บทที่ 1350 การต่อสู้ระหว่างหอกเทพเจ้า

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 1,350 การต่อสู้ระหว่างหอกเทพเจ้า

“เรียบร้อยแล้วขอรับนายท่าน”

เฉียนหลงส่งข้อความมาทางกำไลผลึกแก้วกิเลน “โครงกระดูกและซากสัตว์อสูรเหล่านั้น แลกเปลี่ยนมาเป็นศิลาเทวะจำนวนหนึ่งแสนสองหมื่นก้อน… น่าเสียดายที่เราต้องรีบขาย มิเช่นนั้น อาจจะทำราคาได้ถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นก้อนเชียวขอรับ”

“เพียงเท่านี้ก็ดีแล้ว”

หลินเป่ยเฉินตอบข้อความกลับไปด้วยความยินดี

บัดนี้ ยังไม่มีผู้ใดรู้เรื่องที่เทพเจ้าแห่งเหมืองแร่กำลังจะยกเลิกการส่งทรัพยากรให้แก่เมืองเยี่ยเฉิง เห็นได้ชัดว่าบรรดาเทพเจ้าตระกูลใหญ่และสภาเทพเจ้าพยายามปิดข่าวนี้อย่างสุดความสามารถ

แต่อีกไม่นาน ข่าวนี้ต้องหลุดรอดออกมาอย่างแน่นอน

เมื่อถึงเวลานั้น มูลค่าของศิลาเทวะก็จะพุ่งสูงมากกว่าเดิม

ขณะนี้ หลินเป่ยเฉินมีศิลาเทวะอยู่ในมือกว่าสองแสนก้อน

นับว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาล

และศิลาเทวะทุกก้อนก็เป็นหยาดเหงื่อแรงงานของเขาเอง

‘เร่งมือหน่อยนะ เสี่ยวมู่ ข้าต้องการโอสถหัวใจพฤกษาภายในอีกสามวันข้างหน้า’

หลินเป่ยเฉินถ่ายทอดคำสั่งออกไปอย่างไม่ประนีประนอม

หลังจากนั้น มู่หลินเซินรีบตอบข้อความกลับมาว่า ‘นายท่านไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ ข้าน้อยจัดการเรื่องนี้ได้แล้ว หากไม่มีปัญหาแทรกซ้อนใด นายท่านจะได้รับโอสถหัวใจพฤกษาในอีกสามวันแน่นอนขอรับ’

หลินเป่ยเฉินยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ

‘สมแล้วที่เจ้าเป็นผู้ติดตามคนสนิทของข้า’

เด็กหนุ่มส่งข้อความชมเชยกลับไป

หนึ่งวันให้หลังบรรยากาศเงียบสงบ

และวันถัดมา การแข่งขันค้นหาเทพเจ้าหน้าใหม่รอบที่ห้าก็มาถึงในที่สุด

นี่คือการแข่งขันที่ดึงดูดความสนใจผู้คนได้เป็นจำนวนมาก

เพราะชาวเมืองทราบดีว่าไป๋เสี่ยวเซียว เจ้าอ้วน ฮันลั่วเซวี่ยและฉู่เหินต่างก็ถอนตัวออกจากการแข่งขัน สุดท้าย ก็เหลือผู้เข้าแข่งขันอยู่เพียงสี่คนเท่านั้น ซึ่งประกอบไปด้วย…

หลินเป่ยเฉิน พานตั่วชิง ฮั่วเซี่ยและฉางจิ้งคง

“ปรากฏว่ามือสังหารแมวเหมียวกับนักเวทหลี่อี้เทียนก็ถอนตัวออกไปเหมือนกันแฮะ”

หลินเป่ยเฉินมองบรรดาผู้เข้าแข่งขันรอบรองชนะเลิศด้วยความประหลาดใจ

แต่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ดูดี ๆ ทุกอย่างย่อมมีเหตุผล

แม้ของรางวัลสำหรับผู้ชนะการแข่งขันจะล่อตาล่อใจ แต่ชีวิตของคนเราย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

คนตายไม่อาจครอบครองของรางวัล

ยิ่งไปกว่านั้น เพียงมาถึงรอบนี้ได้ก็นับว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว

ตลอดทั่วทั้งเมืองเยี่ยเฉิง มีการถ่ายทอดสดผ่านม่านพลังเป็นจำนวนมากมาย

การถ่ายทอดสดในขณะนี้กำลังแสดงภาพของสะพานหินโบราณที่ทอดผ่านหุบเหวโหยหวน

สายลมยังคงกรีดตัวส่งเสียงดังหวีดหวิว สะพานหินที่ได้รับความเสียหายจากการแข่งขันรอบที่แล้วถูกซ่อมแซมกลับคืนดังเดิม แม้มันจะพังถล่มมาแล้วหลายรอบ แต่สะพานหินแห่งนี้ก็สามารถซ่อมแซมตนเองและกลับมาปกคลุมไปด้วยผิวน้ำแข็งระยิบระยับกับเถาวัลย์ไม้เลื้อยเขียวขจีได้ดังเดิมทุกครั้ง…

“ผู้ใดจะออกมาเป็นคู่ต่อสู้คู่แรกนะ?”

