ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 138 ความตายของคนชุดดำ

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​ริมฝีปาก​ของ​หวัง​จือ​เช่​อป​รากฏ​รอยยิ้ม​เย้ยหยัน​ ​แววตา​ค่อนข้าง​เศร้า

​ค่ำคืน​ที่​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ถูก​ตี​แตก​ ​ทันทีที่​วิกฤตการณ์​อัน​เกิด​จาก​การ​รุกราน​ของ​ดินแดน​เซิ​่​งก​วง​ได้รับ​การ​แก้ไข​ ​เขา​ก็​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​การ​ล้อม​จู่โจม​ของ​สี่​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​ศักดิ์สิทธิ์​เผ่า​มนุษย์

​“​ตาม​ความเห็น​ของ​ท่าน​ ​นี่​เป็นเรื่อง​น่าเศร้า​ ​ตาม​ความเห็น​ของ​ข้า​ ​ก็​เฉกเช่น​เดียวกัน​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​พูด​ต่อ​ ​“​ข้า​เคย​อ่าน​บันทึก​ของ​ท่าน​ ​อีกทั้ง​หนังสือ​มากมาย​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​ท่าน​ ​จึง​หวัง​เป็น​อย่างยิ่ง​ว่า​ ​คืนนี้​จะ​ไม่เห็น​ท่าน​ ​เช่นนี้​ท่าน​ก็​ยังคง​เป็น​ตำนาน​ใน​ใจ​ข้า​”

​หวัง​จือ​เช่อ​คลาย​มือ​ออกจาก​คน​ชุด​ดำ​ ​แล้ว​ก้าว​ลง​บันได​ศิลา​ ​มายื​นอยู​่​ด้านล่าง​ ​มองดู​ผู้คน​ ​ก่อน​พูด​อย่างสงบ​นิ่ง​ ​“​ขออภัย​”

​บรรยากาศ​ตึงเครียด​พลัน​ถูก​เสียง​หนึ่ง​ทำลาย​ลง

​“​ข้าว​่า​…​ทุกท่าน​ให้​ความเคารพ​ข้า​หน่อย​ได้​ไหม​ ​ที่นี่​คือ​บ้าน​ข้า​”

​ราชา​มาร​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​สอง​ก้าว​แล้ว​ว่า​ ​“​หรือไม่​สมควร​ที่​ข้า​จะ​เป็นตัว​เอก​ของ​โศก​นาฎกรรม​ใน​คืนนี้​”

​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​นึกถึง​จดหมาย​เหล่านั้น​ ​จึง​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​“​โศก​นาฎกรรม​มัก​มาจาก​การ​เล่นแง่​ ​เจ้า​อายุ​ยังน้อย​ ​ไม่​นับว่า​เล่นแง่​”

​“​ข้า​ถือว่า​นี่​เป็น​คำชม​ก็แล้วกัน​”

​ราชา​มาร​พูด​จริงจัง​ขณะ​จ้องมอง​เขา​ ​แล้วจึง​หัน​กาย​ไป​ทาง​คน​ชุด​ดำ​ ​ก่อน​พูดจาก​ใจจริง​ ​“​เจ้า​เตรียม​ไป​จาก​ที่นี่​กับ​ชาย​คน​นี้​จริงๆ​ ​หรือ​”

​คน​ชุด​ดำ​ก้มหน้า​ลง​เล็กน้อย​ ​มุม​ปาก​ปรากฏ​รอยยิ้ม​อ้างว้าง​ ​แม้​สีหน้า​เป็น​สีเขียว​ประหลาด​ๆ​ ​แต่​ยังคง​ดู​สวย​แปลกตา​ไป​อีก​แบบ

​แล้ว​สายตา​ของ​ราชา​มาร​ก็​เปลี่ยนเป็น​ร้อนแรง​ขึ้น​มา​ ​“​ข้า​ไม่​ปล่อย​เจ้า​ไป​หรอก​!​”

​จู่ๆ​ ​ก็​มี​ลม​พัดมา​ ​ไม่เห็น​หวัง​จือ​เช่อ​เคลื่อนไหว​ ​แต่​เขา​กลับ​ขึ้นไป​อยู่​ด้านบน​และ​บีบ​คอ​ราชา​มาร​ไว้

