ตอนที่ 1244 30 วินาทีสุดช็อก

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

สนามกีฬารังนกมีพื้นที่มากกว่า 200,000 ตารางเมตร

แสงสุดตระการตาและเงาสะท้อนในกลุ่มหมอกขาวคือสิ่งที่พบได้ทั่วทุกมุมของสนามกีฬาแห่งนี้

ผู้กำกับหลิวกำลังโน้มตัวคร่อมแผงระบบควบคุมแบ็กสเตจของสนามกีฬาอยู่ เขายื่นหน้าจ้องไปใกล้ๆ จอมอนิเตอร์ แล้วสุดท้ายก็ถอนหายใจออกมา

อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันชาติแล้ว

นี่น่าจะเป็นการซ้อมครั้งสุดท้ายของพวกเขา

โชคดีที่ไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น และโชว์ที่ซ้อมไปก็ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างสมบูรณ์แบบ

ภาพที่ถ่ายจากกล้องเลนส์มุมกว้าง 21 ตัวที่ตั้งอยู่ทั่วสถานที่จัดงานนั้นออกมาจากชัดเจนและสวยงามดี เจ้าหน้าที่ที่นั่งเป็นผู้ชมอยู่ในสนามกีฬาต่างก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกกับแสงสีอันงดงามน่าดึงดูด พวกเขาตกใจมากเสียจนแทบจะลืมหายใจ

โอวไห่เฟิงยืนอยู่ข้างหลังหลิวเหว่ยตลอดเวลา เขากำหมัดพร้อมตัวสั่นไปด้วยความตื่นเต้น แล้วเขาก็เริ่มปรบมือ เมื่ออู๋หยวนหางเห็นว่ามีคนปรบมือ เขาก็ถูกดึงกลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้วเริ่มปรบมือตาม

แปะ แปะ แปะ!

เสียงปรบมือในห้องควบคุมดังอยู่เกือบหนึ่งนาที

หลังจากสิ้นเสียงปรบมือ โอวไห่เฟิงก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะอธิบายความรู้สึกของตนเองออกมาอย่างไรดี เสียงของเขาสั่นจากอะดรีนาลีนในร่างกาย

“สมบูรณ์แบบจริงๆ ! ”

“นี่เป็นโชว์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลย! ”

ก่อนจะได้เห็นการซ้อมครั้งนี้ เขาก็ยังกังวลอยู่นิดหน่อย เขากังวลเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผู้กำกับหลิวได้ใช้อุปกรณ์ และอีกฝ่ายก็ไม่มีประสบการณ์การถ่ายทำกับระบบโฮโลแกรมมาก่อน เขาคิดว่าผู้กำกับหลิวอาจจะไม่สามารถบรรยายความวิเศษของสเปเชียลเอฟเฟกต์ในระบบโฮโลแกรมออกมาได้อย่างเต็มที่

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขากังวลในตอนแรกจะไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว อย่าว่าแต่เรื่องการทำให้คนทั้งประเทศพอใจเลย พอโชว์ฉลองครั้งนี้จบลงทั้งโลกจะต้องอิจฉาในเทคโนโลยีนี้แน่นอน

“ในที่สุดก็เสร็จแล้วล่ะ…”

ผู้กำกับหลิวยกแขนขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผาก เขาเผยรอยยิ้มโล่งอกออกมาแล้วพูดติดตลกว่า

“คุณคิดว่านี่จะแย่งซีนจากพาเหรดทหารได้ไหม? ”

เขาคิดว่าผู้อำนวยการโอวจะเห็นด้วย แต่ผู้อำนวยการโอวก็ทำเพียงยักไหล่แล้วบอกว่า “นั่น…ก็จะยากนิดหน่อยนะ”

ยากนิดหน่อยเหรอ?

ผู้กำกับหลิวมองเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ

“ทำไมล่ะ?”

