ตอนที่ 1256 การค้นพบครั้งใหญ่?

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

การค้นพบครั้งใหญ่?

ต้องเป็นอะไรถึงจะนับเป็นการค้นพบครั้งใหญ่กัน?

ทฤษฎีวอยด์ยังไม่ยิ่งใหญ่พออีกเหรอ? แล้วการค้นพบอนุภาค Z ล่ะ?

ลู่โจวรู้สึกสับสนในใจขณะออกจากมิติระบบ

เขาลืมตาขึ้นมา พลางตั้งคำถามในใจว่าต้องเป็นการค้นพบทางฟิสิกส์แบบไหนกันที่ยิ่งใหญ่มากพอกับการเพิ่มเลเวลของฟิสิกส์ให้เป็นเลเวล 10 ได้ ทันใดนั้นเองความรู้สึกอุ่นวาบก็ไหลลงมาจากท้ายทอยจนไปถึงสันหลัง

ลู่โจวเริ่มรู้สึกง่วงนอน เขารู้ทันทีว่ามันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น

ยังไม่ทันที่จะได้เปลี่ยนท่านอนให้เป็นท่าสบายๆ เขาก็สลบไป…

เขาหลับไปทั้งคืน

เป็นการนอนหลับที่ลึกเป็นพิเศษและดีกว่าครั้งไหนๆ

ลู่โจวถึงกับฝันเสียด้วยซ้ำ ในฝันนั้นเขาอยู่ในเขาวงกตแห่งหนึ่ง เขาเดินไปมาอยู่ในเขาวงกตอยู่นาน แต่ก็ยังมองไม่เห็นทางตันเสียที

ในที่สุดพอเขาเลี้ยวที่หัวมุมก็มีหีบสมบัติโผล่ขึ้นมาตรงหน้าเขา

แต่พอเขาวางมือลงไปบนหีบสมบัติเพื่อหวังจะเปิดแล้วดูว่าในนั้นมีอะไร เจ้าหีบสมบัติก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นโลงศพคริสตัล

และสิ่งที่นอนอยู่ข้างในโลงศพนั้น…

ก็คือลูกศิษย์ที่เขาภาคภูมิใจที่สุด…

ลู่โจวได้ยินเหมือนเสียงคนเรียกชื่อเขาแว่วๆ มาจากข้างหลัง เขาได้ยินเสียงฝีเท้าเหยียบใบไม้กำลังใกล้เข้ามา เขาหันหลังกลับไปมองแล้วทันใดนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมา

“ฝันแปลกๆ แฮะ…”

ลู่โจวเช็ดจมูกของตัวเองแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง เขาเอื้อมมือออกไปหยิบโทรศัพท์ตรงโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาทันที จากนั้นก็กดปลดล็อกหน้าจอแล้วมองดูปฏิทินในโทรศัพท์

วันนี้เป็นวันที่ 6 ตุลาคม เวลา 8 โมงเช้า

พอลู่โจวเห็นว่าเวลาผ่านไปแค่วันเดียว เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ดีจัง รอบนี้ฉันไม่ได้หลับยาวเกินไป

เหมือนว่าหลังจากที่เขาเลเวลคณิตศาสตร์ขึ้นมาเป็นเลเวล 10 แล้ว ระบบจะช่วยพัฒนา ‘ความคงทน’ ของสมองเขาจริงๆ ความปั่นป่วนเล็กๆ นี้ไม่ได้พาเขาเข้าภาวะโคม่าอีกต่อไปแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็หลับยาวมาตั้งแต่ช่วงเที่ยงเมื่อวานจนมาถึงวันนี้เลย

ลู่โจวกระโดดลงจากเตียง เดินไปที่หน้าต่างแล้วเปิดผ้าม่านออก เขายืดเส้นยืดสายขยับแข้งขาที่เมื่อยล้าไปมา

แล้วเขาก็รู้สึกหิวขึ้นมา ลู่โจวจำได้ว่าเขาหลับไปตั้งแต่ก่อนได้กินมื้อกลางวันเมื่อวาน เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก

โทรศัพท์ดังอยู่สองครั้ง ก่อนที่อีกฝ่ายจะรับสายอย่างรวดเร็ว เสียงดังชัดแจ๋วดังมาจากปลายสาย

“ครับ? ”

“ผมหิวนิดหน่อยน่ะ คุณช่วยไปซื้อมื้อเช้าให้ผมได้ไหม?”

หวังเผิงถาม “คุณอยากกินอะไรเหรอครับ?”

