวิจัยในสาขาวิศวกรรมสารสนเทศและผู้คนนับไม่ถ้วนที่ให้ความสนใจกับสาขาวิชาที่ไฮเทคต่างรู้สึกภาคภูมิใจเพราะเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ในทางตรงกันข้าม ขณะที่การถกเถียงเรื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมบนอินเทอร์เน็ตกำลังดุเดือด ข่าวลือต่างๆ ก็เริ่มแพร่กระจายท่ามกลางการอภิปรายที่เผ็ดร้อน
ภัยคุกคามของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัมต่ออุตสาหกรรมทางการเงินถูกผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมากนำมากล่าวเกินจริง
คนมากมายพูดถึงการไปที่ธนาคารของพวกเขาและถอนเงินทั้งหมดของพวกเขา บางคนก็อ้างว่าอีกไม่นานรหัสผ่านของพวกเขาก็จะใช้การไม่ได้ และพวกเขาควรจะถอนเงินกู้ก้อนใหญ่ออกมาก่อนที่ระบบการเงินจะล่มสลาย
โชคดีที่ก่อนจะเริ่มนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัมเข้าสู่ตลาด ฝ่ายรัฐบาลที่เกี่ยวข้องได้ทำการเตรียมการไว้แล้ว รัฐสามารถยับยั้งข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงได้โดยการประสานความร่วมมือกับสื่อกระแสหลัก พวกเขายังออกกฎหมายและข้อบังคับใหม่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศอีกด้วย พวกเขาประสบความสำเร็จในการทำลายข่าวลือก่อนที่มันจะแพร่กระจาย
CTV ยังจัดรายการพิเศษเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สำหรับคนทั่วไปและเชิญนักวิชาการเสวี่ยจินฮุยซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากสาขาวิทยาการเข้ารหัสลับและวิศวกรรมสารสนเทศมาด้วย นักวิชาการเสวี่ยจินฮุยบันทึกเทปให้สัมภาษณ์พิเศษสำหรับ ‘สตาร์โวยาจวัน’ น่าจะมีการเผยแพร่การสัมภาษณ์ในช่วงเวลายอดนิยมทางโทรทัศน์
ภายในสตูดิโอ CTV
พิธีกรนั่งอยู่บนโซฟาและนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับนักวิชาการเสวี่ย พิธีกรยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณที่มาที่สตูดิโอของเราในวันนี้ครับ ผมอยากจะถามคำถามเพื่อผู้ชมของเรา ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 24 คิวบิตมีความหมายอย่างไรสำหรับประเทศของเราครับ? มันมีความหมายสำหรับเราโดยส่วนตัวหรือเปล่า? พูดอีกอย่างก็คือ… มันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราอย่างไรบ้าง?”
“นั่นเป็นคำถามที่น่าสนใจ” นักวิชาการเสวี่ยยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า “อาจจะเป็นการยากที่จะเข้าใจเรื่องคิวบิตโดยที่ไม่มีความรู้เรื่องโดเมนโดยเฉพาะ ผมจะพยายามอธิบายโดยใช้คำง่ายๆ แล้วกันครับ”
พิธีกรพูดว่า “เชิญกล่าวต่อไปได้เลยครับนักวิชาการเสวี่ย”
นักวิชาการเสวี่ยพยักหน้าและพูดพร้อมกับยิ้ม “หากกล่าวถึงโดยทั่วไป คอมพิวเตอร์ของเราใช้ 0 และ 1 ในการแสดงการเปิดและการปิดประตูสัญญาณตรรกะ เรามักจะบอกว่าคอมพิวเตอร์แบบเดิมสามารถจะแสดงได้ 2 สถานะ เราสร้างวงจรรวมโดยการซ้อนประตูสัญญาณตรรกะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลไปถึง 2n ตัวเลข n นี้อาจจะเป็น 10 หรือ 1 พันล้านก็ได้ แต่ไม่ว่าตัวเลขจะมากแค่ไหน มันก็จะเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลของเราตามแนวตรงเท่านั้น”
พิธีกรพยักหน้าอย่างจริงจังและถามต่อว่า “แล้วคอมพิวเตอร์ควอนตัมล่ะครับ?”
