ตอนที่ 2412 หากข้าไม่ปล่อยเจ้าร้อง เจ้าก็จะไม่มีทางได้ร้อง!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

หลังจากวิ่งหนีมายาวนานถึงสามวันสามคืนหยวนเจี่ยวก็เหนื่อยอ่อนอย่างมาก

เขานั้นรู้สึกได้ว่าหากหยุดเท้าลงแล้วเขาย่อมจะต้องล้มลงหมดสติแน่นอน!

สำหรับเต๋าสวรรค์แปดลายขั้นสุดแล้วการวิ่งสามวันสามคืนมันย่อมจะมิใช่เรื่องหนักหนาใด

เหตุผลที่เขาเหนื่อยอ่อนปานนี้มันมีอยู่เพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น!

เพราะว่าสามวันที่ผ่านมานี้เขาวิ่งสุดตัวอย่างไม่คิดชีวิต

เขานั้นไม่รู้ได้ว่าเย่หยวนจะรวดเร็วปานใด แต่เขาเข้าใจว่าเย่หยวนย่อมจะเร็วมาก

เพราะฉะนั้นเขาจึงได้แต่ต้องหนีสุดชีวิต

และเหมือนสวรรค์นั้นมีตา เวลานี้เขาได้เห็นกำแพงของค่ายอยู่ลิบตา

ตราบเท่าที่เขากลับไปถึงค่ายได้แม้เย่หยวนจะเก่งกาจสักเท่าใดมันก็ย่อมจะไม่มีทางทำอะไรเขาได้

เย่หยวนนั้นสามารถสังหารหยวนเจิ้นที่เพิ่งบรรลุอาณาจักรเต๋าสวรรค์เก้าลายได้ด้วยดาบเดียว แต่มันย่อมจะไม่มีทางใดที่จะสังหารเต๋าสวรรค์เก้าลายมากมายในค่ายได้พร้อมกัน

“ให้ตายสิ หลังกลับไปได้ครั้งนี้ข้าจะต้องรายงานเบื้องบนของตระกูลให้ส่งเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นกลางและขั้นปลายออกมาจัดการสังหารเย่หยวนมันลงให้ได้! เจ้าหมอนี่มันน่ากลัวจนเกินไป!”

เมื่อย้อนนึกถึงเรื่องที่เย่หยวนผสานสามแนวคิดหยวนเจี่ยวก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจอีกครั้ง

การจะกระโดดข้ามอาณาจักรต่อสู้กับบุตรเทวะนั้นมันย่อมจะเหนือล้ำความเข้าใจ!

หากเย่หยวนนั้นสามารถก้าวขึ้นถึงอาณาจักรเจ้าฟ้าดินสี่หรือห้าทลายได้แล้วในเผ่าเทวานี้จะยังมีใครต่อต้านเขาได้?

ถึงเวลานั้นแม้แต่บรรพบุรุษเทียนชิงเองก็คงไม่อาจต้านทานเขาได้เช่นกัน!

“ใครกัน?”

พร้อมๆ กันนั้นเองมันก็มีเงาร่างพุ่งตัวออกมาจากทิศของค่ายถามคำถามกับหยวนเจี่ยว

เมื่อหยวนเจี่ยวได้เห็นคนทั้งสองนี้เขาก็แทบร้องไห้ออกมาด้วยความโล่งอก

สามวันสามคืนที่เหนื่อยอ่อนนี้ ในที่สุดเขาก็จะหนีรอดได้แล้ว!

“ข้าหยวนเจี่ยวเอง!” หยวนเจี่ยวร้องตอบกลับไป

เมื่อคนทั้งสองได้เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นหยวนเจี่ยวพวกเขาก็คลายความกังวลลงแต่ก็ยังคงถามขึ้นมาด้วยความตกตะลึง “หยวนเจี่ยว ทำไมเจ้าถึงได้กลับมายังค่ายคนเดียวเล่า? ทัพบุตรเทวะของพวกเจ้านั้นน่าจะกำลังซุ่มโจมตีทัพเสริมหลากเผ่าพันธุ์ที่จะไปยังหุบแก่นแท้บนมิใช่หรือ?”

หยวนเจี่ยวนั้นเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการของทัพ การทิ้งตำแหน่งหน้าที่ออกมาอย่างไม่บอกกล่าวเช่นนี้มันย่อมจะถือเป็นโทษในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

หยวนเจี่ยวนั้นยังคงวิ่งไปทางค่ายอย่างไม่หยุดเท้าเพราะต่อให้จะอยู่ใกล้ค่ายสักแค่ไหนมันก็ยังไม่ปลอดภัยดี

วิ่งไปตัวหยวนเจี่ยวก็ตะโกนตอบกลับไปด้วย “ทัพบุตรเทวะนั้นเสียกำลังไปกว่าครึ่งและแยกย้ายกันหนีไปคนละทิศทาง ท่านแม่ทัพเทียนซูเองก็ตายลงไปแล้ว! ท่านหยวนเจิ้น ท่านเทียนเจ่า ท่านหลี่ชิงทั้งสามท่านนั้นเองก็ตายลงไปด้วย! คงจื่อเจ้าอย่าได้หยุดข้า ข้านั้นมีเรื่องใหญ่ต้องไปรายงานท่านเทียนเหอ!”

