ตอนที่ 1339: ชิ้นส่วนของเกราะศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความเสียหาย

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1339: ชิ้นส่วนของเกราะศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความเสียหาย

ภายในศูนย์กลางของห้อง มีแผ่นจารึกขนาดใหญ่ 3 อัน พวกมันมีคำจารึกบ่งบอกรูปภาพของมนุษย์ที่กำลังใช้การโจมตีที่ทรงพลัง ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นแค่รอยแกะสลัก แต่พวกมันกลับให้ความรู้สึกพิเศษราวกับว่ามันประกอบไปด้วยแรงกดดันของโลก

เจี้ยนเฉิน จ้องมองไปที่จารึกทั้งสองด้วยความปลื้มปิติปรากฏในดวงตาของเขา เขาตระหนักได้เลยว่าพวกมันเป็นทักษะการต่อสู้ระดับเซียน ซึ่งเหมาะสมกับมนุษย์และพวกมันเป็นฉบับสมบูรณ์ด้วย

กองกำลังกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีพึ่งก่อตั้งขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้ เปลือกนอกพวกเขาดูเหมือนจะทรงพลังแต่แท้จริงแล้วยังขาดแคลนพลังอีกมาก ทักษะการต่อสู้ระดับสูงเหมือนของพวกนี้เป็นสิ่งที่กองกำลังทหารต้องการมันอย่างเร่งด่วน เพราะว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับกองกำลังกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีในการเป็นอิสระและทรงพลัง ถ้าพวกเขาปราศจากทักษะการต่อสู้ระดับเซียนนี้

และนอกจากกองกำลังกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีแล้ว ตระกูลเจียงหยางก็ต้องการสิ่งของพวกนี้เช่นกัน

มันเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่สำหรับเจี้ยนเฉินที่เขาพบทักษะการต่อสู้ระดับเซียนทั้ง 2 อันนี้ในคลังสมบัติของตระกูลเต๋า

เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ และพบกับอาวุธ 2 อันที่ถูกแทงเข้าไปในหินขนาดใหญ่ใกล้กับทักษะการต่อสู้ระดับเซียน 1 ในนั้นเป็นมีด ส่วนอีกอันเป็นกระบี่ พวกมันทั้ง 2 ห่อหุ้มด้วยแสงสลัว ๆ ในขณะที่มันพุ่งพล่านด้วยพลังมากมาย

“ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ! ” เจี้ยนเฉิน รู้สึกตกใจอีกครั้ง คลังสมบัติของตระกูลเต๋ามั่งคั่งมากกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้ ไม่เพียงแต่จะมีทักษะการต่อสู้ระดับเซียนแล้ว แต่มันยังมียุทธภัณฑ์จักรพรรดิอีกด้วย ถ้าของพวกนี้ถูกวางไว้บนทวีปเทียนหยวนละก็ เซียนราชาก็คงจะต่อสู้กันถึงตายเพื่อให้ได้อาวุธชิ้นนี้มา

อย่างไรก็ตาม เพียงมนุษย์เท่านั้นที่สามารถใช้ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนหรือยุทธภํณฑ์จักรพรรดิได้ พลังของมันถูกจำกัดไว้เมื่อถูกใช้โดยเผ่าพันธุ์ทะเล

ทันทีที่ฉิงยี่หยวนเข้าไปในถ้ำ สายตาของนางก็ไปหยุดอยู่ที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิและทักษะการต่อสู้ระดับเซียน สายตาของนางลุกโชนไปด้วยความปรารถนาพร้อมกับพึมพำขึ้นมา “ครั้งหนึ่งข้าเคยได้ยินโดยบังเอิญว่าบรรพบุรุษของตระกูลเต๋าได้มาเยี่ยมที่ทวีปเทียนหยวนและได้เจอกับมันโดยบังเอิญ เขาได้ผ่านเข้ามาที่อยู่อาศัยที่ ๆ เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังมาก ๆ ได้ตายจากไปในการเข้าญาณและมันเป็นประโยชน์มาก ๆ ไม่เพียงแต่ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนแล้ว ยังมียุทธภัณฑ์จักรพรรดิอีด้วย ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องจริง โชคร้ายที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิสามารถถูกใช้ได้โดยมนุษย์เท่านั้น ในขณะที่ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนสามารถถูกนำไปใช้โดยมนุษย์ในทางปฏิบัติ พวกมันไม่เหมาะกับเผ่าพันธุ์ทะเล ไม่เช่นนั้นตระกูลเต๋าก็คงจะทรงพลังมากกว่านี้ด้วยทักษะการต่อสู้ระดับเซียนไปแล้ว

