บทที่ 2078 ปลอบโยน

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

เซี่ยโห้วลิ่งไม่โผล่หน้ามานานมาก ทำให้คนไม่น้อยรู้สึกแปลกใจ นางเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ก็ย่อมไม่ใช่ข้อยกเว้น จู่ๆ ได้ยินว่าเฉาหม่านชิงตำแหน่งฆ่าเซี่ยโห้วลิ่งแล้ว แค่คิดก็รู้แล้วว่าจะตกตะลึงพรึงเพริดขนาดไหน รู้สึกตระหนักได้ถึงความผิดพลาดเช่นกัน

อวิ๋นจือชิวรีบเตือนว่า “เหนียงเหนียงตกใจจนเสียอาการขนาดนี้ หม่อมฉันจะกล้าบอกความจริงต่อไปหรือเพคะ? เหนียงเหนียงรีบเก็บอาการเถอะ ต้องทราบไว้ว่าข้างกายท่านมีสายลับของตระกูลเซี่ยโห้วอยู่ไม่น้อย”

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ก็ตระหนักได้เช่นกันว่าตัวเองเสียอาการแล้ว จึงรีบเก็บอาการไว้ แต่ความระแวงสงสัยในดวงตานั้นยากจะหายไป “ที่เจ้าพูดเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหกกันแน่?”

อวิ๋นจือชิวถอนหายใจ “เหนียงเหนียง เรื่องแบบนี้ข้าจะโกหกได้ยังไงเพคะ ท่านตั้งตารอได้เลย ดูว่าเซี่ยโห้วลิ่งยังจะปรากฏตัวในการประชุมราชสำนักได้อีกมั้ย”

“ทำไมต้องรอให้ถึงการประชุมราชสำนัก ข้าจะไปยืนยันกับเว่ยซูเดี๋ยวนี้” เซี่ยโห้วเฉิงอวี่กล่าว

อวิ๋นจือชิวจึงบอกว่า “เหนียงเหนียง ถ้าเฉาหม่านต้องการจะทำเรื่องนี้ คนแรกที่เขาต้องซื้อตัวก็คือเว่ยซู ตอนนี้เว่ยซูหันไปอยู่ฝั่งเขาแล้ว ถ้าไม่มีเว่ยซูให้ความร่วมมือ จะวางแผนกำจัดหัวหน้าตระกูลเซี่ยโห้วง่ายๆ ได้ยังไง? เฉาหม่านช่วงชิงตำแหน่ง ปิดบังคนของตระกูลเซี่ยโห้ว ปิดบังคนทั้งใต้หล้า เรื่องสังหารหัวหน้าตระกูลเซี่ยโห้วไม่อาจเปิดเผยได้ หากเหนียงเหนียงถามถึง ทราบหรือเปล่าว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง? เหนียงเหนียงอยากจะยั่วให้เฉาหม่านอับอายจนโมโหหรือเพคะ? ตอนนี้ตระกูลเซี่ยโห้วถูกควบคุมอยู่ในมือเฉาหม่านแล้ว ถ้าเหนียงเหนียงปิดบังความลับนี้ไม่ได้ ก็จะมีอันตรายถึงชีวิต เฉาหม่านฆ่าได้แม้กระทั่งหัวหน้าตระกูล มีหรือที่จะแยแสเรื่องเปลี่ยนคนมารับตำแหน่งราชินีสวรรค์? ดังนั้นเหนียงเหนียง เรื่องนี้ท่านต้องแกล้งไม่รู้ อย่าบอกใครทั้งนั้น รวมทั้งฝ่าบาทกับองค์ชายด้วย ท่านแค่ต้องทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น บางเรื่องไม่ต้องรีบร้อน ต้องวางแผนระยะยาว อย่างน้อยก็ต้องรอให้องค์ชายขึ้นเป็นราชันก่อน!”

นั่นคือหัวหน้าของตระกูลเซี่ยโห้วเชียวนะ! ความตกตะลึงในใจเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ยากจะเลือนหายไป นางแอบกัดฟัน “เฉาหม่านบังอาจทำเรื่องที่อกตัญญูขนาดนี้!”

