ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 136 หนึ่งกระบี่จากพื้นดิน

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​เมื่อ​เวลา​หยุดนิ่ง​ ​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ล้วน​หยุดนิ่ง

​แม้แต่​กำแพง​ผลึก​มิติ​ตรงนั้น​ ​ใน​ลำแสง​ที่​มีทูต​สวรรค์​หลาย​ร้อย​องค์​ทยอย​กัน​ลงมา​จุติ​ ​ก็​หยุดนิ่ง​อยู่กับที่​เช่นเดียวกัน

​เส้น​แสงส่อง​ผ่าน​ปีก​ของ​พวกเขา​ ​เห็น​เป็น​เส้นใย​นับไม่ถ้วน​ ​เป็น​ภาพ​ที่​สวยงาม​มาก

​ส่วน​เรื่อง​ความตาย​นั้น​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​เป็น​ผู้​ที่​ตรึกตรอง​ถึง​เรื่อง​นี้​มาก​ที่สุด​ใน​โลก​ก็​ว่า​ได้​ ​นั่น​เป็น​เพราะ​ก่อน​ค่ำคืน​ใน​สุสาน​เทียน​ซู​ ​เขา​มีชีวิต​อยู่​ใน​เงา​มรณะ​ตลอดเวลา​ ​แม้​ต่อมา​เขา​ได้รับ​อิสรภาพ​ ​แต่​เมื่อถึง​คราว​จำเป็น​ ​ก็​สามารถ​ย้อน​อดีต​กลับ​ไป​ได้​อย่างรวดเร็ว​ ​ตัดสินใจ​ได้​อย่างง่ายดาย

​ขณะ​กระบี่​สาม​พัน​เล่ม​พุ่ง​จาก​ท้องฟ้า​ยามค่ำคืน​กลับมา​หา​ ​และ​กำลังจะ​ทะลุ​ผ่าน​ร่าง​ของ​เขา​นั้น​ ​เขา​นึก​ว่า​ตนเอง​ต้องตาย​แล้ว​จริงๆ

​ใน​ระดับ​นามธรรม​ ​เขา​ได้​ตาย​ไป​แล้ว​ ​แต่​ใน​ระดับ​รูปธรรม​ ​เขา​ยัง​มีชีวิต​อยู่

​ระหว่าง​ชีวิต​และ​ความตาย​ ​คั่น​ไว้​ด้วย​เส้น​บาง​ๆ​ ​เส้น​หนึ่ง​ ​ตอน​ยืน​อยู่​บน​เส้น​เส้น​นี้​ ​จะ​มีส​ภาวะ​ที่​ลึกลับ​มาก​ ​อาจ​เข้าใจ​ว่า​ซ้อนทับ​อยู่​ ​และ​อาจ​เข้าใจ​ว่า​ไม่มี​เลย​ก็​ย่อม​ได้

​การเข้าสู่​สภาวะ​แบบ​นั้น​ ​จริงๆ​ ​แล้ว​ไม่ยาก​ ​อาจ​เป็น​เพราะ​ชีวิต​ทุก​ชีวิต​ ​ขณะ​กำลังจะ​พบ​กับ​จุดจบ​ ​ล้วน​ต้อง​เข้าสู่​สภาวะ​แบบ​นั้น​สักครั้ง

​ปัญหา​อยู่​ที่​ ​หลังจาก​เข้าสู่​สภาวะ​แบบ​นั้นแล​้ว​ ​จะ​ไม่​สามารถ​เลี้ยว​กลับ​สู่​สภาวะ​มีชีวิต​ได้​อีก​ ​จึง​ได้​แต่​เดิน​ไป​ข้างหน้า​ ​ลง​สู่​ห้วง​ลึก​ไร้​สิ้นสุด​ ​หรือ​ขึ้นไป​บน​ทะเล​ดาว

​มี​เพียง​ขณะ​อยู่​ใน​สถานการณ์​ที่​ร้ายแรง​มาก​ที่สุด​ ​ถึง​จะ​เกิด​กรณี​ยกเว้น​ ​เช่น​ใน​คืนนี้