เจี้ยนเฉินเห็นด้วยกับสิ่งที่นางพูด ถ้าเต๋าเจิ้งเทียนได้ครองครองทักษะการต่อสู้ระดับเซียนมาใช้พร้อมกับความแข็งแกร่งของเขา เขาก็คงจะสามารถกลายเป็นเซียนราชาขั้นสูงสุดไปแล้ว และทันทีที่เขาได้พลังการต่อสู้เช่นนั้นมา ชะตากรรมของตระกูลเต๋าก็คงจะไม่จบลงอย่างน่าสิ้นหวังเหมือนที่พวกเขาได้กระทำลงไปหรอก โชคร้ายหน่อยที่เซียนจักรพรรดิที่ปรากฏในตระกูลของพวกเขาไม่ได้สร้างทักษะการต่อสู้ระดับเซียนใด ๆ ขึ้นมา

ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนเป็นพลังจากสวรรค์ ไม่เพียงแต่มันต้องการพรสวรรค์สูงสุดของคนและความสามารถที่โดดเด่นของการรู้แจ้งเพื่อกลายเป็นทักษะการต่อสู้ระดับเซียนแล้ว มันยังจำเป็นต้องสอดคล้องกับโลกบนระดับที่คงที่อีกด้วย เพียงแค่สถานการณ์ที่พิเศษเหล่านั้นเท่านั้นที่จะทำให้พวกมันสามารถกลายเป็นทักษะการต่อสู้ระดับเซียนได้

ในประวัติศาสตร์ของทวีปเทียนหยวน มีผู้เชี่ยวชาญบางคนผู้ที่เพิ่งไปถึงเซียนราชาและได้ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนที่ทรงพลังอย่างน่าตกใจภายใต้สถานการณ์พิเศษ ในเวลาเดียวกัน มีผู้คนบางคนมีพรสวรรค์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อนหลังจากเป็นเซียนจักรพรรดิขั้นสูงสุด

ฉิงยี่หยวนหันไปหาเจี้ยนเฉินและพูดว่า “เจี้ยนเฉิน เจ้ายังคงจำได้หรือไม่ว่าตระกูลเต๋าครอบครองสิ่งที่ข้าต้องการ ? สิ่งของนั้นอยู่ตรงหน้าของข้า ดังนั้นข้าหวังว่าเจ้าจะไม่มาขัดขวางทางของข้าหรอกนะ” สายตาของฉิงยี่หยวนเต็มไปด้วยความต้องการและเร่งรีบ ถ้าเจี้ยนเฉินแข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อนละก็ ฉิงยี่หยวนก็คงจะไม่พูดคำเหล่านี้ออกไป แต่นางต้องการตกลงกับเจี้ยนเฉินตอนนี้

“เจ้าต้องการยุทธภัณฑ์จักรพรรดิงั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินมองไปที่ฉิงยี่หยวน ถ้าเขารู้มาก่อนว่าสิ่งที่ฉิงยี่หยวนต้องการคือยุทธภัณฑ์จักรพรรดิละก็ เขาก็คงจะให้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิที่เขาเป็นเจ้าของกับนางที่เผ่าเต่า มันไร้ประโยชน์กับเขาอย่างสิ้นเชิงตอนนี้ที่เขาได้ไปถึงขั้นที่ 4 ของร่างบรรพกาลและเห็นได้อย่างชัดเจนในขอบเขตต้นกำเนิดกระบี่ขั้นแรก อาวุธไม่สามารถทนทานต่อพลังของเขาได้แล้วตอนนี้

