ตอนที่ 1366: ภัยพิบัติของเผ่าคาเลอร์

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1366: ภัยพิบัติของเผ่าคาเลอร์

” เซียนจักรพรรดิเผ่าเต่ามอบวิธีการบ่มเพาะนี้ให้กับลูกสาวของข้า เขาบอกว่าเมื่อบ่มเพาะด้วยวิธีนี้จนบรรลุ คนที่ฝึกจะกลายเป็นจักรพรรดิ เมื่อลูกสาวของข้ากลายเป็นจักรพรรดิ มันจะเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับเผ่าคาเลอร์ของข้าและพวกเจ้าทุกคน” ไคเทียนกล่าว เขาเชื่อใจสหายเก่าของเขาอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาได้ร่วมเป็นร่วมตายกันมานาน

ทุกคนที่นั่งอยู่หรี่ตาลงเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของเขา พวกเขาทั้งหมดตกตะลึงและหลังจากเงียบไปสักพักหนึ่ง หนึ่งในนั้นจึงถามว่า “ไคเทียน เจ้าต้องมีความสัมพันธ์กับจักรพรรดิแห่งเผ่าเต่าหรือ เขาถึงมอบวิธีการบ่มเพาะที่ทรงพลังให้แก่ลูกสาวของเจ้า แต่ทำไมข้าไม่เคยเห็นเจ้าติดต่อกับเผ่าเต่า ? ”

ไคเทียนถอนหายใจเบา ๆ “พูดตามตรง เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลย มันเป็นเพราะลูกสาวของข้า ลูกสาวของข้าโชคดีพอที่จะได้พบกับจักรพรรดิแห่งเผ่าเต่าครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาทำดีกับนางและได้รับวิธีการบ่มเพาะที่ทรงพลังนี้”

“เป็นอย่างนี้เอง ! ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้าได้ยินมาว่าเผ่าคาเลอร์มีความสัมพันธ์กับเผ่าเต่าในทางใดทางหนึ่ง แต่นั่นเป็นเพียงข่าวลือในอดีตและไม่ได้รับการยืนยัน ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นเท็จ”

“ผู้คุมกฎของเผ่าเต่าได้กลายเป็นจักรพรรดิที่สามารถทำให้อาณาจักรทะเลสั่นสะเทือน ไคเทียน เพราะจักรพรรดิของเผ่าเต่า เผ่าของเจ้าก็จะได้รุ่งเรืองในอีกไม่นาน เมื่อเจ้าได้ดิบได้ดี เจ้าต้องไม่ลืมเราล่ะ”

สหายเก่าหัวเราะกัน พวกเขามีความสุขมากและไคเทียนก็รู้สึกภาคภูมิใจ

“ไคเทียน เจ้ามีเหตุผลอื่นที่เรียกพวกเราทั้งหมดมาที่นี่หรือเปล่า หรือแค่ต้องการจะโอ้อวดเรื่องลูกสาวของเจ้า บอกมาว่าเจ้ามีอะไรอีก ด้วยมิตรภาพของเราหลายปี เราจะช่วยเจ้าไม่ว่าเจ้าจะเจอปัญหาอะไร” ชายชรากล่าว เขาดูแก่มาก แต่เขาอายุพอ ๆ กับไคเทียน

ไคเทียนเปล่งเสียงเบา ๆ และพูดว่า “ลูกสาวของข้าต้องการเหรียญผลึกจำนวนมาก ตอนนี้สถานะทางการเงินของเราไม่ค่อยดี มันไม่เพียงพอที่จะรองรับความต้องการของนาง ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชิญพวกเจ้ามาที่นี่เพื่อให้นางได้ทำการบ่มเพาะต่อไป ข้าต้องการยืมเหรียญผลึกจากพวกเจ้า ในอนาคตข้าจะคืนทั้งต้นทั้งดอกเบี้ยให้”

