บทที่ 1472 เต้นอีกเพลง + ตอนที่ 1473 เต้นระบำลาตินเหมือนกัน

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1472 เต้นอีกเพลง + ตอนที่ 1473 เต้นระบำลาตินเหมือนกัน Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1472 เต้นอีกเพลง

ฉีฉีเก๋อภูมิใจมาก ยกนิ้วเยินยอให้ “จ้าวเหมยเธอเต้นได้ดีจริง ๆ รู้สึกว่าเหมือนเธอไม่มีอะไรที่ทำไม่เป็นเลย!”

ในใจของสีอันน่ารู้สึกอิจฉาไม่น้อยแต่ก็ต้องยอมรับความจริงที่โหดร้ายนี้ จ้าวเหมยเธอดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้จริง ๆ และไม่เพียงแค่เป็นแต่ยังเชี่ยวชาญมากด้วย แต่มันก็ไม่ใช่ข่าวดีสักเท่าไร

“นี่มีอะไรแปลก เมื่อก่อนช่องทีวีเคยทำข่าวจ้าวเหมยมาก่อน ดูเหมือนว่าเธอยังเล่นเครื่องดนตรีได้อีกเยอะเลย เช่น กู่เจิ้ง กีต้าร์ เปียโน ปี่ เป็นต้น ฉันจำได้ว่าการเต้นของเธอยังเคยเข้าร่วมงานกลางคืนเทศกาลตรุษจีนของเมืองจินเลย เหมือนว่าจะแสดงร่วมกับลูกพี่ลูกน้องนะ”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอดไม่ได้ที่จะเริ่มร่ายยาวอีกครั้ง เธอไม่ใช่แฟนคลับของจ้าวเหมย แต่เป็นลี่เมิ่งเฉิน

เพราะว่าลี่เมิ่งเฉินเป็นคนเมืองหลวง รายการ (เด็กอัจฉริยะ) มีแขกรับเชิญเพียงคนเดียวที่มาจากเมืองหลวง และลี่เมิ่งเฉินก็อยู่โรงเรียนเดียวกับเหริ่ยเชี่ยนเชี่ยนแค่คนละชั้น

นั่นเป็นเหตุผลที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถึงได้ให้ความสนใจกับรายการนี้มาก มีทั้งหมดหกสัปดาห์เธอก็ไม่พลาดสักสัปดาห์

เวลานี้เหมยเหมยบนเวทีถูกโหนขึ้นสูงเหนืออากาศอีกครั้ง หัวใจของทุกคนพุ่งขึ้นลำคอ หากตกลงมาจะไม่ใช่แค่มือหักหรือเท้าหักนะ!

ความเป็นไปได้พวกนี้ลดลงเป็นศูนย์มานานแล้วโดยเหยียนหมิงซุ่น ถึงแม้ว่าเหมยเหมยจะไม่ทันระวังตกลงมาจริง ๆ ด้วยฝีมือของลูกน้องหลายคนที่เขาจัดเตรียมไว้ก็สามารถรับเหมยเหมยได้ในเวลาอันสั้น จะไม่เป็นอันตรายหรือบาดเจ็บแม้แต่ปลายผม

เหมยเหมยบิดตัวขยับไปมาเหนืออากาศไม่หยุด แขนเสื้อยังคงสะบัดพลิ้วไหวไปมาอย่างสวยงาม เสียงกลองดังกระหึ่มไม่หยุด

……

สุดท้าย ทุกคนต่างก็คิดว่าเหมยเหมยจะขึ้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วสุดท้ายก็บินขึ้นฟ้าจนถึงจบเพลง

แต่ทว่าพอเคลื่อนตัวไปถึงกลางอากาศ เพลงก็เปลี่ยนอีกครั้ง อยู่ดี ๆเหมยเหมยก็ร่วงตกลงมาในจังหวะความเร็วที่ไม่ช้า ในขณะนี้ยังคงมีระยะห่างจากกลองใหญ่อีกช่วงตึกชั้นหนึ่ง ทุกคนคิดว่าสายขาดคนงามถึงได้หล่นลงมา ต่างพากันกังวลจนลืมหายใจ เอาแต่จับจ้องไปที่เวทีอย่างไม่ละสายตา

เมื่อห่างจากกลองใหญ่สักครึ่งเมตร เหมยเหมยก็ทะยานลงมาหยุดชั่วครู่ จากนั้นเธอก็ตีลังกากลับหัวกระโดดขึ้นไปบนกลองอย่างง่ายดาย และปลดผ้าไหมรัดเอวสีแดงที่เอว หยิบไม้ตีกลองขึ้นมาแล้วตีอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

…จบเพลง

เหมยเหมยฟุบอยู่บนกลองใหญ่ไม่ขยับ ผ้าม่านค่อย ๆเลื่อนปิด

หอประชุมเงียบไปเกือบครึ่งนาที ทันใดนั้นก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง เสียงปรบมือในเวลานี้เสียงฟ้าร้องก็เทียบไม่ได้ เช่นเดียวกับแม่น้ำเฉียนถังที่น้ำขึ้นสูง ซึ่งมีแต่จะดังขึ้นเรื่อย ๆและไม่มีแนวโน้มที่จะหยุดลงได้เลย

