มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1270

ณ ตอนนี้วินาทีนี้ เลือดเนื้อบริเวณไหล่ข้างซ้ายของเขาเละมาก เผยให้เห็นกระดูกบนไหล่ หากไม่ใช่เพราะอาศัยเสื้อวิเศษเสว่โหลวลดความเร็วการโจมตีในครั้งนี้ลง ตำแหน่งที่เขาจะถูกโจมตีคือหน้าอก ร่างกายครึ่งหนึ่งของเขาจะกลายเป็นหมอกเลือด

“ถึงแม้ร่างในตอนนี้ของเขาคือเทพมาร แต่จะมีทางมีพลังโจมตีที่เกะกะระรานเช่นนี้ได้อย่างไร?”เฒ่าประหลาดตวนมู่ทั้งรู้สึกตะลึงและโกรธเกรี้ยว

ในความเป็นจริงเขาไม่ทราบแต่อย่างใดว่าทุกครั้งที่หลัวซิวลงมือโจมตี เขาจะโคจรพลังแปรเสวียนเทียนทำให้มีกำลังรบเพิ่มขึ้นร้อยเท่า และบวกกับมีพลังจากเกราะเทพเวหากาล เขาถึงได้มีต้นทุนศักยภาพในการประมือกับเทพฟ้า

“นึกไม่ถึงเลยว่ายังมีเสื้อวิเศษป้องร่างอีกหนึ่งชุดด้วยอย่างนั้นหรือ?”หลัวซิวหยีตาลง การที่เทพฟ้าทั่วไปมีอัญเทพฟ้าหนึ่งชิ้นก็ถือว่าไม่เลวมาก ๆ แล้ว เพราะถึงอย่างไรวัตถุดิบในระดับนี้หายากมาก การฝึกเซ่นก็ยากมากเช่นกัน

แต่เฒ่าประหลาดตวนมู่เป็นเพียงเทพฟ้าขั้นปฐมภูมิ ศักยภาพก็ไม่ถือว่าแข็งแกร่งมากนัก แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีอัญเทพฟ้าสองชิ้น กระบี่ยุทธ์หนึ่งเล่ม เสื้อสมบัติหนึ่งชุด

และเสื้อวิเศษเสว่โหลวชุดนี้นั่นเองที่ลดความเร็วโจมตีนัดเดียวนิพพานของเขาลงในช่วงเวลาสำคัญ ทำให้เฒ่าประหลาดตวนมู่มีเวลาสั้น ๆ หลบหลีกการโจมตีที่มีโอกาสทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส กลายเป็นได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

“บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยหรือ?”

สีหน้าอารมณ์ของหลัวซิวตึงเครียดมากยิ่งขึ้น พลังแปรเสวียนเทียนสามารถเพิ่มพลังโจมตีได้ร้อยเท่าก็จริง แต่จุดอ่อนของมันคือผลการฝึกตนที่ต้องสูญเสียในครั้งหนึ่งก็เป็นร้อยเท่าเช่นกัน!

ถึงแม้เขาจะมีผลการฝึกตนที่แน่นหนาบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่สามารถใช้เคล็ดวิชานี้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ผลการฝึกตนของเขาสูญเสียไปไม่น้อยแล้ว แต่กลับแค่สามารถทำให้เฒ่าประหลาดตวนมู่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ไอ้เด็กเดรัจฉาน โชคดีที่ข้ามีเสื้อวิเศษป้องร่างระดับเทพฟ้าชุดหนึ่ง มิฉะนั้นไม่แน่การโจมตีเมื่อครู่นี้อาจจะทำให้ข้าบาดเจ็บสาหัสได้จริง ๆ”

แววตาของเฒ่าประหลาดตวนมู่เย็นเยือก เปี่ยมล้นไปด้วยจิตที่จะฆ่า“อุบายที่เจ้าควรใช้ก็น่าจะหมดแล้วสินะ? ข้าจะไม่ให้โอกาสเจ้าได้ทำร้ายข้าอีกเป็นครั้งที่สอง!”

ผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าล้วนให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์หน้าตาตัวเองมาก ๆ สำหรับเฒ่าประหลาดตวนมู่แล้ว การที่เขาถูกผู้น้อยคนหนึ่งโจมตีจนได้รับบาดเจ็บนั้น มันเป็นการดูถูกเหยียดหยามที่รุนแรงมาก ๆ แต่ก็โชคดีที่บริเวณที่เกิดเหตุไม่มีบุคคลที่สาม มิเช่นนั้นเขาคงต้องหัวเสียมากจนเป็นบ้าได้แน่นอน

หลัวซิวถอยหลังกลับไป รู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ประสิทธิผลของพลังอมตะอย่างนัดเดียวนิพพานไม่เป็นดังที่ตนปรารถนา

มีปีกเทพมังครครมยักษ์ไร้มลทิน ทำให้เขาสามารถเข้าหรือถอยได้อย่างตามสบายเมื่ออยู่ในสงครามการเข่นฆ่าตรงหน้านี้ ถึงแม้อาจจะถูกจำกัดบ้างเมื่ออยู่ในอาณาบริเวณของอาณาจักรโคตรสังหาร แต่ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขาก็ยังคงเร็วกว่าผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าส่วนมากอยู่

ความเร็วและโจมตีเป็นข้อดีเพียงอย่างเดียวของเขา เขาจำเป็นต้องทำให้เฒ่าประหลาดตวนมู่บาดเจ็บสาหัสมากที่สุด ก่อนที่ผลการฝึกตนของเขาจะถูกใช้จนแห้งเหือด

“อาณาจักรโคตรสังหาร บีบอัด!”

เฒ่าประหลาดตวนมู่ตะคอกเสียงดังลั่น อาณาจักรโคตรสังหารที่แผ่คลุมฟ้าดินหมื่นไมล์เริ่มหดเล็กลง ไอสังหารสีแดงเลือดกำลังรวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง ราวกับกลายเป็นวัตถุแก่นแท้ที่เป็นรูปเป็นร่าง

เขตแดนนับหมื่นไมล์กำลังบับอัดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง อาณาบริเวณหดเล็กลง ในทางตรงกันข้ามพลานุภาพก็เพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ

“โครม!”

วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพที่อยู่ด้านหลังหลัวซิวสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง อาณาจักรเป็นตายที่ขยายออกถูกอาณาจักรโคตรสังหารบีบรัดอย่างรุนแรง แทบจะต้านทานไม่อยู่แล้ว

“ข้าเป็นผู้ขี้ขาดทุกสรรพสิ่งในอาณาจักรนี้!”

เฒ่าประหลาดตวนมู่แสยะยิ้มอย่างเยือกเย็น“กฎปริภูมิของเจ้า เมื่ออยู่ในอาณาจักรของข้าแล้วก็จะสูญเสียประโยชน์ทุกอย่าง เนื่องจากในอาณาบริเวณที่อาณาจักรโคตรสังหารของข้าแผ่คลุม ทุกตารางนิ้วของปริภูมิจะถูกไอสังหารแทรกซึมจนเต็มและแข็งตัวดั่งถังเหล็ก!”

“อุบายของเทพฟ้านี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ ด้วย”

หลัวซิวก็สัมผัสได้เช่นกันว่าตัวเองไม่สามารถโคจรกฎปริภูมิได้ แม้แต่การโคจรกฎการเวียนว่ายตายเกิดก็ถูกระงับถึงขั้นสุดเช่นกัน

เพราะถึงแม้แดนกฎโคตรสังหารของเฒ่าประหลาดตวนมู่จะสูงมาก แต่มันก็มีผลต่อกฎปริภูมิเท่านั้น ส่งผลกระทบต่อกฎการเวียนว่ายตายเกิดค่อนข้างน้อย