ตอนที่ 1363: มดที่ถูกบดขยี้ (1)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1363: มดที่ถูกบดขยี้ (1)

“นั่นคือเสียงของเจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เจ้าศาลาพูดเช่นนั้นหมายถึงใครกัน ? ”

“เจ้าศาลาของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเป็นหนึ่งในสามผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรแห่งท้องทะเล นางเป็นจักรพรรดิที่มีอำนาจมากที่สุด ใครคือคนที่นางเรียกว่า ‘ฝ่าบาท’ ? ”

เสียงตะโกนของยาดริมทำให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมากในกลุ่มคนที่นั่น ทุกคนเริ่มคาดเดาว่าใครคือ ‘ฝ่าบาท’ พวกเขาต้องการรู้ว่าใครคือคนที่จักรพรรดิขนานนามเช่นนั้น

มีคนอื่นที่น่าเคารพยิ่งกว่าเจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลหรือ ?

“หรือว่าเป็นเจ้าศาลาคนก่อน ? มีใครยังมีชีวิตอยู่” ใครบางคนกำลังคาดเดา

“ไม่ แม้ว่าอดีตเจ้าศาลายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาจะถูกเรียกว่าเป็นอดีตเจ้าศาลา ไม่ใช่ฝ่าบาท” จอมยุทธ์คนหนึ่งตัดคำตอบที่คาดเดาทันที เขาเป็นจอมยุทธ์ 15 ดาวและเป็นคนที่มีความรู้มาก เขามีความเข้าใจในระดับหนึ่งเกี่ยวกับการทำงานภายในของทั้งสามศาลา

ทันใดนั้นบรรพบุรุษของกลุ่มผู้มีอำนาจก็ดูเหมือนจะคิดถึงอะไรบางอย่าง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากและเขาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ตั้งแต่สมัยโบราณ มีเพียงเทพเจ้าของเราเท่านั้นที่มีสิทธิที่จะได้รับการขนานนามว่าฝ่าบาท เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ยังมีชีวิตอยู่หรือ ? ”

อะไร ? เทพเจ้าแห่งท้องทะเลผู้ยิ่งใหญ่ยังมีชีวิตอยู่รึ ? เป็นไปไม่ได้ มันนานเป็นล้านปีมาแล้วตั้งแต่สมัยโบราณ..”

สิ่งที่บรรพบุรุษพูดทำให้ผู้คนจำนวนมากที่ได้ยินตะลึงงัน พวกเขาผงะและไม่อยากจะเชื่อ

“ควรจะเป็นอย่างนั้น. สิ่งที่เจ้าศาลาหมายถึงก่อนหน้านี้คือเทพเจ้าแห่งท้องทะเลกำลังจะฟื้นคืนชีพ ในขณะเจ้าศาลาแห่งศาลาจิตวิญญาณสวรรค์และศาลาเทพเจ้าอสรพิษกำลังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหยุดยั้งการฟื้นคืนชีพของนาง” จอมยุทธ 16 ดาวอีกคนกล่าวเสริม เขายังเป็นบรรพบุรุษตระกูลใหญ่ เขาตกใจกับข่าวอันน่าทึ่ง

พระเจ้า ! เทพเจ้าแห่งท้องทะเลผู้ยิ่งใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ ช่างเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ”

หลายคนถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ มีแต่เทพเจ้าแห่งทะเลในสี่สุดยอดจอมยุทธแห่งยุคโบราณเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ข้อมูลชิ้นนี้เป็นเหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมาทั่วอาณาจักรทะเล ทุกคนในอาณาจักรต่างพากันตกตะลึง

ห่างออกไป 10,000 กิโลเมตร เจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าอสรพิษกำลังจะขว้างหินฟ้าสะเทือนในมือของเขา ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงยาดริมตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดมาแต่ไกล หากยาดริมมาถึงที่นี่ การฆ่าผู้คุมกฎของเผ่าเต่าและขัดขวางการฟื้นคืนชีพของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลจะไม่ง่ายอีกต่อไป

ยาดริมอายุยังน้อยแต่นางก็ไม่อ่อนแอ เจ้าศาลาทั้งสองคนเริ่มรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของนางไม่อาจหยั่งรู้ได้ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในสภาพสูงสุด พวกเขาก็ยังไม่มั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะนางได้โดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

“ก่อกวนนังแพศยาเอาไว้ ที่เหลือข้าจัดการเอง” เจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าอสรพิษกล่าวอย่างหนักแน่นขณะที่ดวงตาของเขาเผยให้เห็นความเย็นชาและโหดเหี้ยม

เจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าอสรพิษไม่ลังเลเลย เขารีบพุ่งไปยังยาดริมทันที ค่ายกลหลายรูปแบบปรากฏขึ้นในมือของเขา เขาโยนพวกมันออกไปและมันก็รวมเข้ากับพื้นที่โดยรอบทันที

ในเวลาต่อมา พื้นที่รอบ ๆ ยาดริมก็สั่นสะเทือน และนางก็ติดอยู่ในค่ายกล

เจ้าศาลารู้ว่าค่ายกลเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้ยาดริมติดกับ ดังนั้นเขาจึงไม่หยุดแค่นั้น เขาขว้างค่ายกลออกไปทีละอัน เขาสร้างค่ายกลถึงแปดชั้นภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ละค่ายกลมีพลังที่น่าสะพรึงกลัว พวกมันสามารถถูกใช้เพื่อจัดการกับเซียนจักรพรรดิ และมีค่ายกลที่น่ากลัวไม่น้อยไปกว่าค่ายกลเก้ามังกรพิฆาตรวมอยู่ด้วย

