บทที่ 1456 ฉิวฉิวที่แสดงละครเป็น + ตอนที่ 1457 อยากดื่มเหล้าไหม

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1456 ฉิวฉิวที่แสดงละครเป็น + ตอนที่ 1457 อยากดื่มเหล้าไหม Ink Stone_Romance

 

ตอนที่ 1456 ฉิวฉิวที่แสดงละครเป็น

เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเสียงเบา พลางมองไปทางฉิวฉิวแวบหนึ่ง ทำไมถึงอ้วนขึ้นรอบเอวหนึ่งแล้วล่ะ?

“พ่อป้อนช็อกโกแลตให้ฉิวฉิวน้อย ๆหน่อย เหมยเหมยบอกว่าเธอเตรียมให้เจ้าหมอนี่ลดความอ้วน ถ้ากินอีกก็ปีนต้นไม้ไม่ขึ้นแล้ว” เหยียนหมิงซุ่นพูดเตือน

ฉิวฉิวแยกเขี้ยวใส่เหยียนหมิงซุ่นอย่างไม่พอใจ…

“ให้ตายเถอะ ตอนอยู่ในทะเลทรายรับปากไว้ดิบดีพอตอนนี้ใช้งานข้าเสร็จก็เปลี่ยนท่าทีเชียวนะ? มิน่าถึงโดนเจ้าลิงตัวเมียถูกใจเข้า!”

สมน้ำหน้า!

เหยียนหมิงซุ่นเด็ดลูกองุ่นจากเหนือศีรษะดีดใช้อุดปากที่กำลังร้องเสียงโหวกเหวกของฉิวฉิวอย่างเหมาะเจาะ นั่นจึงทำเอาเขาสำลักจนตาขาวถลน แขนขาสี่ข้างตะเกียกตะกายไปมาเหมือนโรคลมชักกำเริบ

เฮ่อเหลียนชิงรีบตบลูบหลังฉิวฉิวผู้น่าสงสารแรง ๆหลายทีเพื่อให้ลูกองุ่นกลิ้งตกลงพื้น ฉิวฉิวหอบอยู่หลายทีแล้วปีนป่ายขึ้นไหล่เฮ่อเหลียนชิงด้วยความโกรธ ใช้ดวงตาสำดำขลับเท่าเม็ดถั่วมองเขาอย่างน่าสงสาร

“แกนี่มันยิ่งโตยิ่งไม่เข้าท่าเลยจริง ๆ รังแกฉิวฉิวมันใช้ได้ที่ไหนกัน!”

เฮ่อเหลียนชิงก่นด่าติดกันหลายประโยค แล้วแกะช็อกโกแลตปลอบใจฉิวฉิวอีกหลายแท่งถึงทำให้ฉิวฉิวหายโกรธได้ ระหว่างที่แทะแท่งช็อกโกแลตเสียงดังกรุบ ๆก็ยังไม่วายส่งสายตาได้ใจให้เหยียนหมิงซุ่น

เหยียนหมิงซุ่นลอบขำอยู่ในใจ เจ้าตัวเล็กนี่ร้ายกาจจริง ๆ!

แสดงละครเป็นเสียด้วยทั้งที่เมื่อครู่เขาหลบลูกองุ่นได้อย่างง่ายดายแท้ ๆ แต่เพื่อแท่งช็อกโกแลตเพียงไม่กี่แท่งกลับยอมให้โดนลูกองุ่นติดคอ เก่งกับแค่เรื่องแบบนี้เท่านั้นแหละ!

เหยียนหมิงซุ่นไม่สนใจเฮ่อเหลียนชิงอีกต่อไป แล้วหันไปบอกเสี่ยวเมิ่งที่คอยสังเกตการณ์อยู่ข้าง ๆประโยคหนึ่งว่าเตรียมจะกลับไปหาเหมยเหมยแล้ว

“ฉันว่าวัน ๆแกมัวแต่ไปนอนบ้านยายนั่นมันเข้าท่าเสียที่ไหน? ไม่ถูกต้องตามจารีต ที่บ้านไม่มีของกินของใช้ให้แกหรือไง?” เฮ่อเหลียนชิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์นัก

เหยียนหมิงซุ่นตอบกลับเสียงเย็นชาโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา “ใครกล้าปากพล่อย? ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ?”