นั่นคือความสงสัยในหัวใจของใครหลายคน

แต่ในไม่ช้า พวกเขาก็ได้ทราบคำตอบ

เพราะร่างที่ปรากฏบนสะพานหินโบราณเป็นคนแรกก็คือคนถ่อแพจากแม่น้ำใต้ดิน ฮั่วเซี่ย

และคู่ต่อสู้ของเขาก็คือหอกแห่งตะวัน พานตั่วชิง

พานตั่วชิงเสื่อมเสียภาพลักษณ์ไปไม่น้อยจากการพ่ายแพ้ให้แก่เจี๋ยนเซียวเหยาในงานเลี้ยงเบิกฟ้า หลายคนจึงนึกดูถูกเขา และบ่อนพนันจำนวนมากก็ถอดชื่อของพานตั่วชิงออกจากตัวเต็งสี่อันดับแรกแล้ว

การต่อสู้ในครั้งนี้ ผู้คนจำนวนมากต่างก็คิดว่าคนถ่อแพจากแม่น้ำใต้ดินต้องเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน

คฤหาสน์บนภูเขาเซียวฝู

ชิงเล่ยยุติการฝึกฝนวิชาเวทมนตร์กับอาจารย์อู่จิวชั่วคราว หลังเดินทางกลับมาจากวิหารแห่งเทพพงไพร หญิงสาวก็รับหน้าที่จัดเตรียมอาหารและสุราไว้คอยรองรับแขกของหลินเป่ยเฉิน

ความจริงนั้น ชิงเล่ยเป็นห่วงความปลอดภัยของหลินเป่ยเฉินไม่น้อย

ดังนั้น นางจึงหวังว่าตนเองจะได้เฝ้าดูการแข่งขันพร้อมกับหลินเป่ยเฉินอยู่ที่ ‘บ้าน’

นอกจากนี้ ฉู่เหินกับไต้จือฉุนและกลุ่มคุณชายผู้สูงศักดิ์ทั้งห้าต่างก็มารวมตัวกันที่นี่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และพวกเขาก็ยังได้นำสุราอาหารติดมือมาอีกด้วย

นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจ

ความสัมพันธ์ระหว่างหลินเป่ยเฉินและกลุ่มคุณชายผู้สูงศักดิ์ทั้งห้ายิ่งมายิ่งแน่นแฟ้น พวกเขาจึงมักจะมารวมตัวกันเป็นประจำ

และในวันสำคัญเช่นนี้ ไม่ว่าอย่างไรกลุ่มคุณชายผู้สูงศักดิ์ก็ต้องมาอยู่เคียงข้างหลินเป่ยเฉินให้จงได้

เพียงไม่นาน สวนหย่อมหน้าคฤหาสน์ก็มีบรรยากาศที่คึกคักแจ่มใส

“ได้ยินมาว่าฮั่วเซี่ยได้รับการดูแลจากใต้เท้าเหยา ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขาเก็บตัวฝึกวิชาอยู่ในวิหารกลาง ระดับพลังความแข็งแกร่งน่าจะเพิ่มขึ้นไม่น้อย”

“ส่วนฉางจิ้งคงมีข้อมูลเปิดเผยไม่มาก แต่ว่ากันว่าคนผู้นี้เป็นคนของใต้เท้าซิน ซึ่งมีสถานะเป็นหนึ่งในห้าใต้เท้าใหญ่ของสภาเทพเจ้าเช่นกันขอรับ”

เฉียนหลงผู้เป็นสารานุกรมแห่งดินแดนทวยเทพรีบให้ข้อมูล

เมื่อการแข่งขันค้นหาเทพเจ้าหน้าใหม่ดำเนินมาถึงช่วงโค้งสุดท้าย นี่ก็กลับกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างกลุ่มใต้เท้าใหญ่แห่งสภาเทพเจ้าไปโดยปริยาย

หลินเป่ยเฉินเป็นผู้ที่ถูกเลือกจากใต้เท้ากั้ว พานตั่วชิงเป็นผู้ที่ถูกเลือกจากใต้เท้าฉาง ฮั่วเซี่ยเป็นผู้ที่ถูกเลือกจากใต้เท้าเหยา และฉางจิ้งคงเป็นผู้ที่ถูกเลือกจากใต้เท้าซิน…

ส่วนผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากบรรดาเทพเจ้าใต้เท้าใหญ่ต่างก็ถอนตัวออกไปหมดสิ้น

“หวังว่าพานตั่วชิงคงจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”

หลินเป่ยเฉินพูดเสียงเรียบ “ข้าอยากจะฆ่ามันด้วยมือของตนเองเหลือเกิน”

