ตอนที่ 1254 น้ำหนัก 6 ตันในวงโคจร!

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

วันต่อมา

ดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าตามปกติ

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของวันหยุดช่วงวันชาติจีน และวันนี้ก็เป็นวันที่มีความหมายเป็นพิเศษกับคนส่วนใหญ่

ฝ่ายที่ประกาศข่าวเป็นฝ่ายแรกคือเหรินเหรินเดลี่

หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์รายวันฉบับล่าสุดมีคำพาดหัวข่าวอันน่าจับตามองปรากฏขึ้นมา

[น้ำหนัก 6 ตันในวงโคจร!]

[เหล่านักบินอวกาศกำลังต่อสู้อยู่ ณ ชายแดนแห่งอารยธรรมมนุษย์]

รายงานเหล่านี้เป็นเหมือนกับลูกระเบิดที่ถูกโยนลงไปในทะเลสาบอันนิ่งสงบ มันระเบิดตูมตามในทันทีและก่อให้เกิดกระแสการพูดคุยกันหลายต่อ

กลุ่มแรกที่ได้รับผลจากข่าวก็คือคนในวงการวิชาการกับมหาวิทยาลัย

ส่วนคนในวงการวิศวกรรมการบินอวกาศนั้น พวกเขาหลายคนได้ยินข่าวการปล่อยยานที่สำเร็จมาจากช่องทางหลายแห่งตั้งแต่ก่อนที่ข่าวทางการจะออกมาแล้ว…

ณ ห้องแล็บออกแบบการบินและอวกาศในปักกิ่ง

กลุ่มนักวิจัยกำลังยืนล้อมรอบคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง พวกเขาส่งเสียงพูดอย่างตื่นเต้น ในขณะที่สายตาก็จับจ้องไปที่ข่าวและภาพถ่ายบนหน้าจอ

“ดูสิ ดูสิ! ภาพถ่ายของนักวิชาการหยวนล่ะ!”

“อย่างเทพ! ได้ยืนข้างท่านประธานาธิบดีด้วย”

“นักวิชาการลู่ก็ยืนอยู่ข้างๆ เขาใช่ไหมนะ? “

“เฮ้อ เขาก็เป็นพวกเจนวายเหมือนกันกับเรา ทำไมถึงประสบความสำเร็จกันจังเลย? ”

“ฉันว่าอย่าไปคิดเรื่องเขาเป็นคนเจนวายเลย เขาไม่สามารถถูกเรียกว่าเป็นมนุษย์ได้อีกแล้วล่ะ เขาเป็นสัตว์ประหลาดชัดๆ ความสำเร็จแต่ละอย่างของเขาเอาอายุมาวัดไม่ได้หรอก”

“โอ๊ย อิจฉาโว้ย!”

หลังจากที่ ‘เหรินเหรินเดลี่’ รายงานข่าว สื่อหลักอื่นๆ ก็เข้ามาร่วมกระแสกันด้วย

แล้วรายงานข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วโลกในทันที พวกมันขึ้นหน้าข่าวกำลังมาแรงบนแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตหลักๆ อย่างรวดเร็ว

ผู้คนที่ยังอยู่กับข่าวพาเหรดทหารและข่าวโชว์วันฉลองก็ตกใจไปตามๆ กันกับข่าวน่าทึ่งนี้

ของน้ำหนัก 6 ตันสามารถถูกยิงส่งไปยังวงโคจรได้จริงๆ น่ะเหรอ?!

อะไรวะเนี่ย

พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งได้อ่านรายงานของเหรินเหรินเดลี่เต็มๆ จึงเข้าใจ

ทุกคนตกตะลึง

“ให้ตายเถอะ! พระเจ้า! ”

“ปืนใหญ่บนดวงจันทร์! ”

“นักวิชาการลู่เก่งเกินไปแล้ว! ”

“อย่าคิดว่านักวิชาการลู่อยู่เบื้องหลังทุกอย่างสิ งานนี้เขาเกี่ยวข้องด้วยเหรอ? ”

“แต่ชื่อของเขาอยู่ในชื่อสมาชิกทีมวิจัยนะ…”

