ภาค 11 คุนหลุนกลาง กว่างเฉิงบูรพา บทที่ 1082 ชายฝั่งยมโลก

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ถ้าหากทำได้ เยี่ยนจ้าวเกอต้องการให้ฟู่ถิงออกจากยอดเขาอัศจรรย์ หลบไปอยู่ที่หุบเขาเซียนเร้นกาย หรือไม่ก็ไปที่อื่น เพราะเขาเชื่อว่าหลังจากจักรพรรดิแพรจัดการเรื่องของเมิ่งหว่านเสร็จแล้ว ต่อไปต้องถึงตาของฟู่ถิงแน่ กระนั้นทุกอย่างเป็นเพียงการคาดเดา ก่อนที่จักรพรรดิแพรจะลงมือจริงๆ ก็ไม่มีผู้ใดยืนยันได้ว่าจักรพรรดิผู้นี้คิดจะทำอะไร

คนบนยอดเขาอัศจรรย์ศึกษาการสืบทอดสายเอกพิสุทธิ์มาหลายปี เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าดี เชื่อว่าสุดด้ายพวกฟู่ถิงจะมีการแยกแยะและตัดสินใจได้

ความสนใจในตอนนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอยังอยู่ที่เฟิงอวิ๋นเซิงและเมิ่งหว่าน

จักรพรรดิทั้งสองมายังเขตราตรีอุดร ที่นี่ย่อมเกิดความสับสนขึ้น

ประมุขอุดรออกมาต้อนรับ แสดงความเคารพจักรพรรดิแพรและจักรพรรดิไร้จำกัด ถ้าหากบอกว่าก่อนหน้ายังเป็นแค่การแสดงมารยาท เช่นนั้นในตอนนี้ก็เพิ่มความระวังขึ้นมากมายแล้ว

เรื่องที่เกิดขึ้นบนทะเลสาบสะท้อนดาราในเขตเพลิงทักษิณ เพียงรู้กันในกลุ่มคนระดับสูง ไม่ได้ป่าวประกาศเป็นวงกว้าง แต่ประมุขอุดรย่อมทราบเรื่อง จึงระแวดระวังจักรพรรดิแพรที่อยู่ตรงหน้าเป็นพิเศษ

เยี่ยนจ้าวเกอก็เพิ่งได้พบผู้ปกครองฝั่งทิศเหนือ และปู่ของกวนอวี่ลั่วผู้นี้เป็นครั้งแรก

ในพิธีเปิดสำนักของเขากว่างเฉิงบนทะเลหวงเจีย ประมุขทั้งสิบไปถึงที่นั่นเจ็ดคน นอกจากประมุขทิศบนเฉินเฉียนหัวและประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงที่ไม่ได้ปรากฏตัวแล้ว ก็มีแค่ประมุขอุดรที่ไม่มา

การประกาศสถานะของเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋สองพ่อลูกในภายหลัง ได้ก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วโลกซ้อนโลก แต่ว่าประมุขอุดรก็ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวอันใด ไม่ได้ปฏิเสธและแสดงความเป็นปรปักษ์เหมือนพวกประมุขประจิมหลางชิง แต่ก็ไม่มีการแสดงความใกล้ชิดอันใด

นี่คล้ายกับเป็นนิสัยของประมุขอุดร

ในประมุขทั้งสิบ ประมุขอุดรนับได้ว่าเป็นคนหนึ่งที่ทำตัวสงบเสงี่ยมที่สุด ลักษณะนิสัยของเขาคล้ายกับจักรพรรดินีอยู่หลายส่วน คบหากับคนภายน้อยน้อยยิ่ง

นี่ไม่ใช่ไร้เหตุผล

เยี่ยนจ้าวเกอมีความรู้สึกที่ดีต่อคนผู้นี้ เป็นเพราะว่าในเรื่องของเสวี่ยชูฉิงผู้เป็นมารดา ประมุขอุดรรักษาสถานะตรงกลางไว้ตั้งแต่ต้น ห้ามไม่ให้คนในอารามคงมายาแห่งเขาหอเมฆาเข้าร่วม ถึงจะไม่ได้ดูแลทุกอย่าง แต่ว่าสำหรับประมุขอุดรแล้ว นี่เป็นเจตนาดีอย่างหนึ่ง

อารามคงมายาแห่งเขาหอเมฆาในเขตราตรีอุดร ที่แล้วมาขึ้นชื่อในเรื่องมรรคาการทำนายก่อนกำเนิด ประมุขอุดรยิ่งเป็นมือดีระดับสุดยอดในจำนวนนี้ ถ้าหากว่าเขากับลูกศิษย์ในสำนักเข้าร่วมการไล่ล่า เส้นทางการหนีของเสวี่ยชูฉิงจะยากลำบากขึ้นสุดขีด โดยเฉพาะในตอนที่เสวี่ยชูฉิงมีระดับพลังฝึกปรือต่ำ

