ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1381 ดูแล
เมื่อทุกคนไปถึงเกาะ ก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว การเดินทางมาที่นี่นั้นค่อนข้างไกล ทั้งทางเครื่องบิน ทั้งทางเรือ เมื่อมาถึงที่นี่ ยังมาทันเวลาทานอาหารเย็นนับว่าไม่เลวแล้ว “หม่ามี้–” “หม่ามี้ พวกเรามาแล้ว!” รินจังและอิคคิวทันทีที่มาถึงที่นี่ และเห็นแด็ดดี๊และหม่ามี้ ก็รีบสาวเท้าน้อยๆวิ่งโผเข้าไปหาเหมือนนกนางแอ่นอย่างนั้น เส้นหมี่ก็ตื่นเต้นเช่นกัน รีบออกมาทักทายเด็กๆทั้งสอง และกอดพวกเขาทันที
“หม่ามี้คิดถึงพวกหนูมากๆเลย เป็นยังไงกันบ้าง? เหนื่อยไหมจ๊ะ?” “ไม่เหนื่อยค่ะๆ หม่ามี้ หนูเอาของอร่อยๆมาฝากเยอะแยะมากมายเลยค่ะ อยู่ข้างหลังอาหญิงถือตรงนั้นอยู่ค่ะ” รินจังเด็กน้อยหันหลังกลับไปชี้ที่เชียนหยวนล๋ายเย่ที่อยู่ด้านหลัง เส้นหมี่จึงเหลือบตาไปมอง ก็พบว่า ไม่ไกลจากที่ลงจากเรือ ในกลุ่มคนที่กำลังเดินมาทางนี้นั้น ทั้งม็อกโกและแสงดาวก็ดี ล้วนเป็นคนที่ออกท่องโลกมามาก แต่หญิงสาวที่รูปร่างบอบบางทั้งยังผูกยาเม็ดใหญ่อยู่บนศีรษะ เมื่อลงจากเรือแล้ว และเห็นสภาพของเกาะที่ยังไม่ผ่านการจัดการใดๆ เธอจึงยืนอยู่บนหินก้อนนั้น และไม่รู้ว่าควรจะเริ่มหย่อนเท้าลงตรงที่ใดดี
“ที่รักคะ นี่….ที่นี่ทำไมยังมีหญ้าเยอะขนาดนี้คะ? จะมีงูไหมคะ?” เมื่อพูดถึงงูคำนี้ เธอก็ยิ่งกลัวจนหน้าถอดสี ก็จริงอยู่ ตั้งแต่เล็กเธอก็เติบโตมาในคฤหาสน์เชียนหยวน สถานที่ที่พบเจอมาย่อมมีจำกัด นอกจากนี้ ต่อให้เป็นเกาะ นั่นก็เป็นเกาะต่างๆที่เป็นของญี่ปุ่น ที่นั่น ล้วนแล้วแต่มีผู้เชี่ยวชาญมาปรับแต่งพื้นที่ จะบริสุทธิ์เหมือนที่นี่ได้อย่างไร? เส้นหมี่เมื่อเห็นแล้วก็ขำเล็กน้อย “รินจังจ๊ะ อาหญิงของหนูน่ารักอย่างนี้เสมอเลยหรือจ๊ะ?” “หา?” ดวงตากลมโตที่เหมือนลูกองุ่นดำของรินจังมองปริบๆ
“ไม่ค่ะ อาหญิงไม่ใช่น่ารัก อาหญิงขี้กลัวต่างหากละคะ ตอนเดินทางมา พอขึ้นเรือก็จับมือหนูซะแน่นเลย ทั้งยังไม่กล้าไปที่ดาดฟ้าเรืออีกด้วย เฮ้อ” เด็กน้อยคนนี้ ท้ายสุดยังถอนหายใจอย่างจนใจ คาดว่า ก่อนออกเดินทาง อาธิปคงจะเตือนเธอ ให้ดูแลอาหญิงคนนี้ดีๆ เมื่อเห็นดังนี้ เส้นหมี่จึงไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ไม่ง่ายเลยกว่าที่ทุกคนจะมาถึงที่นี่ เส้นหมี่และแสนรักจึงยกอาหารและผลไม้ที่เตรียมไว้ออกมา จัดวางบนโต๊ะตัวยาวที่จัดวางตามอำเภอใจอยู่นอกห้อง
แสงดาว : “……….”