​อาวุธ​ชิ้น​หนึ่ง​ตกลง​บน​เท้า​ของ​ราชา​มาร​ ​ก่อน​จะ​แหลก​ละเอียด​

​เมื่อ​ครู่​เขา​คิด​ใช้​อาวุธ​มาร​ชิ้น​นี้​แทง​คน​ชุด​ดำ​ ​แต่​ยัง​ไม่ทัน​จู่โจม​ออก​ ​ก็​ถูก​หวัง​จือ​เช่​อส​กัด​ไว้​แล้ว

​ราชา​มาร​หน้าแดง​ ​ใกล้​หายใจไม่ออก​อยู่​รอมร่อ​ ​แต่กลับ​หัวเราะ​ไม่​หยุด

​หวัง​จือ​เช่อ​ค่อยๆ​ ​คลาย​มือ​ออก​ ​สีหน้า​เปลี่ยนเป็น​ซีด​ขาว

​คน​ชุด​ดำ​ล้ม​ลง​บน​พื้น​ ​เสียชีวิต​แล้ว

​กระบี่​ที่​ดูเหมือน​กระบี่​ธรรมดาๆ​ ​เล่ม​หนึ่ง​แทง​ทะลุ​ร่าง​นาง​ ​ตรง​เข้า​ทำลาย​แดน​ลี้ลับ​ของ​นาง

​ผู้​จับ​กระบี่​ ​คือ​คน​ชุด​เขียว​คน​หนึ่ง

​คน​ชุด​เขียว​แอบ​อยู่​ใน​เงามืด​ของ​ราชา​มาร​มาโดยตลอด​ ​จน​สบโอกาส​เมื่อ​ครู่​ ​ค่อย​แสดง​ฝีมือ​ออกมา

​แม้​ได้รับ​ความช่วยเหลือ​จาก​ราชา​มาร​ ​แม้​หวัง​จือ​เช่อ​ใจจดใจจ่อ​อยู่​แต่​กับ​พวก​หวังผ​้อ​ ​ทว่า​สามารถ​สังหาร​คน​ต่อหน้า​หวัง​จือ​เช่อ​ได้​ ​คน​ชุด​เขียว​ย่อม​มิใช่​นักฆ่า​ธรรมดา

​เขา​เป็น​นักฆ่า​อันดับ​หนึ่ง​ใน​ใต้​หล้า​ ​หลิว​ชิง

​เฉิน​ฉาง​เซิง​กับ​หวังผ​้อ​หันมา​สบตา​กัน

​คน​สาม​คนใน​เรื่องเล่า​ขาน​ที่​สวิน​หยาง​ล้วน​มากั​นครบ​แล้ว

​……

​……

​คน​ชุด​ดำ​ก็​เสียชีวิต​ไป​เช่นนี้

​หวัง​จือ​เช่อ​ยืน​นิ่ง​อยู่​หน้า​ร่าง​ของ​นาง​ ​ไม่รู้​กำลัง​คิด​อะไร

​จน​ท้ายที่สุด​ ​เขา​ก็​มิได้​ลงมือ

​เขา​อุ้ม​ศพ​ของ​คน​ชุด​ดำ​ขึ้น​ ​ก้าว​ออก​นอก​ตำหนัก​มาร​ไป​ ​แล้ว​หาย​ไป​อย่างรวดเร็ว

​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​พูด​กับ​ราชา​มาร​ ​“​ขอบใจ​นะ​”

​ราชา​มาร​ตอบ​ ​“​ข้า​เคย​บอกว่า​ข้า​รัก​นาง​ ​เมื่อ​เกิด​วัน​เดียว​เดือน​เดียว​ปี​เดียว​กับ​นาง​ไม่ได้​ ​อย่างน้อย​ก็​ต้องตาย​วัน​เดียว​เดือน​เดียว​ปี​เดียวกัน​”

​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ว่า​ ​“​รับ​พวก​เจ้า​ไม่ได้​”