“มันก็แค่การยืมเหรียญผลึก ไม่ต้องกังวล ไคเทียน เพื่อให้ไคยะสามารถเป็นจักรพรรดิได้โดยเร็วที่สุด เราจะสนับสนุนเจ้าด้วยทุกสิ่งที่เรามีแม้ว่าเราจะต้องหมดตัวก็ตาม ใช่หรือไม่ทุกคน ? ” คนที่พูดเป็นชายหนุ่ม เขาเป็นหัวหน้าเผ่าเฮอมัน

“เจ้าพูดถูก ข้าจะส่งมอบเหรียญผลึกให้ทันทีที่ข้ากลับไป” หัวหน้าเผ่าไทท์กล่าวเสริม เขาใจดีมาก

สหายทั้งห้าของไคเทียนทุกคนแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะสนับสนุนเขาด้วยทุกสิ่งที่พวกเขามี ซึ่งทำให้ไคเทียนอารมณ์ดีมาก ลูกสาวของเขาไม่ค่อยขอเหรียญผลึกจากเขา แต่เขารู้ว่าจำนวนเหรียญที่เขาให้แก่นางทุกเดือนนั้นไม่เพียงพอสำหรับความเร็วในการฝึกฝนของนาง โดยทั่วไปไคเทียนใช้แนวคิดทั้งหมดที่เขาคิดได้ในการรวบรวมทรัพยากรการบ่มเพาะเพื่อที่ลูกสาวของเขาจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีประสิทธิภาพโดยเร็วที่สุด

สหายของไคเทียนทั้งห้าคนจากไป และอีกไม่กี่วันต่อมาพวกเขาก็มาเยือนเผ่าคาเลอร์อีกครั้งด้วยเหรียญผลึกจำนวนมาก พวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในห้องเดียวกันอีกครั้ง

ไคเทียนรับแหวนมิติจากเพื่อนทั้งห้าของเขาอย่างซึ้งใจ เมื่อตรวจสอบแหวนมิติ เขาก็รู้สึกดีใจมากทันที ในแหวนมิติแต่ละวงมีเหรียญผลึกประมาณ 10 – 30 เหรียญซึ่งโดยรวมทั้งหมดก็เกือบร้อยล้านเหรียญ

นี่เป็นจำนวนมหาศาลสำหรับเผ่าคาเลอร์

“สหายของข้าอาจสะสมความมั่งคั่งเป็นเวลาหลายปีแต่พวกเขาก็มอบมันให้ข้าเพื่อที่ลูกสาวของข้าจะได้เป็นจักรพรรดิในไม่ช้า เมื่อไคยะมีพลัง ข้าจะให้นางตอบแทนสหายของข้าอย่างแน่นอน” ไคเทียนรู้สึกปลื้มสุด ๆ สหายของเขานำเหรียญผลึกมาเกือบร้อยล้านเหรียญ พวกเขาให้สิ่งที่เขาต้องการในช่วงเวลาที่เขาเดือดร้อนมากที่สุด ไคเทียนรู้สึกซาบซึ้ง เขาสาบานในใจว่าเขาจะไม่มีวันลืมความเมตตาของสหายเก่า

ในเวลานี้ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกและชายชราก็รีบเข้ามา

ไคเทียนขมวดคิ้ว ขณะนี้เขากำลังพูดถึงเรื่องลับบางอย่างกับสหายเก่าของเขา เขาจึงไม่ต้องการให้ใครเข้ามารบกวน ในขณะที่เขากำลังจะตำหนิบุคคลนั้น เขาก็ปิดปากของตัวเองอย่างแน่นหนาหลังจากที่ได้เห็นชายคนที่เขามา เขาเป็นหนึ่งในศิษย์พี่ของไคเทียนที่มีชื่อว่าไคหลิว เขาไม่ได้ทรงพลังเท่ากับเขา แต่ไคเทียนก็เคารพเขาอย่างมาก

