มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1266
“ตราเปิดฟ้า!”
หลัวซิวใช้หมื่นจักรวาลไร้รูปวิวัฒนาการวิชาตราประทับดังกล่าวขึ้นมา เมื่อปล่อยพลังดังกล่าวออกมาผ่านหอกยุทธ์มังกรดำ พลานุภาพของมันจะยิ่งใหญ่อย่างไร้ขอบเขตเลย
“พลังอมตะไม่เลว เสียดายที่ผลการฝึกตนของเจ้าต่ำเกินไป”
เฒ่าประหลาดตวนมู่ทำเสียงหึอย่างเยือกเย็น กงล้อเทพโคตรสังหารที่อยู่ด้านหลังบินลอยขึ้นมาในชั่วครู่เดียว จิตที่จะฆ่าแผ่ขยายออกไป ต้านรับทุกการโจมตีเอาไว้
“โซนล้างโคตร!”
หลัวซิวตวาดเสียงดัง เศษปริภูมิทั้งหมดลอยมารวมตัวกัน ราวกับมังกรที่โกรธเกรี้ยวตัวหนึ่งกำลังม้วนตัวไปมาอยู่ในมหาสมุทรอาฆาตสีแดงเลือด จะทำให้จิตที่จะฆ่าทั้งหมดของเฒ่าประหลาดตวนมู่ดับสลายไป
“กฎปริภูมิของเจ้าอยู่ในแดนเทพมาร แต่กฎโคตรสังหารของข้ากลับอยู่ในแดนเทพฟ้า ช่วงระยะความต่างระหว่างทั้งสองแดนนี้ มันเป็นสิ่งที่เจ้าสามารถจินตนาการได้อย่างนั้นหรือ?”
เฒ่าประหลาดตวนมู่แสยะยิ้มอย่างเยือกเย็น“คอยดูข้าจะทำให้ปริภูมิของเจ้าสูญสิ้น”
เห็นเพียงเฒ่าประหลาดตวนมู่ยื่นนิ้วออกมาจิ้มลงบนอากาศที่ว่างเปล่า กงล้อเทพสีแดงเลือดขยายใหญ่ขึ้น รูปร่างมังกรที่เกิดจากการรวมตัวกันของเศษปริภูมิถูกฟันจนแตกสลาย หลัวซิวสามารถสัมผัสได้ว่าพลังแห่งกฎปริภูมิดั้งเดิมของตัวเองถูกกดอัดอย่างรุนแรง
ซึ่งนี่คือการกดอัดจากแดนกฎ เทพฟ้ากดอัดเทพมาร ดุจช่องกว้างที่ไม่อาจก้าวล้ำหรือผ่านเข้าไปได้!
สีหน้าของหลัวซิวเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาทราบอยู่ว่าท้ายที่สุดตัวเองก็ดูถูกเทพฟ้าไป ที่เขาสามารถสร้างความเสียหายให้กับผู้อาวุโสไท่ซ่างในสำนักไร้เจตสิกได้นั้น ดูท่าน่าจะเป็นเพราะเปี่ยมล้นไปด้วยโชคและดวงจริง ๆ
“เจ้าหนู รู้สึกสิ้นหวังมากเลยสินะ? เจ้าอยู่เพียงแดมหาจักรพรรดิยุทธ์ อย่างไรก็ยังเป็นมนุษย์ทั่วไปอยู่ ถึงแม้จะสามารถทวนกระแสสังหารเทพมาร แต่ถ้าหากอยากต่อกรกับเทพฟ้าละก็ กลับเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ!”