​ราชา​มาร​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​“​ต่อไป​ก็​ไม่ต้อง​รับ​แล้ว​ ​ลาก่อน​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​พูด​อย่างจริงจัง​ ​“​ไป​สู่​สุคติ​”

​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ลุก​จาก​เก้าอี้​รถเข็น​ ​ขึ้น​มายื​นอย​่าง​ยากเย็น​ ​ก่อน​พูด​กับ​เขา​ ​“​ลาก่อน​”

​หลังจาก​ก้าว​เข้าไป​ใน​เพลิง​มาร​ที่​มืด​ดุจ​ราตรีกาล​ ​ร่าง​ของ​ราชา​มาร​ก็​ค่อยๆ​ ​กลายเป็น​ความว่างเปล่า

​จน​พริบตา​สุดท้าย​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​ยัง​มี​รอยยิ้ม​ที่​ค่อนข้าง​พอใจ​ ​ค่อนข้าง​แปลก​ ​ไม่รู้​หมายความว่า​อะไร

​……

​……

​หิมะ​ตก​แล้ว​ ​ละออง​หิมะ​ลอยละล่อง​ไป​ทั่ว​ท้องฟ้า​ยามค่ำคืน

​เศษ​แสง​เหล่านั้น​ยังคง​ล่องลอย​อยู่​บน​ท้องฟ้า​ ​ราวกับ​ดอกไม้ไฟ​อย่างไร​อย่างนั้น

​หวัง​จือ​เช่​ออุ​้ม​คน​ชุด​ดำ​ออกจาก​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า

​ครึ่ง​เมือง​มีด​อก​ไม้​ไฟ​ ​ครึ่ง​เมือง​มี​หิมะ

​เนิน​หิมะ​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ ​แกะดำ​ตัว​หนึ่ง​กำลัง​มอง​มาทาง​นี้

​……

​……

​ราตรีกาล​อย่างไร​ก็​ต้อง​ผ่านพ้น​ ​เช้า​วัน​ใหม่​ต้อง​มา​เยือน

​ในที่สุด​ทหาร​กบฏ​ก็​ถูก​จู่โจม​จน​แตก​พ่าย​ ​หนี​ออก​นอกเมือง​หลวง​ ​ค่าย​ผิง​เป่ย​กับ​ทหาร​อวี​่​หลิน​รวมตัวกัน​ใน​ที่​แห่งหนึ​่ง​ ​เริ่ม​ออก​ไล่​ล่า

​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้​อม​อบ​อำนาจ​บัญชาการ​ให้​ทหาร​เผ่า​มนุษย์​ ​ก่อน​พัก​อยู่​ใน​สำนัก​ฝึก​หลวง

​หลังจาก​สู้รบ​อย่างหนัก​มา​หนึ่ง​คืน​ ​แม้​ผู้​ซึ่ง​อยู่​ใน​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ครึ่ง​ก้าว​อย่าง​เขา​ก็​ยัง​บาดเจ็บ​ไป​หลาย​แห่ง​ ​โดยเฉพาะ​ขณะ​ถูก​ยอด​ฝีมือ​สกุล​เทียน​ไห่​ล้อม​จู่โจม​ ​ไหล่​ซ้าย​ถูก​ฟัน​เป็นแผล​เปิด​ขนาดใหญ่​ ​ตอนนั้น​โลหิต​ไหล​ราว​น้ำตก​ก็​มิ​ปาน​ ​แม้แต่​เขา​เอง​ก็​ยัง​ค่อนข้าง​แปลกใจ​ว่า​ ​เหตุใด​จนถึง​ตอนนี้​ ​ก็​ยัง​ไม่รู้​สึก​วิงเวียน​ศีรษะ

​แน่นอน​ ​ยอด​ฝีมือ​สกุล​เทียน​ไห่​เหล่านั้น​ล้วน​เสียชีวิต​ภายใต้​คมกระ​บี่​โลหะ​ของ​เขา

​นึกถึง​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ​ใน​งานเลี้ยง​สังสรรค์​ของ​สำนัก​ไม้เลื้อย​ ​ตน​ถูก​เทียน​ไห่​หยา​เอ๋อร​์​ทุบตี​จน​พิการ​ ​ก็​อด​รู้สึก​ทอดถอนใจ​ไม่ได้