“อุ้ย โอเค โทษที”

คอมเมนต์หลักหมื่นหลั่งไหลเข้ามาเหมือนกระแสน้ำหลากในช่องคอมเมนต์ของเว่ยป๋อและเหรินเหรินเดลี่ ผู้คนในนั้นคุยกันทุกอย่างตั้งแต่เรื่องน็อตของรางอวกาศบนดวงจันทร์ไปจนถึงเรื่องญาติๆ ของนักบินอวกาศ พวกเขาคุยแม้กระทั่งเรื่องชีวิตรักของนักวิชาการลู่

เหมือนกับสื่อจะไม่สนใจเรื่องคนดังและศิลปินอีกต่อไป แทบทุกคนต่างให้ความสนใจกับ ‘ปืนใหญ่ดวงจันทร์’ กันทั้งนั้น

พวกเขาตกตะลึง!

ทึ่ง!

ไม่อยากจะเชื่อ!

วิธีการขนย้ายแบบเดิมที่ใช้ยานโดยสารกลับที่มีระบบพลังงานในการนำยานพัสดุย้ายไปยังวงโคจรขนย้ายของดวงจันทร์มันล้าสมัยไปแล้วเหรอ?

นี่หมายความว่าพวกเขากำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของการบินและอวกาศแล้วเหรอ?

ขนาดเป็นคนที่ไม่มีความรู้เรื่องยานบินอวกาศก็ยังบอกได้จากรายงานข่าวนี้ว่า สิ่งนี้จะกลายเป็นพัฒนาการก้าวใหม่ในประวัติศาสตร์ของการบินและอวกาศอย่างแน่นอน

พวกเขาไม่ได้คาดว่าจะตื่นเช้ามาแล้วเจอเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์แบบนี้

มันน่ามหัศจรรย์มาก!

การพูดคุยเรื่องนี้บนโลกอินเทอร์เน็ตยังคงมีกระแสแรงต่อไป

แล้วมันก็แพร่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว

เมื่อผู้คนเห็นรูปถ่ายทางอากาศที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ทางการของปราสาทจันทรา แทบทุกคนก็ต่างตกตะลึงกับลูกกระสุนสีเงินที่พุ่งทะยานผ่านท้องฟ้าอันยามราตรี

ส่วนกลุ่มคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ตั้งแต่แรกก็ยังประหลาดใจอยู่ดีเมื่อพวกเขารู้เรื่องทั้งหมดเข้า

บนเฟซบุ๊ก

เรื่องรางอวกาศบนดวงจันทร์ได้รับการถกเถียงประเด็นกันมากมาย

“ปืนใหญ่ดวงจันทร์เหรอ? อิหยังวะเนี่ย? ”

“การเร่งพลังสนามแม่เหล็กให้พัสดุไปยังดวงจันทร์ด้วยความเร็วหลุดพ้น พวกเขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ! ”

“เออ บ้าของจริง! แล้วต่อไปจะเป็นอะไรล่ะ? พวกเขาจะหันปลายกระบอกปืนใหญ่ใส่พวกเราไหม? ”

“พระเจ้า…โปรเจกต์สถานีอวกาศโคจรรอบดวงจันทร์ของพวกเราเพิ่งจะเสร็จระยะที่สองไป แต่พวกคนจีนเริ่มหาวิธีย้ายของจากดวงจันทร์กันเรียบร้อยแล้ว! เกินเบอร์ไปมาก! ”

ชาวอเมริกันกำลังตื่นตระหนกทั้งเรื่องปืนใหญ่ดวงจันทร์และเรื่องที่ตัวเองกำลังสูญเสียความได้เปรียบทางอวกาศไป หัวข้อข่าวที่ถูกตีพิมพ์บนเว็บไซต์ทางการนาซาก็ยิ่งเป็นการราดน้ำมันบนกองไฟขึ้นไปอีก