เฒ่าประหลาดตวนมู่หัวเราะดังลั่น จิตที่จะฆ่าสีแดงเลือดได้ปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้าและพื้นดินในรัศมีหนึ่งหมื่นไมล์ กลายเป็นอาณาจักรโคตรสังหารที่เป็นเอกลักษณ์
ประสิทธิผลของอาณาจักรโคตรสังหารคือเพิ่มพลังให้แก่ตัวนักยุทธ์ ในขณะเดียวกันก็สามารถยับยั้งพลังของคู่ต่อสู้ได้ด้วย หากแดนกฏของคู่ต่อสู้อยู่ต่ำกว่าตน ประสิทธิผลในการยับยั้งก็ยิ่งดี
กำลังรบของหลัวซิวแข็งแกร่งก็จริง แต่ท้ายที่สุดแล้วแดนกฎของเขากลับไม่สูง ถึงแม้จะใช้ร่างกลวัฏสงสาร ก็มีเพียงแดนกฎปริภูมิเท่านั้นที่บรรลุถึงระดับเทพมาร ซึ่งยังห่างไกลจากผู้แข็งแกร่งระดับเทพฟ้ามาก ๆ
“ทุกคนที่สามารถฝึกตนจนบรรลุถึงแดนเทพฟ้าได้นี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ ด้วย”แววตาของหลัวซิวตึงเครียดขึ้นมา
ยกโลกาอสูรฟ้ามาเป็นตัวอย่าง จำนวนนักยุทธ์ในเผ่าปีศาจและเผ่าพันธุ์มนุษย์ รวมไปถึงเผ่าพันธุ์อื่น ๆ เมื่อรวมกันแล้วก็มีเยอะมากดังดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้า นับยังไงก็นับไม่หมด จากนักยุทธ์นับพันล้านหรือหมื่นล้านคน ผู้ที่สามารถแสดงความสามารถออกมาเต็มร้อย บรรลุถึงแดนเทพฟ้าและยืนหยัดอยู่ท่ามกลางผู้แข็งแกร่งขั้นสูงได้นั้น ล้วนเป็นอัจฉริยะผู้ไร้เทียมทาน
การที่เฒ่าประหลาดตวนมู่สามารถกลายเป็นผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าได้นั้น เขาก็ต้องมีอุบายพิเศษ ๆ ของเขาอยู่แล้ว
“โครม!”
วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพลอยอยู่ด้านหลังหลัวซิว เหมือนดังรูเล็ตที่อยู่ในแนวตั้ง มีพลังแห่งกฎสองระดับความเป็นตายไหลเทออกมา
ไม่มีร่างแยกกฎชีวิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ เขาไม่สามารถผสมสองระดับความเป็นตายให้เข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบได้ แต่ทว่าในวัฏจักรการเวียนว่ายตายเกิดที่เขาฝึกเซ่นขึ้นมานี้ มีร่องรอยของกฎสองระดับความเป็นตายสลักอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะฉะนั้นเขาจึงสามารถวิวัฒนาการให้การเวียนว่ายตายเกิดรวมกันเป็นหนึ่งเช่นกัน แต่ทว่าพลานุภาพจะไม่ทรงพลังกว่าวัฏจักรการเวียนว่ายตายเกิดของจริง
สองระดับความเป็นตายรวมกันเป็นหนึ่ง สามารถก่อให้เกิดพลังเทพดั้งเดิมที่ทรงพลังมากกว่าเดิมขึ้นมาได้ หลัวซิวใช้มันมาวิวัฒนาการอาณาจักรของตัวเอง ซึ่งมันก็คืออาณาจักรเป็นตาย!
สองระดับความเป็นตายครอบจักรวาล แทบจะครอบคลุมกฎพื้นฐานของทุกสรรพสิ่งในโลก แม้จะเป็นกฎโคตรสังหาร แต่ก็เป็นเพียงหนึ่งในแขนงเล็ก ๆ ของความเป็นตาย
อาณาจักรโคตรสังหารของเฒ่าประหลาดตวนมู่ปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ในรัศมีหนึ่งหมื่นไมล์ แต่อาณาจักรเป็นตายของหลัวซิวกลับครอบคลุมพื้นที่เพียงสามร้อยกว่าเมตรเท่านั้น ทั้งสองไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำ แต่ในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งของอาณาจักรเป็นตายของหลัวซิวกลับลึกลับและมหัศจรรย์กว่าอาณาจักรโคตรสังหารมาก ๆ
ภายในขอบเขตสามร้อยกว่าเมตรของอาณาจักรเป็นตาย เขาสัมผัสได้ว่าพลังที่ถูกกดอัดได้ปรากฏในร่างกายเขาใหม่อีกครั้ง