ภาค 11 คุนหลุนกลาง กว่างเฉิงบูรพา บทที่ 1061 พิชิต

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอกับชิวเจียไห่เข้าใกล้อาณาเขตของสายฟ้า สองคนหยุดเพราะเห็นแก่มารยาท ก่อนที่ชิวเจี่ยไห่แสดงตัว

ไม่ทันไรสายฟ้าก็เริ่มอ่อนกำลังลง จนกระทั่งสงบลงในที่สุด กลางท้องฟ้าถึงแม้ยังมีเมฆดำแผ่กระจาย แต่ว่าสายฟ้าที่น่ากลัวเหมือนทำลายฟ้าทำลายดินเมื่อครู่หายไปแล้ว

อาคารขนาดยักษ์แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ระหว่างยอดเขา ปรากฏขึ้นด้านหน้าพวกเยี่ยนจ้าวเกอ มันลอยอยู่กลางอากาศ ด้านล่างมีสายฟ้าหลายสายคล้ายผนึกตัวกันกลายเป็นเสา ค้ำยันตัวอาคารแห่งนั้นไว้

“ทั้งสองท่านอุตส่าห์มา ข้าผู้แซ่เหิงต้อนรับไม่ทั่วถึง ได้โปรดให้อภัย” ครั้นประโยคนี้จบลง ประตูกลางของตัวอาคารก็เปิดออก ชายชรารูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งเดินออกมาจากด้านใน เขาคารวะเยี่ยนจ้าวเกอและชิวเจียไห่

ด้านหลังเขายังมีคนอีกหลายคนติดตามออกมา จัดแถวต้อนรับพวกเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความนอบน้อม

ชายชราผู้นั้นเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย ในตอนนี้ออกมาต้อนรับคนหนุ่มสองคนที่อายุห่างจากเขามาก ทว่าจอมยุทธ์จวนวายุอัสนีทุกคนที่อยู่รอบๆ กลับไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างไร

ชายชราก็คือเหิงเซียนต๋า ผู้ปกครองจวนคนปัจจุบันของจวนวายุอัสนี

หากไม่นับเขาคุนหลุน ชายชราผู้นี้นับว่าเป็นผู้มีอำนาจคนหนึ่งในเขตมหานภากลาง

“ท่านชิว ไม่เจอกันนาน” หลังจากเขาทักทายกับชิวเจียไห่ที่รู้จักกันมาก่อนแล้ว เขาก็ย้ายสายตามองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ด้านข้าง “ท่านนี้คงเป็นเซียนผู้ถูกเนรเทศแห่งตระกูลเยี่ยนแล้ว ข้าเหิงเซียนต๋าขอคารวะ”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มพร้อมกับประสานมือ “ผู้ปกครองจวนเหิงเกรงใจไปแล้ว วันนี้เป็นข้ามารบกวน”

เหิงเซียนต๋าพาคนทั้งสองเข้าไปในจวน หลังจากนั่งลงจิบชาแล้วถึงค่อยถามด้วยความสงสัย “ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองมาที่นี่เพราะสาเหตุอันใด”

“เรื่องเป็นเช่นนี้…” ชิวเจี่ยไห่อธิบายถึงเจตนา เหิงเซียนต๋าอดมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความประหลาดใจไม่ได้

ว่ากันตามจริงแล้ว เหิงเซียนต๋าไม่ได้ให้ความสนใจเตาผลึกหินชั้นในเท่าใดนัก ยังไม่เอ่ยถึงว่าจวนวายุอัสนีของเขามีเตาผลึกหินชั้นในอยู่หนึ่งเตา จอมยุทธ์จวนวายุอัสนีทุกคนแทบจะเชี่ยวชาญการหลอมอุปกรณ์

สาขาย่อยของจวนวายุอัสนีกระจายไปทั่วใต้หล้า ความจริงแล้วเป็นเครือข่ายการซื้อขายอาวุธยุทโธปกรณ์แต่ละชนิดที่พวกเขาหลอมขึ้นมา

นอกจากอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงและอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางแล้ว อาวุธในระดับอื่นที่รองลงมา จวนวายุอัสนีหลอมสร้างขึ้นมาให้ตัวเองใช้ได้สบายๆ อีกทั้งมีจำนวนเหลือเฟือจนสามารถจัดจำหน่ายออกไปด้านนอกได้

ต่อให้เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลาง บางครั้งก็จะมีการนำมาแลกเปลี่ยนเช่นกัน

อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง นอกจากจวนวายุอัสนีที่อยู่บนเขาคุนหลุนแล้ว ก็มีอยู่ไม่กี่ขุมกำลังที่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนครอบครองได้ชิ้นหนึ่ง