ที่จริงไม่ต้องพิสูจน์นางก็เชื่อแล้ว เพราะหลักการไม่ได้ซับซ้อน ก็อย่างที่อวิ๋นจือชิวบอก เรื่องบางเรื่องแค่ตั้งตารอดูก็พอ

“ตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่น่าแปลกใจอะไร หลังจากท่านปู่สวรรค์คนก่อนจากไป พวกเขาพี่น้องจะมีใครยอมใครได้ล่ะ? แล้วเป็นเพราะโอกาสนี้ เฉาหม่านต้องการให้ทัพใหญ่ของท่านอ๋องให้ความร่วมมือ ถือเป็นข้อแลกเปลี่ยนกัน เฉาหม่านสนับสนุนให้ท่านอ๋องช่วงชิงอาณาเขตทัพใต้” อวิ๋นจือชิวกล่าว

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่พูดไม่ออก เข้าใจกระจ่างแล้ว ไม่แปลกใจที่จู่ๆ ตระกูลเซี่ยโห้วถึงสนับสนุนให้หนิวโหย่วเต๋อเครื่องสู่ตำแหน่ง ที่แท้ก็มีเบื้องหลังอย่างนี้นี่เอง สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเกินคาดเดาในระหว่างนั้นทำให้คนรู้สึกตัวสั่นเพราะความกลัวจริงๆ

อวิ๋นจือชิวบอกอีกว่า “ตอนนั้นที่ท่านอ๋องวางแผนนี้ ก็คาดคะเนได้แม่นยำแล้วว่าองค์ชายจะต้องมารับช่วงต่อจวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาลแน่ พอท่านอ๋องช่วงชิงอาณาเขตทัพใต้ได้ องค์ชายก็จะได้จวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาล แบบนี้กำลังทหารของสองอาณาเขตก็จะอยู่ในมือเหนียงเหนียงแล้ว กำลังทหารหนึ่งในห้าส่วนของตำหนักสวรรค์อยู่ในมือเหนียงเหนียงอย่างลับๆ แล้วเพคะ!”

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ปรายตามอง แล้วแสยะยิ้ม “ช่างมีวาทศิลป์ล้ำเลิศจริงๆ เรื่องที่หยวนจุนไปประจำที่จวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาล เป็นข้าที่ขอร้องฝ่าบาท กลายเป็นแผนการของหนิวโหย่วเต๋อไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

อวิ๋นจือชิวยิ้มเจื่อน “เหนียงเหนียงคิดจริงหรือว่าพอท่านเอ่ยปากแล้วฝ่าบาทก็จะยอมปล่อยอำนาจทางทหารให้เลย? ถ้าไม่มีท่านอ๋องจงใจสร้างสภาพแวดล้อมนี้ขึ้นมา จะมีเรื่องดีอย่างนี้เสียที่ไหนกัน ต่อให้เหนียงเหนียงไม่แสดงความเห็น ท่านอ๋องก็จะแอบส่งคนมาเสนอแนะอยู่ดี ให้องค์ชายฉวยโอกาสเข้ามาประจำอยู่ที่จวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาล พอเข้ามาแล้วก็ออกจากการควบคุมของกองทัพองครักษ์ต พูดในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ตอนนี้อำนาจทางทหารของทัพใหญ่แดนรัตติกาลยังไม่ได้อยู่ในมือขององค์ชาย ถือว่ายังเป็นของฝ่าบาท เหนียงเหนียงยังจำตอนที่สี่ทัพต้องการจะร่วมมือกันโจมตีจวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาลได้หรือเปล่า? จุดประสงค์คืออะไรล่ะ? ก็เพราะไม่อยากให้ฝ่าบาทฉวยโอกาสขยายอำนาจทางทหารและอำนาจในมือไง ส่วนตอนนี้ก็หลักการเดียวกัน ถ้าท่านอ๋องไม่อยากให้องค์ชายมีตำแหน่งมั่นคงที่แดนรัตติกาล สี่ทัพก็ย่อมมีวิธีการวางอุบายอยู่แล้ว ตระกูลเซี่ยโห้วเองก็ไม่อยากให้เหนียงเหนียงมีอำนาจทางทหารอยู่ในมือ ถ้าอำนาจใหญ่แต่ละฝ่ายเหล่านี้ร่วมมือกันขึ้นมา แม้แต่ฝ่าบาทก็ยังต้องหวาดกลัวสามส่วน เหนียงเหนียงรู้สึกว่าองค์ชายจะคุมแดนรัตติกาลได้หรือเปล่าเพคะ? อย่างน้อยก็จะมีปัญหายุ่งยากไม่หยุดหย่อน แต่ตราบใดที่ท่านอ๋องยินดีจะเป็นแนวหน้าให้ คอยแอบแก้ไขปัญหาให้ องค์ชายก็ย่อมไร้ความกังวลอยู่แล้ว”

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่แสยะยิ้ม “จะพูดตรงๆ ก็คือเจ้ามีเหตุผล จะพูดอ้อมๆ เจ้าก็มีเหตุผลเหมือนกัน เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้าหรอ?”