ลู่โจวคิดไปคิดมาก็ตอบว่า

“บะหมี่เนื้อแล้วกัน”

ไม่ต้องรอให้นานรถอิเล็กทริกเพอร์เพิลก็แล่นมาจอดที่ข้างล่าง เสียงกริ่งหน้าประตูเขาเริ่มดัง

“อาหารเช้ามาแล้วครับ ผมห่วงว่าแค่นี้จะไม่พอก็เลยซื้อน้ำเต้าหู้กับเกี๊ยวน้ำมาด้วย”

ลู่โจวรับอาหารเช้ามาจากหวังเผิงแล้วเอ่ยกับอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้มว่า

“ขอบคุณนะ เดี๋ยวผมโอนเงินไปให้”

“ไม่ต้องหรอกครับ รัฐมีเงินตรงนี้ให้แล้ว”

“เรื่องพวกนี้เบิกได้ด้วยเหรอ? ”

“ได้สิครับ จริงๆ ทั้งค่าอาหารกับค่ายาของคุณก็เบิกได้…แต่คุณแค่ไม่ได้ใช้เงินทุนตรงนี้เฉยๆ เอง”

เงินทุนนี้ถูกแบ่งให้กับลู่โจวตั้งแต่ตอนที่เขากลับมาที่จีนเป็นครั้งแรก มันถูกแบ่งมาให้ทุกปีพร้อมกับเงินห้าล้านหยวนจากเบี้ยเลี้ยงของการย้ายถิ่นฐานและเงินทุนวิจัย

ตามหลักแล้วตราบใดที่เขายังอาศัยอยู่ในประเทศจีนค่าใช้จ่ายทุกอย่างของเขาก็สามารถถอนจากเงินทุนนี้ได้ทั้งนั้น รวมทั้งของอย่างพวกการซื้อรถหรือซื้อบ้านด้วย เท่ากับว่ารัฐได้ให้เงินค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของลู่โจวอย่างสมบูรณ์แบบ แม้แต่เงินเดือนของหวังเผิงก็เอามาจากเงินทุนตรงนี้

แต่ถึงแม้ลู่โจวจะเป็นคนที่ร่ำรวยเอามากๆ เขาก็แทบจะไม่เป็นฝ่ายเริ่มใช้เงินนี้เลย

ก่อนหน้านี้เงินจำนวนนิดหน่อยในส่วนนี้จะถูกนำไปใช้เป็นเงินซื้อน้ำมัน แต่ตั้งแต่ที่ BYD ทำให้เขามีรถอิเล็กทริกเพอร์เพิล เขาก็ไม่ต้องไปซื้อน้ำมันอีกต่อไป

ลู่โจววางอาหารเช้าลงบนโต๊ะกาแฟ เขานั่งกินบะหมี่อยู่ในห้องนั่งเล่น ในมือก็เลื่อนมือถือของเขาดูข้อความไพรเวตในเว่ยป๋อ

เมื่อสองสามวันก่อน การพูดคุยกันบนโลกอินเทอร์เน็ตต่างก็หันไปสนใจเรื่องงานฉลองวันชาติกับพาเหรดทหารกันหมด แต่ตอนนี้หัวข้อพวกนั้นเปลี่ยนเป็นเรื่อง ‘ปืนใหญ่ดวงจันทร์’ กันหมดเรียบร้อย

ลู่โจวดีใจที่เห็นว่าแฟนๆ ของเขาตื่นเต้นมากแค่ไหน

เขายิ้มกว้างเมื่อได้เห็นคอมเมนต์ที่ชื่นชมยกยอเขา ส่วนพวกคอมเมนต์ท็อกซิกนินทาว่าร้าย เขาไม่สนใจพวกมันแม้แต่น้อย

เดี๋ยวแฟนๆ ก็ช่วยปกป้องเขาเองนั่นแหละ

ระหว่างที่เขากำลังไถเว่ยป๋ออ่านอยู่นั้น โทรศัพท์ของเขาก็มีคนโทรเข้ามา

ลู่โจวมองชื่อของผู้อำนวยการหลี่ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ เขาชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะกดรับสาย เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูแล้วกำลังจะกล่าวทักทายอีกฝ่าย แต่ทางฝั่งนั้นเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นมาก่อน

“นี่นักวิชาการลู่ คุณอยู่ที่บ้านหรือเปล่า? ”

“เอ่อ…ทำไมนะครับ? ”

“ผมกลับมาที่ปักกิ่งแล้ว ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องขับรถพาผมไปส่งสนามบินนะ”

“…? ”

ลู่โจวสงสัยมากว่าชายสูงวัยคนนี้เอาอะไรมาคิดว่าเขาจะขับรถไปส่งอีกฝ่ายที่สนามบิน

ผู้อำนวยการหลี่ยิ้มแล้วถามว่า “คือผมแค่อยากจะถามว่าเมื่อวานคุณพักไปเป็นอย่างไรบ้าง? คุณรู้สึกสดชื่นไหม?”