อาวุธที่โดดเด่นของที่นี่ เป็นเครื่องหมายการค้าที่โด่งดังในเขตมหานภากลาง ไปจนถึงทั่วทั้งโลกซ้อนโลก

เยี่ยนจ้าวเกอคิดจะอาศัยเครือข่ายของพวกเขา เพื่อเปิดแผงขายของตัวเอง ในอีกมุมหนึ่งแล้วเป็นการแย่งชิงธุรกิจของเขา แน่นอนว่าเหิงเซียนต๋าไม่มีทางปฏิเสธเพราะเห็นแก่หน้าเขานครหยก

ลึกๆ ในใจของพวกเขา ความจริงไม่ได้คิดว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวใหญ่โตอันใด จริงอยู่ที่เยี่ยนจ้าวเกอมีความสามารถโดดเด่น และมีพรสวรรค์น่าทึ่ง ทว่าการฝึกฝนวรยุทธ์และศาสตร์ต่างๆ อย่างเช่นการหลอมอุปกรณ์ หลอมโอสถ และค่ายกล กลับเป็นระบบที่แตกต่างกัน ถึงแม้จะมีความเกี่ยวข้องกัน แต่ก็ไม่อาจใช้มาตรฐานเดียวกันมาวัดได้

ตอนแรกที่เหิงเซียนต๋าได้ฟัง เขารู้สึกว่าเยี่ยนจ้าวเกอน่าจะไปได้ของวิเศษจำนวนหนึ่งมาเพราะโชควาสนามากกว่า จึงคิดจะลงมือ

“กลับไม่ทราบว่านอกจากเตาผลึกหินชั้นในแล้ว คุณชายเยี่ยนคิดจะจำหน่ายอะไรอีก ข้าสามารถติดต่อกับผู้ซื้อให้ได้” เหิงเซียนต๋าถาม “ไม่จำเป็นต้องกระจายไปทั่วทุกที่บนโลกซ้อนโลกก็ได้ ต่อให้มีปริมาณมหาศาล หากเป็นของดีจริงๆ ก็สามารถขายได้”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “ของย่อมเป็นของดี ปริมาณเองก็มีมากจริงๆ ทั้งยังมีอยู่หลายประเภท เตาผลึกหินชั้นในเป็นหนึ่งในนี้ เตาผลึกหินชั้นในที่ข้าคิดขายไม่ได้มีแค่ประเภทเดียว และไม่ใช่มีแค่เก้าหรือสิบประเภท แต่มีมากมายนัก”

ชายหนุ่มเว้นไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเสริมอีกว่า “มากของมาก”

เหิงเซียนต๋างงงัน “มากของมาก…เตาผลึกหินชั้นในน่ะหรือ”

ครั้นชายชราได้สติกลับมา เขาแตกตื่นตะลึงลาน

เยี่ยนจ้าวเกอจงใจเน้นว่ามีมากของมาก เช่นนั้นก็หมายความว่าไม่ได้มีแค่เก้าหรือสิบประเภท หรือหลายสิบประเภท แต่อย่างน้อยต้องคำนวณด้วยเลขหลักร้อย!

เหิงเซียนต๋าไม่กล่าววาจาแล้ว เขาแอบเหลือบมองชิวเจียไห่ แม้กระทั่งในตอนนี้กำลังขบคิดว่า พวกตนได้ไปล่วงเกินเขานครหยกหรือเขากว่างเฉิงตรงไหนหรือไม่ อีกฝ่ายถึงได้มากลั่นแกล้งจวนวายุอัสนีของเขา

ธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของตระกูลเหิงแห่งจวนวายุอัสนีบนเทือกเขาเมฆาเชื่อม และสาเหตุที่ดึงดูดให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอมาหา ก็คือเครือข่ายในการจัดจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ของพวกเขา พูดอีกอย่างก็คือ พวกเขานับเป็นพ่อค้าอาวุธรายใหญ่ที่มีอยู่ไม่กี่เจ้าบนโลกซ้อนโลก

ครั้งนี้ที่เยี่ยนจ้าวเกอมาเพราะต้องการจะใช้เครือข่ายจัดจำหน่ายของพวกเขาค้าขายสิ่งของของตัวเอง ไม่ใช่เป็นการแย่งชามข้าว แต่เป็นการทำลายชามข้าวแล้ว

เขาไม่คิดขายอาวุธ แต่คิดขายเตาผลึกหินชั้นในที่ใช้หลอมอุปกรณ์!

เมื่อมีความสามารถของของเตาผลึกหินชั้นใน จะสามารถหลอมอุปกรณ์ได้เอง ไหนเลยจะยังต้องซื้อของจากจวนวายุอัสนี!

