ภาค 11 คุนหลุนกลาง กว่างเฉิงบูรพา บทที่ 1079 ธงพระพฤหัสบดี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เฉินเฉียนหัวเข้าไปในนพยมโลก ระดับพลังฝึกปรือไม่ได้รับผลกระทบจากกฎของเขตแดนแห่งฟ้าดินในโลกแปดพิภพอีกต่อไป ลมปราณของเขาเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เหมือนกับเปลี่ยนจากมดเป็นช้าง การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้อาการบาดเจ็บของเขาก็ฟื้นฟูอย่างรวดเร็วอีกด้วย

ในอดีต เสวียนมู่อ๋องเคยเสด็จมายังโลกแปดพิภพ ทว่าถูกเยี่ยนตี๋ทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส หลังจากกลับโลกซ้อนโลก อาการบาดเจ็บก็ยังคงร้ายแรง

ส่วนเฉินเฉียนหัวที่ฝึกฝนฐานของโลกสำเร็จ หลังจากพลังฝึกปรือกลับคืนสู่ระดับมนุษย์เซียน อาการบาดเจ็บเมื่อก่อนหน้าก็ฟื้นฟูขึ้นมากกว่าครึ่ง แต่ว่าแผลมารไร้รูปที่เกิดขึ้นเพราะเยี่ยนจ้าวเกอโยนดวงแสงสีดำใส่ กลับยังคงอยู่ บัดนี้บาดแผลมีแสงสีดำซึมออกมา เหมือนกับเลือดกำลังไหลออกจากแผล

เฉินเฉียนหัวได้รับการกระตุ้น แทบจะสัมผัสได้ในทันทีว่าทุกทิศที่อยู่ไกลออกไปมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งกำลังสั่นไหว ถูกดึงดูดความสนใจ หันเหมายังด้านนี้ อีกทั้งมีจอมมารแห่งนพยมโลกที่อยู่ในระดับสูงสุดอย่างแท้จริงอยู่ด้วย

‘…พิธีลวงมาร?’ เฉินเฉียนหัวงงงวย ‘นี่คือพิธีลวงมารที่ยอดฝีมือใช้ลวงสังหารจอมมารนพยมโลกก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่หรือ’

หลังจากได้รับผลกระทบจากแผลมารไร้รูป จอมมารในนพยมโลกก็กรูกันเข้ามาเหมือนกับปลาฉลามในทะเลที่ได้กลิ่นคาวเลือด

ด้วยพลังฝึกปรือของเฉินเฉียนหัว การเข้ามาในนพยมโลกแล้วถูกยอดฝีมือจากนพยมโลกจำนวนมากกลุ้มรุมโจมตี ก็ยังถือว่ามีอันตรายรอบด้าน ถ้าหากว่าดึงดูดมารที่มีระดับสูงกว่ามา เช่นนั้นผลลัพธ์ก็ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง

หากอยู่ในสถานการณ์อื่น มาตรแม้นจะได้รับบาดเจ็บ เฉินเฉียนหัวก็สามารถรักษาอาการบาดเจ็บให้หายดีได้อย่างรวดเร็ว และสามารถออกจากนพยมโลก กลับโลกซ้อนโลกผ่านมิติต่างแดนได้ในระยะเวลาสั้นๆ

แต่ว่าบัดนี้ ถ้าไม่ขจัดพิธีลวงมาร ก็จะถูกกลุ้มรุมทันที เขาคิดจะรักษาอาการบาดเจ็บ และออกจากนมยมโลก ยากยิ่งกว่ายาก ยิ่งอยู่ด้านในอาณาเขตที่แน่นอน ก็โดดเด่นสะดุดตาอย่างกับแสงเทียนในราตรีมืดมิด แสดงตำแหน่งของตัวเองให้แก่หมู่มารในนมยมโลกตลอดเวลา

เฉินเฉียนหัวได้สติ เห็นร่องแยกเริ่มจะสมานตัวเพราะการสะกดจากเยี่ยนจ้าวเกอ

“ท่านถึงกับรู้จักแม้แต่พิธีลวงมารหรือ” เฉินเฉียนหัวตาเป็นประกาย “อย่างที่คิดไว้เลย คนที่น่าสนใจที่สุดที่โลกแปดพิภพแห่งนี้ให้กำเนิดคือท่าน!”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มอย่างไม่นำพา เขาโบกมือให้อีกฝ่าย “ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น ท่านเล่นสนุกให้เต็มที่เถอะ”