ไคหลิวเหลือบมองแขกทั้งห้าคนที่อยู่ห้องด้วยความเกลียดชังก่อนที่จะแจ้งให้ไคเทียนฟังว่า หัวหน้า มีสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้น เผ่าไทท์, เผ่าเฮอมัน, เผ่ากระบี่ทอง, ตระกูลดาการ์และตระกูลทิงเว่ยได้โจมตีเผ่าของเราพร้อมกัน เราถูกโจมตีอย่างหนักและคนของเราก็ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เราไม่สามารถหยุดพวกเขาได้อีกต่อไป”

อะไรนะ ! ไคเทียนตกใจ เขามองอย่างไม่อยากเชื่อสายตาเพราะหัวหน้าทั้งห้าคนที่ถูกพาดพิงอยู่ที่นี่และพวกเขาเป็นสหายที่ดีของเขา

ในขณะนี้สหายของไคเทียนห้าคนก็ออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ไคเทียนกำลังงงงวย พวกเขาจึงฉวยโอกาสฟาดฝ่ามือไปที่ไคเทียนและจับเขาแช่แข็ง เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีของพวกเขาได้

อ้าก ! ไคเทียนกระอักเลือดออกมาทันที เขาชนเข้ากับผนังห้องอย่างรุนแรงทำให้ทั้งห้องเขย่าไปมา

สีหน้าของไคหลิวเปลี่ยนไป เขาจ้องมองไคเทียนผู้ที่บาดเจ็บสาหัสและดวงตาของเขาก็เปี่ยมล้นไปด้วยความโศกเศร้าอย่างท่วมท้น หลังจากนั้นเขาก็หันหลังกลับโดยไม่พูดอะไรอีก

“เราปล่อยให้เขาหนีไปไม่ได้ เราไม่ควรปล่อยให้คนของเผ่าคาเลอร์รอดชีวิตไป ไม่เช่นนั้นเราจะเดือดร้อน ไล่ตามเขาไป” หัวหน้าเผ่ากระบี่ทองกล่าวอย่างหนักใจก่อนที่จะไล่ตามชายชรา

อย่างไรก็ตามจารึกก็ปรากฏขึ้นบนผนังของห้องในเวลานี้ ไคเทียนเปิดใช้งานค่ายกลที่ถูกเชื่อมโยงไว้ในห้อง แล้วเขาก็ปิดผนึกมันและหยุดหัวหน้าเผ่ากระบี่ทอง

หัวหน้าตระกูลดาการ์ตรวจสอบค่ายกลและกล่าวว่า นี่เป็นค่ายกลที่แข็งแกร่ง เราต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะผ่านมันไป แต่ไม่ต้องกังวล เราได้ล้อมรอบสถานที่นี้ไว้แล้ว ไม่มีใครสามารถหลบหนีได้ ข่าวของเราจะไม่มีวันรั่วไหลออกไป”

ไคเทียนลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก ใบหน้าของเขาซีดเมื่อเขาจ้องมองสหายเก่าด้วยความไม่เชื่อ จิตใจของเขาปวดร้าวขณะที่เขาพูดด้วยเสียงสั่นว่า ” ทำไม ? ทำไมพวกเจ้าจึงทำเช่นนี้ ? ข้าปฏิบัติต่อพวกเจ้าในฐานะสหายที่ดีที่สุดของข้าเสมอ ย้อนกลับไปตอนนั้นพวกเราท่องอาณาจักรแห่งท้องทะเลด้วยกันและก้าวข้ามซากศพนับไม่ถ้วนมาด้วยกัน พวกเจ้าลืมเกี่ยวกับการกรีดเลือดสาบานก่อนหน้านี้หรือ ? ข้าทำผิดอะไร ? พวกเจ้าทั้งห้าจึงร่วมมือกันจัดการกับข้า”