ถึงแม้ว่าเสวี่ยชูฉิงจะมีผังเหอถูครึ่งหนึ่งคุ้มครองตัวอยู่ แต่ที่ที่นางใช้ผังเหอถูกครึ่งหนึ่งนี้มีมากเกินไป

มาตรแม้นว่ายอดฝีมือระดับสุดยอดจะสะกดกันไว้ ประมุขอุดรไม่อาจลงมือด้วยตัวเอง กระนั้นถ้ามีลูกศิษย์อารามคงมายามากมายเข้าร่วมการไล่ล่า และเสวี่ยชูฉิงต้องเผยช่องโหว่ ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นมาก

และเป็นเพราะเชี่ยวชาญในมรรคานี้ ดังนั้นประมุขอุดรจึงไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใคร อีกทั้งยังเข้าร่วมการแย่งชิงต่างๆ ไม่บ่อยนัก

“ประมุขอุดรอยู่ตรงหน้า เยี่ยนจ้าวเกอขอคารวะ” พอเห็นประมุขอุดร เยี่ยนจ้าวเกอก็คำนับ “ไม่ได้เจอแม่นางกวนมาหลายวัน นางสบายดีหรือไม่”

ถ้าหากดูจากรูปลักษณ์ภายนอก ประมุขอุดรเกรงว่าจะเป็นประมุขที่ไม่โดดเด่นที่สุดในประมุขทั้งสิบ เขามีรูปร่างผอมแห้ง แก่ชรา สายตาฝ้าฟาง ถึงขั้นมีลักษณะของคนหูตึง ดูไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง เหมือนกับพร้อมจะสิ้นชีวิตไปได้ทุกเวลา

คนที่มีวัยวุฒิและคุณวุฒิมากที่สุดในประมุขทั้งสิบเป็นประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงอย่างไม่ต้องสงสัย รองลงมาก็คือประมุขอิสานหลิวเจิงกู่ แน่นอนว่าเขาหนุ่มกว่าหวังเจิ้งเฉิงไม่น้อย จากนั้นก็เป็นประมุขอุดร

เพียงแต่มองจากรูปลักษณ์ภายนอก หลิวเจิงกู่ที่มีอายุมากกว่า กลับดูหนุ่มกว่า น่าเกรงขามกว่า และมีกำลังวังชามากกว่าประมุขอุดรผู้นี้

หลังจากทักทายพวกเยี่ยนจ้าวเกอ จักรพรรดิแพร และจักรพรรดิไร้จำกัดแล้ว ประมุขอุดรก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นางป้ำๆ เป๋อๆ ทำให้สหายน้อยเยี่ยนหัวเราะเยาะแล้ว”

เยี่ยนจ้าวเกอว่า “หาไม่ได้ ต้องขอบคุณน้ำใจของแม่นางกวน ข้าผู้แซ่เยี่ยนจึงค่อยทราบถึงการเคลื่อนไหวอย่างคร่าวๆ ของภรรยา”

เจตนาในการมายังเขตราตรีอุดร ก่อนหน้านี้ได้แจ้งกับอารามคงมายาแห่งเขาหอเมฆาแล้ว ประมุขอุดรย่อมรับรู้

เขาครุ่นคิดเล็กน้อยค่อยเอ่ยว่า “สหายน้อยฟู่ พวกท่านต้องเตรียมตัวไว้ด้วย ทางเชื่อมเขตแดนซึ่งเชื่อมไปยังมิติต่างแดนที่สหายน้อยเฟิงเดินทางไปในครั้งนี้ เกรงว่าจะได้รับการกัดกินจากนพยมโลก กลายเป็นดินแดนชายฝั่งยมโลกไปแล้ว”

ดินแดนชายฝั่งยมโลก ไม่ใช่เขตแดนของนพยมโลก แต่เกิดจากการกัดกินมิติของนพยมโลก พลังของนพยมโลกน่ากลัวและแปลกประหลาด ไม่ว่าจะเป็นโลกที่มีรูปร่างหรือไร้รูปร่าง ก็ล้วนถูกมันกัดกิน แต่ว่ามิติต่างแดนสับสนวุ่นวาย นพยมโลกยากจะกัดกิน จำเป็นต้องใช้เวลาที่แสนยาวนานจึงจะเปลี่ยนให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวเองได้อย่างแท้จริง

ก่อนหน้านั้น มิติที่ถูกควันมารนพยมโลกทำให้ปนเปื้อน ก็ยังไม่นับว่าเป็นดินแดนของนพยมโลกที่แท้จริง ที่เรียกว่าชายฝั่งยมโลก โดยรวมแล้วนับได้ว่าเป็นดินแดนสีเทาที่อยู่ระหว่างนพยมโลกและมหาจักรวาล แตกต่างจากโลกที่ถูกร่องแยกยพยมโลกกัดกินในความรู้ความเข้าใจทั่วไป

