ตอนที่ 1328 – การต่อสู้กับเซียนจักรพรรดิ
เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างเหน็บแนม เขาเหลือบกลับไปที่เขตแดนด้านหลังเขาและพูดอย่างใจเย็นว่า เต๋าเจิ้งเทียน เจ้าไม่ได้ดีใจเร็วเกินไปสักหน่อยหรือ? มันค่อนข้างยากที่จะตัดสินผลลัพธ์ของวันนี้”
เต๋าเจิ้งเทียนหยุดและไม่ได้หนีอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม เขายังคงซ่อนตัวอยู่ภายในโถงศักดิ์สิทธิ์ เขาเชื่อว่าเจี้ยนเฉินไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทำให้เขาหัวเราะเสียงดัง “เจี้ยนเฉิน เจ้ามั่นใจมากเกินไป เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถทำตามที่เจ้าต้องการเพียงเพราะความแข็งแกร่งของเจ้าเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันอย่างนั้นหรือ ? ข้ายอมรับว่าข้าไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าอีกต่อไป แต่ในอาณาจักรแห่งทะเลอันกว้างใหญ่นี้ใครจะรู้ว่ามีกี่คนที่ทรงพลังกว่าข้า ? เห็นได้ชัดว่า มีผู้เชี่ยวชาญไม่กี่คนที่สามารถฆ่าเจ้าได้ ณ ตอนนี้เจ้าอยู่ที่ประตูแห่งความตาย ไม่มีใครช่วยเจ้าได้”
ทันทีที่เต๋าเจิ้งเทียนพูดจบพลังงานของโลกรอบ ๆ ก็รุนแรงราวกับว่ากำลังฟังคำพูดของเขา พลังที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมีอยู่เต็มสภาพแวดล้อม มันมีพลังมากขึ้นและหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อากาศสั่นสะเทือน ดูเหมือนว่าจะเปล่งเสียงคำรามของมังกรอสรพิษ
แต่เจี้ยนเฉินเพิกเฉยทุกอย่างราวกับว่าเขาไม่สามารถรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบตัวเขาได้เลย มีเพียงเถี่ยต้าที่ยืนอยู่ข้างเขาจ้องมองไปที่ท้องฟ้าด้วยความสนใจ เขาถูกชักจูงให้ดูมันต่อไป ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาการต่อสู้ที่ทรงพลัง เลือดของเทพเจ้าสงครามภายในตัวเขาเดือด ขณะที่ร่างของเขาส่องแสงสีทองที่ส่องประกายระยิบระยับ
“อะไรที่เกิดขึ้นกับข้า ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม ม่านพลังนี้ได้กำหนดไว้แล้วว่าเจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอนในวันนี้ เต๋าเจิ้งเทียน” เจี้ยนเฉินเย้ยหยัน
เต๋าเจิ้งเทียนหัวเราะเบา ๆ เพราะความโกรธและตะโกนออกมา ” เจี้ยนเฉิน ความเย่อหยิ่งและความเขลาของเจ้าเหนือกว่าทุกสิ่งที่ข้าคาดหวังจากเจ้า ข้าอยู่ที่นี่ ดังนั้นถ้าเจ้ามีพลังก็มาเอาชีวิตของข้า หากเจ้าไม่สามารถทำได้ในวันนี้ ข้าจะถมเผ่าเต่าของเจ้าให้เต็มไปด้วยซากศพและทำให้เลือดไหลออกมาจนมันกลายเป็นสายน้ำ
จิตสังหารที่เข้มข้นปรากฏในแววตาของเจี้ยนเฉิน เขาพูดอย่างเย็นชา “เต๋าเจิ้งเทียน เจ้าจะไม่ได้รับโอกาสนั้น แม้ว่าเจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าอสรพิษจะปกป้องเจ้า ข้าก็จะฆ่าเจ้า ไม่มีใครช่วยเจ้าได้”
ด้วยพลังอันแข็งแกร่งรอบเจี้ยนเฉินยิ่งรุนแรงมากขึ้นในทันที ปริมาณพลังงานที่ไม่มีที่สิ้นสุดของโลกรวมตัวกันจากสภาพแวดล้อมก่อนที่จะรวมตัวเป็นรูปร่างในพริบตา ร่างนั้นเป็นชายวัยกลางคนที่มีหน้าอกบึกบึน สีหน้าของเขาพร่ามัวและถูกบดบัง ในขณะที่เขายืนอยู่ที่นั่น เขาได้แสดงตัวตนที่ทรงพลังอย่างยิ่งเช่นราชาผู้คุมกฎโลก