เจ้าศาลาแห่งศาลาวิญญาณสวรรค์ถอนหายใจอย่างโล่งอกทันทีเมื่อเขาเห็นว่าเขาทำให้ยาดริมติดอยู่ในกับดัก เขาคิดว่า “ค่ายกลเหล่านี้อาจจะไร้ประโยชน์สำหรับเจี้ยนเฉิน แต่ข้าไม่คิดว่ามันจะได้ผลเช่นเดียวกันกับเจ้า” เขาได้เตรียมค่ายกลส่วนใหญ่เหล่านี้ไว้สำหรับเจี้ยนเฉิน แต่เมื่อเห็นว่าพวกมันจะไร้ประโยชน์ เขาจึงใช้มันกับยาดริมแทน

ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าศาลาเทพเจ้าอสรพิษก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายให้กับเจี้ยนเฉิน เขากำลังจะขว้างหินฟ้าสะเทือนทั้งสองชิ้น

อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินก็เคลื่อนที่เร็วกว่าเขา กระบี่จือหยิงที่อยู่ข้างใต้เขากลับคืนสู่ขนาดเดิมในทันทีและปรากฏขึ้นอีกครั้งในมือของเขา จากนั้นมันก็พุ่งเป็นแสงสีม่วงไปที่เจ้าศาลา

ริ้วของแสงนั้นเร็วมาก และด้วยระยะห่างระหว่างทั้งสอง เจ้าศาลาจึงไม่สามารถตอบสนองได้ทัน แสงสีม่วงมาถึงเขาและตัดมือของเขาอย่างรวดเร็ว

เจี้ยนเฉินเอาหินฟ้าสะเทือนทั้งสองออกจากมือที่ถูกตัดขาดมาได้สำเร็จ ก่อนที่จะกลับไปยังจุดที่เขายืน

เจ้าศาลาส่งเสียงร้องโหยหวนเมื่อมือของเขาถูกตัดออก ในไม่ช้าเขาก็หน้าซีด แสงที่รุนแรงกระพริบที่บาดแผลของเขาราว ปราณกระบี่ที่ตกค้างทำลายบาดแผลของเขา ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างมาก ความเจ็บปวดทำให้ใบหน้าของเขากระตุก

เลือดตกจากที่สูงบนท้องฟ้าในขณะที่ข้อมือของเขาพ่นเลือดจำนวนมาก เลือดสาดลงมาเหมือนฝน

นี่คือเลือดของเซียนจักรพรรดิ ทุกหยดมีคลื่นพลังงานอันทรงพลัง นี่เป็นสมบัติที่หายากสำหรับคนทั่วไป

เจี้ยนเฉินไม่ปล่อยให้โอกาสทองหลุดลอยไป เขาดึงถุงน้ำเต้าขนาดใหญ่ออกจากวงแหวนมิติและเก็บเลือดไว้ทั้งหมด

เจ้าศาลาจ้องข้อมือที่นองเลือดด้วยความตกใจ ดวงตาของเขาเบิกกว้างจนถึงจุดที่มันเกือบจะหลุดจากเบ้าออกมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อเช่นเดียวกับความกลัวที่อธิบายไม่ได้

มันเป็นไปไม่ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องจริง” เจ้าศาลาร้องออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ สายตาของเขาที่มองเจี้ยนเฉินก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวในขณะที่เขาถอยกลับอย่างรวดเร็ว

เจี้ยนเฉินกลับไปยืนเหนือกระบี่จือหยิงในขณะที่เขาตรวจสอบหินฟ้าสะเทือนสองชิ้นในมือ เขายิ้มบาง ๆ หลังจากนั้นและพูดว่า “ช่างเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ ! การมีหินฟ้าสะเทือนระดับสูง 2 ชิ้นไว้ครอบครองเช่นนี้ หมายความว่าศาลาเทพเจ้าอสรพิษเป็นศาลาโบราณที่มีมานานหลายร้อยหลายพันปี”

เจ้าศาลาหวาดกลัวมาก เขาจ้องมองกระบี่จือหยิงใต้เท้าของเจี้ยนเฉินด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและตะโกนด้วยความตกใจว่า “นี่ไม่ใช่พลังที่มาจากตัวเจ้าเอง เจี้ยนเฉิน เจ้ากำลังใช้อะไร ? ”

เจี้ยนเฉินใส่หินฟ้าสะเทือนลงไปในแหวนมิติอย่างมีความสุข เขาจ้องเจ้าศาลาและพูดว่า “นี่คือกระบี่ที่ข้าเพิ่งหลอมมา กระบี่ทั้งสองนี้ทำให้ข้าสามารถสังหารเซียนจักรพรรดิได้เหมือนมดที่ถูกบดขยี้ เจ้าศาลา มีอะไรก็เอาออกมาใช้”

เจ้าศาลาเทพเจ้าอสรพิษหน้าซีด เขาจ้องกระบี่ทั้งสอง ความโลภบางส่วนกระพริบผ่านดวงตาของเขา แต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็หันไปหลบหนี เขาไม่อยากอยู่ต่ออีกแม้สักวินาทีเดียว