อวิ๋นจือชิวตอบว่า “เหนียงเหนียง หม่อมฉันถามท่านเพียงคำเดียว ถ้าท่านอ๋องตั้งใจจะทรยศเหนียงเหนียงจริงๆ อาศัยอำนาจของท่านอ๋องตอนนี้ จำเป็นต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับเหนียงเหนียงหรือเปล่า? ถ้าจะพูดแบบไม่เคารพก็คือ ด้วยศักยภาพของท่านอ๋องตอนนี้ เหนียงเหนียงยังมีประโยชน์อะไรให้ท่านอ๋องใช้งานด้วยหรือเพคะ? ถ้าอาศัยกำลังทหารแข็งข้อต่อเบื้องบน ไม่เห็นเหนียงเหนียงอยู่ในสายตาจริงๆ เหนียงเหนียงคิดว่าท่านอ๋องจำเป็นต้องให้ข้ามาอธิบายต่อเหนียงเหนียงให้ชัดเจนหรือไม่เพคะ?”

“…” เซี่ยโห้วเฉิงอวี่พูดไม่ออก เพราะอีกฝ่ายพูดได้ตรงจุด คิดไปคิดมาก็พบว่าอีกฝ่ายพูดไม่ผิด ตอนนี้หนิวโหย่วเต๋อมีตำแหน่งสูง ไม่จำเป็นต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมต่อหน้านางเลย ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรต่อนางด้วย แววตานางวูบไหว ถามว่า “หนิวโหย่วเต๋อต้องการอะไร? ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะช่วยข้าโดยไม่มีเหตุผล?”

“ไม่ใช่ว่าท่านอ๋องต้องการอะไรหรอกเพคะ ต้องถามว่าท่านอ๋องไม่ต้องการอะไรมากกว่า ไม่ได้จะช่วยเหนียงเหนียงโดยไร้เหตุผลด้วย แต่เป็นเพราะฝ่าบาทเก็บท่านอ๋องไว้ไม่ได้ ดังนั้นท่านอ๋องหวังว่าองค์ชายจะได้เป็นราชันสวรรค์!” อวิ๋นจือชิวตอบ

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่มองไปรอบๆ โดยจิตใต้สำนึก คำพูดนี้ทำให้นางหวาดระแวงจริงๆ

อวิ๋นจือชิวพูดต่อว่า “ท่านอ๋องบอกไว้แล้ว ว่าเขายังต้องทำเหมือนอาศัยกำลังทหารแข็งข้อต่อเบื้องบนต่อไป เหนียงเหนียงก็ต้องแกล้งเกลียดท่านอ๋องต่อไปด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้นถ้าฝ่าบาทรู้ว่าเหนียงเหนียงสามารถบงการท่านอ๋องได้ แล้วฝ่าบาทบีบให้เหนียงเหนียงออกคำสั่งต่อท่านอ๋องขึ้นมา ท่านอ๋องจะเชื่อฟังหรือไม่เชื่อฟังล่ะเพคะ? นี่ก็คือสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ต้องทำให้เหนียงเหนียงเข้าใจผิด ท่านอ๋องยังให้ข้ามากำชับเหนียงเหนียงด้วยว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดโปงทุกอย่าง ตอนนี้องค์ชายยังไม่ได้ควบคุมแม้แต่ทัพใหญ่แดนรัตติกาลด้วยซ้ำ ยังไม่ถึงเวลาที่จะหวังอย่างอื่น เหนียงเหนียงยังต้องกล้ำกลืนความอัปยศต่อไปเพคะ!”

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อย วันคืนที่ไม่ต้องถูกคนอื่นบงการ นางเฝ้ารอมานานแสนนานแล้ว นางเบะปากเล็กน้อย “เป็นคำพูดปากเปล่าทั้งนั้น จะให้ข้าเชื่อได้ยังไง?”

