บทที่ 1320 ปริศนาและการค้นพบ

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 1,320 ปริศนาและการค้นพบ

หลินเป่ยเฉินรีบเปิดลิงก์วีดีโอด้วยความสงสัย

แล้วสีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

เพราะชื่อลิงก์สำหรับการดาวน์โหลดวีดีโอกลับเป็น… หมวกเหล็กอมตะและถุงมือเทวฤทธิ์

อาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองชิ้นนี้เมื่อถูกโอนถ่ายเข้าสู่แอปสวิ่นเล่ย มันก็คงไปกระตุ้นการทำงานบางอย่างในแอปพลิเคชันให้ค้นหาข้อมูลภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องมากระมัง?

หลินเป่ยเฉินนึกอะไรได้บางอย่าง

เขาลองเลื่อนดูรายละเอียด

ไฟล์ภาพยนตร์ที่เขากำลังจะต้องดาวน์โหลดนั้นมีขนาด 10 GB

ถือว่าไม่ใหญ่เกินไป

หลินเป่ยเฉินลังเลเล็กน้อย แต่ก็เลือกดาวน์โหลดในที่สุด

พลังศักดิ์สิทธิ์ถูกรีดเค้นออกจากร่างกาย

“งื้อ…”

หลินเป่ยเฉินส่งเสียงครางกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้นห้อง

ผ่านไปชั่วหนึ่งก้านธูป การดาวน์โหลดก็เสร็จสิ้น

หลินเป่ยเฉินเหงื่อออกจนเสื้อผ้าเปียกชุ่ม

การถูกดูดพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นให้ความรู้สึกเสียวซ่านมากกว่าตอนที่ถูกดูดพลังลมปราณไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า

เขารอที่จะเปิดดูภาพยนตร์ที่ดาวน์โหลดมาไม่ไหวแล้ว

“ฮะ? ไม่มีชื่อเรื่องเหรอวะ?”

“แถมยังมีความยาวแค่สิบนาทีอีก”

“บัดซบ เสียเวลาโหลดตั้ง 10 GB ยาวแค่สิบนาทีเองเหรอเนี่ย”

หลินเป่ยเฉินยกมือนวดขมับด้วยความปวดหัว

เขารู้สึกเดจาวูอย่างไรชอบกล

หลินเป่ยเฉินจำได้ว่าตอนอยู่ในชาติภพที่แล้ว เขาเคยเสียเวลาดาวน์โหลดภาพยนตร์เรื่องหนึ่งทั้งคืนเพราะสนใจชื่อเรื่องของมันที่ตั้งเอาไว้อย่างล่อตาล่อใจว่า ‘เจ็ดฉกรรจ์ฟันแม่เลี้ยง’ แต่เมื่อดาวน์โหลดและเปิดดูด้วยความตื่นเต้น เขากลับพบว่ามันคือภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องซินเดอเรลล่ากับคนแคระทั้งเจ็ดนั่นเอง

แต่ไฟล์วีดีโอที่เขาดาวน์โหลดนี้มีขนาดถึง 10 GB เชียวนะ

หลินเป่ยเฉินกดเล่นวีดีโออย่างช้า ๆ

ภาพบนหน้าจอหมุนเป็นแนวนอน

ภาพของฮาร์ดดิสก์ลูกหนึ่งถูกคลี่ออกมา

“หืม? ภาพชัดจัง”

“นี่มันระบบสามมิติหรือไงเนี่ย?”

หลินเป่ยเฉินคิดไม่ถึงเลยว่าภาพวีดีโอที่เล่นอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์จะมีความคมชัดในระดับสามมิติ

ฉากเปิดภาพยนตร์เป็นทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไพศาล

ได้กลิ่นหอมสดชื่นของธรรมชาติ

ไม่น่าจะเป็นพื้นที่ในดินแดนทวยเทพ

แต่ก็ไม่น่าจะใช่โลกมนุษย์เหมือนกัน

น่าจะเป็นดินแดนในภพภูมิอื่นมากกว่า

ต้นไม้ใบหญ้าส่วนมากมีหน้าตาแปลกประหลาดอย่างที่หลินเป่ยเฉินไม่เคยเห็นมาก่อน

คู่รักชายหญิงคู่หนึ่งสวมใส่ชุดเสื้อคลุมเก่าขาดกำลังวิ่งมาบนทุ่งหญ้านั้น

บุรุษหนุ่มแบกเด็กชายวัยหกขวบอยู่บนแผ่นหลัง ส่วนภรรยาก็อุ้มทารกหญิงอยู่ในอ้อมแขน

พวกเขาเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็ว ทุกครั้งที่เท้าสัมผัสพื้นดิน ก็จะเกิดแรงส่งทำให้ทั้งสองคนสามารถพุ่งตัวออกไปได้ไกลหลายลี้ หากนี่ไม่ใช่การบิน ความเร็วของพวกเขาก็ไม่น้อยไปกว่าการบินแล้ว…

