บทที่ 1368 ต้องทำยังไงถ้าผู้หญิงไม่เชื่อฟัง

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1368 ต้องทำยังไงถ้าผู้หญิงไม่เชื่อฟัง?

เส้นหมี่ออกไปพร้อมกับเครื่องมือง่ายๆ บางอย่าง

บนเกาะกลางทะเลแห่งนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเกาะที่โดดเดี่ยว แต่สภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ถือว่าดีมาก มีภูเขาที่สวยงามเขียวขจี ยังมีแหล่งน้ำจืดที่ใสสะอาด ดังนั้น เส้นหมี่เชื่อว่าที่นี่สามารถตามหายาสมุนไพรที่เธอต้องการเจอได้

เธอเดินไปยังทางที่มีภูเขาของเกาะกลางทะเลนี้

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา แสนรักเองก็ถึงฝั่งพอดี หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อรายงานว่าเดินทางปลอดภัยดีด้วยความคุ้นเคย

“ตู๊ด…….ตู๊ด……..”

“ฮัลโหล? พี่ชาย”

เสียงของผู้หญิงที่แฝงด้วยหายใจหอบดังลอยมาจากในโทรศัพท์ ผู้ชายคนนี้ก็ขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน

“คุณทำอะไรอยู่? ทำไมฟังดูว่าหายใจหอบ?”

“ใช่ค่ะ ฉันกำลังปีนเขาอยู่ เจตน์ที่สถาบันวิจัยป่วยอีกแล้ว เมื่อสักครู่ฉันไปวัดชีพจรให้เขาพบว่าโดนวางยาพิษ ดังนั้นฉันเลยออกมาหาสมุนไพรให้เขาค่ะ”

เส้นหมี่อธิบายให้ชายหนุ่มคนนี้ฟังผ่านทางโทรศัพท์ด้วยอาการหอบเล็กน้อย

ตอนนี้เธอร่างกายเธอแย่ลงมากจริงๆ ปีนยอดเขาเล็กนี้ก็ทำให้เธอหอบเหนื่อยมากจริงๆ

ดูท่าว่าต้องออกกำลังกายให้มากขึ้นแล้ว

เส้นหมี่ถือโทรศัพท์คุยไป พร้อมกับปีนขึ้นเขาต่อไป

แต่คนปลายสายโทรศัพท์ทางนี้ ได้ยินว่าเธอไปหาสมุนไพรในป่าเพียงลำพัง ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป

“เส้นหมี่ คุณทำอะไรพลการอีกแล้วใช่ไหม? คุณออกไปเด็ดสมุนไพรข้างนอกเพียงลำพังได้ยังไง? คุณรู้ไหมว่าบนเกาะนั่นมันอันตรายแค่ไหน? ทำไมคุณถึงดื้อแบบนี้?”

ประโยคสุดท้ายนั้น น้ำเสียงดุเดือดรุนแรงมาก

เส้นหมี่: “……”

ดุจัง

เธอรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

แต่เธอรู้ว่านี่เป็นเพราะผู้ชายคนนี้เป็นห่วงเธอ ดังนั้นเธอก็ไม่ได้ไปโต้แย้งอะไรต่อ แต่เปลี่ยนการให้เป็นวิดีโอคอลแทน จากนั้นก็ยิ้มหน้าระรื่นต่อหน้ากล้องมองดูผู้ชายคนนี้

“แบบนี้ คงได้แล้วสินะ พี่ชาย พี่อย่าตำหนิฉันเลย บนเกาะเดิมทีก็ไม่มียาที่จะช่วยเจตน์ ได้ ฉันจำเป็นจะต้องควบคุมพิษของเขาเอาไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นเขาก็จะไม่รอด”

“……”

มองดูหญิงสาวในโทรศัพท์ที่กำลังเหงื่อออกท่วมตัว แสนรักยังคงไม่หายโกรธลง

แต่ในท้ายที่สุด หลังจากที่ได้ยินเธอบอกว่าชีวิตคนสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เขาก็อดกลั้นมันเอาไว้

เป็นหมอก็แบบนี้แหละ เธอไม่สามารถที่จะเห็นคนกำลังจะตายแล้วไม่ช่วยได้ ถึงต่อให้เธอจะต้องลำบากยากเข็ญแค่ไหน แต่เธอก็จะทำมันอย่างแน่นอน เพียงแค่แย่งชิงคนคนนั้นกลับมาจากเงื้อมมือของท่านมัจจุราช

“ได้ คุณอยู่ตรงนั้นอย่าไปไหน ผมจะจัดคนไปเดี๋ยวนี้” ในท้ายที่สุดเขาจึงเลือกที่จะยอมถอย

เส้นหมี่: “……”

หา?

จัดคนมา? จัดใครมา?

