หลังจากที่เย่เฉินวางสายหลี่ไท่หลาย ก็พูดกับจ้าวเห้าว่า: “ฉันได้ทาบทามประธานหลี่ของพวกนายไว้แล้ว เขาบอกว่าจะให้นายย้ายไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อเป็นผู้ช่วยของเขา”

จ้าวเห้า รวมทั้งเพื่อนๆทั้งโต๊ะ ต่างก็ตกตะลึงกันหมด

ชื่อเสียงของหลี่ไท่หลาย ใครๆต่างก็เคยได้ยิน เป็นมหาเศรษฐีกว่าหมื่นล้าน!

เป็นผู้ช่วยมหาเศรษฐีกว่าหมื่นล้าน นั่นต้องไม่ใช่งานธรรมดาๆแน่ ๆ เป็นไปไม่ได้ที่คนปกติจะมีโอกาสได้ทำ!

อย่างน้อยที่สุด ก็ต้องจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ถึงขั้นกับผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานที่คล้ายคลึงกันในบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง ถึงจะทำให้เศรษฐีหลี่ไท่หลายพึงพอใจ

เกิดอะไรขึ้นกับจ้าวเห้า ทุกคนต่างก็รู้กันหมดแล้ว

เขาและเย่เฉิน ตอนแรกต่างก็เป็นเพียงแค่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายเท่านั้น เพราะสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้ารับเลี้ยงดูจนถึงอายุ 18 ปีเท่านั้น ในตอนนั้น พวกเขาเรียนจบมัธยมปลายแล้ว ก็เข้าสังคมทำงานเลย

เย่เฉินเก่งกว่าเขานิดหน่อย เพราะตอนแรกคุณท่านใหญ่เซียวส่งเขาไปเรียนที่มหาวิทยาลัยจินหลิงหนึ่งปีโดยเฉพาะ เพื่อพัฒนาความรักกับชูหรัน

แต่หลังจากที่จ้าวเห้าออกมาตอนอายุ 18 ปี ก็ทำงานเลย ทำงานก่อสร้างไม่กี่ปี ก็ไปๆมาๆเมืองไห่อยู่หลายปี

พูดตามจริง สถานการณ์ของจ้าวเห้า ไม่ต่างอะไรจากคุณลุงแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในไซต์ก่อสร้าง ข้อแตกต่างมีเพียงอย่างเดียวก็คือเขาอายุน้อยกว่าก็เท่านั้น

ดังนั้นคนแบบนี้ จู่ ๆ ก็จะได้ไปเป็นผู้ช่วยมหาเศรษฐีหลี่ไท่หลาย เรื่องนี้ฟังยังไงก็รู้สึกน่าอัศจรรย์มาก

จ้าวเห้าเองก็ไม่เชื่อ ไม่เพียงแต่ไม่เชื่อ เขายังรู้สึกว่า ความสามารถของเขาจะไปเป็นผู้ช่วยประธานได้อย่างไร?

ได้เป็นหัวหน้าทีมอยู่บริษัทตัวเองได้ก็เป็นบุญโขแล้ว

แต่ในตอนนี้ จู่ ๆ โทรศัพท์ของจ้าวเห้าก็ดังขึ้น

จ้าวเห้าเห็นเป็นเบอร์แปลก จากนั้นก็รับโทรศัพท์และถามว่า: “สวัสดีครับ ใครเหรอ?”

อีกฝ่ายพูดทันที: “สวัสดี สอบถามหน่อยใช่จ้าวเห้า คุณจ้าวหรือเปล่า? ฉันเป็นผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของไท่หลายกรุ๊ป โทรมาหาคุณเพื่อที่จะแจ้งให้ทราบว่า ตอนนี้คุณได้โยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่แล้ว ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยประธานหลี่ ประธานหลี่ให้เวลาคุณในการเตรียมตัวหนึ่งสัปดาห์ ถึงเวลานั้นคุณมารายงานตัวที่สำนักงานใหญ่ก็ได้แล้ว”

จ้าวเห้าตกตะลึง และโพล่งพูดออกไปว่า: “คุณ……คุณไม่ได้ล้อเล่นกันใช่ไหม? คุณต้องการให้ผมไปเป็นผู้ช่วยของประธานหลี่จริงๆเหรอ? ผมไม่ได้เรียนจบมหาวิทยาลัยนะ……”

อีกฝ่ายพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ประธานหลี่กำชับมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าวุฒิการศึกษาคุณจะเป็นอย่างไร ก็ให้คุณทำตำแหน่งนี้ และก็ไม่ได้ต้องการความรู้ความสามารถใดๆ ขอเพียงแค่คุณขับรถเป็นก็ได้แล้ว ถ้าคุณขับรถไม่เป็นก็ไม่ต้องห่วง บริษัทสามารถออกเงินให้คุณไปอบรมได้”

จ้าวเห้ารีบพูดว่า: “ผมมีใบขับขี่ ใบขับขี่ของผมสอบมา 3 ปีกว่าแล้ว ผมเคยขับรถแท็กซี่ที่เมืองไห่อยู่ช่วงหนึ่ง”

อีกฝ่ายยิ้มและพูดว่า: “งั้นก็ดีเลย ถึงตอนนั้นคุณก็สามารถช่วยประธานหลี่ขับรถได้แล้ว ถ้าประธานหลี่มีอะไรที่ต้องการให้คุณทำ ถึงตอนนั้นเขาจะเป็นคุณบอกคุณเอง”

ขณะที่กำลังพูด อีกฝ่ายก็กล่าวต่อว่า:”จริงสิ เงินเดือนของคุณคือ 2 ล้าน ยังไม่รวมโบนัสสิ้นปีและค่าคอมมิชชั่น”

“ทะ……เท่าไหร่นะ?!” จ้าวเห้าเหมือนถูกฟ้าผ่าทั้งตัว เขาคิดว่าหูเขามีปัญหา ปีละ 2 ล้าน จะเป็นไปได้อย่างไร?

ในระดับความสามารถของตัวเองในปัจจุบัน 1 ปีหารายได้ 100,000 หยวนต่อปีก็น่าทึ่งแล้ว แม้ว่าความฝันที่ตัวเองเคยทำได้ดีที่สุด ตัวเองก็ยังทำไม่ถึงระดับเงินประจำปี 2 ล้าน

ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่าจ้าวเห้าได้ยินไม่ชัด จึงพูดย้ำอย่างจริงจังอีกครั้ง ว่า: “คุณจ้าว รายได้พื้นฐานสำหรับตำแหน่งของคุณคือปีละ 2 ล้าน

จ้าวเห้าตัวสั่นด้วยความตกใจ และพูดว่า: “ปีละ 2 ล้านเยอะเกินไปหรือเปล่า……”

———–