หัวหน้าเผ่าไทท์ถอนหายใจอย่างเบา ๆ ” ไคเทียน เจ้าเคยปฏิบัติกับเราในฐานะสหายหรือไม่ ? หากเจ้าทำ ทำไมเจ้าไม่เคยแบ่งปันวิธีการบ่มเพาะที่ทรงพลังให้กับเราหลังจากที่เจ้าได้รับมา ? ”

” เราจะแบ่งปันความสุขและความเจ็บปวดของเรา ไคเทียน นั่นเป็นคำสาบานของเราตั้งแต่เมื่อก่อน เราไม่เคยทำลายมัน เจ้าต้องการเหรียญผลึก เราก็มอบให้กับเจ้า แต่เผ่าของเจ้าต้องการที่จะดื่มด่ำกับวิธีการบ่มเพาะระดับจักรพรรดิเพียงลำพัง เจ้าคือคนที่ผิดคำสาบาน ไม่ใช่พวกเรา หัวหน้าเผ่ากระบี่ทองตำหนิอย่างเย็นชา

ไคเทียนเริ่มหัวเราะพร้อมด้วยน้ำตาที่ไหลริน เขาพูดพึมพำว่า “พวกเจ้าต้องการวิธีการบ่มเพาะของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดนี่เอง มันเป็นเรื่องตลกที่ข้าคิดว่าข้าปฏิบัติต่อพวกเจ้าในฐานะสหายที่ดีที่สุด การกรีดเลือดสาบานในอดีตนั้นเป็นเรื่องตลก และมิตรภาพที่ผ่านมาของเรานั้นบอบบางมาก ข้าเสียใจมากจริง ๆ ข้าไม่ควรเชื่อใจใครง่าย ๆ ข้าไม่เพียงแต่ทำผิดต่อเผ่า ข้ายังได้ทำผิดต่อลูกสาวของตัวเองอีกด้วย”

“เนื่องจากเป็นวิธีการบ่มเพาะของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปด ผู้คุมกฎเผ่าเต่าคงใช้มันเพื่อให้ถึงระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันของเขา ไคเทียน ส่งมันมาให้เราและเราจะยังคงเป็นสหายกัน เมื่อเราทุกคนกลายเป็นจักรพรรดิ อาณาจักรทะเลทั้งหมดจะเป็นของเรา” สายตาของหัวหน้าตระกูลดาการ์สว่างขึ้นด้วยความกระตือรือร้น

นัยน์ตาของหัวหน้าทั้งสี่ก็เริ่มมอดไหม้ด้วยความปรารถนาเช่นกัน ลมหายใจของพวกเขาเริ่มหนักขึ้น วิธีการบ่มเพาะของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดนั้นดึงดูดใจพวกเขาอย่างมาก และเมื่อพวกเขาได้ยินว่าจักรพรรดิของเผ่าเต่าเคยใช้มันเพื่อที่จะได้เป็นจักรพรรดิ ความโลภในใจของของพวกเขาก็พองโตขึ้น

ไคเทียนหัวเราะเสียงดัง เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในขณะที่พลังงานไหลออกมาจากตัวเขา ทันใดนั้นเขาก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาทั้งห้าโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของเขา เขาต้องการที่จะให้ทั้งห้าคนตายไปพร้อมกับเขา เขาเปิดใช้งานการโจมตีของค่ายกล

“ไคเทียน เนื่องจากแนวคิดเรื่องความเป็นพี่น้องไม่มีอะไรสำคัญสำหรับเจ้า และเจ้าต้องการเก็บวิธีการบ่มเพาะไว้เพื่อตัวเอง เจ้าก็อย่ามาโทษที่ะพวกเราไร้ความปราณี” หัวหน้าเผ่ากระบี่ทองตะโกน

พวกเขาทั้งหมดมีพลังในระดับเดียวกัน และไคเทียนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน เขาไม่สามารถรับมือกับสหายทั้งห้าคนพร้อมกันได้ เขาทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วลงไปในกองเลือดของตัวเอง วิญญาณของเขาถูกกระชากออกไป

