ตอนที่ 1906 หลิงฮันขึ้นครองตําแหน่ง

Alchemy Emperor of the Divine Dao

“ฉินกู่ยวี่ หลอมเม็ดยาเสริมแกร่งปฐพี ในหมู่เม็ดยานิรันดร์สองดาว ความยากในการหลอม ถือว่าอยู่ในระดับสูง คุณภาพของเม็ดยาคือระดับสูง การปรับแต่งขันแรกธรรมดา การปรับแต่งขัน สองธรรมดา” นักปรุงยาคนที่สามกล่าวรายงาน

 

เมื่อสิ้นคํากล่าว เหล่านักปรุงยาก็ส่งเสียงฮือฮาออกมา

 

สําหรับนักปรุงยาสองดาว การที่หลอมเม็ดยานิรันดร์สองดาวที่มีความยากระดับสูง ได้ออกมามีคุณภาพสูงนั้น ถือว่ายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก

 

ปรมาจารย์จื่อเฉิงเผยสีหน้าชื่นชมและกล่าวกับฉินกู่ยวี่ “เจ้าทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญ ญาณเมื่อสามแสนปีก่อน หรือว่าธาตุวิญญาณของเจ้าจะเป็นห้าธาตุของสวรรค์และปฐพี ? ” 

 

ในฐานะปรมาจารย์นักปรุงยา ชายชราสามารถคาดเดาอะไรบางอย่างได้ทันที

 

“ผู้อาวุโสกล่าวถูกต้อง! ” ฉินกู่ยวี่ตอบกลับอย่างสุภาพ “วิญญาณหยางของข้า คือวิญญาณธาตุพฤกษาวารี”

 

ธาตุวิญญาณพฤกษาวารี!

 

นักปรุงยาทุกคนเผยสีหน้าริษยาธาตุวิญญาณเช่นนั้นแม้จะไม่มีผลต่อพลังต่อสู้และการบ่มเพาะพลัง แต่สําหรับศาสตร์ปรุงยาแล้ว มันเปรียบเสมือนสมบัติอันล้ําค่าจากสวรรค์ ซึ่งมีเพียงแค่วิญญาณธาตุพฤกษาเพลิง หรือพฤกษาปฐพี่เท่านั้นที่จะเทียบเคียงได้

 

ปรมาจารย์จื่อเฉิงครุ่นคิดเล็กน้อย “ผลลัพธ์โดยรวมของเจ้า คือสิบเอ็ดแต้ม”

 

ฉินกู่ยวี่ผิดหวังเล็กน้อย เพียงแต่อย่างน้อยตัวนางในตอนนี้ ก็ถือว่าอยู่ในสถานะที่ทัดเทียมกับหลู่เซียนหมิง และเหนือกว่าชวีขาน หลังจากนี้ผู้สืบทอดคนอื่นๆ จะไม่นับเป็นคู่ต่อสู้ของนางอีกต่อไป และจะเป็นการแข่งขันระหว่างนางกับหลู่เซียนหมิงแค่สองคน

ชวีขานรู้สึกสลดยิ่งขึ้นกว่าเดิม และรู้ตัวแล้วตอนว่าตอนนี้เขาไม่อาจเอื้อมถึงตําแหน่งประมุขอีกต่อไปแล้ว สมองของเขากลายเป็นว่างเปล่า พร้อมกับทรุดตัวลงกับพื้น

 

นักปรุงยาคนที่สี่ ห้า หก จนถึงเก้ารายงานผลลัพธ์จากการตรวจสอบเม็ดยาจนในที่สุดก็มาถึงคราวของหลิงฮัน

 

“ผู้สืบทอดหลิงฮัน เม็ดยาที่หลอมคือเม็ดยาอัคคีสวรรค์ ในหมู่เม็ดยาระดับสอง ความยากใน การหลอมถือว่าจัดอยู่ในระดับสูง คุณภาพของเม็ดคือระดับสูง การปรับแต่งขั้นแรกสมบูรณ์ การปรับแต่งครั้งที่สองก็สมบูรณ์” นักปรุงยาคนที่สิบรายงาน

 

ว่าไงนะ!