ตอนนี้เหิงเซียนต๋ารู้สึกว่าที่เยี่ยนจ้าวเกอมาเพื่อขอให้ร่วมมือเป็นเรื่องลวง การหาเรื่องต่างหากที่เป็นเรื่องจริง!

แต่ด้วยพลังของตัวเยี่ยนจ้าวเกอ กอปรกับอานุภาพของเขานครหยก คนในจวนวายุอัสนีได้แต่โมโห ทว่าทำอะไรไม่ได้

คนในตระกูลเหิงสบตาส่งสัญญาณให้กัน เหิงเซียนต๋ามองไปที่ชิวเจียไห่ไม่หยุด

ฝ่ายชิวเจียไห่ยิ้ม สาเหตุที่เขาแนะนำจวนวายุอัสนีให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ใช่เพราะต้องการเล่นงานเยี่ยนจ้าวเกอ และไม่ใช่เพราะต้องการหาความยุ่งยากให้แก่จวนวายุอัสนี

เมื่อครู่เยี่ยนจ้าวเกอพูดความคิดของตัวเองออกมาแล้ว เขาบอกว่านอกจากเตาผลึกหินชั้นใน ยังมีสิ่งของอย่างอื่นอีก ชิวเจียไห่เชื่อว่าหลังจากคนในจวนวายุอัสนีทราบว่ามันคืออะไรแล้ว จะไม่แสดงสีหน้าเช่นนี้อีกแน่ ตนจึงวางตัวนิ่งเฉย ไม่ร้อนรนแม้แต่น้อย

เยี่ยนจ้าวเกอเหมือนไม่เห็นสีหน้าของจอมยุทธ์จวนวายุอัสนี เขากล่าวอย่างไม่ลังเลว่า “นอกจากเตาผลึกหินชั้นใน ยังมีสุราภูติผี สายฟ้าเทวราช…”

พอได้ยินคำว่า ‘สายฟ้าเทวราช’ คนทั้งจวนวายุอัสนีก็หูกระดิกพร้อมกัน สายตาของทุกคนมองไปที่เยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกันอีกต่างหาก

หากเป็นคนอื่นคงถูกสายตาที่ร้อนเร่าของคนในตระกูลเหิงหลอมละลายทั้งเป็น แต่เยี่ยนจ้าวเกอเยือกเย็น พูดจาไหลลื่นดังเดิม

เหิงเซียนต๋าทั้งที่รู้ว่าเสียมารยาท แต่ก็อดกล่าวตัดบทเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ “คุณชายเยี่ยน ท่านรอเดี๋ยว รอเดี๋ยวก่อน ขออภัยที่ข้าเสียมารยาท เมื่อครู่ท่านคล้ายกล่าวถึงสายฟ้าเทวราชหรือ”

“ถูกต้อง” เยี่ยนจ้าวเกอไม่ถือสาที่ถูกตัดบท “เมื่อครู่ข้าพูดถึงสายฟ้าเทวราชจริงๆ”

ฝ่ายเหิงเซียนต๋าสูดหายใจลึก “เป็นสายฟ้าเทวราช ของวิเศษที่สืบทอดกันในเขาอัสนีทองก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่น่ะหรือ”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “ถูกต้อง”

สายฟ้าเทวราช เป็นของวิเศษที่เขาอัสนีทองแดนศักดิ์สิทธิ์วรยุทธ์แห่งหนึ่งก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่เคยครอบครอง มันมีความสามารถน่าประหลาดนัก สามารถทำลายอาวุธของคนอื่นได้ ในตอนที่มันปลดปล่อยพลัง แสงสายฟ้าสีทองสายหนึ่งจะพุ่งออกมา ติดตามอาวุธที่ทำจากเหล็ก จากนั้นก็จะเกาะติดบนพื้นผิว แล้วระเบิดออก

มันสามารถสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้แก่อาวุธของศัตรูได้ แม้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่จะไม่ถูกทำลาย แต่ก็ได้รับความเสียหาย คุณสมบัติวิญญาณได้รับผลกระทบ

ในตอนนี้เอง หากผู้ที่ปล่อยสายฟ้าเทวราชออกมาฉวยโอกาสโจมตี ถ้าไม่ได้เปรียบในด้านอาวุธ ก็จะมีโอกาสทำลายอาวุธของอีกฝ่ายโดยสมบูรณ์

ถ้าหากว่าเป็นการต่อสู้กันของศัตรูที่มีพลังอยู่ในระดับเดียวกัน ครั้งนี้จะมีผลต่อการแพ้ชนะ

แต่ว่าสำหรับจวนวายุอัสนีแล้ว คุณค่าที่สูงที่สุดของมันไม่ได้อยู่ที่ความสามารถดั้งเดิม แต่ว่าสามารถนำมาช่วยในการฝึกปรือของพวกตนได้!

………………..