มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1268

และครั้นเมื่ออยู่ในโลกเสวียนเทียน สาเหตุที่เขาสามารถใช้ตราเปิดฟ้าทำให้ผู้อาวุโสไท่ซ่างคนหนึ่งในสำนักไร้เจตสิกบาดเจ็บนั้น เป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามประมาทมากเกินไป ไม่ได้เปิดใช้พลังเทพป้องร่างเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นถึงได้ถูกเขาโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส

ในส่วนของเทพมารคนอื่น ๆ ที่ถูกหลัวซิวสังหารนั้น ศักยภาพเดิมของคนเหล่านั้นไม่ได้แข็งแกร่งมากตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พลังเทพป้องร่างก็ค่อนข้างเปราะบางเช่นกัน จึงไม่สามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้

“ระบิด!”

เฒ่าประหลาดตวนมู่ตะคอกเสียงดังลั่น กงล้อเทพโคตรสังหารที่แตกร้าวระเบิดแตกออกอย่างกะทันหัน เศษกงล้อเทพสีแดงเลือดที่มีลักษณะคล้ายลูกแก้วพุ่งบินออกไป กระแทกเข้ากับร่างกายของหลัวซิวจนเสียงดังติง ๆ ตัง ๆ

การโจมตีส่วนมากล้วนถูกเกราะเทพเวหากาลหักล้าง แต่ไม่ว่าจะเป็นเกราะป้องกันที่มีระดับสูงมากเพียงใด ก็ไม่สามารถต้านรับการโจมตีทั้งหมดเอาไว้ได้ ยังคงมีพลังเทพกฎโคตรสังหารบางส่วนทะลุผ่านเกราะเทพ แทรกซึมเข้าไปในร่างกายหลัวซิว

เขารู้สึกเหมือนตับไตไส้พุงในร่างกายกำลังจะถูกบดให้ละเอียดยังไงอย่างนั้น ถึงแม้แดนร่างเนื้อของเขาจะบรรลุถึงร่างยุทธ์ระดับเทพมารแล้ว ก็ยากที่จะต้านทานกฎพลังเทพเพียงเสี้ยวหนึ่งของเทพฟ้าได้

“จัดการยากจริง ๆ เลยนะ……”

การโจมตีหอกหนึ่งของหลัวซิวไม่สามารถทำลายพลังเทพป้องร่างของฝ่ายตรงข้ามได้ บวกกับถูกเศษซากของกงล้อเทพโคตรสังหารโจมตีอีก เขาจึงทำได้เพียงถอยหลังกลับไป

เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าหากตัวเองอยากโค่นล้มเฒ่าประหลาดตวนมู่ ก็ต้องทำลายพลังเทพป้องร่างของเขาให้ได้ก่อน และการจะทำลายพลังเทพป้องร่างนั้นไม่มีอุบายเล่ห์เหลี่ยมอะไร ต้องทำลายและบดขยี้มันด้วยพลังที่เกะกะระรานของตัวเองเท่านั้น

“ตราธรรมจุติมรณะ!”

หลัวซิวปล่อยวิชายิ่งเลิศที่สุดของตัวเองออกมา มีรัศมีเทวเปล่งประกายออกมาจากร่องรอยกฎทั้งหมดของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพที่อยู่ด้านหลัง ร่องรอยกฎทั้งหมดเหมือนมังกรที่มีชีวิตตัวหนึ่งกำลังบินว่ายไปมาอยู่บนรูเล็ต

ในฐานะที่ตราธรรมจุติมรณะเป็นพลังอมตะที่กำเนิดมาจากกฎความเป็นตายดั้งเดิม ในส่วนของเรื่องที่ว่ามันเป็นพลังอมตะระดับใดกันนั้น ตัวหลัวซิวเองก็ไม่ค่อยแน่ใจมากนัก ทราบแค่เพียงเมื่อศักยภาพของตัวเองยิ่งแข็งแกร่ง พลานุภาพของพลังอมตะนี้ก็จะยิ่งทรงพลังเช่นกัน

วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพที่เขาฝึกเซ่นขึ้นมานี้ ก็เพื่อกระตุ้นพลานุภาพของพลังงานอมตะนี้ให้ทรงพลังถึงขั้นสุด เมื่อมีการเสริมพลังจากสมบัติ ทำให้พลานุภาพของพลังอมตะเพิ่มขึ้นได้เป็นเท่าตัว!