​กระบี่​เหล่านี้​ล้วน​เป็น​กระบี่​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​ซึ่ง​เขา​ใช้​ใจ​สื่อสาร​ด้วย​ ​กระทั่ง​พึ่งพา​ซึ่งกันและกัน​ก็​ว่า​ได้

​ขณะที่​เฉิน​ฉาง​เซิง​เข้าสู่​สภาวะ​แบบ​นั้น​ ​กระบี่​เหล่านี้​ย่อม​หยุด​ลง

​ผล​ก็​คือ​ ​เขา​กับ​เหล่า​กระบี่​มรสุม​ได้​เข้าไป​ใน​ดินแดน​ที่​ค่อนข้าง​เสถียร​และ​ละเอียดอ่อน​มาก​ ​กระทั่ง​เวลา​ก็​ล้วน​หยุด​ลง​ชั่วคราว

​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​ ​ต่อจากนี้​ไป​ ​เขา​จะ​ตาย​ ​หรือ​มีชีวิต​อยู่

​โลก​ที่​หยุดนิ่ง​กลายเป็น​ภาพ​หนึ่ง​ ​หรือ​ฉาก​หนึ่ง

​ทันใดนั้น​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก็​ลืมตา​ขึ้น

​ดวงตา​ของ​เขา​สะอาด​บริสุทธิ์​ ​และ​ใส​กระจ่าง​เหมือนเดิม​ ​ดุจดัง​กระจก​บาน​หนึ่ง​ ​ที่​สะท้อน​ให้​เห็น​รายละเอียด​ทั้งหมด​ของ​โลก​ที่​อุดมสมบูรณ์​สุด​จะ​เปรียบ

​ใน​หลุมดำ​ของ​เพลิง​มาร​ ​ซึ่ง​ดำมืด​ดุจ​หน้าผา​ยาม​ราตรี​นั้น​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มี​วัชพืช​สีเขียว​ขจี​งอก​ออกมา

​เวลา​มิได้​หยุดนิ่ง​อีก​ ​โลก​เริ่ม​กลับมา​มีชีวิต​อีกครั้ง​ ​เสียงร้อง​อุทาน​ดัง​มานับ​ไม่​ถ้วน​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยนเป็น​เงียบกริบ

​ผู้คน​รู้สึก​ได้​ว่า​ ​เกิดเรื่อง​บางอย่าง​บน​ร่าง​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง

​สำหรับ​ความรู้สึก​นี้​ ​ท่าน​ปู่​ถัง​กับ​พวก​หวัง​จือ​เช่​อรู​้​สึก​ได้​โดยตรง​และ​แม่นยำ​กว่า​ ​เพราะ​พวกเขา​เคย​มีประสบการณ์​ทำนอง​นี้​มา​แล้ว

​สีหน้า​ของ​คน​ชุด​ดำ​แปรเปลี่ยน​เป็น​ดูไม่ได้​เอา​มาก​ๆ

​พวกเขา​เห็น​พลัง​ของ​กฎเกณฑ์​บน​ร่าง​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง

​เฉิน​ฉาง​เซิง​มิได้​เข้าใจ​กฎ​ประเภท​นี้​ทั้งหมด​ ​ยิ่ง​ไม่​สามารถ​ล้ำหน้า​ไป​อีก​ขั้น

​แต่​นั่น​คือ​กฎ​แห่ง​ชีวิต​และ​ความตาย​ ​ซึ่ง​อยู่​ใน​หมวดหมู่​ของ​กาลเวลา​ ​เข้าใจ​แค่​หนึ่ง​ใน​ร้อย​ก็​เพียงพอ​แล้ว​