 

ทุกคนตกตะลึง

 

ถึงแม้เม็ดยาที่หลิงฮันหลอมขึ้นมาจะด้อยกว่าฉินกู่ยวี่เล็กน้อย แต่คุณภาพของมันก็ถูกจัดอยู่ ในระดับสูง ยิ่งหากนับอายุในศาสตร์ปรุงยาของหลิงฮันด้วยแล้ว ผลลัพธ์ของทั้งสองคนกลายเป็น ต่างชั้นกันอย่างสิ้นเชิง

 

นอกจากคุณภาพของเม็ดยาแล้ว การปรับแต่งทั้งสองครั้งของหลิงฮันก็ยังสมบูรณ์!

 

เหลือเชื่อ

 

เดียวสิ ถ้างั้นตอนนั้นเจ้าจะขมวดคิ้วทําไมกัน? เจ้าทําผิดพลาดตรงไหนงั้นรึ?

 

ปรมาจารย์จื่อเฉิงเผยรอยยิ้มเมื่อเห็นสีหน้ามึนงงของนักปรุงยาหลายคน “พวกเจ้าทั้ง สิบลองตรวจสอบดูด้วยกันสิ”

 

นักปรุงยาระดับสามอีกเก้าคนรีบหันหน้าเข้ามามุงดู เนื่องจากพวกเขาทําใจเชื่อผลลัพธ์ของห ลิงฮันไม่ได้

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง นักปรุงยาทั้งเก้าก็ต้องตกตะลึง ช่างเป็นอัจฉริยะที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้ ถึงแม้ความสามารถในศาสตร์ปรุงยาของหลิงฮัน ณ ปัจจุบันจะไม่สามารถเทียบเท่าพวกเขาได้ก็ตาม

 

“การปรับแต่งครั้งแรกสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ส่วนการปรับแต่งครั้งที่สองมีจุดที่พลาดอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าเป็นการปรับแต่งที่สมบูรณ์อยู่ดี” นักปรุงยาทั้งสิบคนพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะได้ข้อสรุป

 

“ข้าไม่เชื่อ! ” หลู่เซียนหมิงคําราม เนื่องจากต่อให้ตอนนี้ปรมาจารย์จื่อเฉิงจะไม่ขานแต้ม แต่ทุกคนก็รับรู้แล้วว่าผู้ชนะการทดสอบคือหลิงฮัน

 

“ฮึ่ม เจ้ากล้าตั้งคําถามกับการตรวจสอบ ของพวกข้าทั้งสิบคนงั้นรึ? ” นักปรุงยาระดับสามทั้ง สิบกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์

 

ถึงแม้หลู่เซียนหมิงจะเป็นผู้สืบทอด แต่ความสําเร็จสูงสุดก็คงถูกจํากัดอยู่ที่ นักปรุงยาสามดาวเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นคือตอนนี้อีกฝ่ายมีสถานะเป็นนักปรุงยาสองดาวเท่านั้น อีกฝ่ายมีคุณสมบัติใบจะมาสงสัย ข้อสรุปจากพวกเขาที่เป็นนักปรุงยาสามดาวถึงสิบคน?

 

ปรมาจารย์จื่อเฉิงพยักหน้าและกล่าว “ข้าขอตัดสิบให้แต้มของหลิงฮันคือสิบห้าแต้ม พวกเจ้าคนไหนคัดค้านหรือไม่? ”

 

ทุกคนมองหน้ากันทันที ถึงแม้พวกเขาจะคิดว่าผลลัพธ์ของหลิงฮันนั้น เหนือกว่าหลู๋เซียนหมิง และฉินกู่ยวี่ แต่แต้มที่ควรได้ก็น่าจะอยู่ที่ราวๆ สิบสองหรือสิบสามแต้มไม่ใช่สิบห้าแต้ม

 

แต่ไม่ว่าอย่างไรผลการตัดสินผู้ชนะก็ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี พวกเขาจึงไม่ได้คัดค้านการตัดสินของปรมาจารย์จื่อเฉิง ด้วยการที่ชายชราเป็นอาจารย์จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะต้องการยกยอเชิดชูศิษย์ตัวเอง

 

….คนเหล่านี้ช่างไม่เข้าใจเอาเสียเลย

 

เหตุผลที่ปรมาจารย์จื่อเฉิงตัดสินใจให้หลิงฮันสิบห้าแต้มนั้น ไม่ใช่เพราะต้องการเชิดชูหลิงฮัน แต่เป็นเพราะทักษะการปรับแต่งของหลิงฮัน คือทักษะที่อีกฝ่ายคิดค้นด้วยตัวเอง เขาจึงมอบแต้มพิเศษเพิ่มให้สองถึงสามแต้ม

