เทพมารหลินจบสิ้นแล้ว!
ไกลออกไปเหล่าผู้กล้าต่างสั่นสะท้าน อามรมณ์ความรู้สึกซัดกระเพื่อม
ในการต่อสู้นี้ เดิมทีอานุภาพของหลินสวินประหนึ่งสายรุ้ง เข้าบดขยี้ไป๋หลงถิงเสียจนไม่อาจเงยหน้าขึ้นมาได้ ทว่ายามนี้สถานการณ์พลิกกลับแล้ว!
คนที่ลงมือไม่ได้มีเพียงแค่ไป๋หลงถิงคนเดียวเท่านั้น ยังมีบุคคลฝีมือร้ายกาจเช่นเดียวกันอีกหลายคน ทำให้หลินสวินตกอยู่ในวงล้อมทันที
เสมือนกับผิดล้อมสัตว์!
“นี่ก็คืออำนาจ หลินสวินหมายช่วยคนและพลิกสถานการณ์โดยลำพัง ย่อมไม่ต่างอะไรกับการเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง!”
มีคนฮึกเหิม อยากให้หลินสวินถูกสังหารจนใจแทบขาด
“พวกเจ้าไม่รู้สึกเลยหรือว่าการมีมิตรสหายอย่างหลินสวินจึงจะเป็นโชคอันยิ่งใหญ่ของชีวิต ครั้งนี้หากไม่ใช่เพื่อช่วยชีวิตสหายของเขา หลินสวินมีหรือจะต้องเผชิญอุปสรรคเช่นนี้”
บางคนทอดถอนใจด้วยความซาบซึ้งในการกระทำของหลินสวิน
ชื่อเหยาที่อยู่อีกด้านหนึ่งกำลังใคร่ครวญคำวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหลาย พร้อมกับมองดูเงาร่างที่ตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมอยู่ไกลๆ แต่ยังคงต่อสู้อย่างห้าวหาญด้วยร่างกายที่ชุ่มเลือด ในใจยิ่งรู้สึกขัดแย้ง
ควรจะ… ลงมือดีหรือเปล่า
นานทีปีหนจะมีโอกาสสังหารหลินสวิน!
“พี่ใหญ่…!”
ภายใต้เคราะห์สวรรค์ อาหลู่โกรธจนเบิกตาโพลง นัยน์ตาแดงเถือก เขากำลังอยู่ในช่วงสำคัญของการข้ามด่านเคราะห์ ทว่าเมื่อเห็นสถานการณ์ของหลินสวินยังจะยืนเฉยอยู่อีกได้อย่างไร
มีพริบตาหนึ่งที่เขาอยากละทิ้งทุกสิ่ง พุ่งสังหารเข้าไปเต็มกำลัง ดับสลายไปพร้อมกับศัตรูเหล่านั้น!
แต่เมื่อได้ยินสียงร้องคำรามของอาหลู่ ในใจหลินสวินสั่นไหวขึ้นมาโดยพลัน รู้ว่าไม่อาจรีรอได้อีกต่อไป หาไม่จะเป็นการรบกวนอาหลู่ มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจข้ามด่านเคราะห์ไม่สำเร็จ
“อาหลู่! ตั้งสติจดจ่อกับการข้ามด่านเคราะห์ พวกไก่กระเบื้องสุนัขดินเผาฝูงนี้ไม่มีปัญญาทำอะไรพี่ใหญ่ของเจ้าได้!”
หลินสวินสูดหายใจเฮือกใหญ่ กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
เมื่อคำพูดนี้ดังออกไป กลับได้รับเสียงหัวเราะเย็นชากลับมา เผชิญสถานการณ์เป็นตายแท้ๆ ยังมีหน้าพูดปลอบใจคนที่ใกล้จะข้ามด่านเคราะห์ล้มเหลวอีก เทพมารหลินผู้นี้เสียสติไปแล้วหรือ
“พี่ใหญ่ ข้าเชื่อท่าน!”
บนห้วงอากาศอาหลู่สงบนิ่งลงอย่างน่าประหลาด ส่งเสียงร้องคำราม ไม่มองการต่อสู้ที่อยู่ห่างไปนั้นอีก ตั้งสติเพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่การข้ามด่านเคราะห์
ลึกลงไปยังก้นบึ้งของจิตใจบังเกิดแรงปรารถนาและความมุ่งมั่นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ไม่ว่าอย่างไรจะต้องข้ามด่านเคราะห์ให้สำเร็จ!