​เพียงพอ​ที่จะ​ทำ​อะไร

​เฉิน​ฉาง​เซิง​มอง​ท้องฟ้า​ยามค่ำคืน

​กระบี่​สาม​พัน​เล่ม​หมุน​ไป​ตาม​สายตา​ของ​เขา​ ​พุ่ง​แหวก​อากาศ​เสียงดัง​หวีดหวิว​ ​เข้าไป​ใน​ลำแสง​นั่น

​ลำแสง​มี​เส้นผ่าศูนย์กลาง​ไม่​กี่​ฉื่อ​ ​หลังจาก​กระบี่​สาม​พัน​เล่ม​เข้าไป​ใน​นั้น​ ​ก็​เบียดเสียด​พอสมควร​ ​มอง​ไป​แล้ว​เหมือน​ปลาตะเพียน​ว่าย​ไป​ข้างหน้า​ใน​ลำน้ำ​แคบ​ๆ​

​การกัด​เซาะ​ของ​ลำแสง​ ​ทำให้​ตัว​กระบี่​เหล่านี้​สั่น​ไม่​หยุด​ ​แต่​พวก​มัน​ก็​ไม่ยอม​หยุด​ ​ดิ้นรน​ฝืน​ไป​ข้างหน้า​อย่างกล้าหาญ​ ​ราวกับ​ถัดจาก​นี้​ไป​ ​พวก​มัน​จะ​กลายร่าง​เป็น​มังกร

​กระบี่​และ​แสง​ต่อสู้​กัน​ไม่​หยุด​ ​สาด​เส้น​แสง​ออกมา​นับไม่ถ้วน​ ​คล้าย​หิม​หลอมเหลว​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​พ่น​กระจาย​ไป​ทั่ว​ท้องฟ้า​ยามค่ำคืน​ ​ทำให้​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​สว่างไสว​ขึ้น​มา

​เมื่อ​เห็น​ฉาก​นี้​ ​ผู้คน​ก็​มั่นใจ​ใน​สิ่ง​ที่​คาดเดา​ ​และ​ตื่นตกใจ​จน​พูดไม่ออก

​ราชา​มาร​เผย​ให้​เห็นท่า​ที​ริษยา​บน​ใบหน้า

​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ที่นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​รถเข็น​ ​ตบ​ฝ่ามือ​ลง​บน​ตัก​อย่าง​ตื่นเต้น​ ​แล้ว​ตะโกน​อย่าง​สะใจ​ไม่​หยุด​ ​“​สุดยอด​!​ ​สุดยอด​!​”

​สุดยอด​จริงๆ

​ระหว่าง​ลืมตา​และ​หลับตา​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ได้​ก้าว​ข้าม​ธรณีประตู​บาน​นั้น​ ​และ​เดิน​เข้าไป​ใน​ทิวทัศน์​แห่งหนึ​่ง

​ทิวทัศน์​แห่ง​นั้น​คือ​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์

​ใน​อดีต​เคย​มี​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ที่​อายุ​น้อย​เช่น​เขา​หรือไม่

​ตอน​เฉิน​เสวียน​ป้าบรร​ลุ​เข้าไป​ใน​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​อายุ​เท่าไหร่​กัน

​ไม่มีใคร​รู้​คำตอบ​ที่​แน่ชัด​ ​และ​ตอนนี้​ก็​ไม่มีใคร​สนใจ​คำถาม​นี้

​ตอน​เฉิน​ฉาง​เซิง​เหยียบ​เข้าไป​ใน​เขตแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ ​สิ่ง​แรก​ที่​ทำ​คือ​ ​คิด​จะ​ตัด​ลำแสง​จาก​ดินแดน​เซิ​่​งก​วง​ให้​ขาด​ ​เขา​สามารถ​ทำได้​หรือไม่

​“​เจ้า​คิด​ว่า​แบบนี้​ก็ได้​หรือ​ ​ไร้เดียงสา​เกินไป​แล้ว​!​ ​ถ้า​ทำได้​จริง​ ​เจ้า​คิด​ว่า​ ​ไฉน​หวัง​จือ​เช่อ​ถึง​ได้​ยืน​อยู่​อย่างนั้น​ตั้งแต่​ต้น​เล่า​”​