อยู่กับเหมยเหมยได้นอนกอดภรรยาตัวหอมนุ่มทุกวันแล้วยังได้ทำในสิ่งที่ชอบทำอีกด้วย นอนที่ฟาร์มจำต้องอยู่กับตาแก่น่าเบื่ออย่างเฮ่อเหลียนชิง คนโง่ยังรู้ว่าต้องเลือกทางไหน

เฮ่อเหลียนชิงเบะปากหันไปบ่นกับเสี่ยวเมิ่ง “ตอนนี้ปีกกล้าขาแข็งแล้ว คำพูดของฉันทำเป็นหูทวนลมได้ ตอนนี้ในใจในสายตามีแต่เจ้าเด็กบ้านั่นไม่นึกถึงฉันสักนิด แต่ละคนใจร้ายใจดำเสียจริง…”

เสี่ยวเมิ่ง ‘…’

นั่นก็เพราะนายท่านทำตัวเองไม่ใช่หรือ?

ใครใช้ให้คุณท่านทำให้คุณหนูจ้าวไม่พอใจกันล่ะ!

เหยียนหมิงซุ่นกลับแอบนึกโชคดีอยู่ไม่น้อยที่กลับฟาร์มได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นคนน่าเป็นห่วงอย่างเฮ่อเหลียนชิงอาจเอาตัวปัญหาอย่างโฮ่งเซิ่งหนานมาให้ก็เป็นได้ ฆ่าก็ฆ่าไม่ได้แล้วยังคุยไม่รู้เรื่องอีก เขาคิดหาทางแก้ไขที่ดีไม่ได้ในระยะเวลาอันสั้นนี้หรอก

หวังเพียงว่าจะมีข่าวดีจากทางเซียวเซ่อโดยเร็วที่สุด เช่นนี้เขาจะเป็นฝ่ายโจมตีได้สักที

ที่แท้หลังจากเหยียนหมิงซุ่นรู้ว่าโฮ่วเซิ่งหนานกลับประเทศก็รีบติดต่อเซียวเซ่อให้เธอรีบช่วยสืบประวัติของโฮ่วเซิ่งหนาน ผู้หญิงคนนี้เรียนมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษและแวดวังสังคมหลักก็อยู่ที่ประเทศอังกฤษ ตอนนี้เซียวเซ่อมีเส้นสายเป็นของตัวเอง การสืบเรื่องพวกนี้ไม่น่ามีปัญหาอะไร

เหยียนหมิงซุ่นกล้าเอาหัวเป็นประกันว่าโฮ่วเซิ่งหนานต้องใช้ชีวิตที่สกปรกในต่างประเทศ

ทว่าหลังจากเขาเห็นข้อมูลที่ได้มาจากเซียวเซ่อเหยียนหมิงซุ่นรู้สึกสะอิดสะเอียนใจยิ่งกว่า โฮ่วเซิ่งหนานสำส่อนยิ่งกว่าที่เขาคิดไว้อีก ทำให้เขารู้สึกว่าการถูกผู้หญิงแบบนี้จับจ้องถือเป็นการหยามเหยียดในอีกรูปแบบหนึ่ง

นี่มันสุนัขตัวเมียติดสัดที่มีตัวผู้รายล้อมชัด ๆ!

กระทั่งคืนวันที่สองเหมยเหมยขออนุญาตเหยียนหมิงซุ่นไปมุมภาษาอังกฤษเป็นเพื่อนฉีฉีเก๋อ มุมภาษาอังกฤษโดยทั่วไปเปิดตั้งแต่สองทุ่มถึงสี่ทุ่มซึ่งตั้งอยู่ตรงสวนดอกไม้ข้างสระบัวของมหาวิทยาลัย มีนักเรียนแลกเปลี่ยนและอาจารย์ต่างชาติไม่น้อย รวมถึงเหล่านักศึกษาที่ต้องการจะพัฒนาภาษาอังกฤษด้วยบางส่วน

ชาวต่างชาติอยากเรียนภาษาจีนขณะที่นักศึกษาชาวจีนเองต้องการพัฒนาทักษะการสื่อสาร ต่างฝ่ายต่างมีเป้าหมายเป็นของตัวเองเลยก่อให้เกิดมุมภาษาอังกฤษขึ้นมา บรรยากาศการเล่าเรียนยามค่ำคืนก็เข้มข้นพอสมควร

แน่นอนว่ามีคนบางส่วนมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์อื่นซึ่งไม่ใช่เพื่อมาเรียนภาษาอังกฤษ

……………………..