ร่องแยกนพยมโลกถูกสะกดอีกหน

เฉินเฉียนหัวที่อยู่อีกด้านเริ่มหายไปจากคลองจักษุของเยี่ยนจ้าวเกอ

ภาพสุดท้าย เป็นภาพที่จอมมารซึ่งเดิมทีไม่ได้สนใจโลกเบื้องล่างเช่นโลกแปดพิภพ เริ่มรวมตัวกันแล้วรุมล้อมเข้าหาเฉินเฉียนหัว

ร่องแยกนพยมโลกในปัจจุบันหลังจากถูกผนึกโดยสมบูรณ์แล้ว ควันมารที่คลุ้มคลั่งในเหวลึกแห่งปฐพีพิภพก็หายไปด้วยเช่นกัน

โลกแปดพิภพในที่สุดก็กลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง

แต่ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอจำเป็นต้องเอาจริงเอาจังกับการต่อสู้กับเฉินเฉียนหัว ดังนั้นโลกทั้งใบจึงยังได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะภูมิประเทศซึ่งอยู่รอบๆ ปฐพีพิภพ ล้วนมีการเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าคว่ำดิน

การไหลเวียนของปราณวิญญาณในโลกแปดพิภพแตกต่างไปจากเดิม แทบจะแหลกสลาย จากนั้นก็ฟื้นฟูกลับมา

หลังจากผนึกปฐพีพิภพแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็มองไปอีกด้าน

ณ ที่แห่งนั้น ร่างแยกศาสนาพุทธของเฉินเฉียนหัวต้านทานร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไม่ได้ ได้รับบาดเจ็บสาหัส

เพียงแต่ว่าเขากลับไม่คิดจะสลัดหลุดจากการสะกดของพลังแห่งเขตแดน เพื่อลอยกลับสู่โลกซ้อนโลก

ร่างแยกนี้มีพลังฝึกปรือไม่ต่ำกว่าระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามเหมือนกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก การมายังโลกแปดพิภพทำให้ตัวมันถูกสะกดพลังฝึกปรือไว้เหมือนกับร่างจริงของมัน

พอสัมผัสได้ถึงความสงสัยของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ร่างแยกของเฉินเฉียนหัวก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “น่าเสียดาย น่าเสียดายนัก ท่านได้ผนึกร่องแยกนพยมโลกไปแล้ว ไม่อย่างนั้นร่างแยกนี้ของข้าจะได้ลงไปด้วย มารร้ายนพยมโลกวุ่นวายยากคาดเดา แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วโง่งมยิ่ง ดังนั้นจึงไม่ได้น่าสนใจนัก แต่ว่าการเที่ยวชมระหว่างทางก็ถือเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง”

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกล่าวอย่างเฉื่อยชา “ท่านลองกลับโลกซ้อนโลกดูก็ได้ แต่อาจจะถูกข้าสังหารทิ้งที่นี่ก่อนได้กลับไปมากกว่า”

อีกฝ่ายหัวเราะฮ่าๆ “จะกลับไปหรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตอนนี้ข้าสนใจในตัวท่านยิ่ง มากกว่าจักรพรรดิแพรด้วยซ้ำ ท่านน่าสนใจกว่าเขามากทีเดียว”

ขณะที่พูด ร่างของมันก็กลายเป็นสีทอง เหมือนพระพุทธรูปทองเหลือง ก่อนที่วินาทีต่อมาจะมีแสงสีน้ำเงินอมทะลักขึ้น ไหลออกจากในร่างกายของมัน กลายเป็นกระจก

มันกำลังจะดับขันธ์มรณะด้วยตัวเอง เหมือนกับจอมยุทธ์แดนสุขวดีที่มีแสงพุทธแห่งพลังศรัทธา

การมรณะของจอมยุทธ์แดนสุขาวดี คือการใช้แสงพุทธส่งตัวเองสู่ความตาย ร่างแยกนี้ของเฉินเฉียนหัวฝึกฝนวิชาพุทธ จิตใจบริสุทธิ์ ไม่แปดเปื้อน ยากจะขัดขวาง หากต้องการทำเรื่องนี้ จำเป็นต้องฝึกฝนแบบศาสนาพุทธจนถึงระดับหนึ่งถึงจะทำได้

“อ้อ” ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกยิ้มอย่างไม่สนใจ “เช่นนั้นท่านก็ตายเถอะ”

หมัดหนึ่งต่อยออก โดนใส่ศีรษะของอีกฝ่ายพอดี!