​คน​ชุด​ดำ​แผดเสียง​ขณะ​จ้องมอง​เฉิน​ฉาง​เซิง

​เสียง​ของ​นาง​เปลี่ยนเป็น​แหลม​และ​คมกริบ​ ​ไม่น่าฟัง​เหมือนก่อน​หน้า​นี้​อีก​ ​นี่​อาจ​หมายถึง​สภาพ​จิตใจ​ใน​ตอนนี้​ของ​นาง

​แต่​คำพูด​ของ​นาง​ ​คิด​ตาม​แล้วก็​ไม่ผิด

​ลำแสง​นั่น​แข็งแกร่ง​เกินไป​จริงๆ​ ​กระบี่​สาม​พัน​เล่ม​ต่อสู้​ดิ้นรน​ไป​ข้างหน้า​อยู่​ใน​นั้น​ ​โดย​สั่น​แรง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เหมือน​สามารถ​ร่วงหล่น​ลง​ไป​ดั่ง​ใบไม้​แห้ง​ได้​ทุกเมื่อ

​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ท่าน​ปู่​ถัง​ ​หรือ​หวัง​จือ​เช่อ​ ​รวมทั้ง​หวังผ​้อ​ ​เซียว​จาง​ ​ล้วน​ไม่มีทาง​ช่วย​เขา​ได้

​อีก​ส่วนหนึ่ง​ของ​ลำแสง​นี้​อยู่​ใน​ร่าง​ของ​เขา​ ​ถ้า​คิด​ตัด​ลำแสง​ให้​ขาด​ ​ต้อง​ตัด​การ​เชื่อมต่อ​ระหว่าง​เขา​กับ​ดินแดน​เซิ​่​งก​วง​

​ไม่ว่า​จะ​มอง​ใน​มุม​ไหน​ ​เขา​ก็​กำลัง​ต่อสู้​กับ​ตัวเอง

​เช่นนั้น​ ​ก็​แน่นอน​แล้ว​ว่า​ ​เป็นการ​ต่อสู้​ของ​เขา​เพียง​คนเดียว

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ไม่สน​ใจ​คน​ชุด​ดำ​ ​ทำใจ​ให้​สงบ​และ​จดจ่อ​อยู่​กับ​ลำแสง​ ​สายตา​มองข้าม​กระบี่​เหล่านั้น​ ​ไป​ยัง​กำแพง​ผลึก​มิติ​ที่​ดู​คล้าย​กระจก​แสง

​สายตา​กระจ่าง​ใส​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เขา​หรี่​ตาลง​ ​ยกมือ​ซ้าย​ขึ้น

​ข้อมือ​ของ​เขา​มีลูก​ปัด​ศิลา​ห้า​เม็ด​ ​ลูกปัด​ศิลา​ทุก​เม็ด​คือ​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​หนึ่ง​แผ่น

​สวี​โหย​่ว​หรง​นึก​ว่า​เขา​จะ​ใช้​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​ต่อกร​กับ​ศัตรู​ ​จึง​เตรียม​นำ​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​ห้า​แผ่น​ของ​ตน​ให้​กับ​เขา​ ​แต่​ก็​พบ​ว่า​เขา​ไม่มีความคิด​เช่นนั้น

​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​ห้า​แผ่น​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ตำหนัก​มาร​ ​โดย​มิได้​ตั้งค่าย​กล​ ​และ​มิได้​แยก​เฉิน​ฉาง​เซิง​ออกจาก​โลก​ภายนอก​ ​ชัดเจน​มาก​ว่าวาง​ลง​ตามอารมณ์

​พูด​ให้​ถูก​ก็​คือ​ ​ที่​วางตา​มอา​รมณ์​นั่น​คือ​ตำแหน่ง​การ​จัดวาง​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​ทั้ง​สี่​แผ่น​ ​โดยตำแหน่ง​สุดท้าย​ของ​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​มี​ความพิถีพิถัน​อย่างเห็นได้ชัด​ ​ตั้งอยู่​ข้างๆ​ ​มือขวา​ของ​เขา