ตอนที่ 1457 อยากดื่มเหล้าไหม

“คนเยอะจัง เหมยเหมย หรือว่าเราไปที่อื่นกันเถอะ!” พอฉีฉีเก๋อเห็นคนมากมายขนาดนี้ก็เกิดอาการตื่นตระหนก ดูเคอะเขินหมดซึ่งความเด็ดขาดตรงไปตรงมาเฉกเช่นปกติ

เหมยเหมยถลึงตาใส่เธอแวบหนึ่งแล้วออกแรงฉุดกระชากเธอให้เดินไปข้างหน้า “นาน ๆทีฉันถึงจะได้ออกมาสักครั้งนะ ถ้าเธอไม่ไปจะทำให้ฉันผิดหวังมากเลยล่ะ อีกอย่างเธอกลัวอะไรกันแน่? คนพวกนั้นไม่มีใครรู้จักเธอ เธอก็ไม่รู้จักพวกเขา ต่อให้พูดผิดก็ไม่เป็นไร ใครจะรู้ว่าเธอเป็นใครกันล่ะ!”

ฉีฉีเก๋อเริ่มใจกล้าขึ้นอีกนิด เมื่อลองคิด ๆดูแล้วเพื่อนยอมสละเวลาคืนหนึ่งเพื่อเธอ หากเธอยังไม่เปิดปากพูดสักหน่อยคงรู้ผิดไม่น้อย

“งั้นฉัน…จะพูดแล้วนะ…เธออย่าหัวเราะเยาะฉันนะ!”

ฉีฉีเก๋อทำใจดีสู้เสือก่อนเดินไปยังสนามหญ้าที่อัดแน่นไปด้วยผู้คน

เหมยเหมยกลอกตาใส่เธออีกที “ฉันมาด้วยกันกับเธอนะ ฉันหัวเราะเยาะเธอแล้วฉันได้หน้าเหรอ?”

ฉีฉีเก๋อหัวเราะอย่างใสซื่อและรู้สึกใจกล้ามากกว่าเดิมอีกนิด จึงเป็นฝ่ายดึงแขนเหมยเหมยให้เดินไปที่คนหมู่มาก ไม่รอให้พวกเธอต้องหาเป้าหมายก็มีคนเข้ามาทักทายก่อนด้วยสายตาอึ้งทึ่ง

“สวัสดี ฉันพอล คนออสเตรเลีย ยินดีที่ได้รู้จัก” คนที่มาทักทายคือชายผิวขาวที่มีผิวเป็นสีแทนน้อยๆ ร่างสูงใหญ่บึกบึนที่ดูปราดเดียวก็รู้ได้เลยว่าเป็นมืออาชีพด้านกีฬา ทั้งยังพูดภาษาจีนได้คล่องแคล่วอีกด้วย

ขณะนี้อยู่ช่วงเดือนตุลาคมซึ่งอากาศในเมืองหลวงค่อนข้างเย็น เหมยเหมยสวมเสื้อไหมพรมบาง ๆแล้วแต่พอลคนนี้กลับยังใส่เสื้อยืดแขนสั้นเผยให้เห็นกล้ามแขนที่นูนเป็นก้อน ๆราวกับน่องไก่ชิ้นโต

พอลยื่นมือออกมาหาเหมยเหมย เหมยเหมยไม่ชอบจับมือกับผู้ชายอื่นเลยมุ่นคิ้วน้อย ๆแต่ก็ยื่นมือออกไปจับแล้วชักกลับอย่างรวดเร็ว

“สวัสดี ฉันจ้าวเหมย นี่เพื่อนฉันฉีฉีเก๋อ” เหมยเหมยกล่าวแนะนำ

ฉีฉีเก๋อยิ้มให้พอลเล็กน้อยทำเอาพอลตาวาวแอบร้องเฮในใจว่าวันนี้โชคดีสุด ๆไปเลย ไม่คิดว่าเพื่อนของสาวงามสุดจะบรรยายคนนี้ก็เป็นคนสวยอีกคนหนึ่ง!