เธอมึนงงเล็กน้อย เพราะว่าบนเกาะกลางทะเลแห่งนี้ ตอนที่พวกเขาสองสามีภรรยาเดินทางมาก็ไม่ได้พาใครมาด้วยสักคน

แต่ในความเป็นจริงก็คือ เมื่อเธอมาถึงที่นี่ได้ไม่ถึงสิบห้านาที ชายร่างสูงใหญ่ในชุดเครื่องแบบสีดำแต่แขนกับปกคอเสื้อกลับเป็นตราสัญลักษณ์สีทองอร่ามคนหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าของเธอ

“คุณนายเส้นหมี่ ผมได้รับคำสั่งมาปกป้องคุณครับ!”

หลังจากที่เขามาถึงตรงหน้าของเธอแล้ว ก็ทำท่าเคารพแบบทหารแก่เธอ

เส้นหมี่ตกตะลึงไปเลย

นี่คือ……ตำรวจพิเศษ?

ไม่ใช่สิ เธออยู่ที่นี่ตั้งนานแล้วไม่เคยเห็นว่ามีตำรวจพิเศษเลย

เส้นหมี่กลับไม่รู้ว่า บนเกาะแห่งนี้ เพื่อเป็นการปกป้องความลับของสถาบันวิจัย แท้จริงแล้วคือมีคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเฝ้าดูอยู่โดยรอบ และกลุ่มคนเหล่านี้ล้วนเป็นกองกำลังชั้นยอด

เส้นหมี่จึงเดินทางต่อภายใต้การคุ้มกันของบุคคลคนนี้

เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ หลังจากที่เข้าสู่เขตใจกลางของเกาะแห่งนี้ เธอก็หายาสมุนไพรเหล่านั้นที่เธอต้องได้สำเร็จ

“ดีเลย เจตน์ของพวกคุณมีทางรอดแล้ว” เธอดีใจมากเหมือนกับเป็นเด็กคนหนึ่ง

คนที่มาคุ้มกันเธออยู่ด้านหลังก็เว้นระยะห่างเอาไว้อยู่ตลอด เพื่อไม่ให้ล่วงเกิน แต่ก็ไม่ปล่อยให้เธอได้รับอันตรายอย่างแน่นอน

ในเวลานี้ หลังจากที่เห็นรอยยิ้มที่สดใสของเธอ นายทหารที่เฝ้ารักษาเกาะนี้มานานหลายปีก็รู้สึกปลื้มปีติยินดีมากด้วยเช่นกัน

คนของสถาบันวิจัยล้วนแต่เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของประเทศ พวกเขาสร้างประโยชน์อย่างมหาศาล ในอนาคต การสร้างประเทศก็ต้องการพวกเขา แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา

“ดูสิ ครามเถา!!”

ทันใดนั้น คุณนายคนนี้ก็ชี้ไปที่หญ้าเขียวชอุ่มข้างหน้าและร้องเรียกขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นดีใจอีกครั้ง

นายทหารคนนี้ก็มองไปดูทางนั้น ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็กลายเป็นเคร่งขรึมเล็กน้อย

“คุณนาย นั่นคือบึง ถ้าหากไม่ระวังตกลงไปก็จะถึงแก่ชีวิตได้นะครับ”

“หา?”

พอเส้นหมี่ได้ฟัง ทันใดนั้นแสงสว่างบนใบหน้าก็ริบหรี่ลงทันที

แล้วจะทำยังไง?

อยากจะควบคุมพิษให้คงที่ ครามเถานี้ก็จำเป็นอย่างยิ่ง

เธอยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงนั้น

นายทหารที่อยู่ข้างหลังเห็นเข้า กำหมัดแน่นคิดจะไปลองดูสักตั้งถึงแม้จะอันตรายก็ตาม

แต่ในตอนที่เขาจะเดินไป คุณนายสาวที่ยืนอยู่ริมบึงด้วยใบหน้ากลัดกลุ้มใจอย่างเห็นได้ชัด กลับยื่นมือมาห้ามเขาเอาไว้

“อย่าไป อย่าให้การช่วยชีวิตคนคนหนึ่งต้องทำให้ชีวิตของอีกคนเสียไป ไปกันเถอะ พวกเราค่อยไปลองหาดูที่อื่น คงจะยังมีอีก”

เธอเกลี้ยกล่อมอย่างใจเย็นมาประโยคหนึ่ง

จากนั้นสะพายตะกร้าแล้วเดินต่อไปข้างหน้า

นายทหารอึ้งไปเล็กน้อย

กว่าที่จะตั้งสติกลับมาได้ หลังจากที่เพียงรู้สึกถึงความอบอุ่นปะทุพุ่งขึ้นในทรวงอกแล้ว เขาก็รีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว

สำหรับคุณนายเส้นหมี่คนนี้ อันที่จริงเขาก็เคยได้ยินมา ตอนนั้นที่ภายในประเทศเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ คุณชายเล็กแห่งตระกูลเทวเทพพลิกสถานการณ์กลับมาให้ดีขึ้นอย่างสุดความสามารถ และภรรยาของเขา ผู้หญิงคนนั้นก็ทุ่มเทกำลังไม่น้อยเช่นกัน