​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​แผ่น​นี้​ ​หวัง​จือ​เช่อ​คุ้นเคย​ดี​ ​เพราะ​นี่​คือ​แผ่น​ที่​เขา​เอา​มา​วาง​ไว้​ใน​หอ​หลิง​เยียน​ตั้งแต่​ต้น

​เขา​ไม่รู้​ว่า​เฉิน​ฉาง​เซิง​คิด​จะ​ทำ​อะไร

​ไม่มีใคร​รู้​ ​กระทั่ง​สวี​โหย​่ว​หร​งก​็​ล้วน​ไม่รู้

​จี๊ด​จี๊ด​สัมผัส​ได้​ถึง​เสียง​เรียก​จาก​ห้วง​แห่ง​จิต​ ​จึง​ก้าว​เข้าไป​ยืน​เคียงข้าง​เฉิน​ฉาง​เซิง​อย่าง​งุนงง​ ​ไม่รู้​ว่านี​่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​แน่

​พอ​จัดการ​เรื่อง​เหล่านี้​เรียบร้อย​ ​มือขวา​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก็​จับ​ด้าม​กระบี่

​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​เฉิน​ฉาง​เซิง​เตรียม​จะ​ทำ​อะไร​ ​และ​ไม่มีใคร​สัมผัส​ได้​ถึง​อะไร​ ​แต่​สิ่ง​ที่​น่า​ตื่นตระหนก​ก็​คือ​ ​ทูตสวรรค์​ใหญ่​ใน​กระจก​แสง​โปร่งใส​ ​ที่อยู่​ห่าง​จาก​ดินแดน​ต้า​ลู่​หลาย​พัน​ล้าน​ลี้​นั้น​ ​คลับคล้าย​รู้สึก​ได้​ถึง​ภยันตราย​ร้ายแรง​ ​ใบหน้า​ไร้ความรู้สึก​ปรากฏ​ความรู้สึก​ระแวดระวัง​ขึ้น​มา​ ​จึง​ถอยหลัง​ออก

​“​เตรียมพร้อม​หรือยัง​”

​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​เฉิน​ฉาง​เซิง​กำลัง​ถาม​ใคร

​ใน​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​ที่อยู่​ตรง​ข้าง​มือขวา​ของ​เขา​พลัน​มีเสียง​ที่​ค่อนข้าง​สับสน​ของลั​่​วลั​่ว​ดัง​มา​ ​“​อาจารย์​ ​เป็น​ท่าน​หรือ​ ​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ตอบ​ ​“​ไม่มี​เรื่อง​อะไร​ ​เจ้า​แค่​อยู่​ตรงนี้​ก็​พอ​”

​เขา​ชัก​กระบี่​ไร้ราคี​ออก​ ​ฟัน​ใส่​ท้องฟ้า​ยาม​ราตรี

​เจตจำนง​กระบี่​เข้มข้น​ขึ้น

​กระบี่​สาม​พัน​เล่ม​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ส่งเสียง​คำราม​ ​แล้ว​พุ่ง​เข้า​สังหาร​ลำแสง​จนถึงที่สุด​ ​ไม่มีหัว​ท้าย​ ​เรียงราย​เข้ามา​อย่างต่อเนื่อง​ไม่ขาดสาย​ ​คล้าย​กลายเป็น​กระบี่​เล่ม​ใหญ่​เล่ม​หนึ่ง

​กระบี่​เล่ม​นี้​เป็น​กระบี่​ใหญ่​ยักษ์​หาที่เปรียบมิได้​จริงๆ​ ​มี​ความ​ยาว​ตั้งแต่​พื้น​ตำหนัก​มาร​ ​จน​เกือบ​ถึง​ท้องฟ้า​ยาม​ราตรี​ ​ทะลุทะลวง​ฟ้า​ดิน​!​