สีหน้าของคู่รักเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและโกรธแค้น

ราวกับว่ามีใครบางคนกำลังไล่ล่าพวกเขา

ภาพวีดีโอมีความคมชัดจนหลินเป่ยเฉินรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริง เสียงคู่รักหอบหายใจขณะหลบหนีด้วยความเหนื่อยล้าแทบจะเป่ารดใบหูของเขา…

บุรุษหญิงสาวคู่นี้คือใครกันนะ?

หลินเป่ยเฉินรู้สึกประหลาดใจ

เขาจ้องมองคู่สามีภรรยาด้วยความสงสัย

ทันใดนั้น…

วูบ!

เสียงวัตถุแหวกอากาศดังขึ้น

โลหิตสาดกระจาย

ผู้เป็นสามีลอยตัวขึ้นไปในอากาศระเบิดเสียงคำรามอย่างโกรธแค้น ดูเหมือนว่าเขากำลังร้องคำรามใส่อะไรบางอย่าง…

ร่างกายของเขาสั่นไหว บุรุษหนุ่มใช้มือแหวกอากาศธาตุให้เปิดออกกลายเป็นช่องว่าง

สามารถแหวกอากาศได้ด้วยมือเปล่าเลยหรือ?

ระดับพลังย่อมสูงส่งไม่เบา

หลินเป่ยเฉินมองดูด้วยความตกตะลึง

ทันใดนั้นกล้องก็สั่นไหว

ภาพบนหน้าจอพร่ามัว

ผ่านไปอึดใจใหญ่ การสั่นไหวของกล้องก็หยุดลง

บุรุษหนุ่มผู้นั้นนอนทอดร่างอยู่บนพื้นดิน ตัวของเขาถูกตอกตรึงด้วยหอกใหญ่เล่มหนึ่ง โลหิตไหลทะลักออกมา…

เขาเอื้อมมือออกมาข้างหน้า ราวกับว่าต้องการจะหยิบจับอะไรบางอย่าง

แต่เท้าที่สวมใส่รองเท้าบูทโลหะพลันปรากฏเข้ามาบนจอภาพและกระทืบลงไปบนมือของบุรุษหนุ่ม…

ส่วนลึกของมุมกล้องปรากฏร่างของภรรยานอนแน่นิ่ง นางถูกนายทหารในชุดเกราะทมิฬจับโยนใส่กรงขังบนรถม้าหน้าตาประหลาด ก่อนที่สัตว์อสูรจะฉุดลากรถม้าคันนั้นแล่นจากไป

ส่วนเด็กทารกถูกโยนทิ้งลงในพุ่มไม้ข้างทาง ส่งเสียงร้องให้อยู่ท่ามกลางพื้นดินและเศษฝุ่น…

หลินเป่ยเฉินเจ็บปวดหัวใจราวกับถูกคมมีดกรีดแทง

นี่คือเรื่องราวที่สะเทือนใจยิ่งนัก

แต่เมื่อคลิปวีดีโอดำเนินมาถึงตรงนี้ ภาพบนหน้าจอก็ดับวูบลง

ตอนแรกหลินเป่ยเฉินนึกว่าหน้าจอโทรศัพท์ของเขาดับ

แต่ปรากฏว่าไม่ใช่

มันเป็นฉากดำมืดของ ‘ภาพยนตร์’ เรื่องนี้

ไม่กี่ลมหายใจให้หลัง ภาพบนหน้าจอก็เปลี่ยนไป

ผู้ที่ปรากฏเข้ามาในจอภาพก็คือเด็กชายที่ถูกแบกอยู่บนแผ่นหลังของบุรุษหนุ่มเมื่อสักครู่

แต่ตอนที่เขาปรากฏตัวออกมา น่าจะเป็นเหตุการณ์หลังจากนั้นประมาณสามถึงสี่ปี

เดี๋ยวก่อนนะ?