“ท่านเจ้าศาลา โปรดฆ่าเจี้ยนเฉินและกำจัดภัยคุกคามในอนาคต” เต๋าเจิ้งเทียนพบร่างที่รวมตัวกันอย่างสมบูรณ์จากพลังงานบนท้องฟ้าในขณะที่เขายังคงอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเขาจึงร้องขอด้วยความตื่นเต้นทันที
มันคือการรวมตัวโดยเจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าอสรพิษโดยการควบคุมพลังงานของโลกโดยใช้ความคิดของเขา เจ้าศาลาไม่จำเป็นต้องมาด้วยตัวเองเพื่อจัดการกับเจี้ยนเฉินเนื่องจากเขาไม่ได้อยู่ที่ขั้นสูงสุดของระดับเซียนราชา สำหรับเจ้าศาลา เพียงแค่ร่างจำลองเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะจัดการกับฝ่ายตรงข้ามใด ๆ ที่อยู่ต่ำกว่าระดับเซียนจักรพรรดิ เพราะเขาเป็นเซียนจักรพรรดิและเป็นเซียนจักรพรรดิมานานหลายปีแล้ว เขามีความคืบหน้าในขอบเขตของการบ่มเพาะเช่นเดียวกัน
“ผู้คุมกฎของเผ่าเต่า ข้าจะดูว่าเจ้าจะฆ่าคนต่อหน้าข้าได้อย่างไร” ร่างจำลองของเจ้าศาลากล่าว เสียงของเขาดังและชัดเจนเปล่งออกมาเหมือนฟ้าร้อง เหมือนเสียงคำรามของพญามังกร หลังจากนั้นเขาชี้นิ้วไปที่เจี้ยนเฉิน มันขยายและหนาเป็นเสาพลังงานเมื่อมันพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉิน พลังงานในสภาพแวดล้อมพุ่งเข้าหานิ้วของเขาอย่างต่อเนื่องทำให้เสามีพลังมากขึ้น พลังอันยิ่งใหญ่ของเซียนจักรพรรดิถูกซ่อนอยู่ในการโจมตี
เจี้ยนเฉินไม่ได้แสดงความกลัว เขาล้อเลียนว่า “ท่านเจ้าศาลา เพียงแค่ร่างจำลองของท่านไม่ความสามารถที่จะหยุดข้าได้ มันจะดีกว่าถ้าท่านมาด้วยตัวเอง” ทันใดนั้นตัวตนของเจี้ยนเฉินก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เหมือนกระบี่ที่ชักขึ้น ร่างเขาสว่างขึ้น เขามาถึงขอบเขตต้นกำเนิดกระบี่แล้วดังนั้นร่างกายของเขาดูเหมือนจะกลายเป็นกระบี่ที่แหลมคม จากนั้นเขาก็ปะทะกับพลังงานที่เจ้าศาลาได้ยิงด้วยพลังอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสีขาวสว่างไสวที่สุดปรากฏขึ้นรอบตัวเขาโอบรอบตัวเขาพร้อมมอบปราณกระบี่ที่พุ่งพล่าน
ปราณกระบี่จับเข้าที่ร่างจำลองของเจ้าศาลาด้วยความประหลาดใจ มันมีพลังมากเกินไปและผิดปกติมากเกินไป เขาอาศัยอยู่มาหลายปีและอ่านบันทึกลับมากมาย ดังนั้นเขาจึงมีความรู้อย่างมาก แต่เขาไม่เคยเห็นปราณกระบี่ที่แหลมคมเช่นนี้เลย
ปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินที่ใช้หลังจากมาถึงขอบเขตต้นกำเนิดกระบี่นั้นไม่ได้รวมตัวกันจากพลังงานอีกต่อไปหลังจากที่เข้าใจวิถีแห่งกระบี่ กลับกัน มันเป็นวิธีการใช้กฎกระบี่แทน
การโจมตีของร่างจำลองล้มเหลวที่จะทำอันตรายต่อเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินบุกทะลวงพลังงานอย่างรวดเร็วราวกับกระบี่ที่พุ่งเข้าหาเจ้าศาลา ปราณกระบี่ควบแน่นอยู่ในมือขณะที่เขาแทงเข้าที่หัวร่างจำลอง เศษวิญญาณเจ้าศาลาอยู่ที่นั่น ดังนั้นเมื่อเศษวิญญาณถูกกวาดออกไป พลังงานที่ใช้ในการควบแน่นร่างจำลองก็จะสลายไป
เจ้าศาลาไม่สามารถสงบนิ่งได้เหมือนเมื่อก่อน การแสดงออกทางสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ในขณะที่เขาไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขาไม่เคยคิดเลยว่าเจี้ยนเฉินจะมีพลังมากขนาดนี้แล้ว
