บทที่ 1346 เป็นผู้ปกครองครั้งแรก ประหม่าเหลือเกิน

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1346 เป็นผู้ปกครองครั้งแรก ประหม่าเหลือเกิน

สุดท้ายพ่อของเชียนหยวนล๋ายเย่ก็เห็นด้วยแล้ว

“ได้ ไม่มีปัญหา”

“ไม่มีปัญหาอะไร? คุณท่านเชียนหยวน คุณต้องบอกสื่อและคนที่มุงดูทั้งหมดที่นี่สักหน่อยว่า น้องชายฉันไม่ได้มาเเย่งลูกสาวคุณ เเต่เป็นเพราะว่ารับภรรยาของเขากลับบ้านเท่านั้นเอง”

แสงดาวไม่ยอมปล่อยตาแก่ชาวญี่ปุ่นคนนี้ไป

เธอบังคับให้เขาอธิบายเรื่องนั้นให้ทุกคนฟัง เพื่อล้างมลทิลให้กับคณาธิป คืนความบริสุทธิ์ให้เขา

คณาธิป “……”

เพียงครู่เดียว เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้อายุก็ไม่ได้แก่กว่าตัวเองสักเท่าไหร่แท้ๆ แต่ว่า เขาราวกับว่ามีของอะไรสำลักอยู่ในลำคอ ติดจนความเขินอายนิดหน่อยในตาของเขาออกมาแล้ว

เขารู้สึกว่าเธอวุ่นวายนิดหน่อย

เขาไม่ใช่เด็กๆเเล้ว และเขายังต้องออกหน้า เรื่องแบบนี้เอง

เเต่ว่า เขาไม่อยากไปขัดขวางอีก เพราะว่า ตอนนี้ฉากนี้ ทำให้เขาคิดถึงอย่างมาก

แม้ว่าบาดแผลถูกลอกออกเมื่อกี้นี้แล้ว ประหนึ่งว่ามีมือคู่หนึ่งพันแผลมันขึ้นมา เสมือนสมานแผลให้มันใหม่อีกครั้ง

สุดท้ายพ่อของเชียนหยวนล๋ายเย่ก็เอ่ยออกมาต่อหน้าทุกคนถึง เรื่องที่เฮกังมาสู่ขอให้คือคณาธิปตั้งแต่แรกแล้ว และในเวลานี้ ท่านเฮกังก็ถูกพาเข้ามาด้วย

หลังจากที่เขาถึงหน้างาน เห็นฉากนี้แล้ว มาถึงก็จูงมือของคณาธิปไว้ และก็ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น

“ลูกไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย……”

เพียงประโยคเดียว ความอยุติธรรมที่คณาธิปได้รับอย่างไร้เหตุไร้ผลเมื่อกี้นี้ถูกชำระล้างไปจนหมด

แต่ว่า คณาธิปกลับส่ายหัวอย่างเฉยเมยเอ่ยว่า “ไม่เป็นไรครับ ต่อไปพ่อ……อยากไปใช้ชีวิตด้วยกันกับผมไหมครับ?”

เขามองสองคนนั้นที่อยู่ภายใต้การถูกเฝ้าดูจากทุกคน ในสถานการณ์ที่ตัวเองอับอายขายหน้าด้วยความสิ้นหวัง คนเตรียมจะหนี จึงถามมาประโยคหนึ่งอย่างฉับพลันทันทีว่า

เกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่ขนาดนี้ ลูกชายสองคนนั้นของพ่อ จะไม่ปล่อยผมไปอย่างแน่นอน

ดังนั้น อยู่ด้วยกันกับผม เป็นหนทางที่ดีที่สุดครับ

แต่ว่าพ่อบุญธรรมคนนี้กลับส่ายหัว

“พ่อแก่แล้ว ไม่อยากไปไหนทั้งนั้น พ่อเเค่อยากอยู่ในสวนเสาเย่าที่พ่ออาศัยอยู่กับแม่ของลูกในตอนแรก ต่อไป หากลูกแต่งงานกับเชียนหยวนล๋ายเย่แล้ว ถ้ามีเวลาก็มาเยี่ยมพ่อบ้าง ก็พอแล้ว”

เขาหลุบตาลง เผยสภาพไม่มีแรงของวัยสูงอายุเท่านั้นที่จะมีได้

คณาธิปได้ยิน จึงนิ่งเงียบไม่พูดแล้ว

ที่จริงแล้วเขาเกลียดแม่คนนั้นของตัวเองมากจริงๆ เพราะว่า สิ่งที่แม่ทำไม่ดีไปสารพัด สุดท้ายกลับได้รับผู้ชายคนหนึ่งที่จริงใจกับเธอจริงๆ และก็ไม่เคยลืมเลือน แม้ว่าจะตายไปแล้ว

แต่คณาธิปล่ะ ถูกเธอพามายังบนโลกแห่งนี้ สุดท้ายได้อะไรไปแล้วบ้าง?

อีกสองชั่วโมงต่อมา คณาธิปไปตระกูลเชียนหยวนอย่างเป็นทางการพร้อมของขวัญ และแน่นอนว่าข้างๆเขาคือแสงดาวอีกคนที่ตามมาด้วย

“เดี๋ยวก่อนนะ นายวางแผนให้ของขวัญอะไรพวกเขาล่ะ? เงินหรือว่าของขวัญ?”