“ไม่ว่าท่านอ๋องจะพูดยังไง เหนียงเหนียงไม่ต้องเชื่อก็ได้ แค่คอยดูก็พอว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ถึงยังไงท่านอ๋องก็ไม่ต้องใช้ประโยชน์อะไรเหนียงเหนียงอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องใช้ให้องค์ชายทำอะไรด้วย เหนียงเหนียงจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่มีอะไรเสียหาย นี่ก็คือความจริงใจของท่านอ๋องเพคะ!” อวิ๋นจือชิวตอบ

ความจริงก็เป็นอย่างนี้ เหมียวอี้ส่งอวิ๋นจือชิวมาปลุกปั่นในเวลานี้ก็เพราะมีจุดประสงค์นี้ ไม่ได้ต้องการให้เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ต้องจ่ายอะไร และไม่ให้เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ทำอะไรด้วย แค่ให้อวิ๋นจือชิวคิดหาทางปลอบโยนเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ก็พอ ให้ซ่อมแซมรอยร้าวก่อนหน้านี้ เตรียมไว้เสริมฤทธิ์ยาในขั้นต่อไป!

ด้วยสถานการณ์ของเหมียวอี้ตอนนี้ ทำให้ไม่มีทางมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองได้ ทำได้เพียงให้ฮูหยินออกโรง อาศัยความสามารถในการเข้าสังคมของอวิ๋นจือชิว เหมียวอี้มีความมั่นใจมาก

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่เงียบไปแล้ว

อวิ๋นจือชิวบอกอีกว่า “ทางฝั่งองค์ชาย เหนียงเหนียงก็ยังไม่ต้องบอกความจริงเขาเช่นกัน แค่ต้องบอกองค์ชายไปว่า ถ้ามีอะไรที่จำเป็นให้ช่วย ก็สามารถขอความช่วยเหลือจากท่านอ๋องอย่างลับๆ ได้ อย่าให้คนข้างกายองค์ชายรู้ เพราะคนที่อยู่ข้างกายองค์ชายล้วนเป็นคนของฝ่าบาท ในเวลานี้ยิ่งองค์ชายรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ไม่อย่างนั้นกลับจะทำให้ฝ่าบาทสงสัยได้ง่าย องค์ชายเป็นคนฉลาด ถ้าเหนียงเหนียงแอบสื่อความนัยได้เหมาะสม องค์ชายจะต้องมีข้อมูลอยู่ในใจแน่นอน…หม่อมฉันไม่สะดวกจะอยู่ที่ตำหนักนารีสวรรค์นานเกินไป ครั้งนี้หม่อมฉันอ้างว่าหวังเฟยมาเยี่ยมเยียนเหนียงเหนียงครั้งแรกตามธรรมเนียม เลยถือโอกาสพูดเรื่องนี้ให้ชัดเจน ต่อไปนี้ไม่สะดวกจะมาพบเหนียงเหนียงบ่อยแล้ว เหนียงเหนียงโปรดอภัยด้วย อีกประเดี๋ยวเหนียงเหนียงก็ไม่จำเป็นต้องแสดงออกว่าเกรงใจหม่อมฉันเช่นกัน แสดงออกอว่าไม่พอใจเหมือนเดิม ถึงจะไม่ทำให้คนสงสัย ขอตัวเพคะ!”

“ส่งแขก!”

เป็นปฏิกิริยาและน้ำเสียงที่ไม่พอใจเอามากๆ นี่ก็คือท่าทีของเซี่ยโห้วเฉิงอวี่หลังจากทั้งสองกลับมาจากเดินเล่นที่อุทยาน ถ้ามองจากบางมุมก็นับว่าเป็นการตอบสนองกับคำพูดของอวิ๋นจือชิวเมื่อครู่นี้แล้ว ส่วนเรื่องในภายหลังนั้น ทั้งสองฝ่ายล้วนตั้งตารอ

อุทยานหลวง เรือนพักของอ๋องสวรรค์หนิว เดิมทีเป็นที่พักของฮ่าวเต๋อฟาง ก่อนที่พวกอวิ๋นจือชิวจะมาร่วมงาน ก็ได้ส่งคนมาทำความสะอาดล่วงหน้าแล้ว โดยทั่วไปก็รักษาสภาพเดิมไว้ตลอด

ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ข้าวของยังเหมือนเดิม ซูอวิ้นยืนอยู่ศาลาริมน้ำด้วยสีหน้าด้วยใจคอแห้งเหี่ยว

การเข้าร่วมงานเลี้ยงอุทยานแบบนี้ อวิ๋นจือชิวไม่มีประสบการณ์สักเท่าไหร่ โดยเฉพาะฐานะในตอนนี้ที่ผงาดขึ้นมากะทันหัน แต่ซูอวิ้นกลับคุ้นเคยกับเรื่องระดับนี้ดี ครั้งนี้จึงถูกเหมียวอี้ส่งมาเป็นเพื่อนอวิ๋นจือชิว จะได้คอยชี้แนะได้สะดวก

