ภาค 11 คุนหลุนกลาง กว่างเฉิงบูรพา บทที่ 1077 เหมือนตบแมลง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอพลิกฝ่ามือ ใช้รอยตราพลิกนภาเหมือนเดิม การแสดงจิตของพลังเกิดเป็นสภาวะใหม่ กระแสเวลาเหมือนกับปรากฏในความว่างเปล่า

ปลายสุดของจุดเริ่มต้น เป็นจุดกำเนิดของก่อนกำเนิด แปลงกำเนิดไร้รูปร่าง มืดมิดมัวซัว มีแต่ความขมุกขมัว

ปลายสุดของจุดจบ เป็นการสิ้นสุดของหลังกำเนิด การสร้างมาถึงจุดจบ สรรพสิ่งถูกทลาย กลับคืนสู่ความว่างเปล่า

ถึงแม้จะยังไม่ได้ฝึกฝนกระบี่ลงทัณฑ์เซียน อันหมายถึงการมาถึงของความสิ้นสูญและการทำลายมหามรรคา แต่ว่าการฝึกฝนกระบี่ผนึกเซียน กระบี่ลวงเซียน และกระบี่สังหารเซียนพร้อมกันของเยี่ยนจ้าวเกอ ก็ก่อให้เกิดจิตที่เปลี่ยนการสร้างให้กลายเป็นจุดจบ

ในวินาทีนี้ เยี่ยนจ้าวเกอใช้รอยตราพลิกนภาแห่งสายหยกพิสุทธิ์เป็นเส้นเชื่อม ต่อติดกับหมัดแปลงกำเนิดซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งจุดเริ่มต้นจุดแรก และกระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสิ้นสูญ

สามพิสุทธิ์รวมเป็นหนึ่ง สุดท้ายเกิดเป็นรอยตราพลิกนภาที่อยู่เหนือจินตนาการของคนจำนวนนับไม่ถ้วน!

เอกภพบิดเปลี่ยน การเกิดการดับพลิกคว่ำ!

หลักการสองอย่างที่แข็งแกร่งที่สุดและเป็นรากฐานที่สุดโผล่ขึ้นกลางฝ่ามือนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ นี่เป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่พุ่งไปสู่จุดสูงสุดของรอยตราพลิกนภา

ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน แม้ว่าจะเป็นยอดฝีมือที่ได้ฝึกฝนคัมภีร์พลิกฟ้าซึ่งได้เลื่อนสู่ระดับเซียนมากมาย ก็ไม่อาจใช้การเปลี่ยนแปลงนี้ของรอยตราพลิกนภาได้!

การเปลี่ยนการสรรสร้างที่เหนือกว่าการกลับสู่ก่อนกำเนิด!

เยี่ยนจ้าวเกอพอผลักฝ่ามือนี้ลง โลกตรงหน้าของเฉินเฉียนหัวก็เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง สรรพสิ่งสูญสลาย ขอบเขตของก่อนกำเนิดและหลังกำเนิดต่างถูกลบเลือน

จิตอันยิ่งใหญ่ที่คล้ายต้องการพลิกเปลี่ยนกระบวนการสร้าง หมายถึงพลังอันน่ากลัวที่ไร้สิ่งใดเทียบเคียงได้ พลังที่บดขยี้หลักการมากมาย ข้ามพ้นตัวตน และทำลายทุกสิ่งที่ดำรงอยู่ในความรู้ของผู้คน ไร้สิ้นสุดไร้ประมาณ!

ฝ่ามือนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอพอผลักถึง ก็บดขยี้ไม้เท้าซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงญาณจริงแท้ของเฉินเฉียนหัวเป็นผุยผง!

ร่างกาลอวากาศกำเนิดถึงแม้จะกอปรด้วยการโจมตีและการป้องกัน มีพลังป้องกันแข็งแกร่ง แต่ว่าด้วยระดับในปัจจุบันของเฉินเฉียนหัว ก็ยังไม่อาจรับรอยตราพลิกนภานี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ

ร่างกายที่ว่างเปล่าไม่ชัดเจนของเขา ถูกพลังอันมหาศาลไร้ขอบเขตเบียดออกมาจากความจริงและความลวงอย่างหักโหม

เยี่ยนจ้าวเกอครอบฝ่ามือลงไปเหมือนกับตบแมลง กระแทกเฉินเฉียนหัวให้พุ่งลงไปในหุบเหวด้านล่าง จมลงไปในเหวลึกแห่งปฐพีพิภพ!

