จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ ร่างของมนุษย์เซียน หรือก็คือประมุขในหมู่คน
ในปัจจุบัน คำว่าประมุขในหมู่คน บางทีอาจจะใช้กับเฉินเฉียนหัวได้เหมาะที่สุด
แต่ว่าพอเยี่ยนจ้าวเกอเห็นประมุขทิศบนผู้นี้กลับรู้สึกผิดหวัง
เขาใช้มือรองศีรษะ ‘คำโบราณกล่าวไว้ไม่มีผิดจริงๆ พบพานคนรู้ใจดื่มพันจอกยังว่าน้อย แต่ว่า…’
เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้า มองเฉินเฉียนหัว ‘…แต่ว่า คุยไม่ถูกคอ ครึ่งคำก็มากเกิน’
เฉินเฉียนหัวพิจารณาจักรพรรดิแพรด้วยความสงสัย
ฝ่ายจักรพรรดิแพรยังคงหลับตา คล้ายกับไม่สัมผัสถึงการมาของเฉินเฉียนหัว
“หือ…” เฉินเฉียนหัวจุ๊ปาก จากนั้นก็ไม่สนใจอีก หันมามองเยี่ยนจ้าวเกอแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เพื่อเรื่องจักรพรรดิแพร ท่านใช้ความพยายามไม่น้อยทีเดียว”
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “รู้สึกว่าท่านจะใจร้อนกว่าข้า”
“ไม่ๆๆ” เฉินเฉียนหัวส่ายหน้าติดต่อกัน “นั่นเป็นก่อนหน้านี้”
เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ “ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าท่านน่าสนใจกว่าเขามาก”
เยี่ยนจ้าวเกอเลิกคิ้ว ทว่ายังไม่ทันพูดอะไร เฉินเฉียนหัวก็ชิงกล่าวก่อนว่า “ก่อนหน้านี้ข้าอยากให้จักรพรรดิแพรอยู่ในสภาพปัจจุบัน ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร แต่เกรงว่าท่านกับคนส่วนใหญ่ไม่อยากให้เขาเป็นเช่นนี้อีก”
เขาหัวเราะแล้วพูดอีก “แต่ถ้าไม่เหมือนตอนนี้ จะให้เปลี่ยนเป็นอะไรก็ยากจะบอกแล้ว จะมีรัก มากรัก หรือว่าสะบั้นน้ำใจไร้รัก ข้าเชื่อว่าพวกท่านแต่ละคนก็มีความคิดของแต่ละคน”
สายตาของเขามองไปมาระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอและเมิ่งหว่าน “ส่วนความต้องการของท่าน…ดูท่าแล้วท่านไม่อยากเห็นจักรพรรดิแพรที่สะบั้นน้ำใจไร้รักกระมัง”
เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตา ม่านตาเปล่งประกาย “ฟังจากความนัยในวาจาของท่าน ท่านคิดจะช่วยให้จักรพรรดิแพรเดินสู่เส้นทางไร้รักสินะ”
เฉินเฉียนหัวพยักหน้าอย่างแน่วแน่ “นั่นย่อมแน่นอน”
สุดท้ายจักรพรรดิแพรจะเดินไปยังเส้นทางใด เฉินเฉียนหัวไม่สนใจ ถ้าคู่ต่อสู้ที่เขาสนใจในตอนนี้ก็คือเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ใช่จักรพรรดิแพรงามอีกแล้วเหมือนอย่างที่เขาพูด
ในตอนที่เขาสนใจในตัวจักรพรรดิแพร เขาจะต่อสู้กับจักรพรรดิแพร
หากจักรพรรดิแพรคิดจะสลัดให้หลุดจากสภาพที่บุคลิกแยกกันในตอนนี้ เฉินเฉียนหัวก็คิดจะขัดขวาง ให้เขาอยู่ในสภาพนี้ต่อไป
ทว่าในตอนที่เขาสนใจในตัวเยี่ยนจ้าวเกอมากกว่าจักรพรรดิแพร เขาจะเปลี่ยนมาช่วยจักรพรรดิแพรที่ตอนแรกด้านไร้รักยิ่งมายิ่งเป็นฝ่ายได้เปรียบ และต่อสู้กับเยี่ยนจ้าวเกอแทน