เจ้าศาลาตอบสนองอย่างรวดเร็วแม้จะตกใจ ในช่วงเวลาสำคัญเขาก็ถอยห่างออกไปหลายร้อยเมตรราวกับว่าเขาหายตัวไปและหลีกเลี่ยงการโจมตีที่รุนแรงของเจี้ยนเฉิน แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงแค่ร่างจำลอง แต่ถ้าวิญญาณที่ซ่อนอยู่ภายในร่างจำลองนั้นถูกทำลาย เขาจะยังคงได้รับบาดเจ็บที่ไม่สามารถจินตนาการได้
แม้แต่กับเซียนจักรพรรดิ การได้รับบาดเจ็บที่วิญญาณยังคงเป็นอันตรายถึงชีวิต พวกมันยากที่สุดในการฟื้นคืน
เจี้ยนเฉินดูเหมือนว่าจะคาดเดาได้ว่าร่างจำลองจะหนีไปนานแล้ว ดังนั้นเขาจึงใช้ทักษะมายาพริบตาทันที เขาทิ้งร่องรอยอันพร่าเลือนไว้ข้างหลัง ในขณะที่เขาไล่ตามเจ้าศาลาเหมือนเขาเคลื่อนย้ายไปในพริบตา ด้วยแสงวูบวาบสีขาว ปราณกระบี่อันทรงพลังในมือของเขาถูกแทงเข้าที่หัวของร่างจำลอง
คราวนี้ร่างจำลองของเจ้าศาลาไม่สามารถหลบได้ทันเวลา หัวของเขาถูกแทงและวิญญาณส่วนใหญ่ของเขาก็หายวับไปทันที เหลือเพียงเศษเล็กเศษน้อยที่จะหนีเข้าไปในระยะห่างไกล
เจี้ยนเฉินขยายนิ้วและยิงปราณกระบี่กว้างเท่านิ้วมือไปที่ชิ้นส่วนของวิญญาณเช่นกัน
ในขณะเดียวกันกับเสียงร้องที่น่าสังเวชก็ดังขึ้นในห้องโถงกลางศักดิ์สิทธิ์ภายในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ เมื่อติดตามอย่างใกล้ชิด มันเป็นตัวตนอันยิ่งใหญ่ที่แผ่ออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์เหมือนสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่หลับใหลตื่นขึ้นมา มันสั่นคลอนไปทั้งโถงศักดิ์สิทธิ์
ร่างพุ่งออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็วพุ่งเข้าไปในระยะไกลด้วยตัวตนสูงสุด มันหายไปในชั่วขณะ มันเคลื่อนที่เร็วมาก
“มันเป็นท่านเจ้าศาลา ท่านเจ้าศาลาไม่เคยปรากฏตัวด้วยตัวเองในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา เขาเป็นคนสันโดษอยู่เสมอ..”
” เสียงร้องที่น่าสังเวชดูเหมือนว่าดังมาจากท่านเจ้าศาลา เกิดอะไรขึ้นกับท่านเจ้าศาลา ? มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับการบ่มเพาะของเขาหรือเปล่า ? ”
“เกิดอะไรขึ้นกับท่านเจ้าศาลา? ทำไมเขาถึงจากไปด้วยความโกรธ ด้วยจิตสังหารที่ทรงพลังเช่นนี้ ? มีใครทำให้เขาโกรธหรือ ? ”
ผู้อาวุโสและทูตต่าง ๆ ถกสถานการณ์ในโถงศักดิ์สิทธิ์ พวกเขารู้สึกสับสนและงุนงงอย่างที่สุด แม้แต่ผู้อาวุโสที่เคารพสักสองสามคนก็ไม่ได้มีคำตอบ
“มะ มันเป็นไปไม่ได้ ” เต๋าเจิ้งเทียนและสี่เซียนราชาคนอื่น ๆ ของพันธมิตรเองเป็นสักขีพยานในการประมือครั้งนี้ พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง พวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
จริง ๆ แล้วร่างจำลองของเจ้าศาลานั้นถูกสังหารอย่างง่ายดาย นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างยิ่งสำหรับพวกเขา
อย่าลืมว่าเจ้าศาลาก็คือเซียนจักรพรรดิ สิ่งมีชีวิตที่มีพละกำลังสูงสุด ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าเจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าอสรพิษประสบความสำเร็จค่อนข้างมากในฐานะเซียนจักรพรรดิ เพียงแค่ร่างจำลองของเขาก็เพียงพอที่จะสังหารเซียนราชาขั้นสูงสุดได้อย่างง่ายดาย