เธอคอยถามโน่นถามนี่ตลอดทางไม่หยุด

ประมาณว่า เป็นครั้งแรกที่จัดงานแต่งงานนี้ ในฐานะผู้ดูแลครอบครัว เธอจึงประหม่านิดหน่อย และก็ไม่มีประสบการณ์

คณาธิปหันศีรษะเข้าไปในรถมองเธออย่างเงียบๆ

“พี่ไม่ต้องกังวลไปหรอก ผมพร้อมเเล้ว”

“โอ้ งั้นก็ดีๆ” แสงดาวรู้สึกโล่งอกไปทีเมื่อได้ยินแบบนี้ หลังจากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมา และเริ่มพิมพ์ขึ้นมาอย่างเมามันบนหน้าจอ

คณาธิป :“……”

ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เขาหันไปด้านข้างนิดหน่อย เหลือบมอง

กลับค้นพบว่า นั่นคือกลุ่มวีเเชทหนึ่ง และผู้คนในกลุ่มกำลังสนทนากันอย่างถึงพริกถึงขิงในเวลานี้

[เส้นหมี่ :ว้าว พี่ ที่พูดมาก็หมายความว่า พี่จัดการเรียบร้อยแล้ว พี่นี่รุนแรงเกินไปแล้วจริงๆ]

[แสงดาว : ก็ใช่นะสิ ไม่ดูเลยว่าฉันเป็นใคร?]

[ม็อกโก : ถูกต้อง ที่รักของผมมากไปด้วยความสามารถ]

[เส้นหมี่ : ……]

[แสนรัก : ……]

ไม่พอใจอยู่พักหนึ่ง เกือบจะออกจากกลุ่ม

แต่ว่ายังดีที่ เวลานี้ ดิลกออกมาแล้ว

[อาจารย์ดิลก : งั้นตอนนี้พวกเธอไปทำอะไร? ไปตระกูลเชียนหยวนกันแล้วเหรอ?]

[แสงดาว: ใช่ค่ะๆ คุณอาดิลก คุณอามีประสบการณ์ไหมคะ? นี่พวกเราต้องทำอย่างไรดีค่ะ? หนูเป็นผู้ปกครองครั้งแรก รู้สึกประหม่านิดหน่อยค่ะ]

เป็นเรื่องยากที่ผู้หญิงคนนี้ จะยอมรับต่อหน้าทุกคนว่าเขาประหม่ามาก

แต่ว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ เส้นหมี่ไม่มีประสบการณ์ แสนรักก็ยิ่งไม่มีประสบการณ์ ตัวเขาเองก็ยังไม่ได้จัดพิธีแต่งงานให้ภรรยาเลยด้วยซ้ำ จะไปเข้าใจเรื่องนี้ได้ที่ไหนกันล่ะ?

ดังนั้นสุดท้าย ก็เป็นดิลกที่ออกความคิดเห็น

[อาจารย์ดิลก : หลานก็ให้ธิปไปสอบถามพ่อบุญธรรมของเขาก็ได้ เขาก็เป็นคนทางญี่ปุ่นเหมือนกัน ดูว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง เรื่องนี้ ถึงแม้ว่าสุดท้ายจะสำเร็จแล้ว แต่อย่างไรเสียก่อนหน้านี้พวกเราก็ผิดสัญญาเขามาแล้วครั้งหนึ่ง ยังต้องกล่าวขอโทษเขาก่อนนะ]

ใช่เลย กล่าวขอโทษ

แสงดาวเห็นแล้ว เงยหน้าขึ้นทันที

กลับนึกไม่ถึงว่า พอดีเลยที่ เธอพบสายตาสองคู่กำลังแอบเหลือบมองมา และในชั่วพริบตา ทั้งสองคนต่างก็กระอักกระอ่วนใจซะมัดเลย

คณาธิป : “……”

ผ่านไปอีกไม่กี่วินาที เขาถึงจะเหลือบมองอย่างขุ่นเคืองนิดหน่อยจึงมองไปอีกทางหนึ่ง

“พวกพี่เป็นบ้ากันเหรอ? เพื่อเรื่องของผม ยังจะสร้างกลุ่มอีกเหรอเนี่ย”

“จะเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไงล่ะ? คนเลวทรามอย่างนายน่ะ พอตัวเองเกิดเรื่อง ก็ไม่บอก นายดูสิ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันสร้างกลุ่มนี้ขึ้นมา หลังจากนั้นทุกคนก็ติดตามความเคลื่อนไหวของนายได้อย่างใกล้ชิด ถึงจะได้รู้ว่านายโดนคนรังแกอยู่ที่นี่ไง?

“ใครโดนรังแก?”

คณาธิปพอได้ฟังเรื่องนี้ ก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่

แม้แต่ใบหน้าที่หล่อเหลา ก็ยังกลายเป็นสีแดง

แสงดาว : “……”

อ้าว พูดผิดไปแล้ว

เธอรู้สึกตัวได้สักที ในตอนนั้นเอง ก็ไม่สนใจแล้ว ก็แค่ใช้งานบนโทรศัพท์สักหน่อย เป็นเวลาอยู่นาน คณาธิปที่นั่งอยู่ข้างๆ เพียงแค่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

หยิบออกมาดู……

“เร็วเข้าสิ เข้ามา ปรึกษากับทุกคนหน่อย ให้นายจัดการได้ยังไง นี่เป็นเรื่องใหญ่เชียวนะ”

“……”

สุดท้าย เขาไม่ทำก็ไม่ได้ ก็เลยกดตกลง