พระพุทธรูปที่เหมือนกับกระจกถูกทำลาย

เยี่ยนจ้าวเกอมองดูแวบหนึ่ง จากนั้นก็ไม่สนใจอีก

ตอนนี้เขานับว่ามีความเข้าใจในตัวประมุขทิศบนผู้นี้เล็กน้อยแล้ว อีกฝ่ายเป็นคนบ้าอย่างแท้จริง

เพื่อความคิดบ้าๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลาของเขา แม้แต่ความเป็นความตายของตัวเองก็ไม่สนใจ

ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอยังคิดอยู่ว่า ถ้าเฉินเฉียนหัวได้รับความพ่ายแพ้ในโลกแปดพิภพจริงๆ หลังจากกลับโลกซ้อนโลกแล้วจะแก้แค้นตนกับเขากว่างเฉิงหรือไม่ แต่ดูจากตอนนี้ อีกฝ่ายจะต้องกลับมาแน่นอน แต่น่าจะหมายตาแค่เขาเยี่ยนจ้าวเกอเท่านั้น เป็นเพราะว่าในสายตาของเฉินเฉียนหัวแล้ว คนอื่นๆ ล้วนน่าเบื่อ

นี่ย่อมไม่ใช่เรื่องที่แน่นอน

สาเหตุที่เหล่าคนเสียสติรับมือยาก เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่อาจใช้เหตุผลมาคาดเดาได้

โดยเฉพาะคนเสียสติผู้นี้ยังมีพลังทำลายล้างสูงถึงขีดสุด ยิ่งน่ารังเกียจกว่าเดิม

เฉินเฉียนหัวที่ครองวรยุทธ์มากมาย พูดถึงระดับความยิ่งใหญ่ของญาณจริงแท้เมื่อในระดับเดียวกัน ยังสู้เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ แต่ก็นับว่าน่าทึ่งยิ่ง

เขาที่รวบรวบหกคัมภีร์นภาหลังกำเนิด ซึ่งอยู่ในคัมภีร์นภาแรกเริ่มสิบม้วนสายหยกพิสุทธิ์ครบ ได้แสดงให้เห็นถึงฐานของโลก พลังฟื้นฟูแข็งแกร่งยิ่งกว่าจวงเซิงที่ฝึกฝนม้วนคัมภีร์ร่างหงส์อมตะและนักพรตเทียนอี้ที่ฝึกฝนคัมภีร์อายุวัฒนะ

หากเทียบแค่ความสามารถในการฟื้นฟูดู เยี่ยนจ้าวเกอถึงขั้นสู้เขาไม่ได้ แต่ว่าหากเทียบพลังในการควบคุมกระบวนท่าและพลังที่ระเบิดในชั่วพริบตา เขามีชัยโดยสมบูรณ์

รอยตราพลิกนภาที่ก่อให้เกิด ‘การพลิกการสรรสร้าง’ เป็นการสะท้อนถึงแก่นการฝึกฝนสามพิสุทธิ์ร่วมกันของเยี่ยนจ้าวเกอ ดังนั้นเมื่ออยู่ในระดับเดียวกันจึงเอาชนะเฉินเฉียนหัวได้เหลือเฟือ

‘แต่พูดอีกอย่างหนึ่ง คนผู้นี้ก็มอบความประหลาดใจให้กับข้าจริงๆ’ เยี่ยนจ้าวเกอมองธงยาวที่เปล่งแสงสีเขียว

ธงพระพฤหัสบดียังคงสู้กับตราประทับตะวัน เพียงแต่เป็นเพราะว่าก่อนหน้าถูกกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าโจมตี จึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

เยี่ยนจ้าวเกอเดินเข้าไป ทดลองเก็บธงพระพฤหัสบดีดู ทว่ามีความลำบากไม่น้อย ถึงอย่างไรมันก็เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่เทียบได้กับตราประทับตะวัน

ประมุขทิศบนเฉินเฉียนหัวทิ้งตราประทับและจิตแห่งหมัดของตัวเองเอาไว้ นั่นเป็นร่องรอยที่มีแต่ผู้เป็นประมุขในหมู่คนเท่านั้นถึงจะทิ้งไว้ได้

ร่องรอยที่ประมุขในหมู่คนเพียงคนเดียวที่สามารถต่อสู้กับเซียนจริงแท้ได้เหลือเอาไว้

ด้วยระดับพลังในปัจจุบันของเยี่ยนจ้าวเกอ คิดจะแก้ไขต้องเปลืองแรงอยู่บ้าง

ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอก็ยังรู้สึกดียิ่ง สำหรับเขาแล้ว อาวุธศักดิ์สิทธิ์เช่นธงพระพฤหัสบดีมีความหมายไม่ธรรมดา

ภายใต้การดูแลจากตราประทับตะวันและกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้า เยี่ยนจ้าวเกอฝืนสะกดธงพระพฤหัสบดี แล้วเก็บไว้ได้

จะควบคุมอาวุธเทพศาสตราวิเศษชิ้นนี้อย่างแท้จริงได้อย่างไร สามารถหาวิธีได้ในภายหลัง

………………..