“ก็อย่างไรภาพฉายโฮโลแกรมก็เป็นแค่โฮโลแกรมนี่นา มันไม่ใช่ของจริง แล้วอีกอย่างพาเหรดทหารน่ะ…” โอวไห่เฟิงกระแอมแล้วเอ่ยว่า “คุณคิดว่านักวิชาการลู่จะไม่ได้เข้าไปช่วยอะไรทางนั้นเลยเหรอ?”

ณ สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง

ลู่โจวกำลังนั่งอยู่ในออฟฟิศของผู้อำนวยการและโทรคุยกับครอบครัวของเขาอยู่

“พ่อครับ ช่วงนี้พ่อว่างไหม?”

“พ่อก็ไม่มีอะไรนอกจากเวลาว่างหรอก มีอะไรเหรอ?”

ลู่โจวได้ยินเสียงผู้ประกาศข่าวในทีวีดังประกอบมาจากอีกฝั่งหนึ่ง เขาเดาว่าพ่อแม่ของเขาน่าจะกำลังกินข้าวกันอยู่

ลู่โจวเริ่มรู้สึกหิวนิดหน่อยแล้วพอเขานึกถึงอาหารที่แม่ทำ เขาแทบจะได้กลิ่นอาหารลอยมาจากโทรศัพท์เลยด้วยซ้ำ เขาเลิกคุยเรื่องจิปาถะแล้วตัดเข้าตรงประเด็นเลยทันที

“พ่ออยากมาปักกิ่งไหม? ”

ลู่ปังกั๋ววางตะเกียบลงแล้วเพ่งความสนใจไปที่การคุยโทรศัพท์

“ไปทำไมล่ะ? ”

“มาดูพาเหรดทหารครับ”

“สองสามปีก่อนพ่อก็ไปดูแล้ว ปีนี้ไม่ไปดีกว่า”

“ปีนี้ไม่เหมือนเดิมนะพ่อ! ”

ลู่ปังกั๋วขำ

“ไม่เหมือนเดิมตรงไหนล่ะ? ก็แค่เดินจัดขบวนแถวไม่ใช่หรือไง? ตอนพ่อเด็กๆ น่ะนะ พ่อยังเคยไปเดินฝึกทหารกับโรงงานเลย ไม่ใช่ว่าพ่อไม่เคยเดินจัดแถวแบบนั้นเสียหน่อย”

ลู่โจวรู้สึกว่าเขากับพ่อแม่ยังมีความแตกต่างของเจเนอเรชันกันอยู่ เขาถอนหายใจแล้วพูดต่อ “เฮ้อ…อย่างไรก็แล้วแต่ ผมซื้อตั๋วให้พ่อกับแม่แล้วนะครับ พ่อกับแม่ก็ทำเหมือนมาพักผ่อนวันหยุดสักสองสามวันก็ได้”

“ไอ้ตูดหมึก เดี๋ยวนี้มาตัดสินใจแทนพ่อแล้วเหรอ? นี่ใครเป็นพ่อใครเป็นลูกเนี่ย? เอาล่ะๆ เดี๋ยวพ่อกับแม่ไปก็ได้ ลูกก็ดูแลตัวเองก็แล้วกัน พ่อไม่เห็นอยากลูกที่อยู่ในปักกิ่งทั้งผอมทั้งโสดหรอกนะ”

ถึงพ่อของเขาจะบ่นโน่นบ่นนี้ แต่ลู่โจวก็รู้ว่าจริงๆ อีกฝ่ายแล้วค่อนข้างจะมีความสุขทีเดียว

พ่อของเขาชอบทำตัวเฉื่อยชา

ถึงเขาจะบอกว่าเขาไม่อยากไปงานพาเหรดทหาร แต่ถ้าได้นั่งที่นั่งพิเศษในงานเขาก็จะเอาเรื่องนี้ไปอวดให้เพื่อนร่วมงานฟังอยู่ดี

ลู่โจวยิ้มแล้วบอกว่า “ผมทำไม่ได้น่ะสิ ลองแล้วนะพ่อ แต่มันก็เป็นของมันอย่างงี้ ผมน้ำหนักขึ้นไม่ได้จริงๆ ”

