บทที่ 1341 เขามีดีอะไรกันนักหนา

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1341 เขามีดีอะไรกันนักหนา ?

ไม่เห็นด้วยก็ไม่เห็นด้วยสิ ปฏิเสธเรื่องนี้ได้พอดี ก็ยิ่งไม่เป็นการดีกว่าเหรอ?

แต่ว่า นึกไม่ถึงว่าเขาจะจองตั๋วไปญี่ปุ่นแล้ว

ใบหน้าที่หล่อเหลาของคณาธิปนั้นไม่ค่อยพอใจตลอดเวลาอยู่บนเครื่องบิน

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา โตเกียวประเทศญี่ปุ่น

“อากิยามะ!”

ผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับข่าวคราวมาตั้งนานแล้ว หลังจากที่รอรับเขาที่สนามบิน ก็วิ่งเข้ามาทันที

คณาธิปกวาดตามองเขา โยนสมุดบันทึกและกระเป๋าอีกหนึ่งใบที่ถืออยู่ในมือโยนให้เขา เขาถามอย่างเย็นชาว่า “ทางด้านซาจาสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง”

ผู้ใต้บังคับบัญชา: “ช่วงนี้เพราะว่าเรื่องที่จะรวมทองเป็นแผ่นเดียวกัน บริษัทจึงครึกครื้นกันมากเลยครับ คุณเชียนหยวนยังโดนคุณชายรองพาไปที่บริษัทเมื่อวานนี้ด้วยครับ “

“อะไรนะ?”

ความเยือกเย็นจากกายผู้ชายคนนี้ร้ายแรงยิ่งกว่า

ซาจาเป็นบริษัทของเฮกัง หากพายัยเด็กนั่นเข้าไป นั้นก็ไม่ใช่กำลังประกาศหรอกเหรอว่า นั้นคือนายหญิงในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัยน่ะ

ในที่สุดคิ้วเขาก็ขมวดกันแน่น

ในเวลานี้ ช่วงเวลานั้นลอยเข้ามาในสมอง สาวน้อยที่มักจะหวีผมทรงดังโงะวิ่งขึ้นๆลงๆหิรัญชากรุ๊ปอยู่เสมอ ทุกๆคนต่างยอมรับว่าเธอเป็นคุณนายท่านประธานในอนาคต

แต่ว่า เขาคณาธิปกลับไม่เคยให้คำมั่นสัญญากับเธอสักคำเดียว

แล้วก็ ไม่เคยปรากฏตัวอยู่ด้วยกันเลย

มือที่เขาถือโทรศัพท์ไว้ ในที่สุดก็ขาววอกอยู่นิดหน่อย

ตรงไปขึ้นรถ เขาวิ่งตรงไปที่ย่านกลางเมืองโตเกียว และในเวลานี้ ที่บริษัทซาจา เพราะว่าเฮกังยะกะพาคู่หมั่นเข้ามาด้วยเมื่อวานนี้ ภายใต้ความสุขของเขา จึงประกาศเรื่องๆหนึ่งว่า

“ค่ำคืนนี้ เพื่อเป็นการต้อนรับภรรยาท่านประธานใหญ่ในอนาคตของพวกคุณ ผมขอเชิญทุกคนไปทานอาหารที่โรงแรมฮิลตันครับ!”

“ว้าว !”

เมื่อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ทั้งบริษัทต่างส่งเสียงระเบ็งเซ็งแซ่ด้วยความตื่นเต้นกันหมด

โรงแรมฮิลตัน นั่นเป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่เลื่องชื่อลือนามในโตเกียว ทานอาหารในสถานที่แบบนั้น คนกินเงินเดือนธรรมดาอย่างพวกเขา ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไรถึงจะได้มีสิทธิ์นี้

ดังนั้นในช่วงบ่ายวันนี้ ทั้งบริษัทล้วนตื่นเต้นตั้งหน้าตั้งตารอกันทั้งนั้น

แป๊บเดียวข่าวก็เเพร่กระจายไปถึงตระกูลเชียนหยวน

“ฮิลตันเหรอ?”

หลังจากที่พ่อของเชียนหยวนได้ยินสถานที่นี้แล้ว ก็เผยสีหน้าที่พึงพอใจออกมา

ขอเพียงแค่เชียนหยวนล๋ายเย่ หลังจากที่ได้ยินว่าต้องไปทานข้าวเป็นเพื่อนผู้ชายที่เธอไม่ชอบคนนั้นอีก เธอตาเเดงๆ วิ่งไปที่ห้องของตัวเองและล็อคประตูไว้

“หนูเย่เย่? ลูกเปิดประตูหน่อย เป็นแม่เองลูก”

คุณนายเชียนหยวนเห็นลูกสาวเสียใจอีกแล้ว จึงรีบเดินเข้ามาอยากจะปลอบประโลม

ตระกูลอย่างพวกเขา บรรยากาศก็พอใช้ได้นะ อย่างไรเสีย ก็มีเพียงแค่ลูกสาวสองคนเท่านั้น ไม่มีลูกชาย อยู่ประเทศนี้ หากว่าไม่มีผู้ชาย ก็ทำได้เพียงแค่ฝากความหวังไว้ที่ลูกสาวอย่างเดียวเเล้ว

แต่ว่า คุณนายเชียนหยวนนี่เรียกไปหลายคำเเล้ว เชียนหยวนล๋ายเย่ที่อยู่ด้านในก็ยังคงไม่เปิดประตู

กลับเป็นเชียนหยวน ชิกะพี่สาวของเธอที่อยู่ด้านนอก หลังเห็นน้องสาวไม่เปิดประตู เธอขมวดคิ้วและเข้ามาเคาะประตูโดยตรง