​เขา​รู้​ว่า​ ​เทียน​ไห่​หยา​เอ๋อร​์​เสียชีวิต​แต่​เมื่อ​สาม​ปีก่อน​แล้ว​ ​ว่า​กัน​ว่า​ตาย​อย่าง​ไม่เต็มใจ​นัก

​พอ​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้​อก​้าว​เข้าไป​ใน​สำนัก​ฝึก​หลวง​ ​ก็​สัมผัส​ได้​ถึง​สายตา​เกรงขาม​ที่​เหล่า​ศิษย์​อาจารย์​จ้องมอง​มา​ ​จึง​รู้สึก​อึดอัด​ใจอยู่​บ้าง

​เห็นชัด​ว่า​ ​ศิษย์​อาจารย์​ใน​สำนัก​ฝึก​หลวง​มอง​เขา​อย่าง​คนแปลกหน้า

​ทั้งๆ​ ​ที่​เขา​เป็น​ศิษย์เก่า​ของ​สำนัก​ฝึก​หลวง​ ​กระทั่ง​คล้าย​มีตำ​แหน่ง​พ่วง​ด้วย

​ที่​หอ​ตำรา​เงียบสงบ​กว่า​มาก​ ​กำแพง​เตี้ย​ถูก​รื้อ​ออก​ไป​แล้ว​ ​หอ​เล็ก​ยังคง​อยู่​ใน​สภาพ​เดิม​ ​เว้นเสียแต่​ซูม​่​ออ​วี​๋​มิได้​สอน​ ​และ​นักเรียน​อยู่​ใน​นั้น​ได้

​ห้องหับ​เหล่านั้น​มี​ไว้​ให้​เจ๋อ​ซิ่ว​ ​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​และ​เขา

​หน้า​หอ​เล็ก​มีต​้น​ไม้​มากมาย​ ​ยิ่ง​ใน​ป่า​ทิศ​ที่​ใกล้​กับ​พระราชวัง​ ​ก็​ยิ่ง​มีต​้น​ไม้​ใหญ่​มาก

​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้อ​หวนคิด​ถึง​อดีต​ ​แล้ว​รู้สึก​เสียดาย​อยู่​บ้าง

​เมื่อก่อน​เขา​มัก​มาช​กต​้น​ไม้​ใน​ป่า​แห่ง​นั้น​ ​แต่​ตอนนี้​เขา​ไม่กล้า​ทำ​เช่นนั้น​อีก​ ​เพราะ​ถ้า​เขา​เที่ยว​ชก​ต้นไม้​ตามอำเภอใจ​ ​ต้นไม้​หนา​ขนาด​ไหน​ ​ก็​ล้วน​ต้อง​หัก​โค่น​ลง

​พอ​เดิน​ไป​อีก​ด้าน​ของ​ทะเลสาบ​ ​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้​อก​็​เห็น​สิ่งก่อสร้าง​ที่​ตน​คุ้นเคย​ที่สุด​…​ห้องครัว

​ห้องครัว​เดิม​ถูก​อู๋ฉ​ยง​ปี้​ทำลาย​ไป​ ​ตอนนี้​ได้รับ​การซ่อมแซม​แล้ว​ ​ทว่า​ไม่มี​อะไร​แตกต่าง​ไป​จาก​เดิม

​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้​อก​้าว​เข้าไป​ใน​ห้องครัว​ ​ขณะ​มองดู​หม้อ​ไห​จานชาม​เหล่านั้น​ ​ก็​นึกถึง​เฉิน​ฉาง​เซิง​ที่มา​ขอให้​เขา​ใส่​น้ำมัน​กับ​เกลือ​ให้​น้อยลง​หน่อย​ ​จึง​รู้สึก​จืดชืด​ใน​ปาก​ขึ้น​มา​ ​จากนั้น​ก็​นึกถึง​ตอน​กินข้าว​ขาว​กับ​กุ้งมังกร​สีน้ำเงิน​นึ่ง​ร่วมกับ​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​หลายครั้ง​ ​จึง​รู้สึก​น้ำลายสอ​ขึ้น​มา