หลินเป่ยเฉินหยุดชะงัก

แล้วสามีภรรยาคู่นั้นล่ะ?

แล้วเด็กทารกที่ถูกโยนทิ้งข้างทางล่ะ?

ไม่มีเฉลยหน่อยหรือไง?

หลินเป่ยเฉินแทบจะบ้าตายแล้ว

เด็กชายที่อยู่บนหน้าจอกำลังฝึกฝนอย่างหนักหน่วง

ร่างกายของเขาช่วงบนเปลือยเปล่า เปิดเผยให้เห็นถึงมัดกล้ามเนื้อที่เรียงตัวอย่างสวยงาม ทุกหมัดที่กระแทกออกมาเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างรุนแรง

นอกจากนี้ ยังมีคนอีกผู้หนึ่งยืนห่างออกไปประมาณห้าวา บุคคลผู้นี้ระเบิดรังสีเจิดจรัสออกจากร่างกาย ทำให้มองเห็นหน้าตาได้ไม่ชัดเจน และเห็นเป็นเพียงเงาร่างสูงใหญ่กำยำเท่านั้น

ดูเหมือนว่าบุคคลผู้นี้จะเป็นผู้ชี้แนะการฝึกวิทยายุทธ์ให้กับเด็กชาย

หลินเป่ยเฉินสังเกตเห็นว่าสภาพแวดล้อมที่เด็กชายอยู่ในตอนนี้ แตกต่างจากทุ่งหญ้าที่ปรากฏในฉากแรก

โครงสร้างอาคารบ้านเรือนก็ดูคุ้นตามากกว่าเดิม

เพราะว่าที่นี่คือเมืองเยี่ยเฉิง

แล้วภาพยนตร์ก็หยุดลงที่ตรงนี้

เนื้อหาในคลิปวีดีโอมีเพียงเท่านี้

หลินเป่ยเฉินจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์อย่างพูดอะไรไม่ออก

นี่มันอะไรกันเนี่ย?

ไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีจุดจบ

เคว้งคว้างเหลือเกิน

เขาลองเล่นวีดีโอซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันให้แน่ใจ

แต่คลิปวีดีโอมีความยาวเท่านี้จริง ๆ

หลินเป่ยเฉินเก็บโทรศัพท์และนั่งใช้ความคิด

พิจารณาจาก ‘หนังสั้น’ ที่เขาเพิ่งดูจบไป พระเอกน่าจะเป็นเด็กชายผู้รอดชีวิต

เนื้อหาของหนังสั้นเรื่องนี้ บิดาของเด็กชายถูกฆ่าตาย มารดาถูกจับตัวอยู่ในกรงขัง ส่วนน้องสาวถูกโยนทิ้งลงข้างทาง สุดท้ายก็มีเด็กชายคนเดียวที่รอดชีวิต…

ตัวตนของเด็กชายผู้นี้…

น่าจะเป็นเทพเจ้าแห่งแดนรกร้างกระมัง?

หรือไม่ก็เป็นเจ้าของหมวกเหล็กอมตะใบนั้น

หลินเป่ยเฉินนึกสงสัยอยู่ว่าบุคคลทั้งสองอาจจะเป็นคนเดียวกันก็ได้

แต่สิ่งที่เด็กหนุ่มมั่นใจได้อย่างหนึ่งก็คือ เขารู้แล้วว่าความสามารถในการดาวน์โหลดภาพยนตร์ของแอปสวิ่นเล่ยคืออะไร

แอปพลิเคชันนี้มีความสามารถย้อนเวลาวัตถุสิ่งของ กล่าวคือ เมื่อนำวัตถุเข้าไปฝากไว้ในพื้นที่เก็บไฟล์ออนไลน์ของแอปสวิ่นเล่ย มันก็จะประมวลเหตุการณ์ในอดีตของวัตถุนั้น ๆ เป็นภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง…

นี่คือความสามารถที่มหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง

มันเป็นเครื่องมือที่จะช่วยบอกเล่าว่าในอดีตเจ้าของวัตถุเหล่านี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง

และเพื่อยืนยันความคิดของตนเอง หลินเป่ยเฉินจึงลองนำกระบี่เงิน กระบี่เพลิงโลกันตร์ และสิ่งของอีกมากมายใส่เข้าไปในพื้นที่เก็บไฟล์ออนไลน์ของแอปสวิ่นเล่ย