“เราต้องผ่านค่ายกลนี้ไปโดยเร็วที่สุด แล้วไปหาตัวไคยะให้พบ วิธีการบ่มเพาะของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดอยู่ที่นางแน่นอน” หัวหน้าเผ่าไทท์พูดกับอีกสี่คนในขณะที่เขากำลังป้องกันการโจมตีจากค่ายกล

เผ่าคาเลอร์เป็นชนเผ่าขนาดกลาง พวกเขาอยู่มาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่พวกเขายังขาดมรดก ค่ายกลของห้องไม่สามารถหยุดเซียนผู้คุมกฎทั้งห้าคนได้ พวกเขาร่วมกันบุกเข้ามาโจมตีค่ายกลอย่างรวดเร็ว

ข้างนอกมีเสียงตะโกนว่า ‘ฆ่า’ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในเผ่าคาเลอร์ ทั้งเผ่าได้ร่วมกันต่อสู้อย่างดุเดือดกับอีกห้าเผ่า มีสิ่งกีดขวางล้อมรอบพื้นที่ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนในเผ่าคาเลอร์หนีไป

ความแตกต่างระหว่างความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายนั้นมากเกินไป ซากศพถูกทิ้งเกลื่อนไปทั่วพื้นดินและเลือดก็ท่วมเป็นหนองน้ำ เผ่าคาเลอร์กำลังจะถูกสังหารล้างเผ่าพันธุ์

ไคหลิวยืนอยู่ข้างนอกห้องลับที่อยู่ในเผ่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน เขาไม่ได้กังวลว่าจะรบกวนคนข้างใน เขาใช้วิธีการที่ตรงที่สุดคือการเคาะบนประตูหินหนัก

ในไม่ช้าประตูก็ถูกเปิดออก มีแสงสีอ่อน ๆ ผ่านออกมา ไคยะนั่งอยู่ตรงกลางห้องในชุดขาว นางสร้างตราประทับด้วยมือในขณะที่ใบหน้าของนางสงบนิ่ง ดูเหมือนว่านางอยู่ในอีกโลกหนึ่ง

นางดูเหมือนเทพธิดาที่นั่งอยู่

ไคยะได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยการฝึกฝนวิธีการบ่มเพาะของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปด.

“ลุงหลิว เกิดอะไรขึ้น ? ท่านดูงุนงงมาก” ไคยะถามอย่างใจเย็น อย่างไรก็ตามพลังแห่งการมีอยู่ของนางก็เปลี่ยนไปเมื่อนางพูด ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์หายไปและนางก็กลายเป็นคนธรรมดาอีกครั้ง

ไคหลิวรีบเข้ามาแล้วพูดว่า “ไคยะ หนีไป สหายทั้งห้าของพ่อของเจ้าตาบอดด้วยความทะเยอทะยาน พวกเขาร่วมมือกันหักหลังพ่อของเจ้า และตอนนี้พ่อของเจ้าก็กำลังตกอยู่ในอันตราย แม้แต่เผ่าของเราก็จะต้องถูกทำลาย ไคยะ หนีไป เจ้าไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป”

ไคยะรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ทันใดนั้นนางก็ยืนขึ้นและถามว่า “ลุงหลิว นี่เป็นเรื่องอะไรกันแน่ ? ”

“ทั้งหมดนี่คงเป็นเพราะพ่อของเจ้าเปิดเผยข่าวออกไป เรื่องที่ว่าเจ้ากำลังฝึกฝนวิธีการบ่มเพาะของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปด” ไคหลิวถอนหายใจพลางพูดว่า “ข้าเคยเตือนเขาไว้ก่อนแล้วว่าอย่าใครรู้เรื่องนี้ ทำไมเขาไม่ฟังข้าเลย” ไคหลิวเสียใจอย่างมาก เขาผิดหวังในสิ่งที่พ่อของไคยะทำลงไป