​ใน​ห้องครัว​ไม่มี​ของกิน​ ​เห็นที​ยาม​ปกติ​ที่นี่​คง​ไม่มี​คน​มา​ใช้​ ​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้​อรู​้​สึก​เสียใจ​อยู่​บ้าง

​ก่อน​จากไป​ ​เขามอ​งดู​กอง​ฟืน​ที่​เป็นระเบียบ​ ​แล้ว​เงียบ​อยู่​สักพัก​ ​ค่อย​ใช้​กระบี่​โลหะ​เสียบ​เข้าไป

​หลาย​ปีก่อน​ ​ตอนที่​เขา​ก่อ​ฟืน​ทำกับข้าว​อยู่​ใน​นี้​ ​ก็​คุ้นชิน​กับ​การ​ทำ​เช่นนี้

​เพียงแต่​วันนี้​ ​เขา​ไม่​เตรียม​ที่จะ​ชัก​กระบี่​ออก​อีก​ ​เพราะ​เขา​อยาก​ทำตาม​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​กับ​เฉิน​ฉาง​เซิง

​หลังจากนี้​หลาย​สิบ​ปี​ ​กระทั่ง​หลาย​ร้อย​ปี​ ​ถ้า​มีนัก​เรียน​ใหม่​ใน​สำนัก​ฝึก​หลวง​คน​หนึ่ง​ถูก​รังแก​และ​ค้นพบ​กระบี่​โลหะ​ใน​นี้​ ​เรื่องราว​จะ​เป็น​อย่างไร​ต่อ

​สิ่ง​นี้​เป็น​สิ่ง​ที่​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้อ​ตั้งตารอ​คอย

​พอลั​่​วลั​่ว​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​ ​ก็​อยากรู้​มาก​เช่นกัน​ ​จึง​หัวเราะ​ออกมา

​แต่​แล้ว​เสียงหัวเราะ​ก็​หยุด​ลง​กะทันหัน​ ​นาง​อารมณ์​ไม่​ค่อย​ดีนัก

​เมื่อคืน​เป็น​คืน​ที่​ยาวนาน​มาก​ ​เริ่ม​จาก​อาจารย์​ลุง​จักรพรรดิ​ได้​กลายเป็น​ดวงอาทิตย์​ดวง​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ท่าน​อาจารย์​ซึ่ง​อยู่​ใน​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ก็​ติดต่อ​มา​ ​บอก​ไม่​ให้​นาง​ขยับ​ไป​ไหน​

​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​ใน​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​กัน​แน่​ ​ในเมื่อ​อาจารย์​ลุง​จักรพรรดิ​ร้ายกาจ​เช่นนี้​ ​แล้ว​พวก​ข้า​เข้า​เมืองหลวง​มาทำ​ไม

​“​เรื่อง​ที่​เรา​ทำ​ ​ไร้ค​วาม​หมาย​หรือเปล่า​”

​นาง​ยืน​อยู่​บน​ต้นไทร​ขนาดใหญ่​ ​มอง​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้​อพ​ลาง​ถาม​อย่างจริงจัง

​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้อ​ยืน​อยู่​ใต้​ต้นไทร​ ​เป็นห่วง​ว่า​องค์​หญิง​จะ​ตกลง​มา​ ​“​ทรง​มิได้​ปีน​ต้นไทร​มาสิ​บก​ว่า​ปี​แล้ว​ ​ระวัง​ลื่น​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ลั​่​วลั​่​วทำ​หน้า​ทะเล้น​ ​ก่อน​กระโดด​ไป​อีก​กิ่ง​หนึ่ง​อย่าง​คุ้นเคย​ ​แล้ว​เดิน​ไป​ยัง​ปลาย​กิ่ง​ ​มองดู​ทะเลสาบ

​ต้นไม้​เจริญเติบโต​ ​แต่​รูปร่าง​เปลี่ยนแปลง​ไม่​มาก​นัก

​“​ท่าน​เจ้าสำนัก​เคย​บอกว่า​ ​กระบวนการ​สำคัญ​กว่า​เป้าหมาย​ ​เช่นนั้น​ข้า​คิด​ว่า​…​เรา​มา​เมืองหลวง​ย่อม​มีความหมาย​”