ประมุขอุดรที่ได้รับการแจ้งก่อนหน้า และเข้าใจถึงเจตนาการมาของเยี่ยนจ้าวเกอและจักรพรรดิแพรในครั้งนี้ ได้ทำการทำนายหลังจากไม่ได้ลงมือด้วยตัวเองมาหลายปี

ด้วยความแตกต่างของระดับพลังฝึกปรือระหว่างเขากับเฟิงอวิ๋นเซิง ในสถานการณ์ปกติการอนุมานถึงร่องรอยของอีกฝ่ายสมควรถูกต้องแม่นยำ ต่อให้เฟิงอวิ๋นเซิงอยู่ในมิติต่างแดนที่ยากจะยืนยันตำแหน่ง ก็ยังสามารถรู้ทิศทางคร่าวๆ ได้

ทว่าสภาพการทำนายกลับไม่ชัดเจน ผลลัพธ์ไม่ต้องบอกก็เข้าใจ

“ข้าทราบดี ขอบคุณประมุขอุดรที่ชี้แนะ” เยี่ยนจ้าวเกอสูดลมหายใจลึก ประสานมือคำนับประมุขอุดร

เมิ่งหว่านมองบิดาด้วยความกระวนกระวาย จักรพรรดิแพรว่า “พวกเราลองไปดูก่อน”

ประมุขอุดรกล่าวเช่นกัน “ข้าจะติดตามท่านทั้งสองไปยังดินแดนทางเหนือสุด คอยรออยู่ที่นั่นเผื่อเกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย”

จักรพรรดิไร้จำกัดมองประมุขอุดรอย่างสงบนิ่ง แล้วพยักหน้าให้อีกฝ่าย

ทุกคนออกเดินทางทันที ไม่ทันไรก็มาถึงในแดนหิมะฟ้าน้ำแข็งของดินแดนทางเหนือสุด

พวกเขาออกตามหาตามร่องรอยที่เฟิงอวิ๋นเซิงได้เหลือไว้ก่อนหน้า สุดท้ายก็กำหนดอาณาเขตบริเวณหนึ่งได้

จักรพรรดิแพรยกมือ โลกตรงหน้าพลันเปลี่ยนแปลง พายุหิมะมากมายและที่ราบน้ำแข็งสีขาวโพลน ล้วนกลายเป็นไม่จริง เหมือนกับมิติของฟ้าดินที่แท้จริงกลายเป็นภาพสองมิติ

นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งของร่างกาลอวกาศกำเนิดวรยุทธ์สายเอกพิสุทธิ์ มันมีพลังป้องกันล้ำเลิศ แต่กลับไม่ใช่วิชาที่มีแค่การป้องกันเท่านั้น เพราะมันกอปรด้วยการป้องกันและการจู่โจม มีประโยชน์ไร้สิ้นสุด

เพียงแต่ระดับที่ล้ำลึกเหมือนจักรพรรดิแพร บนโลกซ้อนโลกในตอนนี้มีแค่เขาคนเดียว

ทุกคนเพ่งตามองไป เห็นด้านในฟ้าดินซึ่งเหมือนกับกลายเป็นภาพทิวทัศน์ธรรมชาติตรงหน้า มีเส้นสายสีดำหลายสายขยับเขยื้อน เหมือนกับว่าบนม้วนภาพมีรอยฉีก ต่อจากนั้นก็ได้รับการซ่อมแซม

ก่อนที่จักรพรรดิแพรจะใช้วิชานี้ กลับไม่เห็นร่องรอยเหล่านี้ในโลกปกติ

นั่นคือร่องแยกของเขตแดนที่จะเกิดขึ้นที่นี่ได้ตลอดเวลา แต่ก็จะหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ประมุขอุดรมองอย่างละเอียดครู่หนึ่ง สายตาอยู่บนเส้นสายสีดำเส้นหนึ่งในนี้ “สมควรเป็นที่นี่แล้ว”

พวกเยี่ยนจ้าวเกอมองตามสายตาของประมุขอุดรไป ต่างพยักหน้าอย่างเชื่องช้า

“ไป” จักรพรรดิแพรชักมือกลับ ทิวทัศน์ของฟ้าดินที่ดูไม่จริงตรงหน้าเปลี่ยนจากปลอมเป็นจริง

พร้อมกับที่ทิวทัศน์ฟ้าดินกลับคืนสู่สภาพเดิม บนที่ราบหิมะกลับปรากฏประตูทางเชื่อมเขตแดนบานหนึ่ง หากมองจากด้านนอกเข้าไปด้านใน มันเป็นสีดำสนิทเหมือนกับหลุมดำ ด้านในยังมีแสงสายฟ้ากะพริบ บัดเดี๋ยวสูญหายบัดเดี๋ยวปรากฏ

………………..