 

“ข้าขอประกาศให้หลิงฮัน เป็นผู้สืบทอดตําแหน่งประมุขคนต่อไปของเมืองวิถีโอสถ! ” ปรมาจารย์จื่อเฉิงกล่าวด้วยเสียงที่ดังก้องกังวาน ไปทั่วทุกมุมของอาณาเขตที่ห้า “หลังจากนี้อีกสามร้อยล้านปี ข้าจะลงจากตําแหน่งและหลิงฮันจะขึ้นมาแทนที่ข้า”

 

“ไม่มีข้อคัดค้าน! ” นักปรุงยาทุกคนในอารามโค้งคํานับ ด้วยศักยภาพของหลิงฮัน พวกเขาทุกคนเชื่อว่าในอนาคต อีกฝ่ายจะสามารถบรรลุเป็นนักปรุงยาสี่ดาวได้อย่างแน่นอน หรือดีไม่ดีอาจจะข้ามผ่านปรมาจารย์จื่อเฉิงไปด้วยซ้ํา

 

ต่อให้อีกฝ่ายเป็นนักปรุงยาห้าดาวไม่ได้ แต่ทักษะห้วงจิตปรับแต่งก็อาจจะบรรลุถึงขั้นที่แปด!

 

นักปรุงยาทุกคนจากไป โดยยังเหลือฉินกู่ยวี่กับหลู่เซียนหมิง ที่จดจ้องไปยังหลิงฮันด้วยแววตาขุ่นเคือง หากไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหลิงฮัน ไม่นางก็เขาคงได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองคนต่อไปเมืองวิดีโอสถแล้ว

 

“ขอแสดงความยินดีกับผู้สืบทอดหลิงด้วย! ” ผู้สืบทอดคนอื่นๆ เข้ามาแสดงความยินดีพวกเขารู้ว่าในอนาคตภายภาคหน้า พวกเขาจะต้องดํารงอยู่ภายใต้เงาของหลิงฮันไปตลอดกาล นอกเสียจากว่าจะออกไปจากเมืองวิถีโอสถ

 

หลิงฮันยิ้มและพยักหน้าให้กับผู้สืบทอดทั้งหลาย

 

“ผู้สืบทอดหลิง!” ชวีขานเดินเข้ามาใกล้ ถึงแม้ใบหน้าของเขาจะซีดเผือด แต่ก็ยังแสดงความยินดีต่อหลิงฮัน

 

หลิงฮันมองไปยังอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม ชวีขานผู้นี้ในตอนแรกช่างยิ่งยโสเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่อีกฝ่านคิดจะรับเขาเป็นผู้ติดตาม แต่ยังข่มขู่เขาต่างๆนานาอีกด้วย

 

“เรื่องต่างๆ ที่ผ่านมาก็ขอให้แล้วต่อกันไป หลังจากวันนี้ ข้ายินดีที่จะติดตามผู้สืบทอดหลิงฮัน และรับใช้เมืองวิดีโอสถ! ” ชวีขานคุกเข่าลงกับพื้นและประกาศความจงรักภักดีต่อหลิงฮัน

 

หลิงฮันเผยรอยยิ้ม เขาเป็นคนใจกว้างกับเหล่าคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาก็จริง แต่กับคนฝ่าย เดียวกันที่ไม่ซื่อสัตย์นั้น เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะลงมือกําจัดทิ้งอย่างโหดเหี้ยม

 

“ก็ดี มาพยายามด้วยกันเถอะ”

 

หลิงฮันพยุงร่างของชวีขานลุกขึ้นยืน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะจริงใจหรือไม่นั้น มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้

 

หลังจากนั้นที่เมืองวิดีโอสถที่มีการจัดงานเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ งานในคราวนี้ไม่ได้เชิญชวนคนนอกเข้ามาร่วมด้วย เนื่องจากกว่าปรมาจารย์จื่อเฉิงจะสละบัลลังก์ให้กับหลิงฮัน ก็ยังเหลือเวลาอีกตั้งสามร้อยล้านปี

 

ห้าวันต่อมา หลังจากที่ความเอะอะเริ่มลดลง หลิงฮันก็เตรียมตัวออกเดินทางไปตามการนัดหมายของเอี้ยนเซียนลู่