​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้อ​ชะงัก​เล็กน้อย​ ​ก่อน​ว่า​ ​“​ซึ่ง​จริงๆ​ ​แล้ว​ข้า​ก็​ไม่เข้าใจ​ความหมาย​ของ​ประโยค​นี้​”

​“​เจ้า​ช่าง​โง่เง่าเต่าตุ่น​เสีย​จริง​”

ลั​่​วลั​่​วว​่า

​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้อ​คิดในใจ​ ​ถ้า​เจ้า​มิใช่​องค์​หญิง​ ​แต่​เป็น​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ ​ข้า​ไม่มีทาง​ปล่อย​เจ้า​ไว้​แน่

ลั​่​วลั​่​วอ​ธิ​บาย​ ​“​ความหมาย​ของ​ท่าน​อาจารย์​ง่าย​มาก​ ​พวกเรา​ล้วน​ต้องตาย​ ​เป้าหมาย​ถูก​กำหนด​ไว้​แล้ว​ ​เช่นนั้น​กระบวนการ​ก็​ต้อง​สำคัญ​กว่า​อย่างไรเล่า​”

​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้อ​คิด​เรื่อง​นี้​อย่างจริงจัง​ ​แล้ว​ว่า​ ​“​ดูเหมือน​มีเหตุผล​มาก​จริงๆ​”

ลั​่​วลั​่ว​มองดู​ทะเลสาบ​ ​เห็น​ปลา​หลี​ฮื้อ​ตัว​ใหญ่​เบ้อเริ่มเทิ่ม​ตัว​หนึ่ง​ ​ไม่รู้​ว่า​ใช่​ตัว​ที่​เมื่อก่อน​เคย​เห็น​หรือไม่

​ปลา​หลี​ฮื้อ​ตัว​นั้น​ค่อยๆ​ ​ว่าย​ลง​ก้น​ทะเลสาบ

​แต่​จู่ๆ​ ​มัน​ก็​ส่าย​หาง​ ​แล้ว​เริ่ม​ว่าย​กลับ​ขึ้น​มาบน​ผิวน้ำ​อย่าง​เริงร่า​ ​ทำให้เกิด​ละออง​น้ำ​มากมาย

ลั​่​วลั​่​วสุข​ใจ​จน​หัวเราะ​ขึ้น​มา

​……

​……

​หลังจากนั้น​อีก​หลาย​วัน​ ​กลุ่ม​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก็​กลับ​ถึง​เมืองหลวง

​บน​ท้องถนน​ยัง​มี​ร่องรอย​ของ​การสู้​รบ​อยู่​ ​สิ่งก่อสร้าง​มากมาย​ถล่ม​ลงมา​ ​ได้ยิน​ว่า​กระทั่ง​โถง​รับแขก​ใน​จวน​ขุนพล​เทพ​ตง​อวี​้​ก็​พัง​ย่อยยับ​ ​ดีที​่​ไม่มีใคร​เป็น​อะไร

​โรง​เตี​๊​ยม​ใน​ตรอก​ไป๋ฮ​วายิ​่ง​เสียหาย​หนัก​ ​หลัง​ผ่าน​ฝน​ฤดูใบไม้ร่วง​ไป​สองครั​้ง​ ​ก็​ยัง​ไม่รู้​ว่า​ควัน​ลอย​ออกมา​จาก​ส่วน​ไหน

​เฉิน​ฉาง​เซิง​มิได้​กลับ​พระราชวัง​หลีก​่อน​ ​แต่​ตรง​ไป​ยัง​สำนัก​ฝึก​หลวง

​ไม่ได้​เจอ​หน้า​กัน​นาน​ ​ย่อม​คิดถึง​มาก

​ขณะลั​่​วลั​่​วกำ​ลัง​จะ​โผ​เข้าไป​ใน​อ้อมอก​ของ​เขา​ ​พลัน​รู้สึก​ว่า​บน​ร่าง​เขา​มีบาง​สิ่ง​บางอย่าง​ไม่​เหมือนเดิม​ ​จึง​ทำตา​ลุก​วาว​โดยไม่รู้ตัว