มู่หรงซิงหัวสวมเกราะรบ เดินช้าๆ อยู่ข้างกายซูอวิ้น สวมเกราะแดงหนึ่งแถบ ได้ถือโอกาสเลื่อนยศแบบก้าวกระโดดจากครั้งนี้เช่นกัน

เป็นเพราะระดับของเหมียวอี้ทุกวันนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว นางเข้าออกเรือนชั้นในในระยะยาว ถ้าสวมเกราะรบสีทองหรือเกราะรบสีม่วงก็จะสะดุดตาเกินไป

การให้นางมารับค่าจ้างของแม่ทัพ นับว่าดูแลนางเป็นพิเศษแล้ว ถึงอย่างไรก็ไม่มีอำนาจทางทหาร และไม่มีใครว่าอะไรด้วย

สาเหตุที่มาที่นี่ก็เพราะว่าเป็นผู้หญิงเหมือนกัน จะได้ตรวจสอบที่อยู่ของผู้หญิงได้สะดวก เพราะเรื่องในอดีตทำให้อวิ๋นจือชิวถือสาเรื่องนี้ พวกช่างไม้มักอยู่ข้างกายนาง นางไม่อยากให้มีข่าวลือเรื่องชู้สาวอีก

“ท่านซู เรื่องบางเรื่องล้วนเป็นอดีตไปแล้ว” มู่หรงซิงหัวกล่าวปลอบใจ นางควบหน้าที่จับตาดูซูอวิ้นนิดหน่อย เรื่องบางเรื่องไม่ใช่เพราะเหมียวอี้ขี้ระแวง แต่จะไม่ป้องกันก็ไม่ได้

“คนไม่ใช่ต้นไม้ใบหญ้า!” ซูอวิ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ในขณะนี้เอง มีทหารมารายงานว่า “แม่ทัพมู่หรง ข้างนอกมีคนที่เรียกตัวเองว่าเฉาว่านเสียงมาขอพบท่านขอรับ”

“เฉาว่านเสียง? เขามาที่นี่ได้ยังไง?” มู่หรงซิงหัวอึ้งไปชั่วขณะ หลังจากโบกมือเบาๆ ให้ทหารคนนั้นออกไป ตอนนี้ถึงคราวที่นางต้องทำสีหน้าเหม่อลอยบ้างแล้ว สำหรับผู้ชายที่บังคับขืนใจให้นางกลายเป็นผู้หญิงของเขา จนทำให้นางไปเผชิญประสบการณ์อัปยศที่สถานที่ไร้ชีวิต ทั้งยังเปลี่ยนแปลงชะตาของนางไปทั้งชีวิตด้วย แม้แต่นางเองก็ยังไม่รู้เลยว่าควรจะโทษเขาหรือไม่

ซูอวิ้นเอียงหน้าสังเกตปฏิกิริยาของนาง “ถ้าข้าจำไม่ผิด คงจะเป็นอดีตสามีของเจ้าใช่มั้ย?”

“เขามีสิทธิ์เข้ามาในอุทยานหลวงได้ยังไง?” มู่หรงซิงหัวขมวดคิ้ว

หลังจากซูอวิ้นครุ่นคิด ก็บอกว่า “ตอนแรกเขาไม่ได้ติดตามจ้านผิงไปสู้รบ แต่ไปขอพึ่งพาเถิงเฟย ตอนหลังไปเป็นบ่าวในบ้านเถิงเฟย…” ซูอวิ้นชำเลืองนางแวบหนึ่ง แล้วพูดต่อ “เขาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้คงจะเกี่ยวข้องกับเถิงเฟย”

มู่หรงซิงหัวมองนางด้วยความตกใจ ขนาดตัวเองยังไม่รู้ข่าวนี้ แต่อีกฝ่ายรู้อย่างชัดเจนขนาดนี้ได้อย่างไร เฉาว่านเสียงคนเดียวควรค่าให้นางสนใจด้วยเหรอ?

“ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ ด้วยจุดยืนของข้าตอนแรก ข้าต้องจับตาดูลูกน้องคนสนิทข้างกายหนิวโหย่วเต๋ออยู่แล้ว แล้วนี่ก็ไม่ใช่ความลับที่สืบยากอะไร ที่เถิงเฟยเก็บเขาไว้เป็นบ่าวในบ้านได้ คงไม่พ้นเกี่ยวข้องกับเจ้า ไปหาสักหน่อยสิ อยากจะเห็นว่าเถิงเฟยจะใช้อุบายอะไร” ซูอวิ้นกล่าว

………………