พูดจบ การแข่งขันบนสะพานหินโบราณก็เริ่มขึ้นพอดี

“หืม ฮั่วเซี่ยเปลี่ยนอาวุธแล้ว”

ซือเกินตั๋งอุทานออกมาเสียงดังด้วยความประหลาดใจ

บนหน้าจอม่านพลัง สิ่งที่อยู่ในมือของฮั่วเซี่ยเป็นหอกสีดำทมิฬ ซึ่งมีความยาวมากกว่าหอกทั่วไปเกือบห้าเท่า

“นี่คือหอกหางมังกร”

เฉียนหลงพูดด้วยความเหลือเชื่อ “คิดไม่ถึงเลยว่าใต้เท้าเหยาจะมอบอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับนี้ให้แก่ฮั่วเซี่ย… ตำนานเล่าขานกันว่าหอกเล่มนี้ทำขึ้นมาจากกระดูกหางของพญามังกร มันมีอานุภาพการโจมตีรุนแรงร้ายกาจ เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ก็มีอิทธิฤทธิ์มากพอที่จะสังหารเทพเจ้าได้แล้ว”

หลินเป่ยเฉินยิ้มมุมปาก

นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างเทพเจ้าเบื้องบนจริง ๆ

“ถ้าอย่างนั้น ฮั่วเซี่ยก็ต้องเป็นฝ่ายชนะแล้วกระมัง?”

กวนรั่วเฟยถามออกมา

“ไม่แน่เสมอไปหรอก เพราะว่าพานตั่วชิงก็มีของวิเศษอยู่ในมือเช่นกัน”

มู่หลินเซินเป็นคนตอบ “เจ้าเห็นหอกทองคำที่อยู่ในมือเขาหรือไม่? นี่เรียกว่าหอกแสงสนธยา เป็นหนึ่งในสี่ศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเทพตะวัน ดูเหมือนว่าหลังจากที่พานตั่วชิงพ่ายแพ้ไปในครั้งนั้น เทพตะวันก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวเขาอยู่ไม่เสื่อมคลาย”

“นี่เป็นการต่อสู้ของหอกเทพเจ้าแล้ว”

ซือเกินตั๋งรับชมการแข่งขันด้วยดวงตาที่เบิกโต

สะพานหินโบราณ

สายลมพัดผ่าน

เสียงโหยหวนลอยขึ้นมาจากเบื้องล่างสะพาน

ไม่ต่างจากเสียงร้องครวญครางของวิญญาณคนตาย

การต่อสู้กำลังจะเปิดฉากขึ้น

ฮั่วเซี่ยและพานตั่วชิงไม่เสียเวลาพูดจา เมื่อแสดงอาวุธของตนเองออกมา พวกเขาก็ระเบิดพลังกดดันคุกคามใส่กันและกันทันที…

ทั้งสองหนุ่มต่างก็เดินเข้าหากันจากอีกฝั่งของสะพาน

พานตั่วชิงมีร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยลำแสงศักดิ์สิทธิ์จากเผ่าเทพตะวัน ลำแสงนั้นปกคลุมไปถึงครึ่งหนึ่งของสะพานหิน บรรดาเกล็ดน้ำแข็งและเถาวัลย์รากไม้ที่จับตัวเป็นน้ำแข็งต่างก็ละลายหายไปในอากาศ หอกทองคำในมือเขาสั่นไหวเล็กน้อย คล้ายกับว่าต้องการดื่มเลือดศัตรูเต็มที่แล้ว

ส่วนทางฮั่วเซี่ย ด้านหลังของเขาแสดงภาพมายาของแม่น้ำใต้ดินที่ดำมืด ได้ยินเสียงคลื่นน้ำซัดสาดดังอื้ออึง เมื่อโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์ลงไปที่หอกหางมังกรในมือ ลำแสงสีเขียวก็ระเบิดวูบ แล้วมังกรเขียวตัวหนึ่งก็ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังฮั่วเซี่ย!

ฉ่า! ฉ่า! ฉ่า!

พลังความร้อนแรงของแสงตะวันและพลังความหนักหน่วงของทะเลสาบใต้ดินปะทะกันในอากาศ เกิดเป็นเสียงแปลกประหลาดฟังระคายหู คลื่นพลังที่ระเบิดออกมาแทบจะทำให้สะพานโบราณพังถล่มลงไปอีกครั้ง

“จุดแข็งของข้าคือการใช้หอกทิ่มแทงศัตรู”

ฮั่วเซี่ยยกหอกหางมังกรด้วยมือข้างเดียว ท่วงท่าของเขาแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง แต่สีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจขณะกล่าวต่อ “พานตั่วชิง ข้าจะสังหารเจ้าด้วยกระบวนท่าเดียว”

พานตั่วชิงเลิกคิ้วขึ้นสูงเล็กน้อย

ก่อนตอบกลับไปด้วยเสียงยานคางไร้อารมณ์ “ประเสริฐ เพราะข้าก็จะสังหารเจ้าด้วยกระบวนท่าเดียวเช่นกัน”