เทียนเหอนั่นมันก็คือเทียนเหอที่เย่หยวนได้เจอในบ่อโลหิตอสุรา

เวลานี้ตัวเขาฟื้นฟูมาจนสมบูรณ์และกลับมาประจำการที่ตระกูล กลายเป็นผู้บัญชาการของทัพเผ่าเทวา!

แต่ทว่าอย่างไรเสียเทียนเหอนั้นก็ไม่ได้อยู่ในค่ายนี้ เขานั้นอยู่ในค่ายหลักของเผ่าเทวา

หยวนเจี่ยวนั้นคิดอยากรายงานแต่เขานั้นก็ต้องขอความช่วยเหลือจากยอดฝีมือของค่ายที่ใกล้ที่สุดก่อน

ไม่เช่นนั้นแล้วเขาย่อมจะไม่กล้าเดินทางไปตัวคนเดียว

หยวนเจี่ยวนั้นกลับเย่หยวนจนสุดจิตใจ

คนทั้งสองที่ได้ยินข่าวจากหยวนเจี่ยวนั้นก็ได้แต่ผงะไปไม่อาจตอบกลับใด

ไม่ต้องสงสัยใดๆ ก็รู้ได้ทันทีว่ามันคงมีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้นแล้ว!

ไม่เช่นนั้นมีหรือที่หยวนเจี่ยวจะมีสภาพเป็นเช่นนี้ไป?

พริบตาเดียวตัวหยวนเจี่ยวก็มุ่งหน้ามาจนถึงกำแพงด้านนอกของค่าย

และเขานั้นก็เลือกจะก้าวลงไปในค่ายอย่างไม่คิดลังเล

เขานั้นไม่มีเวลาจะไปทักทายพวกคงจื่อทั้งสองใดๆ

เมื่อหยวนเจี่ยวก้าวลงมาถึงจิตใจของเขาก็ค่อยสงบลงได้!

ต่อให้เย่หยวนจะมีความสามารถปานใดมันก็ย่อมจะไม่อาจมาจับตัวเขาไปจากตรงนี้ได้!

“ฮ่าๆๆ… หนีพ้นจนได้! ข้าหนีพ้นแล้ว! เย่หยวน ข้าหยวนเจี่ยวนี้หนีมาได้แล้ว! ครั้งหน้ามันจะเป็นตาเจ้าที่ต้องตาย!”

สามวันสามคืนที่หนีสุดชีวิตมานี้หยวนเจี่ยวไม่กล้าจะวางใจแม้เสี้ยววินาที

เขานั้นกลัวว่าเย่หยวนจะรู้ตัวและตามไล่ออกมาในที่สุด

เวลานี้เมื่อเขาเริ่มสงบจิตใจลงได้เขาก็หัวเราะขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามตัว

“อ่า? เช่นนั้นหรือ? หากข้าจับเจ้าตรงนี้แล้วเจ้าจะยิ่งสิ้นหวังหรือไม่?”

ในเวลานั้นเองมันกลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจนทำให้ขนของหยวนเจี่ยวต้องตั้งชัน

เขานั้นรู้จักเสียงนี้ มันคือเย่หยวน!

เย่หยวนนั้นกลับตามเขามาถึงค่าย!

เขาบ้าไปแล้วหรือ?

เย่หยวนค่อยๆ ก้าวออกมาจากห้วงมิติด้วยใบหน้าเย้ยหยัน

แนวคิดแห่งห้วงมิติของเขานั้นมันพัฒนาก้าวมาถึงต้นกำเนิดระดับสอง

ในโลกหล้านี้มันคงมีแต่ไม่กี่คนที่จะเร็วไปได้กว่าเขา

แม้เขาจะออกเดินทางช้ากว่าหยวนเจี่ยวถึงสองวันแต่เขาก็ยังตามติดมาได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

เมื่อพวกคงจื่อทั้งสองได้เห็นเย่หยวนสีหน้าของพวกเขาก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป

เจ้าหมอนี้มันโผล่ออกมาจากที่ใดกัน?

ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งสองนั้นกลับไม่อาจสัมผัสถึงคลื่นพลังใดๆ ได้!

เมื่อหยวนเจี่ยวเห็นเย่หยวนนั้นขนบนร่างของเขาก็ลุกตั้งก่อนจะหันหน้าวิ่งเข้าไปในค่ายอย่างไม่คิด

เขานั้นคิดจะไปให้ถึงส่วนกลางของค่าย ที่ที่มียอดฝีมือของเผ่าเทวารวมตัวกันอยู่!