หลังจากผ่านการอภิปรายอย่างยาวนานและการสาธิตซ้ำไปซ้ำมา ในที่สุดทีมสังเกตการณ์ยานอวกาศนอกอวกาศของนาซาก็ยอมรับอย่างไม่เต็มใจนักว่า ประเทศจีนได้ปล่อยยานอวกาศจากพื้นผิวดวงจันทร์จริง โดยพวกเขาใช้วิธีการเร่งสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและยานก็เข้าสู่วงโคจรขนย้ายของดวงจันทร์ได้สำเร็จ

สัญญาณจากยานอวกาศนี้ได้หลอมรวมกับอีกสัญญาณหนึ่ง พวกเขาคาดเดาว่าพวกคนจีนน่าจะได้ยานพัสดุกลับมาโดยใช้สะพานนกกางเขน

ในตอนนี้พวกเขาไม่สามารถยืนยันรายละเอียดอื่นๆ ที่ชี้ชัดมากกว่านี้ได้ พวกเขาทำได้เพียงคาดเดาจากการสังเกตการณ์ทั่วไปเท่านั้น สิ่งที่พวกเขาทำได้มีแค่รอให้ประเทศจีนปล่อยข้อมูลและรายละเอียดมาให้นานาชาติรู้เพียงอย่างเดียว

หลังจากที่มีการรายงานข่าวออกมาก็ดูเหมือนคนเริ่มหันไปกล่าวโทษนาซากันอีกแล้ว

ภายนอกตึกนาซา รถตู้ของสำนักข่าวและผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศต่างยืนแออัดกันหน้าทางเข้า

เมื่อผู้สื่อข่าวทำให้งานของนาซาต้องโดนลูกหลงไปด้วยอย่างนี้ ทำให้พวกเขาต้องจัดการแถลงข่าวชั่วคราวขึ้นมา พวกเขาเชิญกลุ่มผู้สื่อข่าวที่ยืนออกันอยู่ที่ทางเข้ามาในห้องต้อนรับแล้วตอบคำถามของพวกเขา

การแถลงข่าวเริ่มขึ้นแล้ว

สำนักข่าวแรกที่ถามคือโคลัมเบียเทเลวิชั่น

นักข่าวสาวชาวละตินอเมริกันถือไมโครโฟนไว้ในมือแล้วเปิดด้วยคำถามยาก “คุณคะ นี่หมายความว่าพวกเราแพ้ในการแข่งขันอวกาศครั้งนี้แล้วหรือเปล่าคะ? ”

เด็กฝึกงานของนาซาถึงกับพูดไม่ออก ใบหน้าเขาซีดเผือดในขณะที่เจ้าตัวตอบคำถามว่า

“นั่นไม่ใช่วิธีที่พวกเขาควรจะตีความเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ อันที่จริงแล้ว รางอวกาศบนดวงจันทร์ก็ไม่ใช่วิธีที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้น พวกเรายังมีทางเลือกอื่นอีกมาก อย่างเรื่องพลังยกอวกาศแล้วก็มี…”

“แล้วก็มีการจ้างคนจีนมาเป็นเอาต์ซอร์ซใช่ไหมคะ?”

“เอ่อ…ต้องยอมรับนะครับนั่นเป็นหนึ่งในทางเลือกของพวกเรา แต่ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด พวกเรายังมีทางเลือกอื่นอีก อย่าง…”

ดวงอาทิตย์ขึ้นจากชายฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก

ลู่โจวทำงานที่ตามมาหลังจบการปล่อยยานจนเสร็จ เขาออกจากปาร์ตี้ฉลองแล้วเดินทางกลับบ้าน

ถึงแม้จะมีเพื่อนเก่าบางคนอยากให้เขาร่วมดื่มด้วย ลู่โจวก็ยังยืนกรานว่าเขาจะกลับบ้าน

เขาทำงานยุ่งมาทั้งคืนแล้ว เขาไม่มีแม้แต่แรงจะโพสต์ลงเว่ยป๋อ เขาแค่อยากจะลงไปนอนบนเตียงแล้วหลับไปซะ

แล้วก็ต้องรับรางวัลภารกิจก่อนจะนอนด้วย

ลู่โจวหลับตาแล้วเข้าสู่มิติของระบบ

เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาเขาก็พบกับการแจ้งเตือนว่าทำภารกิจสำเร็จแล้ว…