​เฉิน​ฉาง​เซิง​พยักหน้า​หงึกๆ

ลั​่​วลั​่ว​ส่งเสียง​ อา ​เบา​ๆ​ ​ออกมา​ ​แล้ว​รีบ​ยกมือ​ขึ้น​ปิดปาก​ ​แววตา​เต็มไปด้วย​ความแปลกใจ​ระคน​ดีใจ

​เฉิน​ฉาง​เซิง​หัวเราะ​พลาง​ลูบ​ศีรษะ​นาง

ลั​่​วลั​่ว​เอียง​คอ​ ​หรี่​ตาม​อง​ ​คล้าย​เสือน้อย​ตัว​หนึ่ง​ ​น่ารักน่าชัง​ยิ่ง

​เฉิน​ฉาง​เซิง​เก็บ​มือ​ลง

​ขณะลั​่​วลั​่ว​เตรียม​โผ​เข้าไป​ใน​อ้อมอก​ท่าน​อาจารย์​ต่อ​จาก​เมื่อ​ครู่​ ​ก็​พลัน​เห็น​ชุด​ขาว​ชุด​หนึ่ง

​จึง​รีบ​เก็บ​รอยยิ้ม​ ​ก่อน​พูดจา​ขึงขัง​ ​“​คารวะ​อาจารย์​หญิง​”

​……

​……

​สวี​โหย​่ว​หร​งก​ลับ​มา​แล้ว​ ​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ก็​กลับมา​แล้ว​ ​ซูม​่​ออ​วี​๋​ ​ชู​เหวิน​ปิน​และ​เหล่า​ศิษย์​อาจารย์​ก็​กลับมา​แล้ว

​แน่นอน​ว่า​บางคน​ไม่​อาจ​กลับมา​ตลอดไป

​กวน​เฟย​ไป๋​กับ​ไป๋​ไช​่​มิได้​มา​พบ​โก่ว​หาน​สือ​ที่​เมืองหลวง​ ​แต่​ตรงดิ่ง​กลับ​เขา​หลี​ซาน

​พอ​ศิษย์​เขา​หลี​ซาน​เห็น​อัฐิ​เหล่านั้น​ ​ก็​ร่ำไห้​กัน​ทั้งหมด​ ​จากนั้น​ก็​เมามาย​ไป​สาม​วัน

​ชี​เจียน​ก็​โศกเศร้า​มาก​เช่นเดียวกัน​ ​เนื่องจาก​ศิษย์​พี่​เหลียง​ปั้น​หู​เสียชีวิต​แล้ว​ ​แต่​นาง​มิได้​ดื่ม​สุรา​ ​เพราะ​นอกจาก​เศร้าใจ​แล้ว​ ​นาง​ยัง​กังวลใจ​ด้วย

​เจ๋อ​ซิ่ว​มิได้​กลับมา

​เขา​มิได้​กลับ​เขา​หลี​ซาน​ ​และ​มิได้​กลับ​สำนัก​ฝึก​หลวง​ ​ชน​เผ่า​หมาป่า​บน​ทุ่งหญ้า​ก็​กำลัง​สืบ​ข่าว​ของ​เขา​อยู่

​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​เขา​ไป​ไหน​ ​และ​ไม่รู้​ว่า​เขา​ยัง​มีชีวิต​อยู่​หรือไม่

​เฉิน​ฉาง​เซิง​มองดู​ห้อง​ที่​ปิด​มิดชิด​พลาง​ว่า​ ​“​ถ้า​ตอนนั้น​เขา​สามารถ​รอดชีวิต​ออกจาก​คุก​โจว​ได้​ ​ก็​ไม่มีเหตุผล​ที่จะ​เสียชีวิต​เช่นนี้​”

​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ว่า​ ​“​ข้า​ก็​คิด​ว่า​เขา​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​เพราะ​เขา​ยัง​ไม่ได้​จ่ายหนี้​มากมาย​ที่​ติดค้าง​ข้า​”