“ล๋ายเย่ รีบเปิดประตูเร็วเข้า เเกปล่อยให้แม่รออยู่ด้านนอกนานขนาดนั้นได้ยังไง? ทำเกินไปแล้วนะ เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ! เธอตำหนิอย่างรุนแรง ต้องทำให้เชียนหยวนล๋ายเย่รีบเปิดประตู

อยู่ในประเทศนี้ ก็เป็นแบบนี้เเหละ

ต้องมีมารยาทรู้จักที่ต่ำที่สูง และก็ระหว่างพ่อแม่พี่น้อง ล้วนต้องเข้มงวด โดยเฉพาะชนชั้นสูงอย่างพวกเขาน่ะ

เชียนหยวนล๋ายเย่ไม่มีทางเลือกอื่น ท้ายที่สุดก็ทำได้แค่เปิดประตูทั้งที่ตายังแดงๆอยู่

“แม่ค่ะ หนู……ไม่อยากไปทานข้าวค่ะ……”

“เเกจะไม่ไปได้ยังไง? ตอนนี้เเกหมั่นหมายกับตระกูลเฮกังแล้วนะ เขาต้องการให้เเกไป เเกก็ต้องไป ไม่อย่างนั้น เเกจะทำให้คนภายนอกคิดว่าตระกูลของเราไร้การอบรมสั่งสอนเหรอ เเกรู้บ้างไหม?”

พี่สาวสั่งสอนก่อนอีกแล้ว

เชียนหยวนล๋ายเย่ฟังแล้ว ก็คุกเข่านั่งอยู่ที่ปากประตู ยิ่งเพิ่มความเศร้าใจเข้าไปอีก น้ำตาจึงไหลพรากออกมา

“โธ่……”

คุณนายเชียนหยวนเห็นฉากนี้ สุดท้ายก็ทำได้แค่ถอนหายใจ

เรื่องการแต่งงานนี้ อันที่จริงแต่เเรกเริ่มเป็นลูกสาวคนโตคนนั้นของเธอ แต่เมื่อตอนที่ตระกูลเฮกังมาที่ตระกูลเชียนหยวนของพวกเขาเพื่อมาสู่ขอเป็นครั้งแรก ลูกสาวคนเล็กที่เพิ่งโต หลังจากที่ได้ยินว่าเป็นบุตรบุญธรรมท่านนั้น

นึกไม่ถึงว่าเธอจะเอ่ยออกมาก่อนว่า เธอเห็นด้วย

เธอเห็นด้วย ลูกสาวคนโตก็ดีใจไปกับสถานการณ์นี้ เพราะว่าบุตรบุญธรรมคนนั้น เธอเห็นว่าไร้แนวโน้มที่ดี ลูกนอกสมรสคนหนึ่ง แม่ของเขาเป็นมือที่สามอยู่ตระกูลเฮกังมาหลายปีแล้ว

ตัวตนแบบนั้น ไม่คู่ควรกับคุณหนูใหญ่ตระกูลเชียนหยวนอย่างเธอหรอก

ดังนั้น สุดท้ายจึงเปลี่ยนเป็นเชียนหยวนล๋ายเย่แทน

แต่ว่านึกไม่ถึงว่า ถึงเรื่องจะเป็นแบบนี้แล้ว คนๆนั้นก็ยังไม่ต้องการเธอ

“น้องสาว พี่เคยบอกตั้งนานแล้วนะ คนฐานะต่ำต้อย ไม่สามารถทำอะไรได้ดีหรอก ตอนนี้เเกควรจะดีใจนะ คนที่จะรวมทองเป็นแผ่นเดียวกันกับเเกน่ะเป็นผู้สืบทอดตระกูลเฮกังที่แท้จริง แต่ไม่ใช่บุตรบุญธรรมคนนั้น!”

ในตอนที่เชียนหยวน ชิกะเตรียมจะออกไปข้างนอก ก็ยังไม่ลืมที่จะเตือนน้องสาวไว้ด้วย

กลับนึกไม่ถึงว่า เธอเพิ่งจะพูดจบ เชียนหยวนล๋ายเย่ซึ่งถูกคนรับใช้ภายในบ้านพาไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้น นึกไม่ถึงว่าเงยหน้าขึ้นมาทันทีด้วยน้ำตาเอ่อเบ้าตา

“ไม่ใช่นะ พี่อย่ามาพูดจาเหลวไหล อากิยามะไม่ใช่คนฐานะต่ำต้อยสักหน่อย น้องไม่ยอมให้พี่ว่าเขาแบบนี้หรอกนะ”

“พี่พูดอะไรผิดไปเหรอ? เขาไม่ต้องการเธอนะ”

“น้อง……”

“เอาล่ะ พวกลูกทั้งสองคนอย่าทะเลาะกันอีกเลย ชิกะลูกออกไปข้างนอก ให้น้องหวีผมล้างหน้าแต่งเนื้อแต่งตัวดีๆอยู่ในห้อง เตรียมตัวไปร่วมงานเลี้ยงตอนกลางคืน”

คุณนายเชียนหยวนพอเห็นลูกสาวทั้งสองคนทะเลาะกันอีกแล้ว จึงรีบเกลี้ยกล่อมเรื่องที่ชวนปวดหัวเอาไว้

หลังจากนั้น เขาก็ออกไปข้างนอกแล้ว

พลบค่ำ คนตระกูลเชียนหยวนออกเดินทางกันแล้ว เพราะว่างานเลี้ยงครั้งนี้จองอยู่ที่โรงแรมใหญ่ระดับห้าดาวในเมืองนี้ และคนในตระกูลอีกหลายคนก็เตรียมที่จะเข้าไปที่นั่น รวมถึงคุณปู่เชียนหยวนพวกเขาด้วย