“โครม!”

สีหน้าของเฒ่าประหลาดตวนมู่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดเจนว่าเขาสัมผัสได้ว่าพลังเทพป้องร่างมีแนวโน้มที่จะแตกร้าวและแตกออกยังไงอย่างนั้น

“นี่มันพลังอมตะอะไร เหตุใดพลานุภาพถึงทรงพลังเช่นนี้?”

ทุกพลังอมตะล้วนเป็นการถ่ายทอดสืบสานที่ล้ำค่า ยิ่งเป็นพลังอมตะที่ทรงพลังก็ยิ่งหายาก และถูกกองกำลังใหญ่ขั้นสุดยอดถือเป็นการถ่ายทอดสืบสานที่เป็นความลับสำคัญในกองกำลัง

แต่หลัวซิวกลับมีพลังอมตะต่าง ๆ อย่างไม่ขาดสาย อีกทั้งพลานุภาพของพลังอมตะก็พลังหนึ่งแข็งแกร่งกว่าพลังหนึ่งด้วย

สีหน้าของเฒ่าประหลาดตวนมู่ดูตึงเครียดขึ้นมา เขาดูเหมือนเหยียดหยามหลัวซิวมาก ๆ แต่ทว่าในความเป็นจริงจิตใจเขารู้สึกอึ้งทึ่งอย่างมาก ต้องทราบก่อนว่าผู้ที่กำลังประมือกับเขาในตอนนี้ เป็นเพียงผู้น้อยที่มีผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 5 เล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้น!

เขาคือเทพฟ้า อย่าว่าแต่มหาจักรพรรดิยุทธ์เลย ถึงจะเป็นเทพมารเขาก็ไม่ถึงขั้นต้องลงมือหรอก แค่สายตาเดียวก็สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามดับสูญไปจากโลกนี้ได้แล้ว แต่วินาทีนี้เขากลับกำลังต่อสู้กับผู้น้อยมหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่ง นี่มันเป็นเรื่องที่น่าสยดสยองมากเพียงใด?

อย่างที่ทุกคนทราบ ยิ่งแดนยุทธ์สูงมากเท่าไหร่ ก็จะกดอัดนักยุทธ์ที่แดนต่ำได้เยอะมากเท่านั้น ก็เหมือนดั่งเช่นพลังแห่งกฎปริภูมิดั้งเดิมของหลัวซิวที่ถูกกฎโคตรสังหารของเขากดอัดในเมื่อครู่ ทั้งสองมีศักยภาพที่แตกต่างกันมาก ๆ ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว บวกกับการถูกกดอัดอีก จึงทำให้ความแตกต่างระหว่างทั้งสองคนต่างกันมากยิ่งขึ้น!

แต่ทว่าภายใต้สถานการณ์ที่ย่ำแย่เช่นนี้ หลัวซิวนี่กลับยังสามารถตีเสมอกับเฒ่าประหลาดตวนมู่ได้ นี่จึงทำให้เขาถึงกับรู้สึกหวาดกลัว ไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย

“จะปล่อยให้มันเติบโตขึ้นไม่ได้ ต้องกำจัดมันทิ้ง!”รังสีแห่งความดุดันที่อยู่ในแววตาเฒ่าประหลาดตวนมู่เป็นประกาย จิตที่จะฆ่าแน่วแน่

เขาโคจรและลดกำลังอาณาจักรโคตรสังหารลง จิตจะฆ่าที่ไร้ที่สิ้นสุดพรั่งพรูออกมา จะทำให้หลัวซิวดับสลายไป ณ ที่แห่งนี้