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ต้องการ​ใช้​กระบี่​ยักษ์​นี้​ ​ตัด​ลำแสง​ให้​ขาด​ออกจาก​กัน​!​ ​ ​

​ความรู้สึก​ต้อยต่ำ​จาก​การถูก​สังเกตการณ์​และ​ไม่สน​ใจ​ไยดี​แบบ​นั้น​ ​เกิดขึ้น​ภายในใจ​ของ​ผู้คน​อีก​ครา

​ผู้คน​คลับคล้าย​เดา​ได้​ว่า​ ​น่าจะเป็น​เพราะ​เทพ​ท่าน​นั้น​ลืมตา​ขึ้น​อีกครั้ง​ ​แม้​อาจ​ไม่มี​ดวงตา​ก็ตาม

​เห็นที​กระบี่​นี้​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​คุกคาม​ไป​จนถึง​แผนการ​มา​จุติ​ของกอง​ทัพ​ทูตสวรรค์​แล้ว

​แรงกดดัน​ที่​อธิบาย​ไม่​ถูก​จาก​อีก​โลก​หนึ่ง​อัน​ไกลโพ้น​ ​ทะลุ​ผ่าน​กำแพง​ผลึก​มิติ​ ​ตกลง​บน​ดาบ​ยักษ์

​เสียง​เสียดสี​และ​เสียง​ดัด​โลหะ​จาก​ท้องฟ้า​ยาม​ราตรี​ดัง​เสียด​แก้วหู

​สีหน้า​เฉิน​ฉาง​เซิง​ซีด​ขาว​ ​ทว่า​แววตา​กลับ​ยิ่ง​สงบนิ่ง

​จี๊ด​จี๊ด​ตะลึงงัน​ขณะ​จ้องมอง​เขา​ที่อยู่​ใน​ลำแสง​ ​ไม่รู้​ว่า​ตนเอง​ควร​ทำ​อะไร​ดี

​ได้ยิน​เสียง​กระวนกระวายใจ​ของลั​่​วลั​่ว​ดัง​มาจาก​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​แผ่น​นั้น​ ​“​อาจารย์​!​ ​อาจารย์​!​ ​ไม่เป็นไร​ใช่ไหม​ ​ตอบ​ข้า​สิ​!​”

​เสียง​เสียดสี​และ​เสียง​ดัด​โลหะ​ค่อยๆ​ ​จางหาย​ไป

​ดาบ​ยักษ์​ยังคง​ต้านทาน​ลำแสง​ที่​ส่อง​ลงมา​จาก​ฟากฟ้า​!

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ต้านทาน​ไว้​ได้​!

​เป็น​กระบี่​ที่​ทรงพลัง​มาก​!

​พอ​ๆ​ ​กับ​ระดับ​ที่​ซู​หลี​ฟัน​กระบี่​เดียว​สร้าง​ความ​ตื่น​ตะลึง​ไป​ทั่ว​ทุ่ง​หิมะ​ใน​ครั้งนั้น​!

​ไม่ว่า​ทักษะ​กระบี่​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​อยู่​ใน​ระดับสูง​กว่า​พรสวรรค์​ ​ชนิด​สามารถ​เรียก​ปรมาจารย์​ได้​ ​แต่​อย่างไร​ ​เขา​ก็​ยัง​อายุ​น้อย​ ​และ​เพิ่ง​บรรลุ​ผ่าน​เข้าสู่​ขั้น​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ ​เหตุใด​จึง​สามารถ​สำแดง​ฤทธิ์เดช​อัน​ทรงพลัง​ของ​กระบี่​นี้​ออกมา​ได้

​ผู้คน​ต่าง​คิด​ไม่เข้าใจ

​หวัง​จือ​เช่​อพ​ลัน​นึกถึง​คัมภีร์​ลัทธิ​เต๋า​ที่​เก่าแก่​มาก​เล่ม​หนึ่ง​ ​เหมือน​กำลัง​ครุ่นคิด​อะไร​บางอย่าง