หากครั้งนี้หลินสวินต้องมีอันเป็นไป เขาสาบานว่าจะสังหารศัตรูทั้งมวลให้สิ้นซาก นำเลือดและชีวิตของพวกเขาฝังไปพร้อมกับหลินสวิน!
แรงปรารถนานี้แฝงความแน่วแน่อันแรงกล้าเอาไว้ ทำให้ทั้งตัวอาหลู่จมสู่ความบ้าคลั่งอย่างขีดสุด ทั้งอยู่ในสภาวะจิตที่นิ่งสนิทที่สุดอีกด้วย
“เหอะ ยังมีหน้ามาแสดงละครสายสัมพันธ์เพื่อนพ้องน้องพี่อยู่อีก อยากจะอ้วกนัก!”
ท่ามกลางการต่อสู้ บุตรนรกหัวเราะเยาะเย้ย ไม่ปิดบังคำเย้ยหยันของตนแม้แต่น้อย
คนอื่นๆ ล้วนมีสีหน้าเย็นชาราบเรียบหาใดเปรียบเช่นกัน
นี่เป็นสถานการณ์ตาย!
ไม่ว่าใครมาก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้!
“หลินสวิน ยอมแพ้เสียเถิด ครั้งนี้ไม่มีใครมาช่วยเจ้าได้อีกแล้ว ข้านับถือการเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริงของเจ้า สามารถมอบความตายอันทรงเกียรติให้แก่เจ้าได้”
ไป๋หลงถิงกล่าวออกมาอย่างเย็นชา
“ข้าหลินสวินหากอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เหตุใดต้องยืมมือคนอื่นเข้าช่วย”
และพร้อมกันนี้หลินสวินเงยหน้าขึ้นมาทันที นัยน์ตาลึกล้ำมีไอสังหารเยียบเย็นวาบผ่าน “ข้าบอกแล้ว พวกเจ้าก็เป็นแค่ไก่กระเบื้องสุนัขดินเผาฝูงหนึ่ง!”
น้ำเสียงและทุกคำที่เอ่ยออกมาราวกับฟ้าผ่า ถึงกับบดบังเสียงของเคราะห์สวรรค์จนมิด เลื่อนลั่นไปทั่วเก้าฟ้าสิบแผ่นดิน!
พร้อมกันนี้บนร่างหลินสวินปรากฏกลิ่นอายน่าครั่นคร้ามที่ไม่เคยมีมาก่อน ราวกับภูเขาไฟที่กักเก็บมาเนิ่นนาน ปะทุออกมาโดยสมบูรณ์!
“หืม”
“ไม่ได้การ!”
“นี่…”
ไป๋หลงถิง บุตรนรก และคนอื่นๆ ที่กำลังปิดล้อมต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป ล้วนสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายที่แผ่ออกจากร่างของหลินสวินในเวลานี้ ถึงกับแข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่ช่วงใหญ่!
“ตาย!”
และในเวลานี้ หลินสวินที่เป็นฝ่ายถูกกระทำมาโดยตลอดปล่อยหมัดออกไปทันใด
ตูม!
ห้วงอากาศพังครืน สรรพสิ่งดับทลาย
หมัดที่คุโชนถูกปล่อยออกไปราวกับโซ่ตรวนทลายห้วงกาลเวลา เพียงแค่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาก็ทำให้ฟ้าดินสั่นไหว
“อ๊าก…!”