ฉิงยี่หยวนพยักหน้าก่อนที่จะมองไปที่ 1 ในทักษะการต่อสู้ระดับเซียนชั่วครู่ นางพูด ” ข้ายังต้องการทักษะการต่อสู้ระดับเซียนอันนึงด้วย เจ้าสามารถเอาอันอื่นไปได้ยกเว้น 2 อย่างนั้น ”

เจี้ยนเฉินคิดชั่วครู่และตอบว่า ” เจ้าเอายุทธภัณพ์จักรพรรดิไปได้เลย แต่ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนมันสำคัญกับข้ามากเช่นกัน ข้าสามารถให้เจ้ายืมได้ ดังนั้น คืนมันให้กับข้าเมื่อเจ้าเข้าใจมันแล้ว ”

“ก็ได้ เป็นอันตกลง ! ” ฉิงยี่หยวนเห็นด้วยในข้อตกลงที่ตรงไปตรงมาก่อนที่จะเอายุทธภัณฑ์จักรพรรดิรูปร่างดาบและหนึ่งในแผ่นจารึกทักษะการต่อสู้ระดับเซียนไป

เจี้ยนเฉินมองไปที่คลังสมบัติอื่น ๆ ต่อ มีสิ่งของมากมายที่ถูกสะสมมาหลายปี และพวกมันก็ประเมินคุณค่าไม่ได้ แต่พวกมันไม่ได้ต่างอะไรไปจากดินในสายตาของเจี้ยนเฉินเลย เขาอดไม่ได้ที่จะเบื่อพวกมัน ในความเป็นจริงแล้ว แม้กระทั้งเหรียญผลึกคุณภาพศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถทำให้เจี้ยนเฉินสนใจได้เช่นกัน

ในท้ายที่สุด เจี้ยนเฉิน ก็มาถึงหน้าชั้นหนังสือที่ทำจากโลหะหายาก เขาพบว่าหนังสือเล่มที่ 3 มีวิธีการพัฒนาฝึกฝนและประสบการณ์และการเข้าใจในเซียนจักรพรรดิ ไม่เพียงแต่มันเป็นของเผ่าพันธุ์ทะเลแล้ว แต่ยังมีของที่เป็นของมนุษย์และสัตว์อสูรเวทย์อีกด้วย สัดส่วนน้อยนิดของหนังสือที่เหลืออยู่เป็นทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ที่ถูกสร้างโดยมนุษย์ ในขณะที่หนังสือที่เหลือเหล่านั้นมีรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งของที่มหัศจรรย์มากมายในโลกเช่นเดียวกับบันทึกของบรรพบุรุษที่อิงตามประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์ทะเล

เจี้ยนเฉินดึงชิ้นโบราณของหนังอสูรออกมาจากส่วนที่ไม่สะดุดตาของชั้นหนังสือ เขาคลี่มันออกและพบว่าหนังสัตว์มีความยาวและกว้าง 1 เมตรและถูกห่อหุ้มด้วยอย่างซับซ้อนพร้อมกับข้อมูลที่ถูกจารึกไว้ ซึ่งดูเหมือนจะประกอบไปด้วยอีกโลกหนึ่ง เจี้ยนเฉินถูกดูดพลังโดยมันแม้เขาจะมีวิญญาณที่แข็งแกร่ง

“นี่มันอะไรกันเนี่ย ? ” เจี้ยนเฉินแปลกใจและจริงจังขึ้นมาทันที เขาสามารถบอกได้ว่าหนังสัตว์นี้ไม่ใช่ของธรรมดา ๆ เหมือนกับที่มันดูเหมือน

“นี่เป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตา และค่ายกลนี้อยู่ในระดับสูงอีกด้วย มันสามารถถูกใช้ให้เคลื่อนที่ไประหว่างหลายโลกได้ มันแปลกจริง ๆ ค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตาแบบนี้ปรากฏในโลกที่สูงกว่านี่ ดังนั้นทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละ ? ” น้ำเสียงของจือหยิงดังออกจาผ่านหัวของเจี้ยนเฉินพร้อมกับความประหลาดใจ