ขณะที่กระแทกเฉินเฉียนหัว เยี่ยนจ้าวเกอก็สั่งความคิด

แสงสีทองพุ่งขึ้นบนร่างของเขา กลายเป็นดวงอาทิตย์โชติช่วงกลางอากาศ สะกดจนโลกแปดพิภพทั้งใบอาบอยู่ใต้แสงอาทิตย์

เป็นตราประทับตะวัน

ตราประทับตะวันหล่นลงไป ควันมารที่บ้าคลั่งในปฐพีพิภพพลันสงบลง

การเปลี่ยนแปลงในร่องแยกของนพยมโลกซึ่งอยู่ในปฐพีพิภพตรงหน้ามีความผิดปกติยิ่งกว่าครั้งใดๆ

แต่ว่าตราประทับตะวันในปัจจุบันยังคงเคลื่อนไหวตามความต้องการของเยี่ยนจ้าวเกอได้อย่างเป็นอิสระ

เมื่อไม่มีการลงมือของจอมมารระดับสุดยอดสแห่นพยมโลก อาศัยแค่ควันมารที่บ้าคลั่ง จะต้านทานตราประทับตะวันได้อย่างไร

“ประหลาดใจหรือไม่ ยินดีหรือไม่” เยี่ยนจ้าวเกอก้มมองเหวลึกด้านล่าง

เงาร่างสายหนึ่งจมลอยอยู่ในควันมารสีดำกว้างใหญ่

ถึงแม้จะไม่ได้รับการก่อกวนจากควันมาร ทว่าสภาพของคนผู้นั้นก็ดูทุลักทุเลยิ่ง สองแขนที่รับท่ารอยตราพลิกนภาของเยี่ยนจ้าวเกอเมื่อครู่กลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือน และบิดเบี้ยวอย่างแปลกประหลาด ผิวที่ขาวซีด มองไปไม่มีแม้แต่สีเลือด

เฉินเฉียนหัวกำลังจะเอ่ยปากคิดกล่าวอะไร แต่กลับมีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก ทำให้เขาต้องไอออกมา

“แค่ก…แค่ก…แค่ก…ท่าน…ท่านคงไม่ได้เดินบนเส้นทางฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกันกระมัง แค่กๆ…ไม่อย่างนั้นก็ไม่อาจศึกษาจิตหมัดของการเปลี่ยนการสร้างและการกลับคืนสู่ก่อนกำเนิด ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ได้”

เฉินเฉียนหัวกระอักเลือดอย่างต่อเนื่อง แต่สีหน้าเป็นสุขยิ่ง “ข้า ข้า แค่กๆ…ตอนนี้ข้ารู้สึกว่า ท่านน่าสนใจกว่าจักรพรรดิแพรเสียอีก!”

ขณะที่พูด บาดแผลบนสองแขนที่กลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือนของเขาก็ขยับดุกดิก สมานตัวกันด้วยความเร็วที่ตาเนื้อเห็นได้ชัด

บนใบหน้าที่ซีดราวกระดาษก่อนหน้านี้ ก็ค่อยๆ เริ่มมีสีเลือดขึ้นมาหลายส่วน

พลังชีวิตอันแข็งแกร่งปรากฏ

เวลาที่เหมือนกับสายน้ำหมุนเวียน

มิติที่ผสมกันแปรเปลี่ยน

ปรากฏการณ์ต่างๆ มากมายพากันปรากฏออกมา

หยินหยางที่สมดุลไหลเวียน

จิตใจที่ปรวนแปรสั่นไหว

หยินหยาง กาลเวลา มิติ ชีวิต สสาร จิตใจ จิตแห่งหลักการหกชนิดปรากฏขึ้นพร้อมกัน กอปรกันเป็นพื้นฐานแห่งโลก

ภายใต้ผลของพลังอันน่าอัศจรรย์นี้ อาการบาดเจ็บที่เยี่ยนจ้าวเกอสร้างขึ้น หายไปอย่างรวดเร็ว

เยี่ยนจ้าวเกอมองเฉินเฉียนหัวแวบหนึ่ง เลิกคิ้วเล็กน้อย “โอ้ว ท่านรวมหกคัมภีร์หลังกำเนิดในคัมภีร์นภาแรกเริ่มสายหยกพิสุทธิ์ครบแล้วหรือ”

“จิตใจของราชันพระอาทิตย์ยากจะคาดเดาจริงๆ และเป็นคนที่น่าสนใจคนหนึ่ง” เฉินเฉียนหัวลมหายใจยังคงแผ่วเบา แต่ในที่สุดก็ไม่กระอักเลือดแล้ว

แสงสีเขียวสายหนึ่งลอยออกมาจากร่างของเขา ขยายใหญ่ขึ้นกลางอากาศ กลายเป็นธงยาวในชั่วพริบตา พลังแห่งชีวิตอันโชติช่วงสะท้อนออกมาจากด้านใน ปัญจธาตุก่อเกิดจิต ไร้สิ้นสุดไร้ปลายทาง

ธงยาวสีเขียวนี้ตกลงไปด้านในเหวลึกของปฐพีพิภพ ขวางตราประทับตะวันไว้กลางอากาศ

ตราประทับตะวันที่แข็งกร้าวดุจดวงอาทิตย์ที่แท้จริงร่วงหล่น ถึงกับถูกธงยาวนั้นม้วนไว้ ไม่อาจพุ่งลงไปข้างล่างต่อได้ชั่วคราว