เสียงร้องโหยหวนอเนจอนาถดังขึ้น ชายชุดดำที่ถือดาบศึกเจิดจ้าราวหิมะถูกพลังหมัดบดขยี้และจมมิด
ก็เห็นร่างของเขาตั้งแต่ศีรษะ ลำคอ หัวไหล่ ลงมาถึงขาทั้งสอง ทุกชุ่นแตกสลาย เลือดเนื้อปลิวลอยไปทั่วแผ่นฟ้า
พลังหมัดดุดันนั่นเพิ่งห้อทะยานออกไปก็แผ่ขยายเต็มที่ ทำให้ห้วงอากาศตรงนั้นทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดยักษ์
ทั้งลานเงียบกริบโดยพลัน
ทุกคนตะลึงงันปากอ้าตาค้าง ทื่อทึ่มมองดูทุกสิ่งนี้
ก่อนหน้าเห็นชัดๆ ว่าหลินสวินถูกปิดล้อมเอาไว้อย่างแน่นหนา ใกล้จะร่วงหล่นเต็มที แต่ยามนี้ทั้งหมดกลับพลิกผันเสียอย่างนั้น
หมัดนี้สังหารศัตรูกร้าวแกร่ง ซ้ำยังฉีกทลายกำแพงเหล็กที่ปิดล้อมเอาไว้ได้อีกด้วย!
แม้จะเป็นบุคคลร้ายกาจอย่างไป๋หลงถิงหรือบุตรนรก ต่างก็ประหวั่นพรั่นพรึง แทบไม่กล้าเชื่อ หรือว่าก่อนหน้านี้หลินสวินเก็บงำพลังมาโดยตลอด
“ตาย!”
ทั้งหมดนี้ว่าไปแล้วเหมือนเชื่องช้าแต่อันที่จริงกลับรวดเร็วสุดขีด หลังจากสังหารชายชุดดำผู้นั้น หลินสวินสำแดงตัวตนออกมาอย่างหมดจดราวกับมังกรที่จำศีลอยู่แรมปีออกจากหุบเหว
ตูม!
อีกหนึ่งหมัดโฉบพุ่ง กดข่มไปทางผู้หญิงรูปร่างเพรียวบางที่ถือแส้มังกรแดงผู้นั้น
“เปิด!”
ผู้หญิงคนนั้นกรีดร้อง แสงมรรคสีทองอร่ามทั่วเรือนกายระเบิดขึ้น สั่นสะเทือนเต็มกำลัง
แต่ภายใต้หมัดนี้ของหลินสวิน แส้ยาวในมือของนางระเบิดเป็นเสี่ยงราวกับเศษกระดาษเป็นสิ่งแรก จากนั้นชุดศึกที่ปกคลุมทั่วเรือนกายของนางถูกทุบจนแหลก หน้าอกยุบตัวลง ถูกหมัดอันเจิดจ้าเจาะทะลวงเป็นรูเลือดทั้งเป็น!
หมัดเดียวทะลวงอก!
ผู้หญิงคนนั้นก่อนตายยังเบิกตากว้าง สีหน้างุนงงและยากจะเชื่อ
จากนั้นเงาร่างของนางก็แตกสลายหายไป
นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว ทุกคนในลานต่างเงียบกริบ สั่นไปทั้งตัว
นับตั้งแต่หลินสวินสำแดงการโต้กลับ เพียงแค่สองหมัดก็สามารถสังหารบุคคลขอบเขตมกุฎที่บรรลุระดับอมตะเคราะห์ด่านหกได้ พลังต่อสู้ที่กร้าวแกร่งเช่นนั้นสามารถทำให้เทพผีต่างตื่นตระหนก!
เหลือเชื่อเกินไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ใครก็ไม่อาจคาดคิดถึง ทุกคนล้วนคิดว่าไม่ว่าใครมาอีกก็ไร้หนทางช่วยหลินสวินให้รอดไปได้
ทว่าขณะนี้ไม่มีใครยื่นมือเข้าช่วย แต่กลับเป็นตัวเขาเองที่สามารถทลายสถานการณ์จนมุม เพียงหมัดเดียวก็ขจัดหนทางแห่งความตาย!
“พวกเราโดนหลอกแล้ว!”
ไป๋หลงถิงบันดาลโทสะ สั่นเทิ้มไปทั้งตัว
ก่อนหน้านี้หลินสวินเก็บงำศักยภาพเอาไว้ ยังสามารถกดดันจนเขาไร้พลังต่อต้าน ยามนี้เขาตอบโต้เต็มกำลัง ใครยังจะเป็นคู่ต่อสู้ได้อีก
“น่าชังนัก!”
บุตรนรกร้องคำรามเช่นกัน
ทว่ายามนี้พวกเขาทั้งหมดอยู่บนหลังเสือแล้วย่อมลงมายาก ตนอยู่ในสนามรบ คิดจะถอนตัวก็ไม่อาจทำได้
“ฆ่า บุกไปพร้อมกัน!”