นี่มันจะธรรมชาติเกินไปหน่อยแล้วมั้ง แม้แต่โต๊ะดีๆสักตัวก็ไม่มีหรือ? นี่ก็เป็นคุณหนูใหญ่ที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี เธอเดินมาอย่างรังเกียจแล้วหยิบองุ่นสองสามลูกใส่เข้าปาก “เส้นหมี่จ๊ะ พวกเธอหลายเดือนมานี้ อยู่อย่างนี้นะหรือ?” “ใช่ค่ะ ไม่ชอบหรือคะ?” เส้นหมี่คราวนี้ย้ายม้านั่งออกมา เธอรับรู้ได้ถึงความรังเกียจของพี่สาวสามีจึงยิ้ม สภาพของที่นี่ จริงอยู่ที่สู้เรืองรองหรือเดอะวิวซีที่พวกเขาอาศัยอยู่ไม่ได้ แต่ที่นี่สิ่งแวดล้อมดีมาก ทุกวันตื่นขึ้นมา มีทั้งพระอาทิตย์และชายทะเล ทั้งยังมีความเงียบสงบที่ไม่มีใครมารบกวน ว่ากันตามตรง ตอนนี้เธอรักที่นี่เข้าเสียแล้ว
ม็อกโกก็รู้สึกว่าไม่เลวเช่นกัน เพียงแต่ เวลานี้เขาเข้าไปหาแสนรักแล้ว สองคนนี้ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะพบกัน ย่อมต้องมีเรื่องพูดคุยกัน ดังนั้นตรงที่ทานบุฟเฟ่ต์กลางแจ้งนี้ จึงเหลือเพียงผู้หญิงสองสามคน เด็กสามคน และยังมีคณาธิปอีกคนหนึ่ง “พี่ธิปคะ ทานหน่อยสิคะ นี่มันวันหนึ่งแล้ว หิวแล้วใช่ไหมคะ เดี๋ยวฉันหยิบตะเกียบมาให้ค่ะ” เส้นหมี่รู้ใจเขา เมื่อเห็นว่าเขาตั้งแต่มาถึง ก็เอาแต่ยืนอึดอัดอยู่ตรงนั้น ทั้งยังไม่รู้จะทำอะไร ดังนั้นเธอจึงเดินไปทักทายเขาก่อน เมื่อคณาธิปได้รับการดูแลจากเธอแล้ว จึงรู้สึกดีขึ้นมาก “พวกคุณอยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้างครับ? ร่างกายของคุณดีขึ้นมากแล้วใช่ไหมครับ?” “ค่ะ ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ที่นี่อากาศดี ทุกวันไม่ต้องคิดเรื่องอะไร ก็รู้สึกปล่อยวางได้มากขึ้น ร่างกายเลยฟื้นฟูได้ค่อนข้างเร็วค่ะ” เส้นหมี่ตอบไปตามความเป็นจริง เมื่อคณาธิปได้ยินเช่นนั้น ใจที่เอาแต่คิดถึง ก็สงบลงในที่สุด
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวผู้นี้ยุ่งอยู่ตลอด ในขณะที่กำลังจะเข้าไปช่วย เวลานี้ เส้นหมี่ก็ยื่นแซนวิชหนึ่งคู่และผลไม้สองสามชิ้นในจานส่งให้เขา “คุณเอาไปให้หนูเย่ทานเถอะค่ะ เด็กสองสามคนนั่น พอมาถึงก็ไปนัวเนียอยู่กับเธอ เลยยังไม่ได้ทานกันเลย” “อีกอย่างนะคะ พี่ธิป พี่ต้องดูแลเธอมากหน่อยนะคะ เธอคงไม่เคยมาที่แบบนี้ ทั้งยังอายุน้อย พี่ก็ดูแลเธอให้มากขึ้นหน่อย ให้เธอรู้สึกปลอดภัยน่ะค่ะ” สุดท้ายแล้วเส้นหมี่ยังกำชับอีกประโยค คณาธิปมองอย่างเลื่อนลอย นี่เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่ง หากเป็นเมื่อก่อน หากหญิงสาวผู้นี้กำชับให้เขาไปดูแลหญิงสาวคนอื่น เขาจะต้องโกรธแน่นอน ทั้งยังรู้สึกเสียใจอีกด้วย แต่ตอนนี้ เขารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว แม้จะรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง แต่ไม่รู้สึกโกรธแล้วจริงๆ หากแต่หน้ากลับแดงเล็กน้อยเมื่อรับจานผลไม้นี้มา แล้วจึงไปหาสาวน้อยคนนั้น
“ที่รักคะ มาแล้วหรือคะ?” เชียนหยวนล๋ายเย่ที่กำลังอยู่เป็นเพื่อนรินจังฝังดอกไม้เพลิง เงยหน้าขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเป็นสามีที่ยกอาหารมาให้ ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายออกมาท่ามกลางความมืด อย่าให้พูดเลยว่าสว่างสุกใสเพียงใด ที่รักยังจำเธอได้นี่ แม้เธอจะเห็นว่าหลังจากที่เขามาถึงเกาะแล้ว ก็อยู่ตรงนั้นกับพี่สาวมาตลอด แต่เธอก็ไม่กล้าไปรบกวน