“ผมสบายดี…แล้วคุณล่ะมีอะไร ว่ามาตรงๆ เลยก็ได้”

“ฮ่าฮ่า ก็ไม่ได้จะปิดบังอะไรคุณอยู่แล้ว คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้” ผู้อำนวยการหลี่เกาหัวแล้วบอกว่า “ผู้อำนวยการคาร์สันของนาซาติดต่อมาเรื่องจะมาเยี่ยมด้วยธุระทางการทูต เขากำลังจะมาปักกิ่ง อาจจะวันพรุ่งนี้”

“แล้วยังไงครับ? ”

“แล้วบางทีคุณอาจจะพอว่างมาได้ไหม? จากที่คุยกันผ่านโทรศัพท์เหมือนเขาจะอยากเจอคุณนะ”

ลู่โจว “ผมยังมีงานต้องทำนะ ถ้าเขาสนใจก็บอกให้เขามาหาผมที่จินหลิงก็แล้วกัน”

ถึงแม้การได้อวดเบ่งใส่คู่ต่อสู้ก็ฟังดูน่าบันเทิงใจดี แต่ลู่โจวก็ยังมีงานวุ่นวายอย่างอื่นให้ทำอีกในตอนนี้ เขาไม่มีเวลามาทำตัวแสร้งถ่อมตนใส่ผู้อำนวยการนาซาหรอก

ผู้อำนวยการหลี่ประมวลสถานการณ์อยู่ครู่หนึ่งก็เห็นด้วย

“โอเค เดี๋ยวผมจะบอกเขาอย่างนั้นแล้วกัน”

มันฟังดูไม่เมคเซนส์เท่าไหร่ที่นักวิชาการลู่ต้องเป็นฝ่ายลำบากไปถึงปักกิ่งเพื่อจะไปหาผู้อำนวยการนาซา

แถมการเดินทางข้ามเมืองในทุกวันนี้ก็สะดวกรวดเร็วเสียเหลือเกินด้วย ถ้าผู้อำนวยการคาร์สันอยากจะเจอหน้าลู่โจวขนาดนั้นจริงเขาก็ไปเมืองจินหลิงได้ง่ายๆ สบายๆ

หลังจากนิ่งเงียบกันไปพักหนึ่ง ลู่โจวก็ถามต่อ “แล้วคุณมีอะไรอีกไหมครับ? ”

“จริงๆ ก็มีอีกเรื่องนะ เกี่ยวกับคณะกรรมการวงโคจรของดวงจันทร์น่ะ”

“ว่ามาเลยครับ”

ผู้อำนวยการหลี่ยิ้มแล้วบอกว่า “เส้นทางระหว่างดวงจันทร์กับโลกสร้างเสร็จแล้วใช่ไหมล่ะ? ค่าใช้จ่ายในการขนส่งวัสดุมันแค่สองพันหยวนต่อกิโลกรัมเท่านั้นเอง เมื่อสองสามวันก่อนพวกเราจัดประชุมขึ้นที่เซี่ยงไฮ้เพื่อศึกษาวิธีแนะนำกับภาคเอกชนว่าจะนำทรัพยากรบนดวงจันทร์ไปใช้จัดสรรได้อย่างมีระบบระเบียบได้อย่างไร ซึ่งนี่จะช่วยโปรโมตอุตสาหกรรมบนดวงจันทร์ด้วย”

ลู่โจวเอานิ้วเคาะโต๊ะกาแฟ เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องเศรษฐกิจเท่าไร

“แล้วยังไงต่อครับ? ”

“ดังนั้นเราจึงวางแผนจะตั้งเขตบริหารพิเศษบนสถานีวิจัยดวงจันทร์ เมื่อมีการขุดเหมือง การท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์ และการศึกษาเป็นเสาหลักทางอุตสาหกรรมแล้ว พวกเราจะสร้างอาคารสาธารณะที่สนับสนุนการอพยพไปตั้งรกรากบนดวงจันทร์ในสเกลเล็ก! ”

“…”

ลู่โจวตกตะลึง เขาพูดไม่ออกเมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้อำนวยการหลี่เล่าออกมา

ผู้อำนวยการคิดว่าสัญญาณมีปัญหา เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งเสียงถามมาว่า “ฮัลโหล? ได้ยินผมไหม? ”

“ได้ยินครับ”

ผู้อำนวยการหลี่ถาม “คุณไม่ประหลาดใจเลยเหรอ? ”

ลู่โจว “ผมประหลาดใจเสียจนไม่รู้จะพูดอะไรเลยต่างหากล่ะ”