มีคนตะโกนร้อง เรียกระดมผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ในลานให้บุกพร้อมกัน ใช้คลื่นฝูงชนเข้าปิดล้อมหลินสวิน
เพียงแต่หลินสวินในเวลานี้ตัดสินใจสังหารศัตรูอย่างแน่วแน่แล้ว ไม่มัวรีรอและอดกลั้นอีกต่อไป มีหรือจะกลัวคนเหล่านี้
“ฆ่า!”
ผมดำของเขาพลิ้วไหว เงาร่างพาดขวางราวกับหุบเหวลึก ไอสังหารในใจแผ่ขยายและปลดปล่อยออกมาประหนึ่งภูเขาถล่มทะเลคลั่ง
มรรคและวิชาทั้งหลายอย่าง โทสะหยาจื้อ วิชาอริยะยุทธ์ ยอดนิรันดร์ไร้รั่ว… ล้วนถูกหลินสวินสำแดงออกมาเต็มกำลัง
ฟุ่บๆๆ!
ภายใต้การสังหารระดับนี้ ผู้แข็งแกร่งคนแล้วคนเล่าในที่นั้นตายคาที่ทันใด
บ้างก็ถูกพลังหมัดอันเจิดจ้าระเบิดสังหาร
บ้างก็ถูกดรรชนีมหาอุดมสลายมายาบดขยี้
บ้างก็ถูกพลังของมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปรพิฆาต
บ้างก็…
ชั่วขณะเดียวในห้วงอากาศปรากฏฝนเลือดประหนึ่งน้ำตก ศพที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ปลิวว่อน เสียงกรีดร้อง คร่ำครวญและคำรามดังขึ้นไม่หยุดหย่อน
นี่เป็นภาพที่นองเลือดอย่างที่สุด และหลินสวินที่กำลังบุกสังหารในนั้นก็เหมือนคนวาดภาพ เพียงสะบัดมือก็เกิดภาพล้มตายอันน่าสลด
ไกลออกไปมือเท้าของชื่อเหยาแข็งเย็นไปหมด สีหน้าซีดขาว
ความขัดแย้งในใจนางหายวับไปเนิ่นนานแล้วด้วยฉากนองเลือดนี้ ถูกความหนาวเย็นที่ไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดเข้าแทนที่
แววตาของนางเลื่อนลอย ในครรลองสายตาล้วนเป็นสีเลือดแดงฉานบาดตาถึงเพียงนั้น ผู้แข็งแกร่งร่วงหล่นไปคนแล้วคนเล่าราวกับกระดาษเปื่อย เสมือนดอกไม้ไฟแตกปะทุในพริบตา เมื่อแสงเจิดจ้าดับลงก็กลับสู่ความเงียบงัน
มีเพียงเงาร่างเดียวในนั้น ประดุจเทพมารที่ยืนตระหง่านกลางฟ้าดิน ราวกับเป็นนิรันดร์ไม่อาจดับสลาย อำนาจศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจขัดขวาง ไอสังหารสะท้านฟ้าดิน!
อสนีเคราะห์ที่ม้วนตลบส่องแสงเจิดจ้าบนขอบฟ้า ภายใต้แสงประกายของสายฟ้าที่ผ่าลงมา เงาร่างที่ชุ่มเลือดจากการฆ่าฟันนั้นทั้งทรงพลัง อหังการ และเย็นชาจนพาให้คนสิ้นหวัง!
‘พลาดแล้ว พลาดทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่แรกพวกเขาก็อยู่คนละชั้นกับเขาแล้ว…’
ชื่อเหยาจิตวิญญาณล่องลอง ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือสิ้นหวังดี
“ถอย!”
ไป๋หลงถิงตะโกนขึ้นในนั้น
พลังต่อสู้ของหลินสวินทำให้เขาหวาดกลัวถึงที่สุด ได้รับการกระตุ้นจนเลือกหนีตายโดยไม่ลังเล
แต่น่าเสียดาย สายไปแล้ว!