“ชิ้นส่วนหนังสัตว์อสูรนี้ถูกสร้างมาจากโลกที่สูงกว่า มันทนทานมากและน่าจะมาจากสัตว์อสูรที่อยู่ระดับพระเจ้าเป็นอย่างต่ำ แม้แต่เซียนจักรพรรดิก็ไม่สามารถทำลายมันได้ นายท่าน ค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตานี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่าน ดังนั้นท่านต้องเก็บมันไว้ให้ดีละ ” ฉิงโซว กล่าว

เมื่อพูดเช่นนั้น เจี้ยนเฉิน ก็ดึงมันออกมาจากกล่องทันทีและเก็บมัน

” ฮึม ? ” ทันใดนั้นจือหยิงก็ร้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ เขาจ้องมองไปที่มุมของคลังสมบัติอย่างสนใจและพูด “นายท่าน ไปที่นั่นหน่อย มีบางอย่างที่น่าประทับใจอยู่ตรงนั้น”

เจี้ยนเฉินแปลกใจขณะที่ความไม่อยากเชื่อของเขาปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา จิตวิญญาณกระบี่มีเชาว์ปัญญาอย่างน่าเหลือเชื่อ ดังนั้นแทบจะไม่มีอะไรเลยที่จะไม่ผ่านสายตาของมัน แต่พวกมันได้อธิบายบางอย่างได้อย่างท่องแท้ซึ่งทำให้เขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก

เจี้ยนเฉินรีบไปที่นั่นทันทีโดยไม่ลังเล จากนั้นเขาขุดชิ้นส่วนของเกราะจากกองสมบัติมากมายโดยคำแนะนำของ จือหยิง

ชิ้นส่วนของเกราะเป็นสีดำสนิทและถูกสร้างมาจากวัสดุที่ไม่ทราบมาก่อน มันเบาและเป็นขนสัตว์ราวกับว่ามันไม่มีน้ำหนักเลยแม้แต่นิดเดียว อย่างไรก็ตามมันได้รับความเสียหายและไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

“จือหยิง ฉิงโซว มีความพิเศษอะไรในชิ้นส่วนเกราะนี้กันหรือ ? ” เจี้ยนเฉิน ถามออกไปด้วยความสงสัย เขาตรวจสอบชิ้นส่วนในมือและล้มเหลวที่จะหาอะไรพบนอกจากความธรรมดา

“เจ้านาย นี่เป็นชิ้นส่วนของเกราะศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นวัตถุเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่กว่าวัตถุอมตะเสียอีก ในขณะเดียวกัน ระดับของเกราะก็น่าประทับใจเป็นอย่างมาก ข้าคาดว่าเจ้าของของเกราะนี้เป็นอัครบรรพกาลเป็นอย่างต่ำ อาจจะเป็นอัครสูงสุดก็เป็นได้ มันเป็นเกราะที่ได้รับความเสียหายมาอย่างหนักจนมันเกือบพังไปแล้ว” จือหยิงพูดด้วยความเสียดาย

เจี้ยนเฉินแปลกใจและมือที่เขาใช้ถือชิ้นส่วนเกราะนี้เริ่มสั่นเล็กน้อย เขาจ้องมองไปที่เกราะในความไม่อยากจะเชื่อราวกับว่าจิตใจของเขาปั่นป่วนอยู่ตลอดเวลา

ที่จริงแล้วนี่เป็นชิ้นส่วนของเกราะที่น่าจะถูกสวมโดยอัครสูงสุด อัครสูงสุดเป็นสิ่งมีชีวิตระดับสูงสุดในโลกชั้นสูงกว่า ดังนั้นเกราะที่เขาใส่จะต้องเป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน ตอนนี้เขาได้มาเจอกับสมบัติชิ้นนี้ที่นี่ แม้ว่ามันจะได้รับความเสียหาย แต่มันยังคงทำให้เจี้ยนเฉินแปลกใจเป็นอย่างมาก

“ในความคิดของข้า ผู้เชี่ยวชาญจากโลกที่สูงกว่าน่าจะพัวพันกับการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่และได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ท้ายที่สุดเขาก็ทำมันแตกและตกลงมาที่นี่โดยบังเอิญซึ่งจึงทำให้คนของตระกูลเต๋าได้รับมันมาในที่สุด ฉิงโซววิเคราะห์ความน่าจะเป็น