“คอมพิวเตอร์ควอนตัมนั้นแตกต่างกว่ามาก” นักวิชาการเสวี่ยยิ้มและพูดต่อไปว่า “ในทางทฤษฎี ประตูสัญญาณตรรกะควอนตัมสามารถแสดงได้ 2^n สถานะ! ถ้า n เท่ากับ 50 นั่นก็จะเท่ากับหนึ่งพันล้านล้านสถานะ! หนึ่งพันล้านล้านใหญ่มากแค่ไหน? ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีพันล้านล้านสถานะเครื่องแรกของประเทศเราก็คือเทียนเหอ-1 และมันสามารถขึ้นไปถึงประสิทธิภาพการประมวลผลระดับนี้ได้ภายใต้สภาวะสูงสุดเท่านั้น ดังนั้นคอมพิวเตอร์ควอนตัมใดๆ ก็ตามที่มีมากกว่า 50 คิวบิตก็ย่อมมีประสิทธิภาพมากกว่าเทียนเหอ-1!”
จริงๆ แล้วคำแถลงนี้ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามสมรรถนะของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวข้องแค่เรื่องฮาร์ดแวร์ของเครื่อง แต่ยังเกี่ยวกับกลุ่มปัจจัยอื่นๆ อย่างเช่น โครงสร้างการออกแบบ และระบบปฏิบัติการ ความเร็วในการประมวลผลที่เร็วกว่าไม่ได้หมายความว่าสมรรถนะจะดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพ
คอมพิวเตอร์ควอนตัม 50 คิวบิตจะได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพขนานใหญ่ก่อนที่มันจะล้ำหน้าเทียนเหอ-1
อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นเรื่องจริง
นั่นก็คือประสิทธิภาพการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ควอนตัมเพิ่มขึ้นที่ระดับความเร็วที่สูงขึ้นมาก
แล้ว 524 คิวบิตหมายความว่าอย่างไร?
นั่นก็หมายถึง 2^524 สถานะ!
ไม่ใช่การกล่าวเกินจริงเลยที่จะบอกว่า ตราบใดที่โครงสร้างการออกแบบ ระบบปฏิบัติการ และกลุ่มสภาวะอื่นๆ ของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ควอนตัมมารวมกัน มันก็สามารถเอาชนะซูเปอร์คอมพิวเตอร์อื่นๆ ทั้งหมดรวมกันได้อย่างง่ายดาย!
หลังจากได้ฟังคำอธิบายของนักวิชาการเสวี่ย พิธีกรก็ดูตกตะลึง
50 คิวบิตสามารถเอาชนะเทียนเหอ-1 ได้
แล้วต้องใช้เทียนเหอ-1 กี่เครื่องจึงจะทำให้เท่ากับ 524 คิวบิตได้?
2^474 เทียนเหอ-1?
นั่นมันเป็นเรื่องตลกหรือเปล่า?!
การสัมภาษณ์ยังคงดำเนินต่อไป
มีเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่นักวิชาการเสวี่ยยังไม่ได้ตอบ
พิธีกรกลืนน้ำลายและพยายามตั้งสติ เขาถามต่อว่า “คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับข่าวลือที่กำลังแพร่กระจายบนอินเทอร์เน็ตว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจจะทำให้รหัสผ่านบัญชีธนาคารของเราไม่ปลอดภัยครับ?”