​เขา​หัน​มอง​จี๊ด​จี๊ด​ที่​กำลัง​วิตกกังวล​ ​ไม่รู้​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​อยู่​นอก​ลำแสง​ ​พลาง​คิด​เงียบๆ​ ​“​นี่​คือ​มังกร​ฟ้า​”

​จากนั้น​ก็​หัน​มอง​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​สีดำ​แผ่น​นั้น​ ​พลาง​บอก​ตัวเอง​ใน​ใจ​ ​“​นี่​คือ​พยัคฆ์​ขาว​”

​สุดท้าย​ก็​หัน​มอง​สวี​โหย​่ว​หรง​ ​ใน​ใจคิด​ นี่​คือ​หงส์แดง

​ดู​จาก​ตำแหน่ง​นี้​ ​นาง​กับ​เฉิน​ฉาง​เซิง​อยู่​ห่าง​กัน​ค่อนข้าง​มาก​ ​มอง​ไม่​ออก​ว่าที่​ใด​มี​ลักษณะพิเศษ

​“​ซ้าย​มังกร​ฟ้า​ ​ขวา​พยัคฆ์​ขาว​ ​หงส์แดง​…​อยู่​กลาง​ใจ​”

​ดวงตา​หวัง​จือ​เช่​อส​ว่าง​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​ก่อน​พูด​อย่าง​ตื้นตันใจ​ ​“​ร้ายกาจ​”

​เป็น​กระบี่​ที่​ขนาด​เขา​ยัง​นับถือ​ ​ย่อม​ร้ายกาจ​สุด​ๆ​ ​จริงๆ

​แต่​กระบี่​นี้​ยังคง​ทำได้​เพียง​ยืนหยัด​เผชิญหน้า​กับ​ลำแสง​ที่มา​จาก​ดินแดน​เซิ​่​งก​วง​เท่านั้น

​พลัง​ปราณ​อัน​แข็งแกร่ง​สอง​สาย​ที่​ยาก​คาดเดา​และ​อยู่​ห่าง​กัน​พัน​ล้าน​ลี้​ ​กำลัง​ต่อสู้​กัน​กลางอากาศ

​“​เจ้า​ไม่มีทาง​ทำสำเร็จ​หรอก​!​ ​นั่น​เป็น​แสง​ที่​ไร้​ตัวตน​ ​เจ้า​จะ​ตัด​มัน​ขาด​ได้​อย่างไร​!​”

​คน​ชุด​ดำ​จ้องหน้า​เฉิน​ฉาง​เซิง​พลาง​ตะโกน​เสียงแหลม​ ​“​นอกจาก​ร่าง​จริง​ของ​เจ้า​จะ​ไป​ยัง​ที่​ที่อยู่​ห่าง​จาก​ที่นี่​พัน​ล้าน​ลี้​ ​แล้ว​ฟัน​แหล่งกำเนิด​แสง​เสีย​!​”

​บางครั้ง​ที่​บอกว่า​ ​มัน​เป็น​ลาง​ ​อย่า​พูด​ไป​ ​เป็น​แค่​การ​อำพราง​กระบวนการ​การ​พยากรณ์​เท่านั้น

​คน​ชุด​ดำ​เชี่ยวชาญ​การ​พยากรณ์​เป็น​ที่สุด

​ตอนที่​นาง​พูด​ประโยค​นั้น​ออกมา​ ​เป็นไปได้​มาก​ว่า​ ​จิตใต้สำนึก​ของ​นาง​รู้สึก​กลัว​ที่จะ​เกิดเรื่อง​เช่นนั้น​เป็น​ที่สุด​ ​แต่​ตัวนาง​เอง​ไม่รู้​ตัว

​และ​แล้ว​ ​เรื่อง​เช่นนั้น​ก็​เกิดขึ้น​จริงๆ

​แสง​กระบี่​สาย​หนึ่ง​พลัน​วาด​ผ่าน​ท้องฟ้า​ยาม​ราตรี

​……

​……