เย่หยวนนั้นไม่คิดจะขยับตัวใดๆ เขาแค่มองดูหยวนเจี่ยวด้วยเสียงหัวเราะเย้ย

“ท่านยู่ฉิน ช่วยด้วย!” หยวนเจี่ยวร้องออกไปสุดเสียงจนทำให้เกิดเสียงสะท้อนไปทั้งค่าย

เขานั้นใช้กำลังเฮือกสุดท้ายออกมา คิดอยากหนีไปยังค่าย

แต่เขากลับได้พบว่าแม้จะใช้กำลังสุดตัวแล้วแต่เท้าของเขานั้นมันกลับช้าเชื่อง

มันเหมือนกับว่าร่างกายของเขานั้นกำลังอยู่ในสภาวะสโลว์โมชั่นค่อยๆ ยกเท้าไปด้านหน้า

การเคลื่อนไหวของเขานั้นมันรุนแรงสุดตัว แต่เขานั้นกลับยังไม่อาจยกเท้าหน้าให้ขึ้นพ้นพื้นได้

แนวคิดแห่งกาลเวลา!

เย่หยวนใช้แนวคิดแห่งกาลเวลากับตัวเขา!

เวลานี้ตัวของเขานั้นอยู่ห่างจากค่ายไปเพียงแค่ไม่กี่ร้อยก้าว

แต่หยวนเจี่ยวนั้นกลับถูกแนวคิดแห่งกาลเวลาแช่ไว้ ทำให้ระยะเพียงเอื้อมนี้มันแสนไกล!

เมื่อพวกคงจื่อทั้งสองได้เห็นภาพตรงหน้านั้นดวงตาของเขาก็ต้องเบิกกว้างขึ้นมามองดูเย่หยวนอย่างหวาดกลัว

วิธีการเช่นนี้มันเหนือล้ำเกินกว่าจะตอบโต้ได้

แต่ว่าหยวนเจี่ยวนั้นก็ได้ร้องตะโกนออกไปแล้ว

ทำให้คนทั้งค่ายนั้นแตกตื่นกันไปตามๆ กัน

เวลานี้มันมีคลื่นพลังรุนแรงหลายสายจากทุกมุมของค่ายค่อยๆ พุ่งตัวออกมา

คลื่นพลังทั้งหลายนั้นต่างมุ่งหน้ามายังจุดที่พวกเขาทั้งหลายอยู่นี้

แต่เย่หยวนกลับไม่สนใจเขาค่อยๆ เดินมาอยู่หลังหยวนเจี่ยวก่อนจะยกมือขึ้นตบร่างของเขาให้ตกร่วงลงไปกับพื้น

แนวคิดแห่งกาลเวลาหายไปทำให้หยวนเจี่ยวหันกลับมามองเย่หยวนด้วยดินเต็มหน้า ดวงตาเปี่ยมความสิ้นหวัง

“เย่หยวน เจ้าเข้าบุกค่ายมาจับตัวข้า มันเท่ากับรนหาที่ตายแล้ว! ท่านยู่ฉินนั้นเป็นถึงเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นกลางระดับสุด! เจ้าได้ตายแน่!” หยวนเจี่ยวร้องบอก

เย่หยวนหันกลับมามองพร้อมหัวเราะ “เจ้าคิดว่าเจ้าร้องออกไปได้นั้นเป็นเพราะตัวเองเก่งกาจ?”

หยวนเจี่ยวสั่นสะท้านไปทั้งกายมองดูเย่หยวนอย่างหวาดกลัว

หรือว่าเจ้าหมอนี่มันจะปล่อยให้เขาได้ร้องบอกไป?

ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยกำลังของเย่หยวนการจะจับตัวเขาไปในพริบตามันก็คงไม่เปิดโอกาสให้คนทั้งหลายได้ช่วยเหลือใด!

“เจ้า… เจ้า…” หยวนเจี่ยวนั้นตกตะลึงจนไม่อาจพูดกล่าว

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าคิดหรือว่าเสียงเจ้ามันจะเร็วกว่าแนวคิดแห่งกาลเวลา? หากข้าไม่ปล่อยให้เจ้าได้ร้อง เจ้าก็ย่อมจะไม่มีทางร้องเรียกใครได้! แต่ข้านั้นใจกว้างเปิดโอกาสให้เจ้าได้ร้องเรียกคน! ให้เจ้าได้บอกลาคนทั้งหลายนี้! จากนั้นข้าค่อยจะพาตัวเจ้าไปต่อหน้าพวกมัน! ถึงเวลานั้นเจ้าคงจะยิ่งสิ้นหวังใช่หรือไม่?”

หยวนเจี่ยวนั้นเปิดปากอ้าค้างมองดูเย่หยวนพร้อมบ่มพึมพำกับตัวเอง “ม-มารร้าย! เจ้ามันปีศาจมารร้าย! แต่เจ้าก็ย่อมจะไม่มีทางเอาตัวข้าไปต่อหน้าท่านยู่ฉินได้แน่!”

พูดไปนั้นมันก็มีคลื่นพลังรุนแรงอีกสายหนึ่งพุ่งตัวออกมา!

คนผู้นี้มีคลื่นพลังรุนแรงเหมือนจะทำลายแผ่นดินลงได้ เขานั้นกลับเป็นถึงเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นกลางระดับสุด!

คลื่นพลังแฝงอำนาจเต๋าสวรรค์นั้นพุ่งทะยานเข้าใส่ตัวเย่หยวนในวินาทีที่เขามาถึง

………………