จะว่าไปส่วนตัวพอลแอบชอบหุ่นของฉีฉีเก๋อกว่าเล็กน้อย แค่ดูก็รู้ว่าฉีฉีเก๋อเป็นเด็กผู้หญิงที่ออกกำลังกายบ่อยกล้ามเนื้อแน่นนั้นเรียกให้เขาหลงใหล แต่ความงามของจ้าวเหมยกลับทำให้เขาหลงใหลมากกว่า หลงใหลเสียจนสามารถมองข้ามหุ่นบอบบางของจ้าวเหมยไปได้เลย

หากได้สองสาวคนสวยนี้มาทั้งคู่ ครั้งนี้เขาก็มาไม่สูญเปล่าแล้ว!

เหมยเหมยขมวดคิ้วอีกครั้ง เธอรู้สึกได้ถึงเจตนาร้ายของพอล

“เราออกไปดื่มเหล้ากันสักแก้วไหม ฉันเลี้ยงเอง!” พอลพูดเชื้อเชิญอย่างกระตือรือร้น

ฉีฉีเก๋อตาเป็นประกาย เธอชอบดื่มเหล้ามากที่สุดแต่เธอไม่ได้ตอบตกลงทันทีแต่หันมามองเหมยเหมย นี่เป็นถิ่นของเพื่อน เธอต้องเชื่อฟังเพื่อน

เหมยเหมยสีหน้าเย็นชาลงพลางตอบปฏิเสธเด็ดขาด “ขอบคุณสำหรับความหวังดี แต่เราไม่สนใจจะดื่มเหล้า ลาก่อน!”

ว่าแล้วเธอก็ฉุดแขนฉีฉีเก๋อเดินจากไปด้วยความรู้สึกคุกรุ่นอย่างมาก หรือว่าเธอดูเหมือนเป็นผู้หญิงตื้นเขินที่ชอบเรื่องเงินหลงเรื่องของนอกกายแบบนั้นหรือ?

แม้เธอเพิ่งเคยมามุมภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรกเช่นกันและเคยได้ยินคนเคยเล่าว่ามีนักศึกษาหญิงมากมายที่อยากหาทางลัดไปต่างประเทศก็จงใจตีสนิทกับอาจารย์ชาวต่างชาติหรือนักเรียนแลกเปลี่ยน ส่วนพวกสวะต่างชาติกลุ่มนี้ยิ่งให้การต้อนรับเหล่านักศึกษาหญิงที่เป็นฝ่ายเข้าหาก่อนเป็นอย่างดี แต่ภายในใจกลับดูถูกพวกเธออย่างที่สุด

ถึงขั้นเคยมีชาวต่างชาติบางส่วนพูดโอ้อวดกับคนนอกว่าผู้หญิงชาวจีนพวกนี้แค่พาไปเลี้ยงเหล้าที่ผับบาร์สักแก้วก็พาขึ้นเตียงได้อย่างง่ายดายแล้ว ง่ายยิ่งกว่าหญิงขายบริการตามซ่องเสียอีก

ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้เหมยเหมยก็นึกเกลียดพวกเศษสวะจากต่างชาติพวกนี้เหลือเกิน ยิ่งเกลียดผู้หญิงที่ไม่รักในศักดิ์ศรีตัวเองมากกว่า

ตัวเองยังไม่รู้จักให้เกียรติตัวเอง มิน่าพวกสวะชาวต่างชาติน่าแค้นใจพวกนั้นถึงพูดจาแบบนี้ได้ อับอายขายหน้าหญิงชาวจีนหมด!

ส่วนพอลคนนี้สงสัยคงเป็นหนึ่งในพวกสวะจากต่างชาติ เขาเห็นเธอและฉีฉีเก๋อเป็นอย่างผู้หญิงที่ไม่รักในศักดิ์ศรีตัวเองจึงแสดงท่าทีแบบนี้ใส่

เพราะอยู่ในที่แบบนี้ หากมีชาวต่างชาติชวนไปร้านเหล้าก็เหมือนชวนคุณไปดื่มกาแฟในต่างชาติ จุดประสงค์ก็เพื่อพาขึ้นเตียงนั่นแหละ

……………………………..