“ยอดเยี่ยมมากเลย……นี่ถึงจะเป็นสุดยอดของดีของฮวาเซี่ยพวกเรา พวกของต่างประเทศที่จะเอามาเปรียบเทียบได้ที่ไหนกัน!” มีท่านอาวุโสผมขาวโพลนคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น และตรงตามความเห็นของทุกคน

ศาสตราจารย์แก่คนอื่น ๆก็พากันพยักหน้าตาม เมื่อครู่ตอนที่โฮ่วเซิ่งหนานกำลังเต้นรำอยู่ คนเหล่านี้เป็นคนที่ด่ามากที่สุด เวลานี้พวกเขานึกสบายใจขึ้นมาแล้ว เพราะคิดว่าไม่ใช่คนหนุ่มสาวสมัยใหม่ทุกคนที่จะไร้ยางอายเช่นโฮ่วเซิ่งหนาน ส่วนใหญ่ยังดีอยู่

อย่างเช่นจ้าวเหมยแบบนี้ ดีเลิศเสียจริง!

ไม่ง่ายเลยที่จะได้เห็นเฮ่อเหลียนชิงฉายแววชื่นชมเปิดเผยเช่นนี้  ไม่ได้ปากคอเราะรายเฉกเช่นก่อน เสี่ยวเมิ่งจึงจงใจแกล้งเขา “นายท่าน เหมยเหมยเต้นเป็นอย่างไรบ้างครับ?”

“พอได้!”

เฮ่อเหลียนชิงกลั้นอยู่นาน ถึงได้พ่นออกมาสองคำ

เขาอยากจะพูดว่าเต้นได้แย่มาก แต่คนเราต้องมีมโนธรรม เขาจะพูดจาไร้มโนธรรมไม่ได้!

ม่านปิดลง ลูกน้องเหยียนหมิงซุ่นเริ่มย้ายกลองกันอย่างเป็นระเบียบ ในเวลาอันสั้นเวทีก็ถูกจัดการเป็นระเบียบเรียบร้อย จ่านเฟยไป๋ที่รออยู่ข้าง ๆเตรียมจะออกไปทำหน้าที่ต่อ เหมยเหมยก็เรียกเขาเอาไว้

“รุ่นพี่จ่านคะ ขอเวลาให้ฉันอีกสักสองสามนาทีได้ไหมคะ? ฉันอยากจะเต้นอีกสักหน่อย ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ได้แล้วค่ะ” เหมยเหมยขอร้อง

………………………………………….

 ตอนที่ 1473 เต้นระบำลาตินเหมือนกัน

จ่านเฟยไป๋ยังไม่ได้ตอบ เซียวเวยรีบชิงพูดขึ้นว่า “การแสดงต่าง ๆถูกกำหนดเวลาไว้อย่างเคร่งครัดแล้ว เธอมีสิทธิ์อะไรจะเต้นอีก? แล้วรายการการแสดงของใครจะถูกหักออกจากสองสามนาทีนี้ล่ะ?”

“เวลาของฉันไงคะ กำหนดการแสดงเดิมของฉันคือสิบห้านาทีรวมถึงการจัดเตรียมและเก็บอุปกรณ์ด้วย แต่ฉันบอกก่อนเริ่มงานแล้วดังนั้นตอนนี้ฉันใช้เวลาแค่สิบเอ็ดนาที ซึ่งหมายความว่าฉันเหลือเวลาอีกสี่นาที ถ้าหากเธอหยุดพูดจาไร้สาระ เวลาของฉันก็มีมากพอ ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาของคนอื่น”

น้ำเสียงของเหมยเหมยเรียบนิ่ง ก่อนที่เธอจะทำการแสดงก็บอกลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นเรียบร้อยแล้ว ลดระยะเวลาการเต้นลงหนึ่งนาที เอาเวลาไม่กี่นาทีจากเวลาเตรียมการออกก็เพื่อช่วงเวลานี้

สีหน้าของเซียวเวยเปลี่ยนเล็กน้อย เตรียมกำลังจะอ้าปากตำหนิ จ่านเฟยไป๋มองตักเตือนเธอทีหนึ่ง

เขาเป็นประธานของชมรมกล่าวสุนทรพจน์และยังเป็นประธานนักศึกษาอีก เป็นผู้วางแผนงานในเย็นนี้อีกด้วย ดังนั้น เขามีอำนาจตัดสินใจอย่างเต็มที่ เซียวเวยถูกเขาตักเตือนจึงทำได้แค่เพียงปิดปากด้วยความโกรธ

“ได้ ฉันยินดี เพียงแต่น้องจ้าวเหมยเธอเตรียมการเต้นอะไรไว้อีก?” จ่านเฟยไป๋ถามยิ้ม ๆ

“การเต้นระบำลาติน!”