ยามชื่อเหยาเงยหน้าขึ้นก็เห็นประกายคมขาวเจิดจ้าราวหิมะสายหนึ่งพริบไหวพอดี เฉือนสังหารด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ
จากนั้นไป๋หลงถิงที่ติดสิบอันดับแรกในกระดานทองคำผู้กล้าคนนี้ สัตว์ประหลาดยุคโบราณที่ชื่อเสียงเลื่องลือในแดนเก้าบนมานานแล้ว ร่างกายถูกผ่าเป็นสองส่วน ดับสิ้นทั้งกายใจ!
ชื่อเหยาสั่นไปทั้งตัวคล้ายกับหล่นลงไปในถ้ำน้ำแข็ง
“แม่นางชื่อเหยา ช่วย…ข้า!”
ทันใดนั้นเสียงร้องโหยหวนที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังดังก้องขึ้น
เป็นกู่เทียนอี ชายชุดเขียวที่ก่อนหน้าดูสำเริงสำราญอิสระเสรีและดูแคลนหลินสวินคนนั้น ทว่ายามนี้กลับหวาดกลัวจนเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง ผมเผ้าแผ่สยาย สีหน้าคล้ำเขียวเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
“ข้า…”
ชื่อเหยาเพิ่งอ้าปากพูด กลับรู้สึกถึงสายตาเยียบเย็นที่กวาดมองมา แววตาลึกล้ำนั่นราวกับเหวลึกไร้ก้น ประหนึ่งสามารถกลืนกินจิตวิญญาณของผู้คนได้
พริบตานั้นชื่อเหยาตัวแข็งทื่อ หัวสมองขาวโพลน
หลังจากนั้นในครรลองสายตาของนาง กระดูกทั่วร่างของกู่เทียนอีแตกเป็นเสี่ยง เลือดและกระดูกแหลกละเอียดปลิวลอย สิ้นชีพกลางห้วงอากาศ!
“ยังคิดหนีอีก”
ทันใดนั้นเสียงเยียบเย็นของหลินสวินดังลั่นกลางฟ้าดิน
ก็เห็นบุตรนรกที่ผมเผ้าสยายแปลงเป็นแสงทะลวงความว่างเปล่าหมายจะหนีออกไปไกลที่สุด เหมือนกับคราวที่แล้วไม่มีผิดเพี้ยน
ฟุ่บ!
ดาบหักโฉบออกไป ตัดแขนข้างหนึ่งของบุตรนรก
และเป็นเวลานี้ที่กาหลอมจิตปรากฏตัวอีกครั้ง ลอยล่องหมุนวน พร่างพรมละอองแสงงดงามออกมา ปิดคลุมร่างสะบักสะบอมของบุตรนรก
เคร้ง!
ดาบหักฟันลงไป กาหลอมจิตนั่นเพียงแค่สั่นไหวคราหนึ่ง
แต่พลังอันน่ากลัวที่ดาบหักปลดปล่อยออกมากลับบดขยี้ร่างที่เสียหายหนักของบุตรนรกเต็มๆ!
“ข้าไม่ยอม ไม่ยอมโว้ย…!”
บุตรนรกส่งเสียงโหยหวนแหลมออกมาอย่างน่าอนาถที่สุด จากนั้นเสียงก็เลือนหายไป
สัตว์ประหลาดยุคโบราณที่ถือกำเนิดในแดนเก้าบนผู้นี้ เกิดมาพร้อมกับโชควาสนายิ่งใหญ่ ครอบครองมหาศุภโชคมากมาย ทว่ายามนี้ยังไม่ทันหลบหนีออกไปก็ถูกเฉือนสังหารแล้ว!
วู้ม!
กาหลอมจิตส่งเสียงอื้ออึงแปลกประหลาด โอบอุ้มศพที่แหลกละเอียดของบุตรนรกท่องหนีไปกลางห้วงอากาศ และลับไปทันที
นัยน์ตาหลินสวินเย็นเยียบ เขาแน่ใจว่าร่างและจิตของบุตรนรกดับสิ้นแล้ว แต่เขาไม่อาจมั่นใจว่ากาหลอมจิตนั่นจะสามารถชุบชีวิตบุตรนรกขึ้นมาได้อีกหรือไม่
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เรื่องเร่งด่วนตอนนี้… คือการสังหารศัตรู!
………………..