เมื่อไม่มีการสะกดจากตราประทับตะวัน ควันมารแห่งนพยมโลกด้านในเหวลึกของปฐพีพิภพก็รุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง

ขณะมองธงเขียวนั้น แววตาของเยี่ยนจ้าวเกอคมกริบยิ่ง ก่อนที่จะเผยความประหลาดใจในที่สุด “เฮ้ย นี่คือธงพระพฤหัสบดีกระมัง มันอยู่ในมือของท่านเองหรือนี่”

ธงพระพฤหัสบดี เป็นอาวุธที่ราชันพระพฤหัสบดี หนึ่งในเก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุนสร้างให้กับ ‘เก้านพเคราะห์’ มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนกับตราประทับตะวันและมงกุฎจันทรา

สาเหตุที่เยี่ยนจ้าวเกอสนใจ เป็นเพราะว่าเสวี่ยชูฉิงมารดาของเขาเป็นผู้สืบทอดที่แท้จริงของราชันพระพฤหัสบดี

ถ้าหากว่าคำกล่าวของพวกหลิวเจิงกู่ เฉาเจี๋ย และหวังผู่ไม่ผิดพลาด จักรพรรดิเจิดจรัสหูเยว่ซินจึงเป็นลูกศิษย์เพียงคนเดียวของราชันพระพฤหัสบดี

“ท่านคิดว่ามันสมควรอยู่ในมือมารดาท่านหรือ” เฉินเฉียนหัวส่ายหน้า “เดิมทีสมควรเป็นเช่นนี้จริงๆ แต่ว่าตอนแรกได้ส่งต่อให้ลูกศิษย์ของหูเจิดจรัส หรือก็คืออาจารย์ของมารดาท่าน แต่เขาตายแล้ว ธงพระพฤหัสบดีเล่มนี้จึงไม่ได้ส่งต่อให้แก่มารดาท่าน ข้าไปได้มาจากคนอื่น ถึงจะไม่รู้ว่าทำอะไรได้ แต่ก็เก็บไว้ก่อน”

เฉินเฉียนหัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนความอดทนของข้าจะได้รับการตอบแทนแล้ว วันนี้ได้ใช้ประโยชน์สักที ทั้งยังได้พูดคุยกับท่าน ประเสริฐยิ่งนัก”

เยี่ยนจ้าวเกอมองเขา มุมปากตวัดเป็นรอยยิ้มวูบหนึ่ง “อืม ประเสริฐอย่างที่ท่านว่า”

ตอนที่พูดกันอยู่นั้น ควันมารที่บ้าคลั่งขึ้นอีกครั้งด้านล่างก็ไม่ได้สนใจ ธงพระพฤหัสบดีที่ม้วนตราประทับตะวันไว้อยู่ก็ไม่ได้สนใจ

เยี่ยนจ้าวเกอผลักมือหนึ่งใส่เฉินเฉียนหัว!

และในขณะเดียวกัน ไกลออกไปก็มีลำแสงสายหนึ่งปรากฏขึ้น เงาแสงขนาดยักษ์พลันโผล่ขึ้นเหนือปฐพีพิภพ

กระพือปีกพุ่งไปหมื่นลี้ คุนเผิงบินร่อน บรรลุถึงตรงหน้าในพริบตา

เงาแสงคุนเผิงสลาย ปรากฏเงาร่างของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกในมือถือกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้ายาวเจ็ดฉื่อ มีเจ็ดปล้อง เมื่อควงครบวงแล้วก็ฟาดใส่ธงพระพฤหัสบดี!

พอถูกกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าฟาดใส่ แสงสีเขียวบนผิวของธงพระพฤหัสบดีก็ไหววูบครั้งหนึ่ง

ในสถานการณ์ปกติ กระบองไม้ไผ่ต้องยาวแปดฉื่อ มีแปดปล้อง จึงจะสามารถสู้กับอาวุธเทพศาตราวิเศษเช่นธงพระพฤหัสบดีและตราประทับตะวันได้ ทว่าในตอนนี้เฉินเฉียนหัวเผชิญกับเยี่ยนจ้าวเกอยังเอาตัวไม่รอด การควบคุมธงพระพฤหัสบดีจึงอ่อนแอลง

บวกกับธงพระพฤหัสบดีสู้กับตราประทับตะวันที่ไม่ด้อยกว่าตัวมันอยู่ พอถูกกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าฟาดใส่ ก็ต้านทานไม่ไหวทันที

ธงพระพฤหัสบดีอ่อนกำลัง ตราประทับตะวันเป็นฝ่ายได้เปรียบ ไม่เพียงพลิกมาสะกดธงพระพฤหัสบดี ยังสะกดควันมารนพยมโลกที่คลุ้มคลั่งด้านล่างได้ด้วย

“ขอชมเชยท่านสักประโยค ท่านกลับมอบความประหลาดใจส่วนหนึ่งให้แก่ข้า” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะเหอะๆ ฝ่ามือครอบฟ้าดิน มาถึงศีรษะของเฉินเฉียนหัว

………………..