เหมยเหมยก็ตอบกลับแบบยิ้ม ๆจ่านเฟยไป๋นิ่งตะลึงไป ในไม่ช้าก็พลันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขามองเหมยเหมยอย่างมีความหมายลึกซึ้ง เลิกคิ้วขึ้นซึ่งมีนัยยะว่าเธอจะเต้นระบำลาตินในชุดนี้เหรอ?

“กรุณารอสักครู่ ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อย ครึ่งนาทีก็เสร็จแล้ว”

เหมยเหมยวิ่งไปทางหลังเวทีอย่างรวดเร็ว การแสดงต่อไปเป็นการแสดงคู่ของนักเรียนใหม่สองคน ทั้งสองคนเรียกเหมยเหมยไว้ พูดอย่างตื่นเต้นว่า “จ้าวเหมย พวกเราให้เวลาเธอได้สองนาที เธอไม่ต้องกังวล!”

“พวกเราเองก็ให้ได้สองนาที จ้าวเหมยเธอเต้นให้เต็มที่เลย ไม่ต้องรีบนะ!”

การแสดงถัด ๆไปก็ไม่อยากน้อยหน้าคนอื่น พวกเขาเป็นกลุ่มนักร้องประสานเสียง ร้องมากไปหนึ่งประโยคหรือน้อยกว่าหนึ่งประโยคก็ไม่เป็นอะไร

“ใช่ ๆ…ไม่รีบเลย พวกเรายกเวลาให้คนละหนึ่งนาที เวลาก็เพียงพอแล้ว จ้าวเหมยตั้งสมาธิจดจ่อเต้นให้ดีก็พอ พวกเราสนับสนุนเธอเต็มที่!”

นักแสดงทุกคนที่สแตนด์บายหลังเวที ต่างก็มีน้ำใจกะตือรือร้น ใจกว้างเป็นอย่างมาก

ดาวมหาวิทยาลัยเต้นระบำโบราณได้สวยงามมาก การเต้นระบำลาตินต้องดูดีกว่าแน่นอน โอกาสที่จะได้เห็นให้เป็นบุญตาเช่นนี้ พวกเขาไม่พลาดอยู่แล้ว!

“ขอบคุณพวกเธอนะ!”

เหมยเหมยซาบซึ้งจนกล่าวคำขอบคุณ ตอนนี้มีเวลามากมายงั้นเธอก็ไม่ต้องรีบร้อนมากนัก

เธอวิ่งเหยาะ ๆไปหลังเวทีเปลี่ยนเสื้อผ้า การแสดงนี้เกิดขึ้นจากอารมณ์ชั่ววูบเธอจึงไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าสำหรับการเต้นระบำลาตินมา เธอก็แค่อยากจะให้บทเรียนกับโฮ่วเซิ่งหนานซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นทางการมากนัก จะใส่เสื้อยืดหรือกางเกงยีนส์ธรรมดาก็ย่อมได้

จ่านเฟยไป๋เดินมาหน้าเวที ยิ้มเบา ๆแล้วพูดว่า “เมื่อครู่การแล้วระบำกลองของจ้าวเหมยยอดเยี่ยมไหมครับ?”

“ยอดเยี่ยม!” เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง เสียงเหมือนกับฟ้าผ่าก็ไม่ปาน

“ถ้าอย่างนั้นพวกคุณยังอยากดูนักเรียนจ้าวเหมยเต้นรำอีกไหม?”

“อยาก เอาอีก ๆ!”

พวกนักเรียนได้ยินคำพูดที่รู้ใจ สายตาก็เป็นประกายในทันที ส่งเสียงร้องเรียกกันอย่างเซ็งแซ่

จ่านเฟยไป๋พูดยิ้ม ๆว่า “ผมรู้อยู่แล้วว่าพวกคุณยังดูไม่พอแน่นอน ดังนั้นจึงช่วยขอร้องจ้าวเหมยช่วยทำการแสดงเต้นอีกให้เป็นบุญตาของพวกคุณ เมื่อครู่พวกเราต่างก็สนุกไปกับการเต้นระบำดั้งเดิมที่สวยงาม ลำดับถัดไปจ้าวเหมยจะนำเสนอการเต้นระบำแบบลาตินตะวันตกที่น่าหลงใหลสดใสมาให้พวกเราได้ชมกัน ขอเสียงปรบมือต้อนรับครับ”

เสียงปรบมือจากผู้ชมดังขึ้นอีกครั้ง นักเรียนทุกคนต่างก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก

ดาวมหาวิทยาลัยก็จะเต้นระบำลาตินเหรอ?

เสื้อผ้าเหมือนกับโฮ่วเซิ่งหนานหรือเปล่า?

แต่ทว่า——

หลังจากที่พวกเขาเห็นจ้าวเหมยบนเวทีที่ถูกห่อเสื้อผ้าอย่างมิดชิดสบาย ๆ ก็รู้สึกผิดหวังในทันที

ห่อซะมิดชิดขนาดนี้จะยังเป็นบุญตาอะไรอีกเล่า?

………………………………………….