​……

​……

​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ต้อนรับ​การ​มา​เยือน​ของ​ฤดูหนาว​อัน​หนาวเหน็บ​ ​หิมะ​ตกลง​มา​อย่างหนัก​ดุจ​ขน​ห่าน​อย่างไร​อย่างนั้น

​ใน​เมือง​ยัง​นับว่า​ไม่เลว​ ​เนื่องด้วย​หลังจาก​เหล่า​เชื้อพระวงศ์​และ​ผู้สูงศักดิ์​เสียชีวิต​ ​สมบัติพัสถาน​ที่​หลงเหลือ​ไว้​ยัง​มีมาก​พอ​ ​แต่​ชีวิต​นอกเมือง​กลับ​แร้นแค้น​ยิ่ง

​พอ​เผ่า​มนุษย์​ยึด​กำลัง​ทหาร​ได้​ ​ก็​ใช้​กฎหมาย​ที่​เข้มงวด​ ​รักษา​ความมั่นคง​ใน​เมือง​ ​แต่​นอกเมือง​กลับ​จัดการ​อะไร​ไม่ได้​มาก​นัก​ ​ได้​แต่​ดู​ว่า​ฤดูใบไม้ผลิ​ใน​ปีหน้า​ ​จะ​มี​เสบียงอาหาร​ส่ง​มาช​่วย​เหลือ​เพิ่มเติม​หรือไม่

​ด้าน​เหนือ​ของ​เมือง​มี​เนิน​หญ้า​อยู่​เนิน​หนึ่ง​ ​ถูก​หิมะ​ปกคลุม​อย่าง​หนา​ทึบ​ ​ทำให้​ดู​ไม่​ออก​ว่าที่​นี่​เคย​เป็น​สุสาน​แห่งหนึ​่ง

​มี​เพียง​แท่งหิน​สีดำ​ที่​โผล่​ออกจาก​พื้น​หิมะ​เป็นครั้งคราว​ ​บ่งบอก​ให้​รู้​ว่าที่​นี่​เคย​ถูก​ใช้งาน​มาก​่อน

​พื้น​หิมะ​พลัน​ขยับ​ขึ้น​ ​แล้ว​ค่อยๆ​ ​ยุบตัว​ลง​ ​จากนั้น​ก้อน​หิมะ​ก็​ตกลง​ไป​ ​เผย​ให้​เห็น​คน​คน​หนึ่ง

​คน​ผู้​นี้​สวม​เสื้อ​ขาด​รุ่งริ่ง​ ​ผิวหนัง​ที่​แลบ​ออก​นอก​เสื้อผ้า​เป็น​สีเขียว​อ่อน​ ​ทำให้​รู้สึก​ขยะแขยง​ ​พร้อม​ส่งกลิ่น​เหม็น​เน่า​ของ​ซากศพ​ออกมา​ ​ไม่รู้​จริงๆ​ ​ว่า​เป็น​ซากศพ​หรือ​คน​มีชีวิต

​ถ้า​ไม่ใช่​เพราะ​อากาศ​เย็น​จัด​ ​เกรง​ว่า​กลิ่น​เหม็น​ของ​ซากศพ​เหล่านี้​จะ​ลอย​ไป​ได้​อีก​ไกล

​คน​ประหลาด​ผู้​นี้​จับ​ก้อน​หิมะ​ขึ้น​มา​ ​ค่อยๆ​ ​ขัด​ล้าง​ร่าง​สีเขียว​ของ​ตนเอง​ ​จากนั้น​ก็​พบ​เสื้อคลุม​สีดำ​ตัว​หนึ่ง​ใน​หลุมฝังศพ​ใต้​หิมะ​ ​จึง​เอา​มาค​ลุม​ร่าง​ไว้

​ก่อน​ยก​หมวก​ติด​เสื้อคลุม​ขึ้น​บัง​พายุ​หิมะ​ ​และ​ยัง​บัง​สายตา​ผู้คน​ได้​อีก

​คลับคล้าย​เห็น​แววตา​ที่​เย็นชา​ยิ่ง​ของ​คน​ประหลาด

​……

​……