หลังจากได้ยินคำถาม นักวิชาการเสวี่ยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจและพูดว่า
“นักวิชาการลู่เป็นหนึ่งในนักวิชาการที่ล้ำเลิศที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา และเป็นหนึ่งในคนที่มีความรับผิดชอบมากที่สุดที่ผมได้รู้จัก แม้ว่ามุมมองและพฤติกรรมในวงการวิชาการของเขาอาจจะสุดโต่งไปสักหน่อย แต่เราก็ไว้วางใจเขาในเรื่องนี้ได้”
พิธีกรพยักหน้าและพูดพร้อมกับยิ้ม
“แน่นอนครับ ผมไว้วางใจนักวิชาการลู่ของเรา ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่อีกจำนวนมากที่กำลังนั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ในตอนนี้ก็ไว้วางใจและเชื่อในตัวเขาเช่นกัน”
นักวิชาการเสวี่ยพยักหน้าและพูดว่า
“ย้อนกลับไปตอนที่เรามีความก้าวหน้าเพียงเล็กน้อยในการวิจัยเรื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัม นักวิชาการลู่ก็ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าเทคโนโลยีนี้อาจจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสารสนเทศ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเปิดเผยเทคโนโลยีนี้ต่อสาธารณะ เขาจึงได้ทำการพัฒนาอัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัม มีการออกแบบเคเบิลออปติกควอนตัมที่ไม่สามารถแฮกได้เพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีนี้”
ชายสูงวัยยิ้มอย่างพอใจ
“ในตอนนี้กระบวนการทำงานทั้งหมดก็เสร็จสมบูรณ์ในที่สุด หลังจากมีการดำเนินการมาตรการตอบโต้ต่างๆ สุดท้ายเราก็สามารถนำเทคโนโลยีนี้ออกมาใช้ได้และให้มันได้สร้างผลกระทบด้านบวกต่อสังคมของเรา
“ดังนั้นจากคำถามของคุณ ผมสามารถบอกคุณได้ว่าความกังวลทั้งมวลของคุณไม่จำเป็นต้องนึกถึงอีกต่อไป เราได้ค้นพบและกำจัดความเสี่ยงทั้งหมดนั้นออกไปแล้ว!”
พิธีกรตกตะลึง
“อัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัม… ได้รับการพัฒนาโดยนักวิชาการลู่เหรอครับ?”
นักวิชาการเสวี่ยพูดพร้อมกับยิ้ม
“ใช่แล้วครับ จะเป็นใครไปได้ที่มีความสามารถแบบนี้นอกจากนักวิชาการลู่?”
เมื่อครู่นี้เรื่องนี้ยังคงเป็นความลับของรัฐและมีคนน้อยกว่าหยิบมือที่รู้ว่ามีอัลกอริทึม
ขณะนี้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัมและเทคโนโลยีการสื่อสารเชิงควอนตัมก็ได้รับการเปิดเผยแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะเก็บเรื่องการพัฒนาอัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัมไว้เป็นความลับอีกต่อไป
นานทีเดียวที่นักวิชาการเสวี่ยไม่สามารถบอกความลับนี้กับใครได้ เขารู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีทันใด
เขามองไปที่พิธีกรที่กำลังประหลาดใจแล้วตบไปที่ต้นขาตัวเองขณะที่เขาพูดขึ้นอย่างมีอารมณ์ว่า
“การค้นพบสิ่งนี้ในเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัมจะเปลี่ยนชีวิตของเราไปอย่างแน่นอน ไม่ต้องสงสัยในเรื่องนี้เลย!
“บางทีถ้าความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างช้าๆ บางทีเราอาจจะไม่ได้มีปฏิกิริยาที่ยิ่งใหญ่ หรือเราอาจจะไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงด้วยซ้ำ… อย่างไรก็ตามการพัฒนาเทคโนโลยีไม่ได้รอเรา
“สิ่งนี้จะนำมาซึ่งความยุ่งเหยิงและความกังวลอย่างแน่นอน ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีส่งผลต่อคนจำนวนมาก รวมถึงตัวผมด้วย…”
นักวิชาการเสวี่ยนิ่งไปครู่หนึ่ง
เขามองเข้าไปในกล้องและพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า
“แต่เราจะทำทุกอย่างที่เราทำได้เพื่อลดความยุ่งเหยิงและทำให้มันเกิดผลกระทบน้อยที่สุด
“นี่คือความรับผิดชอบของเราต่อสังคมในฐานะนักวิชาการ”
…………..