วางแผนจะตั้งเขตบริหารพิเศษบนดวงจันทร์เหรอ…

ถึงเขาจะเคยมีไอเดียนี้ในหัวมาก่อน เขาก็ไม่ได้คิดว่าจะได้เห็นไอเดียนี้เกิดขึ้นมาจริงในช่วงชีวิตของตัวเอง ขนาดกับเขาที่ไม่ได้สนใจเรื่องการเมืองเลยนั้นก็ยังรู้ดีว่าผลกระทบทางการเมืองในเรื่องนี้จะต้องมีมากมายมหาศาล

เรื่องนี้เอาไปเปรียบเทียบกับนโยบายทรัพยากรทางการบินและอวกาศที่ตั้งขึ้นเมื่อสองสามปีก่อนไม่ได้เลย นโยบายที่สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินและอวกาศในตอนนั้น

ดูเหมือนลู่โจวจะไม่ค่อยเต็มใจตอบคำถามข้อนี้นัก ผู้อำนวยการหลี่กระแอมเบาๆ แล้วบอกว่า “อันที่จริงคุณก็ไม่ต้องพูดอะไรก็ได้…พวกเราแค่อยากถามความคิดเห็นคุณเฉยๆ น่ะ”

เมื่อเห็นว่าชายสูงวัยคนนี้ให้เกียรติเขามากแค่ไหนแล้ว ลู่โจวก็ถอนหายใจแล้วบอกว่า

“ไม่เคยมีใครคิดทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ผมเลย…ให้คำแนะนำดีๆ เป็นพิเศษไม่ได้เท่าไร พื้นฐานของการวิจัยวิทยาศาสตร์คือการลองผิดลองถูก ถ้าคุณรู้สึกว่าความเสี่ยงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ และความคาดหวังสูง ผมว่าลองดูก็ไม่เสียหาย”

ถึงแม้เขาจะยังรู้สึกว่าเรื่องนี้ยังเกิดขึ้นเร็วเกินไปเมื่อมองจากพลังและความสมานฉันท์จากสังคมที่สะท้อนออกมาจากงานฉลองวันชาติและเหตุการณ์ย่อยๆ อื่นๆ ที่ผ่านมาแล้ว แต่นี่ก็เป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวในชีวิตของพวกเขา

ประชาชนไม่เคยกระตือรือร้นในเรื่องการสำรวจอวกาศมากเท่านี้มาก่อน

รางขนส่งบนดวงจันทร์เพิ่งสร้างเสร็จก่อให้เกิดเส้นทางอุตสาหกรรมใหม่

ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ การก่อสร้างและการพัฒนาการท่องเที่ยว แหล่งแร่ และอาคารสนับสนุนอื่นๆ จะทำง่ายกว่าที่เคยมีมาในอดีต

การรอเวลาอีกสักพักอาจจะปลอดภัยกว่า แต่บางทีพวกเขาอาจจะควรตีเหล็กตอนที่มันกำลังร้อนจริงๆ

หลังจากได้ยินคำพูดของลู่โจว ผู้อำนวยการหลี่ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

“อย่างนั้นแล้ว…คุณจะบอกว่านี่เป็นความคิดที่ดีเหรอ?”

ลู่โจว “ผมว่ามันก็โอเคนะ”

ผู้อำนวยการหลี่ที่ยังถือสายโทรศัพท์อยู่มีท่าทางกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที เขารีบพูดขึ้นมาเหมือนกับกลัวว่าลู่โจวจะเปลี่ยนใจว่า

“ถ้างั้นเดี๋ยวผมรายงานเรื่องนี้ไปก็แล้วกัน!”

“รายงานเหรอ? ”

“พวกคนเบื้องบนกำชับมาเป็นพิเศษให้ผมถามความคิดเห็นคุณ ถ้าคุณคิดว่ามันทำได้ พวกเราก็จะทำ ถ้าคุณคิดว่ามันยังเร็วเกินไป พวกเราก็จะรอ ในเมื่อคุณคิดว่ามันโอเค พวกเราจะได้เริ่มทำตามแผนเลย! ”

ลู่โจวรู้สึกเหมือนเขาจะเผลอเห็นด้วยไปโดยไม่ได้ตั้งใจเสียแล้ว

แต่…

ช่างปะไร

ตอนนี้เขาไม่ได้อยากจะคิดเรื่องปัญหาน่าปวดหัวอะไรพวกนี้เสียหน่อย

เขาอยากทำอยู่แค่เรื่องเดียว

นั่นคือการหาวิธีเพิ่มเลเวลฟิสิกส์ของเขาให้เป็นเลเวล 10…