“อ่าฮะ แค่ลูกกินอาหารตรงเวลาทุกวันก็พอแล้ว นี่ยังไม่ได้กินมื้อเย็นล่ะสิท่า ใช่ไหม? ”

“พ่อรู้ด้วยเหรอครับ? ”

“เป็นพ่อก็ต้องรู้สิ! ” ลู่ปังกั๋วยิ้มแล้วพูดต่อ “โอเคเลิกคุยเล่นได้แล้ว ไปหาอะไรกินมื้อเย็นซะ พ่อจะวางสายแล้ว! ”

ลู่โจววางสายและกำลังจะเดินไปโรงอาหาร ในอีกฝั่งหนึ่งวิดีโอโปรโมตโชว์ฉลองวันชาติก็โผล่ขึ้นบนแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตกระแสหลักหลายแห่ง

ชื่อวิดีโอคือ ‘พวกเรา’ มันเป็นวิดีโอความยาว 30 วินาที

ไม่ถึง 30 นาที ยอดวิวก็พุ่งสูงถึง 30 ล้านวิว และกำลังพุ่งสูงถึง 40 ล้านอย่างรวดเร็ว

วิดีโอแสดงให้ภาพของรถไฟพลังงานถ่านหินเก่าๆ คันหนึ่ง รถไฟส่งเสียงหวูด ในขณะที่มันแล่นผ่านทุ่งหญ้าสีเหลืองมันก็พ่นควันสีเทาออกมาจากปล่องไฟสีดำ

คำว่า ‘ถนนวูซุง’ ปรากฏขึ้นบนแผ่นป้ายไม้ในจอวิดีโอ เสียงปืนและเสียงคนตะโกนดังมาจากที่ไกลๆ

แล้วเสียงปืนก็ค่อยๆ ดังขึ้น ก่อนจะจางหายไปในที่สุด มันกลายเป็นเสียงหัวเราะของเด็กแทน รถไฟความเร็วสูงแล่นผ่านมาแล้วป้ายไม้ก็เปลี่ยนเป็นป้ายสมัยใหม่ มันมีคำว่า ‘สถานีรถไฟเซี่ยงไฮ้’ สลักอยู่บนนั้น

กล้องแพนไปทางท้องฟ้า

ทันใดนั้นเองบางสิ่งที่น่าตกใจก็เกิดขึ้น

กล้องเริ่มซูมออกอย่างรวดเร็ว เร็วขึ้นเรื่อยๆ ผ่านเมฆและชั้นบรรยากาศออกมา แล้วสนามกีฬาก็ปรากฏขึ้นมา

ใช่ สนามกีฬาจริงๆ

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวิดีโอนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในสนามกีฬาแห่งนี้เท่านั้น

การเปลี่ยนฉากของวิดีโอนี้ช่างไหลลื่น แสงเงาและเสียงปืนดังก็ถูกเลียนแบบจนเหมือนจริงโดยใช้แสงโฮโลแกรม ทำให้เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อตอนต้นวิดีโออย่างสมบูรณ์แบบ

นี่ไม่ใช่แค่ตัวอย่างโปรโมตแล้ว!

นี่เป็นเรื่องราวเรื่องหนึ่งดีๆ นี่เอง!

ผู้คนต่างตกใจกับคุณภาพของงานภาพในคลิป!

นี่มันน่าตื่นเต้นกว่าภาพยนตร์ทำเงินของจีนส่วนใหญ่เสียอีก!

แต่ก็แน่นอนว่าในคลิปยังไม่มีพล็อตเรื่องอะไรทั้งนั้น

เพราะมันมีความยาวเพียงแค่ 30 วินาที แต่เวลา 30 วินาทีก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอชมโชว์ฉลอง

ผู้กำกับหลิวที่เป็นคนกำกับการทำตัวอย่างนี้ได้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่เทรลเลอร์นี้ปล่อยออกสู่สาธารณะ คนในโลกออนไลน์ก็คุยกับเรื่องโชว์ฉลองวันชาติกันอย่างระเบิดระเบ้อทันที!