สำหรับเขาแล้ว ตอนนี้จักรพรรดิแพรงามเป็นกระดานหมากที่เอาไว้สู้กับเยี่ยนจ้าวเกอ
การปฏิบัติต่อจักรพรรดิเซียนจริงแท้ผู้หนึ่งเช่นนี้ เฉินเฉียนหัวควรจะเรียกว่าหยิ่งทะนง ไม่ใช่บ้าคลั่ง
“ดังนั้นคนที่ข้าต้องการกำจัดในตอนนี้ไม่ใช่ท่าน” เฉินเฉียนหัวมองเมิ่งหว่าน “แต่เป็นแม่นางน้อยท่านนี้ เมื่อสังหารนางได้ สังหารฟู่ถิงได้ จักรพรรดิแพรจะเดินบนเส้นทางไร้รักแล้ว ท่านเตรียมจะปกป้องนางหรือไม่ คิดจะทำอย่างไรกัน”
เฉินเฉียนหัวมีสีหน้ากระปรี้กระเปร่าอย่างหาได้ยาก สายตาเลื่อนไปมาระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอและเมิ่งหว่าน พลันหัวเราะเสียงหนึ่ง “สายฟ้าทันใจไม่มีผลกับข้า”
เขาไม่ได้มีปัญหาด้านจิตใจ หรือบุคลิกแบ่งแยกกันเหมือนที่จักรพรรดิแพรถูกธาตุไฟเข้าแทรก
การกระทำและความคิดคำนึงของเฉินเฉียนหัวล้วนมาจากสันดานของเขาเอง กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ…จิตใจของเขาไม่มีช่องโหว่
คิดจะใช้สายฟ้าทันใจกระตุ้นมารจิตมารของเขา จำเป็นต้องมีระดับพลังฝึกปรือเหนือกว่าตัวเขาอย่างชัดเจน
เยี่ยนจ้าวเกอสงสัยอยู่ลึกๆ ว่าคนเช่นนี้มีจิตมารหรือไม่
สิ่งที่ทำให้เขาเป็นห่วงก็คือ หลังจากที่จักรพรรดิแพรเริ่มสงบจิตใจได้แล้ว เฉินเฉียนหัวได้มาถึงที่นี่เพราะกระแสปั่นป่วนของมิติเวลา เพียงมองครั้งเดียวก็ดูสภาพในตอนนี้ของจักรพรรดิแพรออกว่าถูกสายฟ้าทันใจกระตุ้น
เยี่ยนจ้าวเกอสบตาเฉินเฉียนหัว ขณะมองม่านตาที่เป็นประกายเล็กน้อยของอีกฝ่าย จิตใจก็สั่นไหว สัมผัสได้ถึงสิ่งที่ต่างไปจากเดิมหลายส่วน
ตอนที่เขากำลังคิดอยู่ เฉินเฉียนหัวก็ก้าวเท้าเข้ามาหาเขากับเมิ่งหว่านพร้อมกับยิ้มให้ “เยี่ยนจ้าวเกอ ข้าจะไม่สังหารท่าน หากขาดท่านไปโลกนี้คงน่าเบื่อยิ่งนัก มาเถอะ ให้ข้าดูหน่อยว่าท่านเตรียมจะปกป้องแม่นางน้อยผู้นี้อย่างไร จงมอบความประหลาดใจให้ข้าอีกครั้ง”
เสียงยังไม่ทันขาดลง เขาก็ยกมือขึ้น ใช้ท่ารอยตราพลิกนภาฟาดใส่ศีรษะของเมิ่งหว่าน!
การลงมือของเฉินเฉียนหัวในตอนนี้แตกต่างกับตอนอยู่บนโลกแปดพิภพโดยสิ้นเชิง
ครั้นรอยตราพลิกนภาร่วงหล่น ฟ้าดินพลันพลิกคว่ำเพราะมัน
เยี่ยนจ้าวเกอมองเฉินเฉียนหัวอย่างสงบนิ่ง แตะนิ้วกับริมฝีปาก “ข้าจะทำอย่างไรอย่าเพิ่งไปพูดถึง มีคนอื่นมอบความประหลาดใจให้ท่านแล้ว”
ขณะเดียวกัน เสียงของจักรพรรดิแพรก็พลันดังขึ้น “สหายน้อยเฉิน เจ้ามือยาวเกินไปแล้ว”
เฉินเฉียนหัวเลิกคิ้วมองไปยังจักรพรรดิแพร “ถ้าข้าเข้าใจไม่ผิด บุตรีสองคนของจักรพรรดิแพรท่าน ขอแค่หายไปจากโลกนี้ก็เป็นอันใช้ได้ ไม่ต้องให้ท่านลงมือด้วยตัวเอง”
ใต้ธงจตุกำเนิด จักรพรรดิแพรฟู่อวิ๋นฉือที่ก่อนหน้านั่งหลับตาทำสมาธิ ยามนี้ลืมตาขึ้นใหม่ “ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า”
ในตอนที่พูด เขาพลันบรรลุถึงด้านหน้าเฉินเฉียนหัว ยกฝ่ามือขึ้นขวางรอยตราพลิกนภานี้ของเฉินเฉียนหัวไว้!
ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดอันเป็นการสืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ ปะทะกับรอยตราพลิกนภาการสืบทอดสายหยกพิสุทธิ์
เฉินเฉียนหัวคลายมือ คนถูกจักรพรรดิแพรกระแทกกระเด็นไปด้านบน
“จักรพรรดิแพรท่านน่าสนใจกว่าก่อนหน้ามากจริงๆ” เฉินเฉียนหัวสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน เหลือบมองจักรพรรดิแพรพลางเอ่ยว่า “ถ้าหากว่าเป็นเส้นทางไร้รักสะบั้นน้ำใจ คิดถึงแต่ผลได้ผลเสียจริงๆ คงไม่มีความรู้สึกไม่พอใจที่ถูกคนข้ามหน้าข้ามตา”
ขณะที่พูดอยู่ เขาก็ยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นไป รอยตราคว่ำดินประสานกับรอยตราพลิกนภา จิตแห่งหมัดยิ่งใหญ่เหมือนกับแผ่นดินและผืนฟ้ากดดันใส่รูปไท่จี๋ด้านล่าง
สามฝ่ามือปะทะกัน ในมิติพลันฉีกออกเป็นรอยแตกยาวหลายสาย เหยียดยื่นออกไปไกลจนไม่เห็นปลายทาง
นพยมโลกที่อยู่ใกล้ๆ ราวกับถูกฉีกทึ้งออกเป็นสองส่วน
“ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าตอนนี้ท่านเริ่มกำหนดเส้นทางที่ต้องเดินได้แล้ว แต่ดูจากตอนนี้ยังคงไม่แน่นอน”
เฉินเฉียนหัวอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ “หรือจะเป็นผลของสายฟ้าทันใจ”
เขาหัวเราะจนตัวโยน หันไปมองเยี่ยนจ้าวเกอ “เดิมทีเริ่มเอนเอียงไปทางด้านหนึ่งแล้ว ตอนนี้กลับคืนสู่ลักษณะที่ด้านซ้ายด้านขวาต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่พวกท่านต้องการจะเห็นที่สุดหรอกหรือ สำหรับท่านแล้ว มีได้ก็ต้องมีเสียกระมัง”
เยี่ยนจ้าวเกอกอดอก ยิ้มอย่างผ่อนคลาย “พูดแบบนั้นยังเร็วเกินไป”
จักรพรรดิแพรเอ่ยอย่างเฉื่อยชา “สหายน้อยเฉินปากมากไปแล้ว”
รูปไท่จี๋ใจกลางฝ่ามือของเขาหมุนวน ดูดสองฝ่ามือของเฉินเฉียนหัวไว้
จากนั้นเขาก็ยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้น แล้วฟาดใส่เฉินเฉียนหัว
“เป็นอย่างที่เยี่ยนจ้าวเกอบอก จักรพรรดิแพรท่านมอบความประหลาดใจให้แก่ข้าจริงๆ” เฉินเฉียนหัวเหมือนคาดไว้แต่ต้นแล้ว ร่างของเขาเปลี่ยนจากปลอมเป็นจริง ใช้ร่างกาลอวกาศกำเนิดดิ้นหลุดออกจากแรงดึงดูดของฝ่ามือของอีกฝ่าย
จักรพรรดิแพรไม่กล่าววาจา เพียงแต่กำมืออีกข้างที่ฟาดใส่เฉินเฉียนหัวเป็นมุทราหมัด ใช้ร่างกาลอวกาศกำเนิดเช่นกัน
เมื่อได้รับผลกระทบเช่นนี้ ร่างของเฉินเฉียนหัวพลันเปลี่ยนจากปลอมเป็นจริง แต่ว่าเขากลับขวางร่าง เข้าปะทะกับจักรพรรดิแพรที่ใช้ร่างกาลอวกาศกำเนิดด้วยตัวเอง
เสียงหัวเราะแปลกประหลาดดังขึ้น เฉินเฉียนหัวผลักสองฝ่ามือออกไปด้านหน้าพร้อมกัน ก่อนจะมีเปลวเพลิงสีทองปรากฏขึ้น
เพลิงนั้นกระจายไปทั่ว ทะลุทะลวงอวกาศกำเนิด
“วิญญาณแห่งเพลิงหลี[1]? ฝ่ามืออัคคีเทพเพลิงหลีก่อนกำเนิด?” จักรพรรดิแพรประหลาดใจอยู่บ้าง
ฝ่ามืออัคคีเทพเพลิงหลี เป็นวรยุทธ์ระดับสุดยอดก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ว่ากันว่ามีต้นกำเนิดมาจากนักพรตลู่ยา ผู้ยิ่งใหญ่ในยุคสถาปนาเทพเจ้า
พลังฝ่ามือของเฉินเฉียนหัวกลายเป็นวิญญาณแห่งเพลิงหลีก่อนกำเนิด ทะลุทะลวงกาลอวกาศกำเนิด บรรลุถึงด้านหน้าจักรพรรดิแพร
………………..
[1] หลี (离) ในที่นี้คือทิศใต้ของยันต์แปดทิศ